ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 661 คำเชิญจากเซิร์น / ตอนที่ 662 สัมภาษณ์ CTV
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 661 คำเชิญจากเซิร์น / ตอนที่ 662 สัมภาษณ์ CTV
ตอนที่ 661 คำเชิญจากเซิร์น
บนเว่ยป๋อ
หลังจากที่มีการประกาศการลงมติออกไป เหรินเหรินเดลี่โพสต์ข้อความบนเว่ยป๋อเกี่ยวกับการลงคะแนนในครั้งนี้ ข้อความในโพสต์ไม่ถึงร้อยคำด้วยซ้ำ
หลังจากที่สื่อพบว่าเซิร์นลงมติอนุมติปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้น ผู้คนต่างพากันรีโพสต์และกดไลค์อย่างล้นหลาม
[โหดเกิ๊น!]
[ท่านเทพลู่สุดยอดไปเลย!]
[โลกฟิสิกส์กำลังจะเปลี่ยนไป]
[หมายความว่าปฏิกิริยาไฟฟ้าแก่ถูกต้องใช่ไหม]
[คุณจะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ เพราะปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นกับปฏิกิริยาไฟฟ้าแก่แตกต่างกัน แม้ว่าวิทยานิพนธ์ของลู่โจวจะออกมาดี แต่ก็ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบและทบทวนอย่างเข้มงวดโดยวงการฟิสิกส์ จริงๆ แล้วเขายังโชคดีกว่าสิ่งที่ไวน์เบอร์กต้องเจอ ตอนที่ทฤษฎีปฏิกิริยาไฟฟ้าอ่อนของไวน์เบอร์กถูกเผยแพร่ ไม่มีใครสนใจงานวิจัยของเขาเลยสักคน ต้องใช้เวลานานกว่าสิบปีกว่าที่วงการฟิสิกส์จะยอมรับงานวิจัยชิ้นนี้]
[ลู่โจวทำงานวิจัยรวดเร็วเกินไป เร็วจนโลกตามเขาไม่ทัน]
[ไม่อยากจะเชื่อเลย งานวิจัยปริญญาโทของฉันยังไปไม่ถึงไหนเลย ไม่ไหวแล้วนะ…]
[พระเจ้าช่วย เขาฉลาดกว่าผมอีก แถมยังหล่อกว่าด้วย]
มีคนบอกว่าผมหล่อเหรอ
น่าอายจังเลย…
ลู่โจวเลื่อนดูเว่ยป๋อขณะกำลังทานข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร เขาอดยิ้มไม่ได้เพราะเขาชอบความคิดเห็นพวกนั้น
เขาไม่ได้คาดหวังว่าเซิร์นจะตัดสินใจรวดเร็วขนาดนี้
เดิมทีเขาคิดว่ากว่าที่พวกนั้นคงจะติดต่อมาอีกทีก็สิ้นปี
แต่ดูหมือนจะไม่ต้องรอนานขนาดนั้น
หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จลู่โจวเดินไปเก็บถาดข้าว ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาสั่นพร้อมข้อความที่เด้งขึ้นมา
เสี่ยวไอ [เจ้านาย มีอีเมลใหม่เข้ามา]
อีเมลใหม่
ลู่โจวสงสัยจึงเปิดดูอีเมลและกดเข้าไปที่จดหมายที่ยังไม่ได้อ่าน
คนที่ส่งอีเมลมาคือเลขาธิการจากเซิร์น เขาจำอีเมลนี้ได้เพราะเขาเคยบันทึกไว้เมื่อนานมาแล้ว
เจ้าของอีเมลนี่คือ คาล์มาน โซมา เลขาธิการจากเซิร์น ตอนที่ลู่โจวฝึกงานอยู่ที่เซิร์น เขาเคยพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับคาล์มาน ซึ่งคาล์มาน โซมา เป็นผู้อำนวยการสำนักงานในตอนนั้น เขาทำหน้าที่ดูแลเรื่องงานต้อนรับหุ้นส่วนจากต่างประเทศ
[ถึงศาสตราจารย์ลู่ ผมเป็นเลขาธิการจากสำนักเลขาธิการสภาเซิร์น คาล์มาน โซมา ก่อนอื่นเลย ผมอยากจะแสดงความเคารพคุณและผลงานวิจัยของคุณ การรวมกันของแรงพื้นฐานทั้งสี่คือเป้าหมายสูงสุดสำหรับนักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ทุกคน ถ้าไม่มีงานดีๆ จากนักวิชาการที่โดดเด่นแบบคุณ ความเจริญคงไม่มีทางพัฒนาขนาดนี้
