ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 669 เพื่อประโยชน์ส่วนรวม / ตอนที่ 670 ศูนย์ประกอบการเสร็จสมบูรณ์
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 669 เพื่อประโยชน์ส่วนรวม / ตอนที่ 670 ศูนย์ประกอบการเสร็จสมบูรณ์
ตอนที่ 669 เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ณ ปักกิ่ง
ชายผิวขาวกำลังตั้งใจอ่านหนังสือพิมพ์ในบ้านไม้ เมื่ออ่านมาถึงจุดจุดหนึ่ง เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ทันใดนั้นเองมีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง
เขามองไปเห็นผู้อำนวยการหลี่ที่กำลังเดินตรงมาที่เขาพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ชายสูงวัยมองหน้าผู้อำนวยการหลี่แล้วยิ้มให้
“มีอะไรกันเหรอ มาตั้งแต่เช้าเลย”
“ผมเพิ่งกลับมาจากจินหลิง” ผู้อำนวยการหลี่สูดลมหายใจเข้าและพยายามเก็บความตื่นเต้นที่มีไว้ในใจ
ชายสูงวัยพอจะเดาออกว่าเรื่องอะไร แต่เขาก็ยังถามอยู่ดี
“เกิดอะไรขึ้นที่จินหลิงเหรอ”
“การทดลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นขนาดย่อ…ประสบความสำเร็จแล้ว เพราะความช่วยเหลือของศาสตราจารย์ลู่ครับ”
ชายสูงวัยไม่ใช่คนเดียวที่ประหลาดใจ แม้แต่ผู้รักษาความปลอดภัยที่นำทางผู้อำนวยการหลี่มาที่นี่ก็ตกใจเช่นกัน
ชายสูงวัยยิ้มและวางหนังสือพิมพ์ลง เขาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้
เขาเดินข้างๆ ผู้อำนวยการหลี่พลางมองต้นหลิวต้นใหญ่ในสวน หลังจากนั้นสักพักเขาเริ่มพูดด้วยความปลื้มใจ
“เป็นเกียรติจริงๆ ที่มีนักวิชาการอย่างศาสตราจารย์ลู่ในประเทศของเรา”
“ครับ…” ผู้อำนวยการหลี่ก็รู้สึกปลื้มปิติเช่นกัน
ผู้อำนวยการหลี่เห็นด้วยกับที่ท่านประธานพูด
หลังจากที่พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นกลายเป็นพลังงานหลัก จะส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้น เพราะมันเป็นพลังงานที่ไม่มีวันสิ้นสุด ลู่โจวมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่กับประเทศนี้
เพียงเท่านี้ก็ทำให้เขาจำไปจนตาย
ชายสูงวัยคิดครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไปทันที “มีใครรู้เรื่องนี้บ้าง”
ผู้อำนวยการหลี่ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นอกจากนักวิจัยแล้วก็มีหัวหน้าหวังจากบริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนและนักศึกษาของเขาอีกสองคนที่รู้เรื่องนี้ครับ…ผมบอกศาสตราจารย์ลู่แล้วว่าให้เก็บเรืองนี้เป็นความลับ”
คนที่รู้เรื่องนี้เคยทำโปรเจกต์สตาร์สเตลล่าร์เรเตอร์ เพราะฉะนั้นพวกเขาไว้ใจได้ การเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ใช่ปัญหา
ชายสูงวัยพยักหน้า
“ดี เก็บเรื่องนี้ให้เงียบ”
งานวิจัยฟิวชั่นจากทุกประเทศทั่วโลกซบเซามาตลอด ส่วนการเจรจาเรื่องฟิวชั่นควบคุมได้ก็กำลังจะสิ้นสุดลง
แม้ว่าการทดลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่แคลิฟอร์เนียจะใช้แนวทางทางเทคนิคเหมือนกับผางกู่ แต่พวกเขายังมีปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้ ถึงแม้ว่าประเทศจีนจะส่งออกวัสดุตัวนำยวดยิ่ง SG-1 เป็นการชั่วคราว แต่การทดสอบแม่เหล็กตัวนำยวดยิ่งของแคลิฟอร์เนียกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด
ส่วน ITER พวกเขาก็ยังเหมือนเดิม ที่เอาแต่พูดแต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
ประเทศตะวันตกกำลังจะเสียความมั่นใจในนักวิจัยของตัวเอง ทำให้พวกเขาอยากเจรจาต่อรองกับจีน ส่วนประเทศจีนก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนระบบจัดการและเทคโนโลยี
ถ้าประเทศอื่นรู้ว่าจีนสร้างเทคโนโลยีฟิวชั่นขนาดย่อสำเร็จ จะส่งผลเสียต่อการเจรจาต่อรองที่เกิดขึ้นในอนาคต ประเทศตะวันตกจะโลภยิ่งกว่าเดิมและเริ่มต่อรองเพื่อเทคโนโลยีขนาดย่อ อีกอย่างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นขนาดย่อก็อันตรายมากๆ
หลังจากที่ผู้อำนวยการหลี่เห็นว่าชายสูงวัยเห็นด้วยกับเขา เขาก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย เขาถอนหายใจก่อนจะพูด “แล้วเรื่องการบินและอวกาศล่ะครับ”
ชายสูงวัย “การบินและอวกาศเหรอ”
ผู้อำนวยการหลี่นิ่งไปครู่หนึ่งและตัดสินใจแสดงความกังวลออกมา
“ครับ เราจะใส่แบตเตอรี่ฟิวชั่นในยานอวกาศ ผมกังวลว่าข่าวจะรั่วไหลออกไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นเทคโนโลยีนี้อาจถูกคนอื่นเอาไป”
มันก็สมควรแล้วที่เขาจะกังวลเพราะการบินและอวกาศเป็นสาขาที่วุ่นวาย อะไรก็ตามที่ลอยอยู่บนฟ้า โอกาสที่มันจะตกสามารถเกิดได้ทุกเมื่อ ถ้าแบตเตอรี่ตกลงบนแผ่นดินจีนคงไม่เป็นไร แต่ถ้ามันไปตกในทะเลหรือประเทศอื่น ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นแน่ๆ
ท่านประธานยิ้มและตอบ “การระวังเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่เราจะระแวงจนเกินไปไม่ได้ อีกอย่างจุดประสงค์เดิมของฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อก็เพื่อใช้กับยานอวกาศ คุณคิดว่าถ้าเราล้มเลิกโปรเจกต์กลางคันเพียงเพราะเรื่องนี้เป็นความคิดที่ดีแล้วเหรอ”
“เอ่อ ครับ คุณพูดถูก ผมคิดมากไปเอง” ผู้อำนวยการหลี่ก้มหน้า
ชายสูงวัยมองหน้าเขา
“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องศาสตราจารย์ลู่หรอก แต่คุณต้องบอกสถาบันวิจัยยุทโธปกรณ์กองทัพเรือเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ การขนย้ายเทคโนโลยีขึ้นเรือบรรทุกอากาศยานอาจจะเร็วไป ผมคิดว่าเราน่าจะใส่เรือดำน้ำมาได้”
ผู้อำนวยการหลี่พยักหน้าและจดจำทุกคำพูดที่ชายสูงวัยพูดออกมา
“รับทราบครับ”
…
ทางด้านของลู่โจวที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง เขาเชิญนักวิจัยโปรเจกต์ฟิวชั่นขนาดย่อมาประชุมที่ห้องประชุม
“สภาบริหารการป้องกันประเทศติดต่อผมมา เทคโนโลยีฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อไม่ควรนำไปเผยแพร่ต่อสาธารนะ ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับก่อนนะ เราจะไม่จัดงานฉลองใหญ่โตแต่เราจะไปมื้อค่ำกันแทน”
เชิ่งเซี่ยนฟู่ยิ้มและพูด “เราเพิ่งจะฉลองกันไปเมื่อต้นปีนี้เอง”
ศาสตารย์หลี่ชางเซี่ยพยักหน้า
“ครับ เราไม่ต้องฉลองก็ได้ เราทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม”
