ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 743 กงล้อแห่งการพัฒนากำลังหมุนไปข้างหน้า
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 743 กงล้อแห่งการพัฒนากำลังหมุนไปข้างหน้า
หลังจากที่ภารกิจส่งคนไปดวงจันทร์ประสบความสำเร็จ ประเทศจีนก็รีบตัดสินใจแผนการกลยุทธ์ทางการบินและอวกาศแผนถัดไปของประเทศ ใกล้จะถึงเวลาที่ลู่โจวต้องกลับจินหลิงแล้ว
หลังจากที่ได้ยินว่าลู่โจวมีแผนจะเดินทางออกจากปักกิ่ง นักวิชาการหวังเจิงกวงก็รีบไปหาเขาแล้วพาอีกฝ่ายไปภัตตาคารใกล้ๆ กับโรงแรม หวังเจิงกวงสั่งอาหารมาและเริ่มคุยเรื่องในอดีต
“ผมอยากจะเลี้ยงข้าวคุณหลายวันแล้ว แต่ได้ยินมาว่าคุณต้องไปประชุม ผมเลยคิดว่าจะรออีกสักสองสามวัน ไม่คิดเลยว่าคุณจะกลับทันทีหลังจากประชุมจบ”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบว่า “ใช่ครับ งานที่ทำมันชักจะเริ่มยุ่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ผมไม่มีเวลาว่างมากนัก”
นักวิชาการหวังจิบเหล้าแล้วพูดขึ้นว่า
“คุณต้องทำให้คนหลายคนไม่ชอบใจแน่ๆ ที่พูดเรื่องสถานีอวกาศบนดวงจันทร์ขึ้นมา”
ลู่โจวตักอาหารใส่จานตัวเองแล้วพูดขึ้นด้วยท่าทางเรียบเฉยว่า “มันไม่สำคัญหรอกครับ ผมจะพูดอะไรก็มีคนไม่ชอบใจตลอดน่ะแหละ”
ทุกๆ การโต้แย้งก็จะต้องมีข้อโต้แย้งหักล้างเสมอ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
ถ้าเขาไม่อยากจะทำให้คนอื่นไม่พอใจ เขาก็ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นอะไรออกมาทั้งนั้น
นักวิชาการหวังยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนคุณจะไม่แคร์นะครับเนี่ย”
ลู่โจววางตะเกียบลงแล้วพูดว่า “หลักๆ แล้วก็เพราะว่าไม่มีเหตุผลให้แคร์นั่นแหละ”
นักวิชาการหวังเทเบียร์ลงแก้วแล้วพูดขึ้นว่า “ชนให้กับการที่ไม่ต้องแคร์อะไร!”
“ชน”
ลู่โจวยิ้มแล้วดื่มหมดแก้ว
หลังจากกินอาหารเสร็จ ลู่โจวก็กล่าวอำลากับนักวิชาการหวัง เขากลับเข้าโรงแรมและเก็บกระเป๋าเรียบร้อย จากนั้นหวังเผิงก็ขับรถไปส่งเขาที่สถานีรถไฟความเร็วสูง
ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น กระทรวงป้องกันราชอาณาจักรก็ซื้อตั๋วรถไฟชั้นธุรกิจมาให้เรียบร้อย ถึงแม้ว่าลู่โจวจะไม่ต้องการให้พวกเขาเอาใจขนาดนี้ เขาก็ยังเต็มใจรับไมตรีนี้
ลู่โจวกำลังนั่งอยู่บนรถไฟความเร็วสูง เขาขอให้พนักงานหญิงบนรถไฟทำกาแฟให้ จากนั้นเขาก็หยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมา
เขากำลังค้นหาไฟล์ที่อยู่ในกล่องข้อความอยู่พอดีในตอนที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
“สวัสดีครับ?”
“นี่ฉันเอง นายอยู่ไหนแล้ว?”
ด้วยเสียงอันไพเราะนี้ ลู่โจวรู้ทันทีว่าคนที่โทรมาก็คือเฉินยู่ซานนั่นเอง
ลู่โจวเอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วตอบเธอว่า “ฉันเกือบถึงจินหลิงแล้ว มีอะไรเหรอ?”
เฉินยู่ซานยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากโทรหานายเฉยๆ ฉันคิดมาตลอดเลยว่านายไม่มีความสามารถด้านธุรกิจอะไรเลย แต่ดูเหมือนฉันจะประเมินนายต่ำไป”
“ฮ่าฮ่า จริงของเธอแหละ”
นี่เธอโทรมาประจบฉันหรือไงเนี่ย?
