ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 695 ทีมนักบินอวกาศ
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 695 ทีมนักบินอวกาศ
เหนือท้องฟ้าสีคราม
เครื่องบินต่อสู้สองลำกำลังบินอยู่บนฟ้า ฉวัดเฉวียนไปมาระหว่างก้อนเมฆ ทิ้งเสียงคำรามของเครื่องยนต์ไว้ตามหลัง
เนี้ยหยุนอยู่ข้างหลังเครื่องบินอีกลำในระยะที่ใกล้มาก ระบบเล็งมิสไซล์ถูกล็อกไปที่เครื่องบินต่อสู้ข้างหน้าเขา เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกดปุ่มปล่อยมิสไซล์บนคันบังคับ
หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงคำสั่งดังมาจากหูฟังสวมหัว
“เป้าหมายถูกทำลายแล้ว
เตรียมตัวเข้าสู่การฝึกครั้งถัดไป”
ฉันชนะแล้ว!
เนี้ยหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะถอดหมวกนิรภัยของเขาออก จากนั้นเขาก็รายงานตอบด้วยน้ำเสียงสุขุม ว่า “รับทราบ”
พวกเขาไม่มีทางใช้กระสุนจริงในการฝึกได้อยู่แล้ว อุปกรณ์รับส่งสัญญาณออปโตอิเล็กทรอนิกส์[1]จึงถูกติดตั้งในเครื่องบินต่อสู้แทน ลำแสงที่ปล่อยออกมามีหน้าที่เป็นตัวแทนมิสไซล์ ถ้าหากยิงถูกเป้าหมาย อุปกรณ์รับสัญญาณออปโตอิเล็กทรอนิกส์บนเป้าหมายจะรับสัญญาณและแจ้งให้ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินได้ทราบ จากนั้นเครื่องบินที่ถูก ‘ยิง’ จะออกจากการฝึก
แน่นอนว่า การฝึกที่จำลองการต่อสู้ในลักษณะนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของคอร์สฝึกทั้งหมดเท่านั้น พวกเขาต้องฝึกให้หมดทั้งคอร์สก่อนที่จะไปลงจอดที่ฐานทัพอากาศได้
หลังจากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินประกาศว่าเครื่องบินที่แพ้ได้ถูกยิงแล้ว เครื่องบินต่อสู้ทั้งสองลำก็เปลี่ยนทิศทางการบินแล้วเริ่มบินไปหาบริเวณน่านฟ้าถัดไปที่ได้นัดหมายไว้ก่อนหน้าแล้วเพื่อเตรียมการฝึกครั้งต่อไป
ในขณะที่เนี้ยหยุนกำลังเตรียมสภาพจิตใจตัวเองให้พร้อมต่อการฝึกครั้งถัดไปอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงคำสั่งดังขึ้นในหู
“ยกเลิกการฝึก กลับมาในทันที”
ยกเลิกการฝึกเหรอ?
เนี้ยหยุนนิ่งไปชั่วขณะ
ถึงแม้เขาจะรู้สึกประหลาดใจ เขาก็รายงานตอบด้วยน้ำเสียงสุขุม “รับทราบ ยกเลิกการฝึก กำลังกลับไป”
เนี้ยหยุนหันมองท้องฟ้าสีครามเป็นครั้งสุดท้ายและยกนิ้วโป้งให้กับเพื่อนของเขาที่อยู่บนเครื่องมือต่อสู้อีกลำ เขาใช้คันบังคับควบคุมเครื่อง J-20 และบินกลับไปที่ฐานทัพอากาศ
…
เครื่องบินต่อสู้สีเทาเงินลงจอดที่รันเวย์อย่างมั่นคง หลังจากเครื่องบินเคลื่อนที่บนพื้นดิน[2]ไปในระยะสั้นๆ ร่มชูชีพก็ดีดตัวออก และเครื่องบินต่อสู้ก็หยุดขยับในที่สุด
เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินก้าวมาข้างหน้า ในขณะที่ที่นั่งคนขับเครื่องบินก็เปิดออก
หลังจากที่เนี้ยหยุนยื่นหมวกนิรภัยให้กับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน เขาก็เดินตามเท้ากัปตันการฝึกบินแล้วเดินไปหาเจ้าหน้าที่อาวุโส จากนั้นเขาจึงทำความเคารพในแบบของทหาร
เจ้าหน้าที่อาวุโสที่หน้าตาจริงจังก็ทำความเคารพเช่นกัน ก่อนที่จะหันไปสนใจรัฐมนตรีฉิน
