ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 724 ก้าวเท้าสู่ท้องฟ้าดาวแพรวพราว / ตอนที่ 725 คำอวยพรพิเศษ
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 724 ก้าวเท้าสู่ท้องฟ้าดาวแพรวพราว / ตอนที่ 725 คำอวยพรพิเศษ
ตอนที่ 724 ก้าวเท้าสู่ท้องฟ้าดาวแพรวพราว
นับตั้งแต่ภารกิจไปดวงจันทร์ ‘อะพอลโล 17’ ในเดือนธันวาคม ปี 1972 ก็ไม่มีใครได้ขึ้นอวกาศเลยวงโคจรของโลกแล้วไปเหยียบพื้นดวงจันทร์อีก สกายโกลว์ที่ลอยอยู่ในวงโคจรของโลกกับดวงจันทร์ก็เป็นเหมือนเรือที่โดดเดี่ยวในท้องทะเล
ภาพวิวจากช่องหน้าต่างของยานเป็นสีดำสนิท แตกต่างจากยามค่ำคืนบนโลก เป็นความเงียบและความหนาวเหน็บคนละแบบ ความมืดแบบนี้มีลักษณะราวกับมาจากต่างมิติ ความมืดที่มีลักษณะเหมือนใต้ทะเลลึก 10 กิโลเมตร
หลังจากเดินทางมาเกือบ 40 ชั่วโมง พวกเขาก็เข้าใกล้ดาวเคราะห์สีเทาเข้มในที่สุด
เนี้ยหยุนที่กำลังถือคันบังคับยานมองไปทางดวงจันทร์แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก
“นี่สกายโกลว์นะครับ พวกเรามาถึงวงโคจร 12 ชั่วโมง เข้าใกล้กับดวงจันทร์แล้ว…”
หลิวเจิ้งเหวินนั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารข้างหลังของเขา ในขณะที่เขาจ้องไปทางดาวเคราะห์ที่ใกล้เข้ามา หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นด้วย
เป็นความรู้สึกที่เขาก็อธิบายไม่ถูก
หลังจากผ่านไป 5 นาที เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา
“จะว่าไปแล้ว…ใครจะลงไปก่อนนะ?”
หลิวเจิ้งเหวินหน้าแดง ถึงแม้เขาไม่อยากจะพูดให้ตัวเองดูเป็นคนเห็นแก่ได้ เขาก็รู้สึกเหมือนเป็นคนค่อนข้างเห็นแก่ตัว ‘จากการเป็น ‘คนจีนคนแรกบนดวงจันทร์’ เขารู้สึกว่าเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นข้อโต้เถียงกันได้ ดังนั้นการคุยกันก่อนที่จะเริ่มภารกิจจึงน่าจะดีกว่า
เมื่อได้ยินดังนั้น เนี้ยหยุนก็ยิ้ม
“คุณลงไปก่อนเลย”
หลิวเจิ้งเหวินตอบอย่างอึกอักว่า “ไม่ คุณก่อนเลย”
สุดท้ายแล้ว เนี้ยหยุนก็เป็นคนที่ขับยานสกายโกลว์มาจนถึงที่นี่
เนี้ยหยุนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ผมต้องอยู่บนเครื่องสกายโกลว์ เกรงว่าผมจะลงไปไม่ได้”
ระหว่างทำภารกิจสำรวจดวงจันทร์ นักบินหลักจะต้องอยู่บนยานเพื่อเช็กระบบสกายโกลว์ว่ามันยังทำงานปกติดี ถึงแม้ว่าจะมีโหมดควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยที่สกายโกลว์สามารถโคจรตามระยะทางที่ถูกกำหนดไว้ได้อย่างอัตโนมัติ แต่ระบบก็ไม่ได้พึ่งพาได้มากนัก ดังนั้นแล้ว นักบินที่มีประสบการณ์ควรจะต้องเป็นคนอยู่บนยานสกายโกลว์ตลอดเวลา
จึงเป็นเหตุผลที่เขาสามารถได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาอันแสนรุ่งเรืองของการปักธงประเทศจีนลงบนดวงจันทร์
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเรื่องนี้นัก
หลิวเจิ้งเหวินถามอย่างกังวลว่า “ผมต้องไปคนเดียวเหรอ?”