อย่างไรก็ตามคนมากมายยังคงสับสนเกี่ยวกับงานวิจัยทั้งสองงานที่คุณอัปโหลดใน arXiv เราเข้าใจว่าคุณคงไม่สะดวกที่จะทำการรายงานสด แต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะสามารถส่งนักศึกษาหรือนักวิชาการที่คุณไว้ใจมาอธิบายทฤษฎีของคุณและตอบคำถามนักวิชาการของเรา]
ข้อความในอีเมลค่อนข้างสั้น แต่จริงใจ
สิ่งที่เขาต้องการก็สมเหตุสมผล
สำหรับปัญหาระดับโลกเช่นนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการอธิบายรายละเอียดต่อวงการวิชาการในรูปแบบของการรายงาน ถ้าลู่โจวไม่ยุ่งอยู่กับฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อ เขาคงไปรายงานทฤษฎีที่มหาวิทยาลัยจินหลิงด้วยตัวเอง
ลู่โจวคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะเขียนอีเมลสั้นๆ
[ผมจะพิจารณาข้อเสนอของคุณ และจะส่งตัวแทนไปรายงานให้เร็วที่สุด]
ลู่โจวกดส่ง และโทรหาหลัวเหวินเซวียน
เมื่อเขารับสาย หลัวเหวินเซวียนพูดทันที “สวัสดี เป็นอย่างไรบ้าง?”
ลู่โจวคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะถาม “คุณสนใจอยากจะทำงานไปพักผ่อนไปไหม”
อยู่ดีๆ หลัวเหวินเซวียนก็เกิดสนใจ เขาจึงถามขึ้นทันที “บอกผมมา ว่าครังนี้ผมต้องไปแสร้งถ่อมตัวที่ไหน”
ลู่โจวเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง เขาถามอย่างจริงจัง “หมายความว่าอย่างไร แสร้งถ่อมตัว?? “
“โอเค ช่างมันเถอะ” หลัวเหวินเซวียนพูด “แค่บอกผมมาว่าผมต้องไปที่ไหน”
ลู่โจว “สวิตเซอร์แลนด์”
หลัวเหวินเซวียน “เซิร์นเหรอ? “
ลู่โจว “ใช่ พวกเขาชวนผมให้ไปทำการรายงานที่นั้น แต่ผมไปไม่ได้เพราะฉะนั้นคุณช่วยไปแทนผมที”
หลัวเหวินเซวียน “ง่ายนิดเดียว ผมทำได้…ผมต้องไปตอนไหน”
ลู่โจว “ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมตอนไหน”
หลัวเหวินเซวียนทำงานร่วมกับลู่โจวเรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้น หลังจากที่วิทยานิพนธ์ถูกตีพิมพ์ พวกเขาก็พูดคุยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นอยู่ตลอด
หลัวเหวินเซวียนเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำรายงานแทนลู่โจว ตราบใดที่คำถามไม่ยากมากนัก หลัวเหวินเซวียนสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง
หลังจากที่ลู่โจวบอกหลัวเหวินเซวียนเรื่องการรายงาน เขาก็ไปทำอย่างอื่น
ลู่โจวไปที่ออฟฟิศของเขาที่แผนกคณิตศาสตร์เพื่อไปพักผ่อน
ตอนที่เปิดประตูออฟฟิศและเดินมาที่โต๊ะ สายตาหลินอวี่เซียงกำลังมองขึ้นมา เธอยืนขึ้นพร้อมกับทักทายเขา
“ศาสตราจารย์ ตอนที่คุณทานข้าวอยู่ CTV โทรหาเรา”
“CTV? ” ลู่โจวขมวดคิ้วพลางถาม “พวกเขาต้องการอะไร”
หลินอวี่เซียงยิ้มและพูด “คุณเพิ่งจะแก้สมการหยาง-มิลส์ได้ไม่ใช่เหรอคะ พวกเขาต้องการสัมภาษณ์คุณเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาอยากให้ฉันถามคุณว่าว่างหรือเปล่า”
ลู่โจว “รายการอะไรเหรอ”
หลินอวี่เซียงยิ้มและพูด “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นรายการพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อคุณโดยเฉพาะ และจะถ่ายทอดที่ CTV ในช่วงเวลาสองทุ่ม”
แม้ว่าลู่โจวไม่ได้สนใจที่จะให้สัมภาษณ์ แต่เขายังคงเคารพต่อโทรทัศน์ระดับชาติ
แน่นอนว่าเขาไม่อยากจะเสียเวลา
เทียบกับการสัมภาษณ์แล้ว เขาสนใจงานวิจัยของตัวเองมากกว่าเยอะเลย
