ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 759 กระสุนพร้อมยิงแล้ว! / ตอนที่ 760 เข้าไปกันเลย
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 759 กระสุนพร้อมยิงแล้ว! / ตอนที่ 760 เข้าไปกันเลย
ตอนที่ 759 กระสุนพร้อมยิงแล้ว!
ไม่ว่าแหล่งข่าวจะเป็นใคร แต่นิวยอร์กไทมส์ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น
วันต่อมาหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดของนิวยอร์กไทมส์พาดหัวข่าวตัวใหญ่สีแดง มีการรายงานว่าการดำเนินการล่าสุดในโปรแกรมดวงจันทร์ของจีน การออกแบบระบบทำความเย็นของโมดูลหลักของโปรเจกต์ปราสาทจันทราเกิดข้อผิดพลาด ทำให้กำหนดการสร้างสถานีอวกาศบนดวงจันทร์ล่าช้า!
เห็นได้ชัดว่าสาเหตุของความผิดพลาดนี้คือประเทศจีนยังขาดประสบการณ์ในเรื่องสถานีอวกาศ อีกอย่างเป็นเพราะความเพิกเฉยของคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์
ซึ่งคณะกรรมการนี้เองที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหา
ข่าวนี้กลายเป็นกระแสในอเมริกาทันที
นาซายืนยันเรื่องนี้ผ่านบัญชีทวิตเตอร์หลัก พวกเขาบอกว่าได้ยินเรื่องที่คล้ายๆ กันแต่ก็ยังยืนยันอะไรไม่ได้ตอนนี้
เมื่อเทียบกับนิวยอร์กไทมส์แล้ว นาซาน่าเชื่อถือกว่ามาก ทันทีที่มีข่าวออกมา ชาวเน็ตอเมริกาถกเถียงเกี่ยวกับปัญหานี้อย่างเผ็ดร้อน
[พระเจ้า…เรารอให้ประเทศจีนสู้กลับ แต่พวกนั้นกลับสะดุดขาตัวเองล้มเสียก่อน]
[ผมบอกคุณแล้วว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันอวกาศเลย แม้ว่าพวกเขาจะเก่งกว่ารัสเซีย แต่ก็ยังตามหลังเราหลายปีอยู่ :D]
[บางทีเราน่าจะบริจาคให้โปรแกรมอวกาศของจีนดีไหม :p]
[เราน่าจะทำแบบนั้น! การแข่งขันนี้กำลังจะจบแล้ว น่าเบื่อจังเลย! xD]
[ผมตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงสิ้นเดือน! สเปซเอ็กซ์จะไม่ทำให้เราผิดหวัง]
[…]
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังล้อเลียนคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์และองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีน นาซากลับไม่เยาะเย้ยประเทศจีนเลยแม้แต่น้อย แถมพวกเขายังแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับโปรแกรมปราสาทจันทราอีกด้วย
องค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนเป็นศัตรูที่น่าเคารพนับถือ แม้ว่าทำเนียบขาวและสภาจะดีใจที่ได้ยินข่าวนี้ แต่นาซาไม่ได้อยากให้ศัตรูที่พวกเขานับถือแพ้แบบนี้
พวกเขาไม่ได้สงสารหรอก แต่เพราะโปรแกรมอวกาศของประเทศจีนทำให้พวกเขาได้เงินทุนและการสนับสนุนทางการเมืองมากมาย
ดังนั้นพวกเขาก็อยากให้องค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนอยู่รอด
อย่างน้อยๆ ก็อยากให้อยู่ต่ออีกสักหน่อย
ขณะที่รัฐสภาและทำเนียบขาวกำลังจะเปิดขวดเพื่อเฉลิมฉลอง คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งก็เริ่มฉลองกันก่อนแล้ว
สำหรับอุตสาหกรรมดาวเทียมวงโคจรโลกต่ำ ไม่มีอะไรที่จะทำให้พวกเขามีความสุขเท่ากับการได้ยินว่าสถานีอวกาศบนดวงจันทร์มีปัญหาอีกแล้ว
ในวันเดียวกับที่บทความนิวยอร์กไทมส์ถูกตีพิมพ์ สื่อจีนก็ลงข่าวเดียวกัน
บัญชีนิรนามที่ชื่อว่า เราพ่ายแพ้ในการแข่งขันอวกาศ เริ่มโพสต์ออนไลน์
ครั้งนี้ ผู้เขียนนำเสนอตัวเองว่าเป็นศาสดาหรือพระผู้เป็นเจ้า