นักวิจัยบางคนพยักหน้า
ถึงแม้จะน่าเสียดายมากๆ ที่พวกเขาไม่สามารถเขียนความสำเร็จในครั้งนี้ลงในเรซูเม่ได้ แต่การที่พวกเขามีส่วนร่วมในโปรเจกต์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ก็นับเป็นเกียรติมากๆ
อีกอย่างคนส่วนใหญ่ที่นั่งตรงนี้อายุก็ยังไม่เยอะ คนที่แก่ที่สุดก็แค่ประมาณ 40 กว่าปี พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอวันที่ความลับนี้จะถูกเปิดเผย ซึ่งก็น่าจะอีก 30 ปีข้างหน้า
แม้ว่าพวกเขาอาจไม่มีโอกาสเห็นโปรเจกต์นี้ออกสู่สายตาคนทั้งโลก อย่างน้อยมันก็จะถูกสลักบนหลุมฝังศพของพวกเขาแทน
ดังนั้นไม่มีอะไรให้เป็นห่วงอีกแล้ว
“อย่างต่อไปที่พวกเราต้องทำ”
ลู่โจวมองดูเชิ่งเซี่ยนฟู่
“โปรเจกต์ฟิวชั่นควบคุมได้ขนาดย่อจะค่อยๆ หายไปเอง เราจะประกาศว่าการทดลองครั้งนี้ล้มเหลว บอกว่าเราไม่เจออะไรเลย ส่วนคุณจะกลับไปที่สถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้หรือบริษัทอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ก็ได้ บอกผมมาได้เลยว่าคุณอยากไปที่ไหน แล้วเดี๋ยวผมจะเขียนจดหมายรับรองให้”
เชิ่งเซี่ยนฟู่พูดอย่างไม่ลังเล
“ผมจะกลับไปที่สถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้ เพราะอย่างไรผมก็ต้องกลับไปที่นั่นหลังจากที่ผางกู่ประสบผลสำเร็จ”
ศาสตราจารย์หลี่ชางเซี่ยตบบ่าเชิ่งเซี่ยนฟู่และพูด “ผมเข้าใจนะว่าคุณคงอยากอวดให้เพื่อนร่วมงานเก่าของคุณเห็น”
เชิ่งเซี่ยนฟู่เผลอลูบจมูกและพูด “คุณหมายความว่าอย่างไรที่ว่าอยากอวด ผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ”
“ผมจะเขียนจดหมายให้คุณในฐานะตัวแทนจากบริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คุณจะได้รับจดหมายภายในหนึ่งอาทิตย์” ลู่โจวยิ้มและมองไปที่หลี่ชางเซี่ย เขาถาม “แล้วคุณล่ะ คุณอยากกลับไปที่หยวี่ฮวา อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ หรือสถาบันวิจัยที่ไหนไหม”
ศาสตราจารย์หลี่ชางเซี่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง
“ผมอยากอยู่ที่นี่ครับ”
ลู่โจวมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจและถาม “อยู่ที่นี่เหรอ”
“ใช่ครับ” ศาสตราจารย์หลี่ชางเซี่ยพยักหน้าและพูด “ผมไม่เหมาะสมที่จะทำงานในบริษัท และหยวี่ฮวาก็แคบเกินไป ผมอยากอยู่ที่นี่”
ลู่โจวพูด “ประเทศจีนมีสถาบันวิจัยตั้งหลายที่ คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ก็ได้”
หลี่ชางเซี่ยโบกมือและพูด “มีศูนย์วิจัยที่ไหนในจีนที่บ้าเท่าคุณอีกเหรอ”
“โอเคครับ” ลู่โจวคิดครู่หนึ่งและพูด “มหาวิทยาลัยจินหลิงต้องการเปิดสถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์ ซึ่งจะแยกกับสถาบันฟิสิกส์ เพื่อฝึกฝนนักฟิสิกส์นิวเคลียร์คลื่นลูกใหม่ของประเทศจีน อีกอย่างคุณเคยทำงานที่สถาบันวิจัยสตาร์สเตลล่าร์เรเตอร์มาก่อน คุณน่าจะเป็นผู้บริหารสถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์นี้นะ”
หลี่ชางเซี่ยยิ้มด้วยความจริงใจ
“ขอบคุณมากครับ”
“ด้วยความยินดี” ลู่โจวยิ้มและพูด “อย่างน้อยคุณก็สมควรได้อะไรสักอย่าง”
………………………………………………………..
