ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 775 เซลล์เนมาโทด
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 775 เซลล์เนมาโทด
เอาจริงแล้ว ศาสตราจารย์หลิวไม่จำเป็นต้อง ‘ประจบเอาใจ’ ลู่โจว
เขามีห้องแล็บของตัวเอง เขาสามารถทำการทดลองตามที่เขาต้องการก็ได้
แต่เขาก็ยังหักห้ามใจไม่ได้
เขารีบไปหาลู่โจวทันที
ลู่โจวพูดว่า “ผมช่วยคุณในเทอมนี้ไม่ได้ แต่เทอมหน้า ซึ่งจะเป็นในอีกสองปี ผมสามารถการันตีได้ว่าคุณจะเป็นนักวิชาการ”
ศาสตราจารย์หลิวไม่มีคอนเนกชั่นนอกแวดวงชีววิทยา ดังนั้นสิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะล่อเขา…
สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ห้องแล็บภายในสถาบันชีวเคมี
อุปกรณ์บางส่วนที่นี่ถูกสั่งมาจากเพื่อนของลู่โจวที่เยอรมันและเนเธอร์แลนด์ลู่โจว และอุปกรณ์อื่นถูกหยิบยืมหรือซื้อจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ โรงพยาบาลทั่วไป PLA
ถึงแม้ว่าการยืมอุปกรณ์แบบนี้เป็นเรื่องไม่ปกติ เนื่องจากโปรเจกต์นี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์ โรงพยาบาล PLA ยินดีมากที่จะให้ยืมอุปกรณ์
สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำคือเซ็นอนุมัติอุปกรณ์ และพวกเขาได้รับเกียรติจากการสนับสนุนโปรเจกต์สำคัญระดับชาติ มันเป็นเรื่องง่ายๆ
ลู่โจวยืนอยู่ในห้องแล็บ เขามองดูแซมเปิ้ลเครื่องแก้วในตู้แช่ระหว่างที่ถามว่า “สิ่งนี้คืออะไร?”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพูดตอบ “แซมเปิ้ลเซลล์เนมาโทดโบราณ! ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กได้เก็บพวกมันมาจากทุนดร้าของแม่น้ำอลาเจยา ผมค่อนข้างสนิทกับศาสตราจารย์ที่นั่น ผมเลยซื้อพวกมันมา”
ลู่โจวถามอย่างสบายๆ “มันราคาเท่าไหร่?”
“ค่อนข้างถูก แค่แสนดอลลาร์”
แค่แสนดอลลาร์…
มันค่อนข้างแพง…
ถ้าลู่โจวรำลึกได้ถูกต้อง มันไม่ใช่สปีชี่ส์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์ มันมักถูกพบในสิ่งปฏิกูลในสปีชี่ส์ที่สูญพันธุ์ ตราบใดที่อยู่ใกล้กับทางผ่านแม่น้ำโบราณ แค่มีพลั่วก็ขุดตัวอย่างพวกนี้ได้แล้ว
เงินแสนดอลลาร์อาจจะพอสำหรับการใช้เป็นทุนออกสำรวจวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดได้
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงรู้ว่าลู่โจวคิดอะไรอยู่ เขาเลยกระแอมและอธิบายอย่างสบายๆ “เงินแสนดอลลาร์มันไม่แพงเลย! อุปสงค์และอุปทานไง เพื่อน จากการระบุอายุคาร์บอน สิ่งนี้มีอายุ 40,000 ปี มันยากมากสำหรับเราที่จะได้มันมาได้”
ลู่โจวพูดต่อ “เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องซากดึกดำบรรพ์”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงทำสีหน้าจริงจังและพูดขึ้น “สิ่งนี้น่าจะเป็นแซมเปิ้ลชีวะที่อายุเก่าแก่ที่สุดที่เราสามารถหามาได้ หลังจากที่เราซื้อแซมเปิ้ลเซลล์เนมาโทดมาจากทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เราเอาเซลล์เนมาโทดบางส่วนมาไว้ในจานเพาะพิเศษ แล้วมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์ถูกค้นพบขึ้น”
ศาสตราจารย์จางเจียฝูที่ยืนฟังอยู่ข้างพวกเขาอดที่จะถามขึ้นไม่ได้ว่า “ปรากฏการณ์อะไร?”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จากจานเพาะ 173 จาน มีสองจานที่เกิดการฟื้นฟูเซลล์เนมาโทด และพวกมันมีกิจกรรมชีวิตตามปกติ!”