เนี้ยหยุนชี้ไปทางเนี้ยเหยียนแล้วบอกว่า “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเธอจะไปกับคุณแล้วพาคุณกลับมาเอง”
หลิวเจิ้งเหวินเอ่ย “ถ้าอย่างนั้น เธอควรจะเป็นคนแรกที่ลงไปนะ”
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกค่ะ ฉันจะลงไปคนแรกหรือคนที่สองก็ไม่สำคัญหรอก” เนี้ยเหยียนยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “อย่างไรก็แล้วแต่ ฉันก็จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไปดวงจันทร์ค่ะ”
เนี้ยหยุนเอ่ยถามว่า “ไม่มีนักบินอวกาศหญิงบนยานอะพอลโลเหรอ?”
หลิวเจิ้งเหวิน “…ผมว่าไม่นะ คิดว่านักบินอวกาศทั้ง 12 คนบนนั้นเป็นผู้ชายหมดเลย”
เนี้ยหยุนพยักหน้า
“อย่างนี้นี่เอง…”
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนเบื้องบนถึงขอให้มีนักบินอวกาศหญิง
นอกจากจะเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตแล้ว การแข่งขันทางอวกาศยังเป็นเรื่องของการได้เป็นคนแรกอีกด้วย
แล้วทำไมพวกชาวอเมริกันถึงไม่มีนักบินอวกาศหญิงสักคนได้ไปดวงจันทร์เลยล่ะ?
…
ถึงแม้สกายโกลว์จะอยู่ใกล้กับดวงจันทร์ ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งยานลงดวงจันทร์ด้วยความเร็วในระดับปัจจุบัน
หลังจากโคจรผ่านวงโคจร 12 ชั่วโมง มาได้ 1 สัปดาห์ เนี้ยหยุนที่ได้ความช่วยเหลือจากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินก็ได้ขับสกายโกลว์ไปสู่วงโคจร 127 นาที ระดับและทิศทางของความเร็วปัจจุบันอยู่ในระดับปลอดภัย
เนี้ยหยุนกระชับหมวกนิรภัยบนหัวให้แน่น จากนั้นเขาก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า
“…นี่สกายโกลว์นะครับ พวกเราเข้าสู่วงโคจร 127 นาที ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว พวกเราจะถึงจุดลงจอดในอีก 25 นาที ขออนุญาตปล่อยยานลงดวงจันทร์ด้วยครับ”
“…นี่ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน อนุญาตให้ปล่อยยานลงดวงจันทร์ได้”
“รับทราบครับ”
เนี้ยหยุนมองกลับไปทางหลิวเจิ้งเหวินที่กำลังนั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสาร
“อีก 25 นาทีจะลงจอดบนดวงจันทร์ ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะ”
“โอเค!”
นักบินอวกาศอีกสองคนปลดล็อกระบบช่วยชีวิตแล้วช่วยอีกฝ่ายสวมชุดอวกาศสำหรับใส่นอกยาน ภายใต้การกำกับของเนี้ยหยุน พวกเขาได้ตรวจสอบสถานะชุดอวกาศของตัวเอง
“ระบบออกซิเจนทำงานแล้ว!”
“เช็กระดับออกซิเจน”
“เหลือออกซิเจน 100% ใช้ได้อีก 4 ชั่วโมง!”
“ทดสอบเครื่องขับเคลื่อนของนักบินอวกาศ”
“รับทราบ!”
เหมือนกับที่หลิวเจิ้งเหวินได้เรียนรู้มาจากการฝึก เขาจึงเอาตะขอจากชุดไปเกี่ยวกับรางที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็ยื่นมือซ้ายออกไปกดปุ่ม กระเป๋าติดเจ็ตส่งเสียงเบาๆ ออกมา เขาสัมผัสได้ถึงแรงผลักเบาๆ ที่ผลักเขาไปข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม แรงผลักเบาๆ ที่ว่านี้ก็ไม่ได้ผลักเขาไปไหลนัก
“…เครื่องขับเคลื่อนนักบินอวกาศทำงานได้!”
เนี้ยหยุนพยักหน้า เขามองไปทางเนี้ยเหยียนที่นั่งถัดจากเขา
หลังจากที่เนี้ยเหยียนตรวจสอบความเรียบร้อยของเธอเสร็จ “ทุกอย่างปกติดี”
เนี้ยหยุนพยักหน้า
“กำลังเริ่มลงจอด ขอให้โชคดีนะ!”
“ขอบใจนะ”
เนี้ยเหยียนยิ้มมุมปาก เธอเอากำปั้นตัวเองชนกับกำปั้นของพี่ชาย จากนั้นก็เดินไปที่ฝาประตู
หลิวเจิ้งเหวินพยักหน้าให้เนี้ยหยุน จากนั้นก็เดินตามเนี้ยเหยียนไป
เนี้ยหยุนเห็นฝาประตูปิดลง เขาเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาทำท่าเคารพ
เขาพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“ดูแลตัวเองดีๆ นะ!”
