ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 772 สรรหาคน
ช่วงที่ลู่โจวยังอยู่ที่พรินซ์ตัน เขากำลังคิดถึงทิศทางการวิจัยที่เป็นไปได้
ยิ่งงานวิจัยของเขาไม่คุ้นชินและแปลกใหม่มากเท่าไหร่ งานวิจัยของเขาก็จะยิ่งขัดแย้งกับจริยธรรมและศีลธรรมมากขึ้นเท่านั้น
มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
ท้ายที่สุดแล้ว ระบบไฮเทคมีช่วงเนื้อหาที่กว้าง เขาคงไม่สามารถแค่วิจัยคณิตศาสตร์ได้ไปตลอดชีวิต
หลังจากที่พูดคุยกับยางสวี่ ลู่โจวเปิดแล็ปท็อปแล้วครุ่นคิดอยู่สักพัก หลังจากที่สกัดส่วนสำคัญมาจากคอนเซปต์หลักจากธีสิสของศาสตราจารย์เกรนจ์ เขาเขียนสรุปธีสิสเรื่อง ‘การแช่แข็งมนุษย์และเทคโนโลยีจำศีล’ ในสรุปนี้ เขายืนกรานชัดเจนว่าจะสนับสนุนการวิจัย
“…จากช่วงชีวิตของมนุษย์ที่สั้น มันมีความหมายมากกว่าที่จะสำรวจวิธีให้มนุษย์ได้เดินทางเป็นเวลาหลายพันปี แทนที่จะหาวิธีเพิ่มความเร็วของยานอวกาศ
โลกเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของอารยธรรม วันหนึ่ง รอยเท้าของเราจะไปถึงกาแล็คซี่อื่น
บางทีมันอาจจะเร็วไปที่จะคิดเรื่องนั้น จากมุมมองระยะยาว ผมคิดว่ามันจำเป็นที่เราต้องชำนาญเทคโนโลยีนี้”
มือของลู่โจวพิมพ์ความคิดของเขาลงไปบนคอมพิวเตอร์
ถึงเขาไม่จำเป็นที่ต้องอธิบายแรงจูงใจเบื้องหลังการวิจัยของเขา ความเห็นสาธารณะก็ยังสำคัญ ถ้าเขาไม่มีสาธารณะสนับสนุนเขา ผู้คนอาจจะสนับสนุนคนอื่นแทน ซึ่งจะหมายถึงปัญหา
ด้วยอิทธิพลด้านวิชาการที่เขามี ถ้ามีบางคนได้ต่อต้านงานวิจัยของเขา ไม่มีใครกล้าต่อต้านเขาในที่สาธารณะ…อย่างน้อยก็ในจีน
ดังนั้น ก่อนที่สื่อต่างชาติและการประท้วงสามารถมีอิทธิพลต่อความเห็นของสาธารณชนชาวจีน เขาต้องใช้อิทธิพลของเขาเพื่อทำให้ชุมชนวิชาการจีนได้เห็นดีเห็นงามกับเทคโนโลยีนี้
ลู่โจวกดปุ่มเอนเทอร์ที่คีย์บอร์ดของเขา เขาอ่านธีสิสตั้งแต่เริ่มจนจบแล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นเขาอัปโหลดธีสิสขึ้นอีเมลของเขาแล้วส่งไปให้แผนกบรรณาธิการที่มหาวิทยาลัยจินหลิง
นับตั้งแต่ที่เขากลับมาที่จีน อิทธิพลของวารสารมหาวิทยาลัยจินหลิงได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากความสำเร็จของโปรเจกต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยจินหลิงก็ถึงจุดสูงสุด
ถึงแม้ว่าพวกเขายังตามหลังมหาวิทยาลัยระดับต้นอย่าง มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ และมหาวิทยาลัยเหยียน พวกเขาก็ตามหลังอยู่เล็กน้อย
แล้วเขาก็เป็นคนเผยแพร่ด้วย
หลายมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยได้หาธีสิสลู่โจวอย่างเจาะจงและใช้มันสำหรับการอ้างอิง
หลังจากที่ลู่โจวส่งธีสิสเสร็จ เขาปิดคอมพิวเตอร์และพักเรื่องนี้ไป
เขาไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านชีวเคมีหรือเทคโนโลยีการจำศีลสิ่งมีชีวิต เขายังต้องพึ่งพาให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยงานวิจัยของเขา
ยางสวี่ได้ติดต่อเหิงรุ่ยเมดิซีนสำหรับเรื่องนี้แล้ว
ผลของการเจรจาความร่วมมือจะออกมาในไม่ช้า
ลู่โจวค่อนข้างมั่นใจว่าพวกเขาจะร่วมมือกันในที่สุด
ท้ายที่สุดแล้ว เขาคือลู่โจว
เมื่อมีลู่โจวหนุนหลัง เหิงรุ่ยเมดิซีนไม่กังวลอะไร
ตอนนี้การแข่งขันอวกาศเป็นไปอย่างเต็มรูปแบบ โปรเจกต์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกประทับตราโดยตราคณะกรรมการการโคจรของดวงจันทร์จะได้รับการอนุมัติทันที
มันไม่มีข้อแม้สำหรับเรื่องนี้
…
หนึ่งวันหลังจากยางสวี่ติดต่อเหิงรุ่ยเมดิซีน ศาสตราจารย์จางเจียฝูที่เคยมาเยี่ยมลู่โจวได้มาเยี่ยมเขาอีกครั้ง
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย ศาสตราจารย์จางถามว่า “ทำไมอยู่ๆ คุณถึงสนใจในเรื่องแช่แข็งกะทันหันล่ะ?”