ทันใดนั้นศาสตราจารย์จางเจียฝูดูตกใจ
“คุณแน่ใจนะว่าไม่มีการปนเปื้อน? อาจจะมีอะไรผิดพลาดกับแซมเปิ้ลมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กหรือเปล่า?”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพูดด้วยท่าทีจริงจัง “ผมแน่ใจ เพราะนักศึกษาของผมก็อยู่กับทีมวิจัยมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก”
“ผม” ซงสี่หยวนพูดขึ้น เขามองดูหลิวจัวปิงและพูดอย่างประหม่า “ผมอยู่ที่นั่นตอนเก็บแซมเปิ้ล ผมถ่ายรูปมา”
ลู่โจวถาม “แล้วทำไมพวกคุณต้องจ่ายเงินแสนดอลลาร์?”
ถ้าคุณไปเก็บตัวอย่างเอง ทำไมคุณถึงต้องจ่าย?
ทันใดนั้นศาสตราจารย์หลิวจัวปิงมีสีหน้ากระอักกระอ่วน
ศาสตราจารย์จางเจียฝูกระแอมและพูดว่า “คือว่าเราเซ็นสัญญากับพวกรัสเซีย…ขอผมดูตัวอย่างได้ไหม?”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพยักหน้าและพูดว่า
“ได้สิครับ”
ผู้ช่วยของศาสตราจารย์หลิวจัวปิงใช้หลอดแก้วพิเศษเพื่อหยิบแซมเปิ้ลมาจากจานเพาะเชื้อ ผู้ช่วยวางแซมเปิ้ลบนสไลด์อย่างรวดเร็วและวางสไลด์ที่กล้องจุลทรรศน์ของห้องแล็บ
ศาสตราจารย์จางเจียฝูเดินก้าวไปมองส่องกล้องจุลทรรศน์อย่างละเอียด
เขาเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วที่ล้ำค่าพวกนี้ลอยอยู่ในวุ้นและสารละลายอาหารพิเศษ พวกมันขยับตัวอย่างช้าๆ แล้วกินอีโคไลเป็นอาหาร
ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาเงยหน้าขึ้นจากกล้องจุลทรรศน์และพูดอย่างสะเทือนใจ
“การค้นพบนี้น่าเหลือเชื่อ…เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กให้ผลวิจัยคุณมาแล้ว?”
“ยัง ธีสิสเป็นของพวกเขา แต่ผมไม่ได้ร่วมมือกับพวกนั้นในการวิจัยต่อ” ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงยิ้มเยาะและพูดต่อ “ยกตัวอย่างเช่น การเก็บดีเอ็นเอเซลล์เนมาโทด…ผมอนุมานว่าพวกนั้นพยายามทำสิ่งนี้ แต่ยังไม่มีผลลัพธ์ออกมา”
ศาสตราจารย์จางถามทันที “งั้นคุณเจออะไรใช่ไหม?”
“จากการศึกษาดีเอ็นเอของแซมเปิ้ลเนมาโทด เราพบชิ้นส่วนยีน 18S-rDNA ที่อาจทีองค์ประกอบที่ทำให้พวกมันจำศีลในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นมาก!”
แม้แต่ลู่โจวก็ดูเซอร์ไพรส์
ชิ้นส่วนดีเอ็นเอเกี่ยวข้องกับการแช่แข็งจำศีล!
นี่เป็นเรื่องใหญ่!
ลู่โจวถามทันที “คุณได้เผยแพร่ผลลัพธ์หรือยัง?”