นั่นคือสิ่งที่เขาทำ
หลังจากเดินทาง 5 นาที สกายโกลว์ก็เดินทางถึงน่านฟ้าเป้าหมายในที่สุด วัตถุทรงไข่สีดำถูกปล่อยออกมาจากสกายโกลว์
ด้วยความช่วยเหลือจากจรวดเคมีสองคู่ ยานลงดวงจันทร์จึงลอยไปทางดวงจันทร์เหมือนกับอุกกาบาต มันร่วงลงไปจอดที่พื้นดินแห้งแล้งบนดวงจันทร์
ฝุ่นบนดวงจันทร์พัดกระจายในอากาศ
ไม่ว่าจะเป็นเนี้ยหยุนที่นั่งอยู่ในยานสกายโกลว์ หรือเจ้าหน้าที่ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินที่อยู่ห่างออกไป 380 กิโลเมตร ทุกคนต่างก็จ้องภาพไลฟ์สตรีมสดแล้วกำมือตัวเองไว้แน่น
ในที่สุด ประตูยานลงดวงจันทร์ก็เปิดออกขึ้น
ร่างหนึ่งยืนอยู่ที่ฝาประตู
ทุกคนกลั้นหายใจ
ยกเว้นหลิวเจิ้งเหวินที่กำลังยืนอยู่ที่ฝาประตู เขาสูดลมหายใจเข้าลึก
แล้วจึงค่อยๆ กระโดดออกมาจากยาน
เหมือนกับว่าร่างกายของเขาทำมาจากขนนก เขาค่อยๆ ร่วงลงบนพื้นดวงจันทร์
วินาทีที่เท้าทั้งสองข้างของเขาแตะพื้นดวงจันทร์ เขาก็รู้สึกว่าร่างกายทั้งตัวของเขาลุกเป็นไฟ
วินาทีที่เขาได้เหยียบพื้นดวงจันทร์ เสียงเชียร์กระหึ่มจากอีก 380,000 กิโลเมตรก็ดังขึ้นมา
ผู้คนต่างโผกอดเข้าหากันด้วยน้ำตานองหน้า
พวกเขาทำได้แล้ว!
พวกเขาเหยียบดวงจันทร์ได้แล้ว!
พวกเขากำลังเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่!
…………………………………….
ตอนที่ 725 คำอวยพรพิเศษ
วันก่อนวันตรุษจีน
ครอบครัวนั่งล้อมวงรอบโต๊ะในขณะกินอาหารประจำวันก่อนวันตรุษจีน
จานแต่ละใบเต็มบนโต๊ะไปด้วยของหน้าตาน่ากิน มีทั้งขาหมูตุ๋น ซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของลู่โจว และปลาจานทอดกรอบกับเกี๊ยวไส้ต้นหอม
เกี๊ยวไส้ต้นหอมอร่อยเป็นพิเศษ
ลู่โจวเกือบจะน้ำตาไหลหลังจากที่เขากินเกี๊ยวฝีมือแม่ของตนเข้าไป
มันเป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดตั้งแต่ที่เขาได้กินมาตลอดทั้งปี…
ผู้เฒ่าลู่เห็นว่าลู่โจวกินเกี๊ยวหมดไปสองจานแล้ว เขาหยิบเนื้อวัวตุ๋นชิ้นหนึ่งมาใส่จานตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า
“อย่ากินเยอะนักสิ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก”
ลู่โจวพูดตอบในระหว่างที่ปากก็เคี้ยวอาหารว่า “ผมได้กินอาหารแบบนี้แค่ครั้งเดียวในหนึ่งปี พ่อปล่อยให้ผมกินสบายๆ เถอะครับ”
“ครั้งเดียวในหนึ่งปีอะไรล่ะ ถ้าลูกอยากกิน แม่ก็ทำให้กินเพิ่มได้น่า” ฟางเหมยพูดขณะมองดูลูกของตน แล้วเธอก็หันไปจ้องผู้เฒ่าลู่แล้วพูดขึ้นว่า “ลูกเราแค่อยากกินอาหาร คุณมีปัญหาอะไรเหรอ?”