พูดตามตรง ศาสตราจารย์จางไม่ค่อยมั่นใจในเทคโนโลยีนี้ เขาไม่รู้ว่าทำไมลู่โจวอยากเล่นสกปรกในด้านนี้
ดูเหมือนว่าจากธีสิสเทคโนโลยีแช่แข็ง ศาสตราจารย์เกรนจ์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้รับอีเมลขู่ฆ่าหลายฉบับและแม้กระทั่งคนประท้วงที่บ้านของเขา เกรนจ์ถูกบีบให้ออกจากบ้านที่ฮาร์วาร์ดและย้ายไปที่สถาบันวิจัยจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ดีทรอยต์ตะวันออก
ถึงแม้ว่าไม่มีใครที่จีนกล้าขู่ฆ่าลู่โจว สิ่งนี้ก็จะส่งผลต่อชื่อเสียงด้านวิชาการ
หลังจากที่ได้ยินคำถามของศาสตราจารย์จาง ลู่โจวตอบอย่างสบายๆ “การแช่แข็งเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคต”
ศาสตราจารย์จางเจียฝูนิ่งไปสักพัก เขายิ้มและส่ายหน้า
“ผมไม่ได้ไม่เห็นด้วย…แต่ถ้าคุณยังดึงดันอยู่ เราก็ไปตามนั้นได้”
ลู่โจวพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเปิดลิ้นชักแล้วหยิบใบเสนอโปรเจกต์ออกมา เขาวางใบเสนอไว้บนโต๊ะ
“เราจะจัดหานักวิชาการที่จำเป็นและทุนจำนวนหนึ่งเพื่อเข้าร่วมการวิจัย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาคลินิกมีจำกัด แล้วเราต้องการนักวิจัยจากฝั่งของคุณ”
“ไม่มีปัญหา” ศาสตราจารย์จางเจียฝูพูดว่า “เรามีผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งในด้านชีววิทยาคลินิก”
จากที่เป็นไม่กี่บริษัทของจีนด้านการวิจัยและพัฒนาเคมีภัณฑ์ เหิงรุ่ยเมดิซีนมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากด้านชีววิทยาคลินิกและสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องกับยา พวกนั้นมีนักวิจัยจำนวนมากจากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยระดับต้น คนพวกนี้เป็นตัวท็อปในสาขาชีววิทยา
ในอีกมุมหนึ่ง สถาบันเคมีของจินหลิงเพิ่งก่อตั้งมาไม่นาน
ลู่โจวพยักหน้าและพูดต่อ “การวิจัยและกระจายกำไรอย่างเจาะจงอยู่ในเอกสารนี้ทั้งหมด คุณสามารถเอากลับไปให้แผนกกฎหมายดูได้ ถ้ามันไม่มีปัญหาอะไร ผมหวังว่าเราสามารถร่วมงานกันได้โดยเร็วที่สุด”
ศาสตราจารย์จางเจียฝูหยิบแผนขึ้นมาและอ่านดูโดยคร่าวๆ หลังจากที่เขาเห็นรายชื่อผู้เข้าร่วม เขาพูดทันทีว่า “ผมมีคำถาม”
ลู่โจวตอบว่า “ถามมาเลย”
จางเจียฝูพูดต่อ “สาขาการแช่แข็งไม่ได้รับความนิยมมาก ถึงแม้ว่าเราจะมีบุคคลชื่อดังในด้านชีววิทยาคลินิกและชีวเภสัชภัณฑ์ การแช่แข็งไม่ใช่ความถนัดของเรา…”
ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “คุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านชีวเภสัชภัณฑ์ ผมเลยมั่นใจว่าคุณมีคอนเนกชั่นในด้านนี้ แค่หานักวิจัยที่เข้ากับงานแล้วจ้างพวกนั้น”