“คนนี้คือเนี้ยหยุนที่ผมเล่าให้ท่านฟังก่อนหน้านี้ครับ เป็นนักบินทดสอบของเครื่อง J-20 และเป็นคนที่เก่งที่สุดของทีมนักบินของเรา”
รัฐมนตรีฉินหันหน้าออกจากเครื่องบินเจ็ท J-20 ไปมองนักบินทดสอบ แล้วเขาก็พยักหน้าอย่างช้าๆ
“ยินดีที่ได้พบนะ เนี้ยหยุน ผมมั่นใจว่าการฝึกต้องเหนื่อยแน่ๆ “
เนี้ยหยุนจึงพูดขึ้นว่า “ไม่เลยครับ วิธีฝึกในลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติกับทีมนักบินของพวกเรามาก”
รัฐมนตรีฉินมองชายผู้เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วพยักหน้า
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น ปากก็เอ่ยว่า “กระทรวงยุทโธปกรณ์กองทัพอากาศของพวกเรามีภารกิจสำคัญที่ต้องใช้นักบินที่มีความโดดเด่นทั้งหมดสองคน ผู้บัญชาการซุนเป็นคนแนะนำคุณให้ผมเอง ที่คุณต้องทำก็มีแค่ บอกผมมาว่าคุณอยากจะไปหรือไม่”
ภารกิจของกระทรวงยุทโธปกรณ์กองทัพอากาศเหรอ?
ทดสอบอาวุธใหม่ๆ หรือเปล่า?
เนี้ยหยุนรู้สึกทึ่งขึ้นมาทันที
“ผมไปได้ทุกที่ที่ประเทศอยากให้ผมไปครับ”
รัฐมนตรีฉินยิ้มแล้วเอ่ยว่า “คุณแน่ใจแล้วเหรอ? คุณยังไม่ได้ถามเลยนะ ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไร?”
ต่อให้ถามไป คุณก็ไม่บอกอยู่ดีนั่นแหละ…
เนี้ยหยุนตอบอย่างเด็ดขาดว่า
“ผมมั่นใจครับ”
รัฐมนตรีฉินจึงพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็โอเค”
“จากนี้ไป นายจะถูกย้ายจากทีมนักบินทดสอบไปอยู่ทีมนักบินอวกาศ”
นักบินอวกาศ…
ทีมนักบินอวกาศเหรอ?!
เนี้ยหยุนทั้งอึ้งทั้งงงกับคำตอบที่ได้
…
แน่ล่ะว่าเขารู้สึกผิดหวังเล็กๆ
เนี้ยหยุนไม่เคยคิดว่ากระทรวงยุทโธปกรณ์กองทัพอากาศจะมอบหมายให้เขาไปทำงานในทีมนักบินอวกาศ ปรากฏว่า ภารกิจที่ว่านั่นเป็นแค่การทดสอบกระสวยอวกาศที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งร่วมมือกับทีมป้องกันราชอาณาจักร เป็นกระสวยอวกาศที่ชื่อว่า ‘สกายโกลว์’
ถึงทีมนักบินอวกาศจะไม่ใช่พวกมือสมัครเล่นไก่กา พวกเขาต่างก็เป็นผู้ชำนาญการกันทั้งนั้น แต่เมื่อเขานึกได้ว่าเขาจะไม่ได้บินบนท้องฟ้าสีครามกับเครื่องบิน J-20 แล้ว เขาก็อดรู้สึกเสียดายเล็กๆ ไม่ได้
แต่หน้าที่ของทหารก็คือการทำตามคำสั่ง ต่อให้เขาจะรู้สึกเสียดาย เขาก็บ่นอะไรไม่ได้
เขาโยนความคิดตัวเองทิ้งไปแล้วหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
คนนี้ใช่ศาสตราจารย์ลู่ในตำนานคนนั้นหรือเปล่านะ?
เขาดู…หล่อกว่าที่เขาเคยนึกภาพไว้นิดหน่อย เขาไม่ได้ดูมีความพิเศษอะไรเลย
ในขณะที่นักบินทั้งสองกำลังแอบมองลู่โจว ฝั่งลู่โจวที่กำลังถือเอกสาร ก็มองนักบินทั้งสองตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นกัน
แน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจรูปร่างหน้าตาของพวกเขาอยู่แล้ว เขากำลังห่วงว่าพวกเขาจะมีความสามารถที่จะกลายเป็นนักบินอวกาศเต็มตัวได้หรือเปล่าต่างหาก
[เนี้ยหยุน เพศชาย 32 ปี เครื่องบินเจ็ท J-10 J-20…]
[เนี้ยเหยียน เพศหญิง 29 ปี เครื่องบินเจ็ท ซีอาน Y-20 ส่านซี Y-8…]
ลู่โจวเงยหน้าขึ้นจากเอกสารแล้วถามคำถาม
“พวกคุณเป็นพี่น้องกันเหรอครับ?”