[โชคร้ายจัง ความจริงพิสูจน์แล้วว่าผมคิดถูก ผมไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นไวและเลวร้ายขนาดนี้
[ความผิดพลาดทางการออกแบบของโมดูลหลักมูลค่าพันล้านดอลลาร์ไม่ใช่อุบัติเหตุ มันเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้นตั้งแต่แรก ผมรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ถ้าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ท่อความร้อน ก็ต้องอยู่ที่เครื่องยนต์หรือไม่ก็แผงโซลาร์เซลล์อยู่ดี
[อย่างที่บอกเทคโนโลยีฟิวชั่นควบคุมได้กระตุ้นความสำเร็จในการปล่อยสกายโกลว์ แต่ว่ามีปัญหามากมายที่ซ่อนอยู่ในสกายโกลว์ ตอนนี้ปัญหาเหล่านั้นปรากฏให้เราเห็นแล้ว
[อุตสาหกรรมการบินและอวกาศของจีนก็เหมือนเครื่องจักรที่อัดแน่น ผู้คนกำลังไล่ล่าความโอหังที่เกินจะรับไหวของพวกเขา
[จากโปรเจกต์ส่งคนขึ้นไปบนดวงจันทร์ยันคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์ โปรเจกต์เหล่านั้นรวมถึงนโยบายทั้งหมดถูกควบคุมโดยคนบ้าเพียงคนเดียว ไม่มีใครสนใจที่จะให้เครื่องจักรได้หยุดพัก ไม่มีใครสนใจที่จะให้เวลากับมัน
[บางทีศาสตราจารย์ลู่อาจจะเป็นนักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ และนักเคมีที่เก่ง ความสำเร็จในเรื่องฟิวชั่นควบคุมได้ของเขาจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นมนุษย์ และมนุษย์ย่อมทำพลาดกันได้ ประวัติศาสตร์สอนเราว่าความงมงายไม่มีทางจบสวย
[ตอนนี้มีการก่อตั้งคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์ ศาสตราจารย์ลู่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ บัลลังก์หัวหน้านักออกแบบ ชื่อเสียงที่มีต่อโลกวิชาการทำให้เขาได้รับการสนับสนุนจากพวกตาบอดอย่างท่วมท้น แต่ศาสตราจารย์ลู่ก็ไม่ได้ถูกเสมอไป
[ความล้มเหลวของโมดูลหลักโปรเจกต์ปราสาทจันทราน่าจะเป็นเครื่องแจ้งเตือน
[ที่จะปลุกเหล่านักวิชาการทั่วโลก! ]
หลังจากที่บล็อกถูกโพสต์ได้ไม่ถึงวันก็มีคนกดไลก์เป็นหมื่นๆ ไลก์ มันถูกรีโพสต์ไปยังสื่อออนไลน์หลักๆ แพร่กระจายเหมือนโรคระบาด
ชาวเน็ตเหล่านี้ได้ค้นพบเรื่องที่น่าสนใจ พวกเขาใช้ปัญหาท่อความร้อนในการวิพากษ์วิจารณ์องค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์ และลู่โจวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ถ้าลู่โจวไม่ทะเยอทะยานจนเกินตัว ถ้าลู่โจวไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์ ถ้าลู่โจวไม่ทำภารกิจนี้ตั้งแต่แรก…
เรื่องทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น!
แม้ว่าจะมีบางคนที่สนับสนุนลู่โจว แต่พลังของอินเทอร์เน็ตนั้นยิ่งใหญ่เกินไป
โดยเฉพาะในเวลาที่คนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในการคิดเชิงวิพากษ์ พวกเขาจึงถูกโน้มน้าวได้ง่าย
หลังจากที่รอให้พายุสงบลงเป็นเวลาสามวันอย่างเงียบๆ องค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีน องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนก็เริ่มเคลื่อนไหว
โพสต์บนเว่ยป๋อของพวกเขาเหมือนกัน
เป็นโพสต์สั้นๆ แต่ได้ใจความ
ประโยคหนึ่งประโยคถูกโพสต์บนบัญชีเว่ยป๋อขององค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีน
[ไม่มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการการปล่อยยานอวกาศ! ]
รูปของสกายโกลว์ที่จอดตรงจุดปล่อยยานอวกาศที่จินหลิงถูกแนบไปด้วย พร้อมทั้งรูปโมดูลหลักของปราสาทจันทรา!
