ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 721 รวมโต๊ะ? / ตอนที่ 722 ซี
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 721 รวมโต๊ะ? / ตอนที่ 722 ซี
ตอนที่ 721 รวมโต๊ะ?
มันเป็นเวลากลางคืน
จุดปล่อยยานอวกาศยังคงสว่างไสว
คนส่วนใหญ่เริ่มวางแผนวันหยุดของตัวเองและตั้งตารอปีใหม่ อย่างไรก็ดี ที่นี่กลับไม่มีบรรยากาศของเทศกาลเลยแม้แต่นิดเดียว
เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยุ่งอยู่กับการเดินอยู่รอบๆ รันเวย์ที่ปล่อยยาน พวกเขากำลังทำการตรวจสอบจุดปล่อยยานและฮาร์ดแวร์ของสกายโกลว์เป็นครั้งสุดท้าย
แผนการปล่อยเสร็จสมบูรณ์แล้วและมีกำหนดการปล่อยในเวลาเที่ยงคืน
จากข้อมูลการสังเกตสภาพอากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยา เวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภารกิจการปล่อยยาน
นักบินอวกาศและเจ้าหน้าที่ของจุดปล่อยยานต่างกำลังทำหน้าที่ของพวกเขา
ภายในห้องพักนักบินอวกาศ
บรรยากาศเงียบสนิท
จะมีการปล่อยยานในอีกสามชั่วโมง และพวกเขาจะต้องขึ้นยานอวกาศในอีกหนึ่งชั่วโมง
เนี้ยหยุนถอนหายใจและทำลายความเงียบ
“เธอพร้อมไหม?”
เนี้ยเหยียนยิ้มเยาะแล้วชนหมัดเข้าที่อก
“ฉันพร้อมตั้งแต่เกิดแล้ว”
เนี้ยหยุนติดเชื้อความกระตือรือร้นของเธอเข้าให้แล้ว และเขาก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มนั้นก็คงอยู่ได้แค่ไม่กี่วินาที
หลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า
“…เธอควรจะคิดเรื่องนี้ให้จริงจังนะ นี่มันต่างจากภารกิจการปล่อยยานรอบที่แล้ว เราไม่รู้เลยว่ามีอะไรรอเราอยู่บนดวงจันทร์”
เนี้ยเหยียนยิ้มแล้วพูดติดตลกว่า “การคิดเรื่องนี้มันมีประโยชน์ยังไง? มันไม่ใช่ว่าเราจะสามารถหานักบินอวกาศมาบินแทนเราได้สักหน่อย”
เนี้ยหยุนพูดว่า “เรามีนักบินอวกาศสำรอง”
เนี้ยเหยียนพูดอย่างไม่ลังเลว่า “อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้”
เนี้ยหยุนรู้ว่าน้องสาวของเขาเป็นคนนิสัยยังไง ดังนั้นเขาจึงไม่พยายามจะเกลี้ยกล่อมเธอ
จริงๆ แล้ว เพราะพวกเขาเป็นพี่น้องกัน พวกเขาจึงไม่สามารถจะขับยานอวกาศไปด้วยกันได้ ฉะนั้น เนี้ยหยุนจึงถูกเลือกให้เป็นนักบินเพียงคนเดียวสำหรับเที่ยวบินนี้
อย่างไรก็ตาม เนี้ยเหยียนก็ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาให้เธอได้บินไปด้วยเช่นกัน ด้วยความสามารถอันโดดเด่นของเธอในกองทัพ ผู้บังคับบัญชาจึงอนุมัติคำขอของเธอ
เนี้ยหยุนไม่คิดว่านี่จะเป็นความคิดที่ดี
เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้น พ่อแม่ของพวกเขาคงจะใจสลายที่ต้องสูญเสียลูกทั้งสองคนไป
นอกจากพี่น้องคู่นี้แล้ว ยังมีคนอื่นร่วมบินไปด้วย
เขาแตกต่างจากนักบินอวกาศทั้งสองคน เขาไม่ใช่อดีตนักบินของกองทัพ เขาเป็นนักวิจัยจากสถาบันธรณีเคมีที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและเคยทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยดวงจันทร์และดวงดาวแห่งประเทศจีน โดยทำงานด้านการวิจัยและสำรวจดวงดาว เขาผ่านการสัมภาษณ์และทดสอบหลายรอบก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรเจกต์ส่งคนไปดวงจันทร์
ก่อนหน้านี้เขาได้รับการฝึกอบรมแบบมืออาชีพเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น เขาไม่ทราบเลยว่านี่เป็นเรื่องจริงจังแค่ไหนจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ขอให้เขาเขียนพินัยกรรม…
เนี้ยเหยียนสังเกตว่ามือของเขากำลังหยุกหยิก เธอจึงถามขึ้นว่า “เฮ้ คุณชื่ออะไร?”