ลู่โจวคิดครู่หนึ่งก่อนจะถาม “ผมต้องไปปักกิ่งเหรอ”
หลินอวี่เซียง “ไม่ต้องค่ะ พวกเขาบอกว่าจะคนมาทำรายการที่นี่”
ลู่โจวพยักหน้าและพูด “โอเค บอกเรื่องนี้กับผู้ช่วยโจวและช่วยจัดเวลาที่เหมาะสมให้ด้วย”
หลินอวี่เซียงทำความเคารพ
“รับทราบค่ะ”
………………………………………………………
ตอนที่ 662 สัมภาษณ์ CTV
การสัมภาษณ์มีกำหนดการหนึ่งอาทิตย์ต่อมา
ลู่โจวทุ่มเทเวลาทั้งหมดของเขาให้กับฟังก์ชันควบคุมได้ขนาดย่อ
ศาสตราจารย์หลายคนที่สถาบันอะคูสติกพยายามช่วยกันเพิ่มอุณหภูมิของฟองในของเหลว พวกเขานำอะคูสติคซัสเพนชั่นออกจากเครื่องกำเนิดสัญญาณอัลตร้าโซนิค ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังงานให้คลื่นอัลตร้าโซนิคทำให้ความดันเสียงที่เกิดขึ้นบนฟองอากาศเพิ่มขึ้นจาก 15 ครั้งเป็น 30 ครั้งความดันบรรยากาศ [1]
แต่ต้องมีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น
การนำอะคูสติคซัสเพนชั่นออกมา ทำให้ฟองที่ลอยอยู่ในของเหลาวตรงกลางภาชนะไม่นิ่ง
จริงๆ แล้วฟองไม่จำเป็นต้องลอยอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งขณะที่เกิดปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์ ดังนั้นความนิ่งของฟองจึงไม่ใช่เรื่องที่สำคัญนัก
หลังจากที่เครื่องมือการทดลองได้รับการอัปเดตแล้ว ลู่โจวให้เชิ่งเซี่ยนฟู่และทีมทำการทดลองซ้ำอีกครั้ง พวกเขาใช้แก๊สผสมซีนอนและดิวเทอเรียม และคอยสังเกตอุณหภูมิของฟองและอัตราการฟื้นตัวของนิวตรอน
รายงานการทดลองฉบับสมบูรณ์ถูกส่งให้ลู่โจว ความรู้สึกของเชิ่งเซี่ยนฟู่ปนเปกันไปหมด เขาพูด “สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก อุณหภูมิสูงสุดที่ทำได้อยู่แค่ 10 ล้านเคลวิน แต่อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 500,000 เคลวิน”
ลู่โจวจ้องมองรายงานการทดลองและขมวดคิ้ว
“มันต่างกันขนาดนั้นเลยเหรอ”
เชิ่งเซี่ยนฟู่พยักหน้า “การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ถูกบันทึกโดยการแผ่รังสีของวัตถุดำค่อนข้างไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าการสำรวจของเราผิดพลาดหรือมีอะไรที่ผิดพลาดอีก”
ถ้าพวกเขาสามารถทำให้ฟองยุบตัวที่อุณหภูมิ 10 ล้านเคลวินได้ทุกรอบ การทำให้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นเสถียรโดยการลดระดับและการเผาไหม้ก็เป็นไปได้
น่าเสียดายที่มันดูเหมือนเป็นเรื่องที่ทำยากมากๆ
ลู่โจวถาม “แล้วอัตราฟลูเอ็นซ์นิวตรอนล่ะ”
เชิ่งเซี่ยนฟู่ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “มันก็พัฒนาขึ้น…แต่ยังห่างไกลกับฟิวชั่นควบคุมได้เสถียรอยู่”
ลู่โจวคิดอยู่สักพักก่อนจะถาม “ภาชนะการทดลองใหม่เป็นอย่างไรบ้าง”
เชิ่งเซี่ยนฟู่ “บริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนสร้างเสร็จแล้วครับและน่าจะมาถึงพรุ่งนี้”
ลู่โจวรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย
เขาวางรายงานการทดลองบนโต๊ะและพูดกับทุกคน “การทดลองวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว เราจะมาตรวจสอบอุปกรณ์กันพรุ่งนี้และเริ่มใช้ของเหลวลิเธียมในวันถัดไป”
เชิ่งเซี่ยนฟู่พยักหน้าอย่างจริงจัง
“ได้ครับ!”