กระสุนพร้อมยิงแล้ว!
เป้าหมายของพวกเขา…
คือวงโคจรดวงจันทร์!
อินเทอร์เน็ตระเบิด
………………………………………………
ตอนที่ 760 เข้าไปกันเลย
จินหลิง
บ้านที่จงซาน อินเตอร์เนชันแนล
ลู่โจวกำลังนั่งในห้องทำงาน เขาเพิ่งกลับมาถึงจินหลิงวันนี้และได้รับสายจากประธานคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์
“เกิดอะไรขึ้นกับปราสาทจันทรา มันร้ายแรงมากไหม?”
ลู่โจวยืนใกล้ๆ หน้าต่าง เขายิ้มและพูด “มันไม่ใช่ปัญหาเลยครับ แก้ไขเรียบร้อยแล้ว”
ชายสูงวัยพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เราจะประมาทไม่ได้นะ ช้าๆ ย่อมได้พร้าเล่มงาม ถ้าจำเป็นเราก็ควรเลื่อนกำหนดการออกไปก่อน เรารอมาได้นานขนาดนี้ รออีกไม่กี่ปีก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร”
ลู่โจวพูด “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจัดการทุกอย่างแล้ว”
“โอเค ดีมาก” ชายสูงวัยพูด “ผมไม่ค่อยรู้เรื่องงานวิจัยเท่าไหร่นัก ก็เลยช่วยอะไรไม่ได้ ตำแหน่งประธานมันก็เป็นแค่ชื่อ คุณคือคนที่รับผิดชอบงานนี้”
พวกเขากำลังจะคุยกันเสร็จ
ชายสูงวัยถามสารทุกข์สุกดิบอย่างเช่น เป็นอย่างไรบ้าง งานวิจัยเป็นอย่างไร คุณมีแฟนหรือยัง นอกจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้คุยเรื่องอะไรที่สำคัญ
ลู่โจววางสายและเดินไปที่โต๊ะ
เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนบล็อกนั่นและไม่รู้ว่าใครที่พยายามสร้างดราม่านี้ขึ้น…
แต่มันก็ไม่ได้สำคัญ
เพราะมันไม่ส่งผลอะไรกับลู่โจวเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีใครสำคัญมากพอที่จะโทษลู่โจวไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม…
ลู่โจวค่อยๆ วางโทรศัพท์บนโต๊ะและถอนหายใจ อยู่ดีๆ เขาก็ส่ายหัว
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”
กล่องข้อความปรากฏขึ้นที่มุมขวาล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์
เสี่ยวไอ [เจ้านาย คุณเศร้าเรื่องอะไร]
ลู่โจวส่ายหัวและพูด “เปล่า ก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย”
เขาไม่เคยต้องการครอบครองจักรวาล
สำหรับเขาเงินเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น
ส่วนสถานภาพทางการเมือง…
เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเหมือนกัน
ถ้าเขาสนใจจริงๆ ก็แค่เอ่ยปาก กฎทางการเมืองทุกอย่างก็เป็นของเขาแล้ว
เหตุผลที่เขาขอให้โฮ่วกวงทำการวิจัยรูปแบบของการขนส่งจากวงโคจรแบบสัมพันธ์กับโลกไปวงโคจรโลก-ดวงจันทร์ก็เพื่อพัฒนาจำนวนการเดินทางในวงโคจรดวงจันทร์และเพื่อผลักดันให้บริษัทจีนเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขันอวกาศ
สหรัฐอเมริกามีบริษัทการบินและอวกาศที่เก่งๆ มากมาย บริษัทเอกชนเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ความสามารถด้านนวัตกรรม บวกกับกำลังการผลิตที่ใหญ่ของอเมริกาคือเบื้องหลังความงดงามของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของประเทศสหรัฐอเมริกา
ลู่โจวอยากให้ประเทศจีนมีบริษัทเทคโนโลยีอวกาศที่โดดเด่นหลายๆ บริษัท
เขาไม่ต้องการบริษัทการบินและอวกาศที่ต้องพึ่งพาเงินทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาล บริษัทที่อ่อนแอพวกนี้ยอมแพ้ง่ายๆ