ชายคนนั้นสะดุ้งตกใจเพราะเสียงของเธอ แล้วเขาก็ตอบอย่างตะกุกตะกักว่า “หลิว…หลิวเจิ้งเหวิน”
“กังวลเหรอ?”
“ใช่… ประมาณนั้น”
หลิวเจิ้งเหวินฝืนยิ้มออกมา เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วมองที่กำปั้นของตัวเอง สักพักเขาก็พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่าผมเตรียมใจมาแล้ว แต่ตอนนี้… ผมกำลังกลัวตาย”
เนี้ยหยุนพูดว่า “ทุกคนกลัวตายทั้งนั้น ไม่มีอะไรจะต้องอายหรอกครับ”
“คุณก็กลัวเหมือนกันเหรอ?”
เนี้ยหยุนพยักหน้า แล้วก็ส่ายหัว
“การรู้สึกกลัวกับเกรงกลัวเป็นสองสิ่งที่ต่างกัน”
ทันใดนั้นเสียงกริ่งก็ดังขึ้นในห้องพักนักบินอวกาศ
มันเป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องตรงไปที่ห้องล็อกเกอร์แล้วสวมชุดอวกาศโดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยใส่
เนี้ยหยุนยืนขึ้นแล้วเดินอย่างเงียบๆ ไปข้างๆ หลิวเจิ้งเหวิน เขาเอื้อมมือออกไปแล้วตบบ่าหลิวเจิ้งเหวิน
“ผ่อนคลายเถอะ มีผู้คนอีกหลายล้านคนคอยภาวนาให้พวกเรา”
“พวกเราทำได้”
…
จุดปล่อยยานเต็มไปด้วยเหล่าทหารจากกองทัพ มีการตั้งแบริเออร์ตรงบริเวณใกล้กับทางหลวงเพื่อห้ามไม่ให้ยานพาหนะและบุคคลอื่นทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่ บางคนกำลังถ่ายภาพอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและพวกเขาก็ถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารตักเตือนและนำตัวออกไป
จุดปล่อยยานดูเหมือนป้อมปราการที่แม้แต่แมลงสาบก็ไม่สามารถจะแอบเข้าไปได้
ภายในจุดปล่อยยาน
รถตู้ของ CTV จอดอยู่ในจุดปล่อยยาน CTV ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำ
กล้องจับอยู่ที่นักบินสามคนซึ่งกำลังเดินตรงไปยังยานอวกาศ ผู้สื่อข่าวหญิงที่กำลังตื่นเต้น พูดด้วยเสียงอันดังผ่านไมโครโฟนว่า
“…บนรันเวย์ที่ด้านหลังของดิฉันคือนักบินอวกาศ 3 คนที่กำลังจะขึ้นยานสกายโกลว์ค่ะ อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง การบินครั้งที่สองของสกายโกลว์ก็จะเริ่มขึ้น จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่จุดปล่อยยานจินหลิง ยานอวกาศจะเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ แล้วรอยเท้าของนักบินอวกาศของเราก็จะอยู่บนดวงจันทร์! พวกเขาจะอวยพรสุขสันต์วันตรุษจีนให้พวกเราจากดวงจันทร์ค่ะ!”