ตอนที่ 670 ศูนย์ประกอบการเสร็จสมบูรณ์
ณ ย่านชานเมืองของจินหลิง รถวอลโว่ 18 กำลังเคลื่อนตัวบนถนนคอนกรีต ทิ้งควันไว้ข้างหลัง
โดยปกติแล้วตำรวจจราจรจะเรียกตรวจรถบรรทุกที่วิ่งบนถนนคอนกรีตแบบนี้
แต่รถบรรทุกคันนี้ขับมาได้โดยไม่ถูกเรียกเพราะมีรถทหารสองคันขับตามมาด้วย คันหนึ่งอยู่ด้านหน้า อีกคันอยู่ด้านหลัง
ถ้าเจอสถานการณ์น่ากลัวน่าเช่นนี้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะหลีกเลี่ยง
รถทุกคันมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกและตรงเข้าไปยังพื้นที่ตะวันออกของย่านนำสมัย และหยุดที่โรงงานขนาดร้อยเอเคอร์
ชายสวมชุดทำงานใส่หมวกดำเดินไปที่รถบรรทุก เขาพูดคุยกับชายที่นั่งอยู่ที่นั่งผู้โดยสารพลางส่งสัญญาณให้รถทหารเข้ามาในโรงงาน
ชื่อบริษัทอยู่ตรงประตูทางเข้า
‘ศูนย์ประกอบการกระสวยอวกาศสตาร์สกายเทคโนโลยี’
ชื่อนี้ฟังดูล้ำสมัย
รถซีดานคันดำพร้อมธงสีแดงจอดใกล้กับทางเข้าโรงงาน
หวังเผิงดับเครื่องและเหลือบไปมองรถทหาร เขาอดสงสัยไม่ได้จริงๆ จึงถาม
“คุณวางแผนจะสร้างกระสวยอวกาศจริงๆ เหรอครับ”
ลู่โจว “แน่นอนสิ ทำไมเหรอ”
“เปล่าครับ ผมคิดว่าเรื่องอวกาศมีไว้แค่ขู่ให้สหรัฐอเมริกากลัวเท่านั้น”
ครอบครัวของหวังเผิงยึดติดกับรัฐบาลมากและเขาคงจะได้ยินข่าวลือมาก่อนหน้านี้
เขาเคยได้ยินว่าเป็นที่รู้กันว่าการประชุมเรื่องการส่งคนขึ้นไปบนดวงจันทร์เป็นแผนการสำหรับฟิวชั่นควบคุมได้ของจีน แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงแผนการเพื่อข่มขู่ให้สหรัฐอเมริกาและยุโรปกลัวเท่านั้น เขายังได้ยินมาอีกว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวางแผนให้ลู่โจวเป็นหัวหน้านักออกแบบ แต่ลู่โจวยืนกรานที่จะเป็นแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น
หวังเผิงยอมรับว่ากลยุทธ์นี้มีประโยชน์มากจริงๆ
แนวคิดในการขนส่งไปยังดวงจันทร์ทำให้คนกลัวจนขี้ขึ้นสมอง ถ้าเกิดสามารถส่งของหลายตันขึ้นไปยังวงโคจรต่ำของโลกได้จริง มันก็สามารถนำมาปรับใช้ในการส่งพัสดุได้…
แม้ว่าจริงๆ แล้วจีนไม่ได้มีแผนการข้างต้น แต่ประเทศอื่นก็ยังกังวลอยู่ดี
โดยเฉพาะเรื่องที่ลู่โจวเป็นหัวหน้าที่ปรึกษา…
“ไม่มีทาง ผมไม่มีทางทำให้คนกลัวด้วยวิธีทางการเมืองแบบนี้เด็ดขาด ผมยอมทำตามกฎหมายเสียดีกว่า” ลู่โจวยิ้มและพูด”โอเค หยุดพูดเล่นกันได้แล้ว ผมวางแผนว่าจะสร้างกระสวยอวกาศมานานแล้ว”
“ผมคิดว่าคุณเป็นนักคณิตศาสตร์เสียอีก”
“ผมนี่แหละนักคณิตศาสตร์”
ลู่โจวไม่ได้ใช้เวลาในรถนาน หลังจากที่ลงจากรถเขาก็ตรงไปที่ศูนย์ประกอบการทันที
เพราะเสี่ยวไอแท้ๆ ทำให้ศูนย์ประกอบการสามารถดำเนินการผลิตจำนวนมากได้สำเร็จ นอกจากช่างเทคนิคที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องอุปกรณ์ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และการบำรุงรักษา เจ้าหน้าที่ที่สำคัญอีกตำแหน่งก็คือเจ้าหน้าที่จากแผนกรักษาความปลอดภัย
จำนวนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีมากเป็นสองเท่าของเจ้าหน้าที่ทั่วไป
จริงๆ แล้วการผลิตในปริมาณที่มากขนาดนี้นับว่าเป็นเรื่องยาก แม้แต่ในประเทศตะวันตกก็ตาม
ทันทีที่วัสดุสำหรับกระบวนการผลิตมาถึง ศูนย์ประกอบการจะต้องเริ่มปฏิบัติการทันที