“มันไม่ง่ายแบบนั้นสิ” จางเจียฝูยิ้มแล้วพูดต่อ “มีไม่กี่คนในจีนที่วิจัยการแช่แข็ง ผมรู้ว่าคนพวกนั้นคือใคร แต่ผมไม่สามารถการันตีได้ว่าคนกลุ่มนี้จะเข้าร่วมโปรเจกต์ของเรา”
ยิ่งทิศทางการวิจัยแปลกใหม่แค่ไหน คนก็จะยิ่งเข้าร่วมน้อยลง ในกรณีแบบนี้ มีคนจำนวนหนึ่งที่มีอำนาจในด้านนี้
ศาสตราจารย์ระดับท็อปจำนวนหนึ่งได้รับทรัพยากรส่วนใหญ่ อย่างเช่น งบการทดลอง การเผยแพร่ธีสิส และสิทธิบัตร ในอีกมุมหนึ่ง ศาสตราจารย์ที่อ่อนด้อยกว่าไม่สามารถเผยแพร่ในวารสารได้ด้วยซ้ำ
หลังจากผู้คนที่มีความสามารถได้รับการฝึกฝน พวกเขามักจะย้ายไปสาขาที่ดังกว่า…มันเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนในแวดวงชีววิทยา
ดังนั้น คนที่ลู่โจวอยากว่าจ้างเป็นบุคคลระดับใหญ่อยู่แล้ว
เนื่องจากคนพวกนี้เป็นระดับใหญ่ ทำไมพวกนั้นถึงต้องการความช่วยเหลือจากลู่โจวล่ะ?
แต่ลู่โจวยิ้มอย่างอ่อนโยนและตอบกลับ “บอกมาว่าคุณต้องการใคร ผมจะไปตามหาพวกนั้น”
จางเจียฝูลังเลอยู่สักพักแล้วพูดว่า “หลิวจั่วปิง…”
ลู่โจวถาม “เขาคือใคร?”
“ผู้อำนวยการห้องแล็บเภสัชภัณฑ์ด้านการแช่แข็ง สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ โรงพยาบาลทั่วไป PLA…”
จางเจียฝูนิ่งไปสักพักและพูดว่า “ผมเจอเขาที่งานประชุมวิชาการที่เฉิงตู และเราคุยกันเรื่องการแช่แข็ง ดูเหมือนว่าเขามั่นใจในเทคโนโลยีการแช่แข็ง เขาเคยเผยแพร่บทความเรื่องการซ่อมแซมเซลล์แบบแช่แข็งใน ‘รีวิวสรีรวิทยาประจำปี’ ศาสตราจารย์เกรนจ์ยังเคยอ้างถึงบทความนี้ แต่…”
ลู่โจวพูดขึ้น “แต่อะไร?”
“แต่ผมได้ยินว่าเขาพยายามจะเป็นนักวิชาการ เขาเลยอาจจะไม่อยากจะมือสกปรกไปกับเรา” ศาสตราจารย์พูดอย่างกระอักกระอ่วน “การโน้มน้าวเขาไม่ใช่เรื่องง่าย”
การถูกแต่งตั้งเป็นนักวิชาการไม่ใช่แค่เรื่องผลลัพธ์วิจัย มันยังเกี่ยวกับการไม่สร้างปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและมีภาพลักษณ์ที่ดี
แต่หลังจากที่ได้ฟังความกังวลของศาสตราจารย์จาง สมองของลู่โจวก็ตื้อไป
เขาอยากเป็นนักวิชาการงั้นเหรอ?
เยี่ยมไปเลย!
ลู่โจวยิ้มและมองดูจางเจียฝู
“โอเค เราจะไปชวนเขามา”
จางเจียฝูพูดต่อ “คุณวางแผนจะชวนคนระดับใหญ่เพื่อโปรเจกต์ของเราจริงเหรอ?”
“คุณบอกว่าเขาเป็นนักวิจัยการแช่แข็งที่เก่งที่สุดในจีน” ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่และพูดว่า “ผมอยากได้คนที่ดีที่สุดแน่นอน”
……………………………………………….