ผู้สื่อข่าวหญิงสูดลมหายใจเข้าลึก
ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ภาพที่บันทึกด้วยกล้องนี้จะได้ไปออกอากาศทางช่องข่าวในวันพรุ่งนี้
แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติ…
เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือภาวนา
บนรันเวย์ชานชาลาสูงสำหรับขึ้นยานค่อยๆ เชื่อมต่อกับทางเข้ายานอวกาศ
ลู่โจวยืนอยู่บนชานชาลาสำหรับขึ้นยานและมองดูนักบินอวกาศสามคนขึ้นสู่ยาน เขายิ้มแล้วโบกมือให้พวกเขา
ผู้อำนวยการหลี่ยืนอยู่ข้างหลังลู่โจวโดยมีสีหน้าที่เคร่งขรึม แม้ว่าชานชาลาสำหรับขึ้นยานจะไม่ได้เชื่อมต่อกับยานอวกาศ เขาก็ยังคงจับตามองลู่โจว
ผู้อำนวยการหลี่เป็นคนที่รักษาคำพูดของเขาอย่างแท้จริง เขาคอยติดตามลู่โจวมาตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว กระทั่งถึงตอนเข้าห้องน้ำ
อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำกับลู่โจว…
ลู่โจวมองใบหน้าที่กังวลของเขาแล้วถอนหายใจออกมา
“… ผมคิดถึงเรื่องนั้น”
ผู้อำนวยการหลี่พูดว่า “คิดถึงเรื่องอะไร?”
ลู่โจวตอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ยานลงดวงจันทร์สามารถรับคนได้เพียงแค่สองคน ดังนั้นอีกหนึ่งก็จะต้องอยู่บนยานอวกาศคนเดียว”
“…แล้วไง?”
“มันค่อนข้างจะน่าเบื่อสำหรับพวกเขาที่จะต้องที่นั่นคนเดียว เราควรจะบินไปกับพวกเขา แล้วเราจะได้เล่นไพ่กับพวกเขาได้”
ดวงตาของผู้อำนวยการหลี่แทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตา ลู่โจวเริ่มที่จะกังวลเรื่องความดันโลหิตของผู้อำนวยการหลี่
“ผมล้อเล่น… ไปเถอะ… เรากลับไปกันที่ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินดีกว่า โชว์กำลังจะเริ่มแล้ว”
ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะตอบ ลู่โจวก็ลากเขาไปที่ศูนย์บัญชาการแล้ว
……………………………
ตอนที่ 722 ซี
ประตูของยานอวกาศปิด
เนี้ยหยุนนั่งลงบนที่นั่งของนักบิน
หลังจากเนี้ยหยุนติดระบบความปลอดภัยทางชีวภาพและคาดเข็มขัดที่ชุดอวกาศของเขาแล้ว เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วค่อยๆ ปรับจุดศูนย์ถ่วงบนพนักที่นั่ง
นาฬิกาดิจิทัลส่งเสียงติ๊กๆ เบาๆ
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว”
“ใช่”
เนี้ยหยุนชนกำปั้นกับเนี้ยเหยียน แล้วเขาก็มองไปที่แผงคอนโซลควบคุม เขาได้ยินใครบางคนพูดว่า “ทุกหน่วยพร้อม” ในหูฟังของเขา เขาเปิดล็อกนิรภัยสำหรับเครื่องฟิวชั่นเสียงก่อนจะบิดปุ่มอิกนิชั่น
ในช่วงเวลาที่ปุ่มถูกเปิด พลังงานมหาศาลก็ออกมาจากแกนนิวเคลียร์ มันดูเหมือนว่ายานอวกาศทั้งลำเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์ที่ตื่นขึ้นมา
หลิวเจิ้งเหวิน ผู้ซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสาร รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่เท้า เขากลืนน้ำลายแล้วถามอย่างประหม่าว่า “เรากำลังจะจุดเชื้อเพลิงแล้วใช่ไหม?”
ช่องการสื่อสารไม่ได้เปิดอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เนี้ยหยุนจ้องอยู่ที่หน้าปัดพลังงานที่กำลังเพิ่มขึ้น แล้วเขาก็เอื้อมมือไปแตะที่หูฟังเบาๆ เขาพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนว่า
“นี่คือสกายโกลว์ ฟิวชั่นอิกนิชั่นเสร็จสมบูรณ์ เราพร้อมที่จะบินแล้ว ขอการอนุมัติ”
ไม่นานศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินก็ตอบกลับมาว่า
“คำขอได้รับอนุมัติ เริ่มปล่อยยานในหนึ่งนาที”
“รับทราบครับ”
มือทั้งสองข้างของเนี้ยหยุนจับคันบังคับทิศทางแน่น เขาหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก นิ้วโป้งของเขากดที่ปุ่ม ซึ่งเป็นปุ่มเปิดตัวขับดันเครื่องยนต์
วินาทีที่เขาลืมตา เขาก็ได้ยินเสียงนับถอยหลังในหู…
“5
“4
“3
“2
“1
“0
“ไปได้!”