ผู้เฒ่าลู่ตอบว่า “ผมก็แค่ห่วงว่าลูกจะอ้วนแค่นั้นเอง”
“อ้วนเอิ้นอะไรกัน ดูอย่างไรลูกก็ผอมลงชัดๆ เลิกเป็นห่วงเขาได้แล้ว คุณเอาเวลาไปล้างจานแทนดีกว่า”
ลู่โจวมองพ่อกับแม่เถียงกันแล้วจึงเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรครับ เอาจานไปวางในห้องครัวก็พอแล้ว พวกเรามีเครื่องล้างจานนะ”
โทรศัพท์ของเขาสั่น
ลู่โจวรู้ว่าเสี่ยวไอส่งข้อความหาเขาอีกแล้ว
แต่เขาไม่มีเวลาสื่อสารตอบ เขาต้องกิน
เสี่ยวถงมองพี่ชายของเธอที่กินเหมือนพายุลง เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเราเพิ่งเริ่มกินกันเองนะ ช้าๆ หน่อยก็ได้พี่”
“โอเค! พี่จะกินให้ช้าลง”
แต่ลู่โจวก็ไม่ได้กินให้ช้าลงแต่อย่างใด
สำหรับเขาแล้ว เรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้
ระบบได้เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายให้เขาเมื่อนานมาแล้ว ต่อให้เขากินมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า ระบบเผาผลาญในร่างกายของเขาก็รับมือได้อย่างง่ายดาย แคลอรีที่เกินเข้ามาจะถูกเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ไขมัน
ดังนั้น เขาจึงไม่มีวันอ้วน
ผู้เฒ่าลู่ยอมเงียบหลังจากที่ถูกภรรยาประชดใส่
โทรศัพท์ของลู่โจวสั่นไม่หยุด
เขาทนไม่ไหวแล้ว จึงวางตะเกียบแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา
อย่างที่คิดไว้ เป็นเสี่ยวไอที่ส่งข้อความหาเขาจริงๆ
มีข้อความอยู่เพียงอย่างเดียว
[นายท่าน ฉันอยากกินด้วย ~ (ˉ『ˉ]
ลู่โจว “…”
คำขอครั้งนี้ยากเกินไป
ลู่โจวถอนหายใจและตอบกลับไป
[เสี่ยวไอยังเด็กอยู่ ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังนะ]
เสี่ยวไอ [QAQ]
ลู่ปังกั๋วจ้องไปที่โทรศัพท์ลู่โจว แต่ลู่โจวรีบเก็บโทรศัพท์ทันที
ผู้เฒ่าลู่ดื่มแอลกอฮอล์ไปนิดหน่อยแล้วยิ้มออกมา
“เฮ้ย จะมาอายอะไร? แฟนเหรอ?”
ก่อนที่ลู่โจวจะได้ตอบคำถาม แม่ของเขาก็บังเอิญเดินออกมาห้องครัวพลางถือจานที่มีเกี๊ยวเพิ่งทำใหม่ๆ มาด้วย ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาในทันที เธอวางจานเกี๊ยวลงแล้วถามว่า “อะไรนะ? แฟน? แหมๆ ทำไมลูกไม่ให้เขามาเจอพ่อกับแม่ล่ะจ๊ะ?”
เสี่ยวถงที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า “พ่อกับแม่ไม่รู้จักพี่หนูสักนิดเดียว”
ลู่โจว “…”
เสี่ยวไอ [(・∀・ *)?]
การแสดงงานตรุษจีนกาล่าเริ่มขึ้นแล้ว
ถึงแม้จะไม่มีใครสนใจดูการแสดงอีกแล้ว แต่การแสดงนี้แทบจะเป็นเหมือนกับประเพณีประจำวันตรุษจีน
มันทำให้บรรยากาศของงานมีชีวิตชีวามากขึ้น
ถ้าพวกเขาไม่ได้ดูงานตรุษจีนกาล่า ก็คงรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปสักอย่าง
ก่อนที่งานจะเริ่ม พิธีกรก็อวยพรให้กับคนทั้งประเทศ
พิธีกรชายยืนอยู่บนเวที มือข้างหนึ่งถือไมโครโฟน ดวงตาจ้องไปทางกล้องในขณะที่ปากก็พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “…ปีนี้พวกเรามีคำอวยพรวันตรุษจีนที่พิเศษกว่าทุกปีครับ”
พิธีกรหญิงแกล้งทำเป็นเหมือนตัวเองไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“คำอวยพรพิเศษเหรอคะ? จากใครกันหนอ?”
พิธีกรชายพูดเสียงดังขึ้นว่า “ไม่ใช่จากใครครับ ต้องถามว่า จากที่ไหนต่างหาก! คำอวยพรจะส่งมาจากดวงจันทร์ครับ!”