ทำไปทำไม?
ลู่โจวยิ้มขณะถูจมูกแล้วพูดขึ้นว่า “จะว่าไปแล้ว อะไรทำให้เธอเปลี่ยนใจล่ะ?”
เอาจริงๆ ลู่โจวก็อายนิดหน่อย
เขารู้มาตลอดว่าตัวเองไม่มีความสามารถด้านธุรกิจอะไรเลยจริงๆ แต่เขาก็ไม่คิดว่าเฉินยู่ซานจะสังเกตเห็น
เฉินยู่ซาน “นายยังไม่เห็นอีกเหรอ? กระทรวงป้องกันราชอาณาจักรเผยแพร่ข้อมูลการประชุมอวกาศในปักกิ่งลงเว็บไซต์แล้วนะ ประเทศจีนจะโฟกัสไปที่สถานีอวกาศบนดวงจันทร์ในฐานะที่เป็นเป้าของแผนพัฒนาทางการบินและอวกาศแผนถัดไป”
ลู่โจวหยุดนิ่งไปไม่กี่วินาทีก็ถามกลับเธอไป “…อ๋อ แล้วมันทำไมเหรอ?”
เขาเข้าประชุมไปก่อนหน้านี้แล้ว แถมเขายังเป็นคนที่แนะนำทุกคนให้เลือกทางนี้ด้วยซ้ำไป
แล้วที่ทำไปมันเกี่ยวอะไรกับความสามารถด้านธุรกิจล่ะ?
“ฉันขอให้คนที่หน่วยงานการบินและอวกาศทำรายงานอุตสาหกรรมให้ฉัน เมื่อวาน ฉันลองอ่านรายงานดีๆ ดู แล้วก็พบว่า ถ้าพวกเราลงทุนไปกับสถานีอวกาศบนดวงจันทร์ พวกเขาจะเป็นประเทศเดียวที่มีคุณสมบัติพอในการลงทุนในโปรเจกต์การขนส่งทางอวกาศทั้งหมด”
เฉินยู่ซานพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เอาจริงๆ นะ ฉันไม่เคยมองด้านการบินและอวกาศในแง่บวกเลย มันต้องลงทุนมาก แถมยังเป็นโปรเจกต์ที่ความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนต่ำ แต่นายน่ะ อย่างกับว่านายเห็นอนาคตเลย ตอนนี้พวกเราเลยกลายเป็นผู้นำทางอุตสาหกรรมของการบินและอวกาศแล้ว ฉันประทับใจจริงๆ “
จริงๆ แล้ว ก่อนที่โปรเจกต์สกายโกลว์จะปล่อยยานขึ้นฟ้า เธอถึงกับช่วยบริษัทเขียนมาตรการรับมือเผื่อการล้มละลายเสียด้วยซ้ำ
เธอไม่ได้คาดคิดว่าทุกอย่างจะไปได้ราบรื่นขนาดนี้
ลู่โจวตอบกลับ “อ๋อ เข้าใจแล้วล่ะ…”
เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าตื่นเต้น เฉินยู่ซานจึงถามกลับ “…เป็นอะไรไปน่ะ?”
“เปล่าๆ…” ลู่โจวหยิกหน้าผากของตัวเองแล้วถอนหายใจ เขาพูดต่อ “ฉันคิดว่าคนจะเริ่มเกลียดพวกเราแล้วนะที่เอาส่วนแบ่งไปหมดเลย”
ในที่สุดเขาก็เข้าใจเสียทีว่าทำไมผู้นำองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนถึงจ้องเขาด้วยท่าทางอาฆาตแค้นตอนที่เขากำลังเดินออกจากห้องประชุม
และยังเข้าใจว่าทำไมซีอีโอของบริษัทเอกชนอย่างไอ-สเปซกับซีโร่วันสเปซถึงมีท่าทางหดหู่มากตอนที่พวกเขาเดินออกจากห้องประชุม
แม้แต่หน่วยงานที่เป็นของรัฐก็ยังไม่สามารถเอาชนะในสงครามการประมูลได้…ลืมเรื่องการเอาชนะการประมูลไปได้เลย พวกเขามีทางเลือกอยู่สองทางเท่านั้น
พวกเขาอาจจะลองพัฒนาเทคโนโลยียานอวกาศใหม่ๆ หรือจะลองโฟกัสด้านธุรกิจแล้วลงทุนมากขึ้นในการวิจัยและการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือทางอวกาศ
เฉินยู่ซานได้ยินเสียงถอนหายใจของลู่โจว เธอยักไหล่ “แล้วนายจะกังวลเรื่องนี้ทำไมกัน?”