ครั้งก่อนลู่โจวให้โฮ่วกวงนับถอยหลัง แต่ครั้งนี้ลู่โจวเป็นคนนับถอยหลังเอง
ในช่วงเวลาที่แสงสีฟ้าปะทุออกมาจากเครื่องขับดัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่อยู่ใกล้รันเวย์ ทหารจากกองทัพ และวิศวกรทั้งหมดถูกย้ายออกไปเรียบร้อย
ภาพวิวอันน่ามหัศจรรย์นี้จะไม่มีวันเก่าเลย
ผู้อำนวยการหลี่ยืนอยู่ข้างลู่โจวขณะที่เขาจ้องอยู่ที่จอขนาดใหญ่ในศูนย์บัญชาการ
ผ่านไปสักพัก เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า
“ในที่สุดผมก็รู้ว่าทำไมคุณถึงอยากขึ้นไปบนนั้น”
ลู่โจวยิ้มแล้วถามว่า “ไปบินด้วยกันสักครั้งไหมล่ะครับ?”
ผู้อำนวยการหลี่ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ยานอวกาศบนรันเวย์ก็เคลื่อนตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด ยานอวกาศสีเงินก็บินขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ แล้วหายไปที่เส้นขอบฟ้า แสงสีฟ้าส่องสว่างเจิดจ้าในความมืด เหมือนกับแสงออโรรา
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินมองดูยานอวกาศที่หายไปในราตรี พวกเขาก็เปล่งเสียงยินดีออกมาอย่างตื่นเต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและอวกาศในหอบังคับการภาคพื้นดินถึงกับหลั่งน้ำตา
แม้ว่าการเดินทางไปดวงจันทร์เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น แต่การปล่อยยานที่ประสบความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นที่จดจำไว้ในประวัติศาสตร์
ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จและสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ก็ตาม…
นั่นก็คงจะขึ้นอยู่กับนักบินอวกาศ…
“สกายโกลว์ จากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน กรุณารายงานสถานะด้วย”
หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงของนักบินผู้ช่วย
“… จากสกายโกลว์ เราอยู่ที่ความสูง 5 กิโลเมตร ความเร็ว 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 1.25 G เซนเซอร์วัดอุณหภูมิเหมาะสม ทุกอย่างปกติ”
“ดี โปรดอย่าพลาดการติดต่อ ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินจะคอยให้ข้อมูลการนำทาง”
“รับทราบครับ”
สกายโกลว์หายลับไปจากสายตา
ผู้อำนวยการหลี่มองเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในจุดปล่อยยานที่กำลังเก็บกวาดรันเวย์และย้ายอุปกรณ์ออกไป ทันใดนั้นเขาก็พูดกับลู่โจวว่า
“ถ้ามันใช้เวลาสองชั่วโมงในการขึ้นสู่วงโคจรต่ำของโลก แล้วต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะไปถึงดวงจันทร์”
แม้ว่าเวลาถึงที่คาดการณ์ไว้จะบันทึกอยู่ในแผนการปล่อยยาน แล้วแผนการปล่อยยานก็ถูกส่งไปที่องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยตรง และกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรก็ไม่ได้รับผิดชอบในเรื่องของรายละเอียดโปรเจกต์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม สตาร์สกายเทคโนโลยีก็ได้ส่งสำเนาไปยังกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรแล้ว แต่ผู้อำนวยการหลี่ต้องรีบมาที่จินหลิงโดยด่วน เขาจึงยังไม่มีโอกาสได้อ่านมัน
ลู่โจวจ้องที่จุดสีเขียวบนเรดาร์ เขายิ้มแล้วตอบว่า “ประมาณ 56 ชั่วโมงครับ”
“แค่ 56 ชั่วโมงเหรอ?” ผู้อำนวยการหลี่มองลู่โจวด้วยสีหน้าตกตะลึง แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด จรวดแซเทิร์น 5 ของอเมริกาใช้เวลามากกว่า 70 ชั่วโมงใช่ไหม?”