อย่างที่ลู่โจวคาดการณ์ไว้ เมื่อของเหลวลิเธียมที่อ่อนลงถูกนำมาใช้เป็นสารละลาย การเกิดปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์จะมีโอกาสสูงกว่าตอนที่ใช้กรดซัลฟิวริกเข้มข้น โดยเฉพาะกับแก๊สผสม ความดันเสียงที่เกิดขึ้นบนผิวฟองสูงขึ้นอย่างมาก และความดันบรรยากาศขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 31.7 ความดันบรรยากาศ
อย่างไรก็ตามของเหลวลิเธียมมีอุณหภูมิอยู่ที่ 700 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการระเหยอย่างรวดเร็ว การทดลองนี้ดูจะอันตรายกว่าการใช้กรดซัลฟิวริกเข้มข้น
ในการทดลองครั้งที่สาม ผู้ทดลองเผลอผสมออกซิเจนเข้าไปเพียงเล็กน้อยขณะกำลังเตรียมการแยกสลายแก๊สดิวเทอเรียมทำให้ภาชนะลุกไหม้ในพริบตา
ยังโชคดีที่ปริมาณของออกซิเจนมีเพียงนิดเดียว ทำให้นักวิจัยในห้องทดลองจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและปกป้องห้องทดลองไว้ได้ ถ้าของเหลวลิเธียมละลายผ่านภาชนะที่ใช้งานอยู่ ของเหลวลิเธียมที่มีอุณหภูมิสูงจะโดนอากาศทันที แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นก็ลืมห้องทดลองไปได้เลย เพราะอาคารทั้งอาคารอาจจะเหลือเพียงแค่ซากเสา
ถ้าเป็นเช่นนั้นทุกคนที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงจะมองทีมวิจัยของเชิ่งเซี่ยนฟู่เปลี่ยนไปแน่นอน…
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดวันสัมภาษณ์ก็มาถึง
ลู่โจวอยู่ในออฟฟิศของเขาที่แผนกคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยจินหลิงและได้พบกับทีมสัมภาษณ์จาก CTV
เขาเคยเจอกับนักข่าวคนนี้เมื่อปีที่แล้ว
“สวัสดีค่ะศาสตราจารย์ลู่” เหอหยิงพูด เธอใส่ชุดสีน้ำเงินที่ดูเป็นทางการ ขณะที่เอื้อมมือออกมาจับมือกับลู่โจว เธอพูด “เราเจอกันอีกแล้วนะคะ”
ลู่โจวยิ้มแล้วพยักหน้า
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ คุณหยิง…มาเริ่มกันเลยไหม”
เหอหยิงยิ้มและพูด “มาเริ่มกันเลยค่ะ”
เธอรู้ว่าลู่โจวคงจะยุ่งกับงานวิจัยมากๆ เธอจึงไม่อยากทำให้เขาเสียเวลาไปกับบทสนทนาเรื่อยเปื่อย
หลังจากที่เหอหยิงนั่งลงบนโซฟา เธอปรับเปลี่ยนท่านั่งและส่งสัญญาณให้ตากล้องที่อยู่ใกล้เธอ เธอยิ้มอย่างมืออาชีพและพูด “เป็นเกียรติอย่างมากค่ะที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณในครั้งนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มการสัมภาษณ์ ฉันอยากจะถามคำถามคุณสักหน่อยซึ่งเป็นคำถามจากทางบ้านค่ะ”
เหอหยิงยิ้มและพูด “ไม่ต้องห่วงนะคะ คำถามง่ายๆ ทั้งนั้น”
เธอพูด “เราต่างก็รู้ว่าสมการหยาง-มิลส์ถูกแก้แล้ว การรวมกันของแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงแม่เหล็กไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงโลกฟิสิกส์ไปอย่างสิ้นเชิง แต่คนส่วนใหญ่ยังคงสับสนกับแนวคิดนี้ คุณคิดว่าอนาคตของฟิสิกส์จะเป็นอย่างไรคะ”
ลู่โจวยิ้มและพูด “คุณจะเริ่มด้วยคำถามที่ยากขนาดนี้เลยเหรอครับ”
เหอหยิงยิ้มและพูด “มันอาจจะยากสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่มันน่าจะง่ายสำหรับคุณนะคะ ถูกไหม”