ลู่โจว “ฉันไม่ได้กังวล แค่คิดว่า…”
เฉินยู่ซาน “ไอ้คนคิดมาก!”
ลู่โจว “…”
คิดมากเหรอ?
ฉันคิดมากไปเหรอ?
เฉินยู่ซานยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลหรอก นายควรจะไปห่วงเรื่องที่สำคัญกว่าดีกว่า เดี๋ยวฉันกำลังจะมีประชุมแล้ว ไว้ค่อยคุยทีหลังนะ”
“โอเค แล้วเจอกัน”
เฉินยู่ซานพูดถูกแล้ว ลู่โจวกังวลจนเกินเหตุไป
สุดท้ายตลอดก็จะปรับตัวกลับเข้าสู่สถานะที่มั่นคงเอง
ถ้าบริษัทปรับตัวเข้ากับยุคนี้ไม่ได้ พวกเขาก็เจ๊งไป ถ้าบริษัทสามารถหาวิธีอื่นที่ทำกำไรได้ พวกเขาก็รอด
จะต้องมีคนที่เก่งกว่ามาแย่งชิงตำแหน่งเสมอ
ส่วนคนที่เกลียดฉัน…
ฉันคงไม่ต้องสนใจหรอก
พอคิดแบบนี้แล้ว ลู่โจวก็รู้สึกดีขึ้นมาก
เขาหยิบโทรศัพท์ใส่กลับเข้าไปในกระเป๋า หลังจากนั้นพนักงานบริการก็นำกาแฟมาเสิร์ฟให้
“คุณคะ กาแฟได้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ลู่โจวรับกาแฟมาจากพนักงานบริการ เขาพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณแล้วลองจิบกาแฟ จากนั้นเขาก็หันไปจ้องจอโน้ตบุ๊กต่อ
เมื่อเขาเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมา พาดหัวข่าวอันหนึ่งก็เด้งขึ้นมา เรียกความสนใจจากเขาได้ทันที
ลู่โจวรู้สึกสนใจ เขาคลิกเข้าไปในบทความและเริ่มอ่าน
“…จอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้ทำการค้นพบครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีชะลอการแช่แข็งให้จำศีลของมนุษย์ ซีอีโอของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้กล่าวว่า ถ้าเทคโนโลยีนี้พัฒนาได้ ไม่เพียงแต่มันจะถูกใช้ในการเดินทางข้ามดาวเคราะห์เท่านั้น แต่จะยังช่วยให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมีโอกาสรอดชีวิตเพื่อรออนาคตที่เทคโนโลยีทางการแพทย์และยาพัฒนามากขึ้นกว่าในปัจจุบัน
“…นี่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว”
ลู่โจวเลิกคิ้ว
ถ้าฟิวชั่นที่ควบคุมได้เป็นเสมือนการค้นพบไฟของมนุษย์ การบินและอวกาศจะเป็นเสมือนตอนที่มนุษย์ประดิษฐ์กงล้อขึ้นมา มันจุดประกายความกระตือรือร้นและความต้องการจะเห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ในตัวมนุษย์
เหมือนกับที่ชาวอเมริกันจุดประกายความต้องการของชาวยุโรปให้ออกสำรวจ การออกสำรวจอวกาศจะทำให้คนต้องการมากขึ้นอีก
ตั้งแต่จบสงครามเย็น เทคโนโลยีส่วนใหญ่นอกจากฝั่งคอมพิวเตอร์ก็เริ่มพัฒนาช้าลง ตอนนี้ ดูเหมือนว่ากงล้อแห่งเทคโนโลยีจะหมุนไปข้างหน้าแล้ว
ลู่โจวรู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย
เขาตั้งหน้าตั้งตารอเห็นว่าโลกจะเป็นอย่างไรในอีกร้อยปีข้างหน้า
ฉันมั่นใจว่า ในอีกห้าสิบปีข้างหน้าจะต้องน่าสนใจมากกว่าห้าสิบปีที่ผ่านมานี้แน่ๆ
ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ฉันจะได้เห็นการปฏิวัติเทคโนโลยีนี้ด้วยตาของตัวเอง…
…………………………………………..