ทั้งสองคนตอบพร้อมกันว่า “ใช่ครับ/ค่ะ”
ลู่โจวฉงน เขาจึงถามว่า “ทำไมพวกคุณถึงถูกเลือกมาล่ะ?”
หญิงสาวผมสั้นตอบว่า “หัวหน้าถามฉันว่า สนใจจะบินขึ้นไปสูงกว่าบนท้องฟ้าไหม ฉันตอบตกลง หัวหน้าจึงบอกให้ฉันมาที่นี่ค่ะ”
คำตอบไม่มีอะไรแปลกประหลาด แต่ลู่โจวหัวเราะเล็กน้อย
เขากระแอมแล้วหันไปมองเนี้ยหยุน
“แล้วคุณล่ะ?”
เนี้ยหยุนจึงตอบ “คำสั่งจากเบื้องบนครับ”
ลู่โจวบอกได้ว่าผู้ชายคนนี้มีอะไรบางอย่างต่างจากน้องสาวของเขา
เขามองไฟล์เอกสารบนมือแล้วเปิดไปหน้าถัดไปขณะกำลังพูด
“ถึงแม้สกายโกลว์จะไม่ใช่ทั้งเครื่องบินต่อสู้หรือเครื่องบินทิ้งระเบิด ผมก็สัญญาว่า การขึ้นบินโดยใช้สกายโกลว์จะน่าสนใจมากกว่าเครื่องบินก่อนหน้าทั้งสอง…และมันยังจะมีความหมายมากกว่าอีกด้วย ผมสัญญาว่าจะต้องมีคนจำนวนมากที่อิจฉาพวกคุณสองคน และเพื่อนร่วมทีมของคุณจะต้องภูมิใจในตัวพวกคุณ ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าพวกคุณจะคิดอย่างไร แค่ทำตามคำสั่งของผมก็พอ”
เอาจริงๆ แล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรโทรมาหาเขาตอนกลางดึกแล้วถามว่าเขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า ลู่โจวก็คงจะไปเป็นนักบินอวกาศที่ทดสอบแทนแล้ว สุขภาพร่างกายของเขาดีพอๆ กับนักบินทั่วไปเลย
แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนักหรอก
เขายังขึ้นบินได้เสมอหลังจากที่เทคโนโลยีได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่และปลอดภัยแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเป็นคนแรกที่ได้บิน
ลู่โจวอ่านเอกสารที่พกมาจนจบแล้วกระแอมขึ้น เขามองไปทางทั้งสองคนแล้วถามขึ้นว่า “พวกคุณรู้เรื่องกระสวยอวกาศมากแค่ไหนครับ?”
เนี้ยหยุนตอบ “เป็นเครื่องบินที่สามารถเดินทางไปอวกาศและชั้นบรรยากาศได้ครับ”
ปฏิกิริยาของเนี้ยเหยียนช้ากว่า เธอตอบว่า “ฉันเห็นด้วยกับพี่ชายค่ะ”
ลู่โจวยิ้มแล้วพยักหน้า “ถูกต้องแล้ว แต่มันยังมีมากกว่านั้น ก่อนจะขึ้นกระสวยอวกาศ ผมหวังว่าพวกคุณจะมีความเข้าใจคุณลักษณะของกระสวยอวกาศอย่างครอบคลุมนะ
ภายในอีกสามเดือนข้างหน้า จะมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาสอนพวกคุณว่ากระสวยอวกาศจริงๆ แล้วคืออะไรกันแน่ วิธีควบคุมต้องทำอย่างไร และที่สำคัญที่สุดก็คือ…วิธีช่วยเหลือตัวเองหากเกิดอุบัติเหตุ
ภารกิจนี้สำคัญมาก พวกเรามีเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้น ผมหวังว่าพวกคุณจะทำเต็มที่นะครับ”
นักบินทั้งสองยืนตรงและตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน
“รับทราบครับ/ค่ะ!”
……………………………………….
[1] การศึกษาและการประยุกต์ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สร้าง ตรวจจับ และควบคุมแสง
[2] ในภาษาอังกฤษเรียกว่า แท็กซี่ (taxi) เป็นศัพท์ในวงการการบิน แปลว่า การเคลื่อนที่ไปบนพื้นทางขับด้วยกำลังจากตัวเครื่องบินเอง