เพราะเขารู้ดีว่างานนี้ไม่ได้ง่ายเลย
งานแบบนี้ต้องใช้เวลา
เสี่ยวไป [เจ้านายอย่าเศร้าไปเลย (; ′⌒`)]
ลู่โจวมองไปที่ข้อความและยิ้ม เขาพูด “เศร้าเหรอ ฉันไม่ได้เศร้า ฉันไม่ใช่นักศึกษามหาลัยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกแล้วนะ สิ่งเดียวที่ฉันรู้ตอนนั้นก็แค่คณิตศาสตร์”
จริงๆ แล้วเขาก็คิดถึงช่วงเวลาที่เรียบง่ายช่วงนั้นเหมือนกัน
ในตอนนั้นเขาไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นนอกจากเรื่องคณิตศาสตร์
ก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจความคิดของก็อตเท็นดิ๊ก แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนจะพอเข้าใจแล้ว
[โอเค เจ้านาย คุณอยากให้ฉันร้องเพลงให้ฟังไหม ♪ (^ ∇ ^ *)]
ลู่โจว “…เสี่ยวไอ”
เสี่ยวไอ [อะไรเหรอ? 0w0]
ลู่โจวเงียบไปสักพักก่อนที่จะพูดขึ้น “ถ้าวันหนึ่ง…”
อยู่ดีๆ เขาก็หยุดพูด
ตอนนี้เขาอยากจะถามเสี่ยวไอว่ามันจะทำอย่างไรถ้าเขาตายขึ้นมา แต่เขาไม่แน่ใจว่าเสี่ยวไอจะรู้ไหมว่าตายหมายถึงอะไร เขาก็เลยเลือกที่จะไม่ถาม
ชีวิตและความตายดูจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปสำหรับเสี่ยวไอ
เสี่ยวไอ [ว่าไง? มีอะไรเหรอคะ? (✿゚▽゚)]
ลู่โจวยิ้มและพูด “ไม่มีอะไร ฉันก็แค่คิดว่าถ้าเกษียณแล้วไปเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ก็คงจะดี”
ลู่โจวจ้องมองข้อความและจับจมูกด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน
“จริงเหรอ…?”
ปีที่แล้วเขายังได้สอนบ้าง แต่ปีนี้เขายุ่งมากและได้เจอกับนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น สำหรับงานแนะแนวส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่ที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงก็เป็นคนจัดการให้
แต่ทางมหาวิทยาลัยจินหลิงก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาแค่ส่งเช็คค่าจ้างมาให้เขาทุกเดือน…
เขารู้สึกผิดทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้
โทรศัพท์ของลู่โจวบนโต๊ะดังขึ้น
หวังเผิงโทรมา
ลู่โจวรับสายและพูด
“ว่าไง? วันหยุดเป็นอย่างไรบ้าง พรุ่งนี้มาทำงานได้ไหม”
ตอนที่พวกเขาอยู่ที่เทียนจิน หวังเผิงขอลาพักร้อนสองวันก่อนที่จะกลับมาจินหลิง เขาได้มอบหมายงานด้านความปลอดภัยให้หยางกวงเปี่ยวดูแลและจองตั๋วรถไฟแยกออกมา
ลู่โจวไม่ได้ถามว่าหวังเผิงทำอะไร แต่หวังเผิงดูเครียดตอนที่เขาขอลาหยุด
ซึ่งมันไม่ใช่การลาพักร้อนแน่ๆ
ปลายสายเงียบไป
หวังเผิงกระแอมและตอบ “ผมอยากจะของลาเพิ่ม…และอาจจะกลับไปจินหลิงในอีกสองวัน ขอโทษนะครับ หยางกวงเปี่ยวต้องทำงานแทนผมไปก่อน”
ลู่โจวยิ้มและตอบ “ได้เลย หวังว่าทุกอย่างจะโอเคดีนะ”
“ครับ” หวังเผิงหยักหน้าและพูดอย่างรวดเร็ว “ผมมาพักร้อน…ทุกอย่างโอเคดีครับ”
“ครับ ครับ พักร้อนก็พักร้อน”
ลู่โจวเอนตัวลงบนเก้าอี้และยิ้ม เขาวางสาย
อีกด้านหนึ่ง ณ ภายนอกอาคารย่านอุตสาหกรรมไฮเทคใจกลางเซี่ยงไฮ้ หวังเผิงวางโทรศัพท์และมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสีหน้าแปลกๆ
ชายสวมสูทดำเดินตรงเข้ามา
“เป้าหมายอยู่ด้านใน ทีมจับกุมพร้อมแล้ว.”
หวังเผิงพยักหน้าและนำโทรศัพท์ใส่กระเป๋า
“เข้าไปกันเลย”
………………………………………….