“ถ้าระยะทางยาวขึ้น เราก็สามารถจะเร่งความเร็วให้เร็วขึ้นได้” ลู่โจวยิ้มแล้วพูดว่า “การปล่อยยานเสร็จสิ้นแล้ว ผมจะไปงีบสักหน่อย และคุณก็ควรจะพักได้แล้ว ยานอวกาศอยู่บนท้องฟ้าแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่ผมจะบินตามไปได้หรอก”
ก่อนที่ผู้อำนวยการหลี่จะได้ตอบ ลู่โจวก็ถอดหูฟังของเขาออกและส่งให้โฮ่วกวง
“ตอนนี้เป็นหน้าที่ของคุณแล้ว”
โฮ่วกวงรับหูฟังมาจากลู่โจวแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง
“รับทราบครับ”
…
บนท้องฟ้า
สกายโกลว์ได้ขึ้นไปถึงระดับความสูง 20 กิโลเมตรแล้ว นักบินเปลี่ยนโหมดเครื่องยนต์อย่างช้าๆ และยานอวกาศก็เริ่มบินไปยังนอกโลกด้วยเส้นสัมผัสวงโคจรไปยังโลก
หลิวเจิ้งเหวินสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจุดศูนย์ถ่วง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วแตะที่หมวกนิรภัย ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าถึงช่องการติดต่อของลูกเรือได้
“… นี่เราออกจากชั้นบรรยากาศรึยัง?”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของเนี้ยเหยียนก็ดังขึ้นผ่านช่องการสื่อสารนั้น
“ยังหรอก ถ้าคุณกังวล คุณจะนอนพักสักนิดก็ได้นะ”
“… ผมเพิ่งจะตื่นขึ้นมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงเอง ตอนนี้ผมคงหลับอีกรอบไม่ได้”
มันไม่ใช่ว่าฉันจะสามารถนอนหลับในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้สักหน่อย!
เนี้ยเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “เลิกทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงเล็กๆ เถอะ คุณโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วนะ ศาสตราจารย์ลู่ก็เป็นนักวิจัยเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ได้กลัวอะไรเลยตอนที่เขาแอบขึ้นมาที่นี่”
นักวิชาการจีนหนุ่มสาวส่วนใหญ่มองว่าลู่โจวเป็นเหมือนแบบอย่างหรือแม้กระทั่งไอดอล
หลังจากจำได้ว่าลู่โจวก็เคยบินไปกับยานอวกาศลำนี้แล้วเหมือนกัน หลิวเจิ้งเหวินก็ได้สงบลง
“แล้วศาสตราจารย์ลู่เป็นยังไงตอนที่เขามาอยู่บนนี้?”
เนี้ยหยุนเปลี่ยนให้สกายโกลว์อยู่ในโหมดบินอัตโนมัติแล้ว เขายิ้มแล้วตอบว่า “เขาน่ะเหรอ? เขาเป็นคนเพี้ยน แม้แต่พวกเราที่เป็นนักบินอวกาศมืออาชีพยังกังวลเล็กน้อย แต่เขาไม่มีความกังวลเลย เขายังถ่ายรูปเซลฟี่ในอวกาศด้วย”
หลิวเจิ้งเหวิน “…”
ฉันคิดว่าจริงๆ แล้วลู่โจวเป็นเทพ
นอกจากต้องการจะโพสต์ว่า ‘ท่านเทพลู่เป็นคนเพี้ยน’ บนเว่ยป๋อของเขาแล้ว เขายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เนี้ยหยุนสังเกตว่าหลิวเจิ้งเหวินยังคงเงียบ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าหลิวเจิ้งเหวินยังคงกลัวอยู่ เขาพยายามที่จะให้กำลังใจหลิวเจิ้งเหวิน
“อันที่จริง คุณควรจะผ่อนคลายสักนิดแล้วคิดแต่เรื่องในแง่ดี เมื่อเรากลับมาจากดวงจันทร์ เราจะกลายเป็นวีรบุรุษ และนั่นจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับชีวิตที่เหลือของคุณเลยนะ”
หลิวเจิ้งเหวินเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “แล้วถ้าเราไม่ได้กลับไปล่ะ?”
เนี้ยหยุนยิ้ม
“เราก็จะยังคงเป็นวีรบุรุษ”
……………………………………