หน้าจอทีวีเปลี่ยนเป็นภาพวงโคจรของดวงจันทร์ที่อยู่ห่างออกไป 380,000 กิโลเมตร
เนี้ยหยุนกำลังลอยอยู่ในห้องนั่งบินของเครื่องสกายโกลว์ เขายิ้มและโบกมือให้กับกล้อง
“สวัสดีครับทุกคน ผมรายงานจากสกายโกลว์เอง ตอนนี้พวกเราอยู่ห่างจากโลกถึง 380,000 กิโลเมตรครับ
“เพื่อนร่วมทีมของผมทั้งสองคนได้ก้าวเท้าลงดวงจันทร์เรียบร้อยแล้ว ผมขอเป็นตัวแทนของเพื่อนร่วมทีมของผม ในการอวยพรให้ทุกคนมีความสุขในวันตรุษจีนครับ!
“แล้วก็ พ่อครับ แม่ครับ สุขสันต์วันตรุษจีน!”
หน้าจอทีวีเปลี่ยนกลับมาเป็นงานตรุษจีนกาล่าอย่างรวดเร็ว
ผู้ชมงานตรุษจีนกาล่าสดต่างส่งเสียงเชียร์และปรบมือ
ผู้เฒ่าลู่จ้องมองจอทีวีขนาดใหญ่แล้วถามขึ้นมาทันทีว่า “ลูกสร้างยานอวกาศเหรอ?”
ลู่โจวก็มองจอทีวีอยู่เหมือนกัน เขายิ้มขึ้นมาแล้วตอบว่า “ผมไม่ได้สร้างคนเดียวอยู่แล้วครับพ่อ มันเป็นความพยายามร่วมกันของวิศวกรจากศูนย์วิจัยการบินและอวกาศและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่จุดปล่อยยาน”
นี่ยังไม่นับคนที่ปัจจุบันก็ยังทำงานอยู่ที่จุดปล่อยยานอีกนะ
อย่าว่าแต่การได้มานั่งกินข้าวกับครอบครัวเลย คนพวกนั้นไม่ได้มีแม้แต่เวลาจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ผู้เฒ่าลูก “สรุปแล้วลูกก็เป็นคนสร้างสินะ”
ลู่โจวมีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก เขาไม่ได้ตอบอะไรต่อ
สงสัยคงต้องเออออไปกับพ่อ
ผู้เฒ่าลู่มองลูกชายตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เลวนี่นา ไอ้ลูกชาย”
ลู่โจวยิ้มและพูด “มันดีเลยแหละครับ”
ผู้เฒ่าลู่พยักหน้าแล้วพูดจากใจจริงว่า “ทำได้ดีมาก”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า
“ขอบคุณครับพ่อ”
อากาศและน้ำไม่ได้เป็นแค่ทรัพยากรเพียงสองอย่างที่มีค่าบนดวงจันทร์เท่านั้น การสื่อสารก็ยังเป็นทรัพยากรที่ขาดแคลนเช่นกัน
สุดท้ายแล้ว ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินก็จำเป็นต้องติดต่อกับสกายโกลว์ ข้อมูลที่ถูกเก็บยานลงดวงจันทร์จะถูกส่งกลับมาในแบบเรียลไทม์ ดังนั้น การที่พวกเขาจะถ่ายทอดสดการก้าวเท้าลงดวงจันทร์จึงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้จริงนัก แค่ส่งวิดีโออวยพรวันตรุษจีนขนาด 57 เมกะไบต์ก็ใช้ข้อมูลดาต้าสตรีมไปพอสมควรแล้ว ซึ่งปกติข้อมูลนี้จะถูกจัดสรรไปใช้กับภารกิจวิจัยวิทยาศาสตร์ต่างๆ
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ประเพณีก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ
กับการบินและอวกาศก็ยังต้องใช้หลักการนี้
ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำเพื่อการวิจัยวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ชีวิตก็คงจะน่าเบื่อเอามากๆ
และก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถประเมินค่าด้วยตัวเลขได้
ลู่โจวยังคงดูงานตรุษจีนกาล่าต่อไป เขาแอบยิ้มมุมปากอย่างเงียบๆ
การติดต่อสื่อสารจากดวงจันทร์เป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก
แต่นั่นมันก็แค่ในตอนนี้เท่านั้น
หลังจากจัดตั้งศูนย์สื่อสารหรือดาวเทียมสื่อสารบนพื้นผิวหรือวงโคจรของดวงจันทร์ได้เมื่อไหร่ ปัญหาเรื่องแบนด์วิธในการสื่อสารก็จะได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดาย
…………………………………