ลู่โจววางแผนจะสร้างแผนกวิจัยเอกชนไว้ที่นี่ รวมไปถึงศูนย์อบรมนักบินอวกาศ แต่ว่าเขาคงไม่สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จในครั้งเดียวเพราะมันต้องใช้เวลานานมาก
ลู่โจวอยู่ด้านในโรงงาน
เขายืนมองหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่วางเรียงแถว หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปหุ่นยนต์ส่งไปให้ให้เสี่ยวไอและยิ้มออกมา
“คิดอย่างไรบ้าง ชอบของเล่นใหม่ไหม”
เสี่ยวไอตอบทันที
[ค่ะ! ชอบสุดๆ ! ขอบคุณค่ะเจ้านาย! ]
ลู่โจว “ดีมาก แล้วอย่าลืมที่ผมบอกนะ ห้ามทำอะไรแปลกๆ เด็ดขาด แล้วก็สร้างกระสวยอวกาศตามแบบที่วาดให้ ไม่ต้องเติมอุปกรณ์อะไรมา”
ลู่โจวได้รับพิมพ์เขียวกระสวยอวกาศจากองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีน ถังเครื่องยนต์และถังเชื้อเพลิงได้รับการปรับปรุงแล้ว ส่วนที่อุปกรณ์อย่างอื่นยังเหมือนต้นฉบับอยู่
ถึงแม้ว่าประเทศจีนจะไม่เคยสร้างกระสวยอวกาศ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่มีนักวิจัยกระสวยอวกาศ ประเทศจีนหยุดทำวิจัยกระสวยอวกาศหลังจากที่โซเวียตล้มเหลวในเรื่องนี้
จริงๆ แล้วเทคโนโลยีริเริ่ม 863 นับเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาก แต่สาเหตุที่วิธีทางเทคนิคนี้ไม่เป็นที่ยอมรับไม่ใช่เพราะคอนเซปต์ไม่ดี แต่เพราะเวลาที่ไม่ตรงกัน
ถ้าพวกเขาสามารถประดิษฐ์อุปกรณ์จัดเก็บพลังงานหนาแน่นสูงและแหล่งพลังงานได้ พวกเขาก็สามารถแทนที่จรวดเคมีดั้งเดิมและเพิ่มแรงผลักให้สูงขึ้นไปอีก
เรื่องที่โชคดีก็คือลู่โจวแก้ปัญหาทั้งสองข้อได้แล้ว
เสี่ยวไอ [ไม่มีปัญหาค่ะ! เสี่ยวไอจะจัดการเอง (๑•̀ᄇ•́)و✧]
ลู่โจวเห็นข้อความของเสี่ยวไอก็อดยิ้มเยาะไม่ได้
แม้ว่าเจ้าเครื่องนี้จะปัญญาอ่อนไปบ้าง แต่สุดท้ายมันก็เชื่อฟังเขาอยู่ดี
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง
ลู่โจวมองไปเห็นเฉินยู่ซานตรงทางเข้าโรงงานที่กำลังเดินตรงมาที่เขา
ลู่โจวมองไปที่เธอและเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เขายิ้มและถาม “คุณมาทำอะไรที่นี่”
ช่วงเดือนมีนาคม สำนักงานใหญ่สตาร์สกายเทคโนโลยีย้ายจากเซี่ยงไฮ้มาที่จินหลิง ออฟฟิศใหม่อยู่ที่อาคาร CBD ที่จินหลิงซึ่งไม่ใช่ย่านเจริญเท่าไหร่นัก ถ้าขับรถจากเมืองมาที่ย่านเจริญก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง
เฉินยู่ซานยืนข้างๆ ติดลู่โจวและยิ้ม
“ฉันเป็นซีอีโอของสตาร์สกายเทคโนโลยีอยู่นะ วันสำคัญแบบนี้ฉันจะพลาดได้อย่างไรล่ะ คุณคิดว่าอย่างไร มีความสุขไหม”
ลู่โจวยิ้มและพูด “มีความสุขมากครับ ขอบคุณนะ”
“ยินดีค่ะ” เฉินยู่ซานยิ้มเยาะพร้อมพูดเหย้าแหย่ “ฉันยังไม่เคยไปอวกาศเลย ถ้าคุณสร้างกระสวยอวกาศสำเร็จ เราน่าจะไปเที่ยวดวงจันทร์กันสักวันนะ”
ลู่โจว “แค่วันเดียวมันสั้นไป เราต้องอยู่อย่างน้อยๆ ก็สามสี่วัน”
เฉินยู่ซานพูด “เราน่าจะสร้างโรงแรมบนดวงจันทร์นะ”
ลู่โจวยิ้มและพูด “เป้าหมายของคุณก็น่าสนใจดีนะ”
เฉินยู่ซานอดไม่ได้ที่จะมองบน
“หมายความว่าอย่างไรน่าสนใจ ฉันเป็นนักธุรกิจนะ! ฉันคิดแค่เรื่องธุรกิจอย่างเดียว! ”
“ก็ได้ ก็ได้ แล้วแต่คุณเลย”
…………………………………………………