“ในฐานะนักวิชาการ คำถามที่ว่าคุณคิดอย่างไรกับอนาคตฟิสิกส์…ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะครับ เพราะท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางทฤษฎีจะถูกค้นพบตอนไหน” ลู่โจวไตร่ตรองครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “เป้าหมายระยะยาวของฟิสิกส์ทางทฤษฎีคือทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ ตอนนี้แรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงแม่เหล็กไฟฟ้าได้รวมตัวกันสำเร็จ แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่ก็คือแรงโน้มถ่วง แม้ว่าเราจะต้องใช้เวลาเป็นสิบปีไปกับการวิจัยทฤษฎีนี้ เราก็ยังไม่ใกล้เคียงความจริงเลยแม้แต่น้อย”
เหอหยิงถามจริงจัง “แล้วมีคำตอบที่บ่งบองถึงสาเหตุว่าทำไมการรวมแรงโน้มถ่วงไหมจึงเป็นเรื่องยากไหมคะ”
ลู่โจว “มีสิครับ! แรงโน้มถ่วงคือเรื่องที่ซับซ้อนที่สุดในสาขาฟิสิกส์ แม้ว่าเราจะคุ้นเคยกับแรงโน้มถ่วงมากกว่าแรงพื้นฐานทั้งสามก็ตาม จริงๆ แล้วทฤษฎีสตริงและทฤษฎีโน้มถ่วงเชิงควอนตัมได้อธิบายแรงโน้มถ่วงได้ต่างกันสิ้นเชิง ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วอันไหนถูกต้องกันแน่”
เหอหยิงพูด “แล้วเป้าหมายที่น่าจะเป็นจริงคืออะไรคะ”
ลู่โจวเอนตัวพิงโซฟาและพูด “ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผลหรือเป้าหมายระยะสั้น เป้าหมายนั้นก็คือการตรวจสอบและสำรวจแบบจำลองมาตรฐาน แม้ว่าแบบจำลองมาตราฐานจะดีอยู่แล้วก็ตาม เราก็ยังสามารถหาสิ่งที่นอกเหนือจากแบบจำลองมาตรฐานได้ ไม่ว่าจะผ่านการทดลองหรืองานวิจัยทฤษฎี”
ลู่โจวหยุดไปครู่หนึ่งและพูดขำๆ “ก็เหมือนอนุภาค M แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไร ผมก็สามารถพิสูจน์ว่ามันมีจริงผ่านวิธีทางคณิตศาสตร์ ถ้ามีคนหาอนุภาคเจอ นั่นก็แปลว่าชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ของแบบจำลองมาตรฐานได้ถูกค้นพบแล้ว”
เหอหยิง “ฟังดูน่าตื่นเต้นจัง”
ลู่โจวยิ้มและพูด “ครับ การสำรวจในสิ่งที่ไม่รู้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น”
เหอหยิง “แต่ฟิสิกส์ทฤษฎียังคงเป็นแนวคิดที่ดูห่างไกลกับพวกเราส่วนใหญ่ คุณอธิบายได้ไหมคะว่าฟิสิกส์ทฤษฎีมีอิทธิพลกับสังคมอย่างไร”
ลู่โจวคิดเป็นเวลานาน
เหอหยิงเริ่มสงสัยว่าลู่โจวจะตอบคำถามนี้ไหม เธอกำลังจะบอกตากล้องให้หยุดการสัมภาษณ์ แต่ลู่โจวก็พูดขึ้น
“มันเป็นคำถามที่เป็นนามธรรมเอามากๆ มันยากสำหรับผมที่จะอธิบายให้คุณฟังเกี่ยวกับการค้นพบฟิสิกส์ทฤษฎีที่คนสามารถเห็นได้ด้วยตาของพวกเขาเอง ก็เหมือนกับอนุภาคของฮิกส์หรือคลื่นความโน้มถ่วงเป็นต้น สิ่งที่เราพบในจักรวาลคือสิ่งที่ไม่มีประโยชน์กับคนส่วนใหญ่
“รวมไปถึงอนุภาค M ที่ผมเคยพูดก่อนหน้านี้ด้วย แม้ว่าเราจะสามารถรวมตัวปฏิกิริยาไฟฟ้าอ่อน ปฏิกิริยาไฟฟ้าแก่ และแรงโน้มถ่วง และสร้างทฤษฎีทั้งหมดขึ้นมาได้ จักรวาลก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี บางทีเราน่าจะใช้ฟิสิกส์ทฤษฎีเพื่องานการกุศล มันอาจจะทำให้ชีวิตของคนดีขึ้นก็ได้”
ลู่โจวหยุดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ “แต่ถ้าไม่มีใครทำวิจัยเรื่องที่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์นี้ เราก็ไม่มีอนาคต”
…………………………………………
[1] ความดันบรรยากาศ