“ยังครับ” หลิวจัวปิงส่ายหน้าแล้วพูดว่า”นี่เป็นแค่ผลลัพธ์ระหว่างกระบวนการ เรามั่นใจว่าพวกรัสเซียยังไม่ได้ค้นพบสิ่งนี้ เราเลยยังเก็บมันเป็นความลับ”
สถานการณ์ประเภทนี้เป็นเรื่องปกติในชุมชนวิชาการ
ลู่โจวทำแบบนี้มาเหมือนกัน เขาเลยพยักหน้า
“โอเค ผมอยากฟังไอเดียทดลองของคุณ คุณอธิบายให้ผมฟังได้ไหม?”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพยักหน้าและพูดว่า “ชิ้นส่วนยีน 18S-rDNA อาจจะเป็นส่วนสำคัญในการไขเทคโนโลยีจำศีล จนถึงตอนนี้ เราได้คาดคะเนถึงสองความเป็นไปได้ อย่างแรกคือ ชิ้นส่วนยีน 18S-rDNA สังเคราะห์โปรตีนพิเศษผ่านถอดรหัส RNA ซึ่งทำให้เซลล์รักษาโครงสร้างเซลล์ได้ภายใต้สภาพอุณหภูมิรุนแรง!”
เรื่องนี้ฟังดูน่าตื่นเต้นมาก
แต่ลู่โจวดูไม่ตื่นเต้นเลย เขาคิดอยู่สักพักแล้วพูดว่า “แต่มีหลายเซลล์ที่ยังตายอยู่”
ศาสตราจารย์หลิวพยักหน้าและเสริมว่า “ใช่ ไม่ใช่ทุกเซลล์จะสามารถรอดชีวิตได้ เพราะว่าอุณหภูมิเย็นไม่ใช่แค่ปัจจัยความเสียหายเดียว…แน่นอนว่ามันไม่ใช่ใจความสำคัญ ใจความคือเรามีสองไอเดีย”
เขาเดินไปที่ไวท์บอร์ดแล้วเขียนเส้นขึ้นมาสองเส้น จากนั้นเขาเขียนไอเดียหนึ่งขึ้นมา
“วิธีแรกคือการปรับแต่งยีน หลังจากที่เราดัดแปลงชิ้นส่วนยีนที่อาจจะมีประสิทธิภาพ เราสามารถใส่ยีนเข้าไปในสิ่งมีชีวิต ด้วยวิธีนี้ เราสามารถทำการจำศีลได้สำเร็จ!”
ลู่โจวคิดอยู่สักพักแล้วถาม “อีกไอเดียคืออะไรล่ะ?”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพูดตอบ “อีกวิธีคือการใช้ไอเดียที่คล้ายกับศาสตราจารย์เกรนจ์ ซึ่งเป็นการผสานร่างมนุษย์เข้ากับสารที่มีโปรตีนพิเศษ”
ศาสตราจารย์จางเจียฝูพูด “อย่างเช่นฟอร์มาลีน?”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพยักหน้าและพูดต่อ “ของแบบนั้น แต่ไม่ใช่ฟอร์มาลีนแน่นอน…”
ลู่โจวยืนอยู่ข้างไวท์บอร์ดและครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่
ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาพูดว่า “มันดูเป็นไอเดียที่บ้ามาก แต่ผมคิดว่าเราลองไอเดียที่สองได้นะ”
ศาสตราจารย์หลิวจัวปิงพยักหน้า
“ผมก็เห็นด้วย วิธีการปรับแต่งยีน…อาจจะสำเร็จแต่ค่าใช้จ่ายสูงเกินไป”
ที่สำคัญไปกว่านั้นการวิจัยเรื่องการปรับแต่งดีเอ็นเอมนุษย์ถูกแบนอยู่ตอนนี้
การปรับแต่งยีนมนุษย์ถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดศีลธรรมต่างจากการถกเถียงที่เป็นวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจำศีลมนุษย์…
แม้แต่ศาสตราจารย์ลู่ก็ไม่กล้าที่จะทดลองกับงานวิจัยที่ผิดกฎหมายประเภทนี้
ทันใดนั้น มีเสียงเคาะดังขึ้น
ผู้ช่วยของลู่โจวเดินผ่านประตูเข้ามา
“ศาสตราจารย์คะ มีคนตามหาคุณอยู่”
ตามหาผม?
ลู่โจวนึกไม่ออกว่ามีนัดกับใครวันนี้ เขาเลยถาม “ใครครับ?”
ผู้ช่วยสาวตอบกลับ “ผู้มาเยี่ยมบอกว่าเขาคือศาสตราจารย์แองกัส ดีตัน จากพรินซ์ตัน…เขาดูค่อนข้างกระวนกระวาย”
แองกัส ดีตัน?
ลู่โจวจำชื่อนี้ได้อย่างเลือนราง ดูเหมือนเขาจะจำได้ว่าดีตันมาจากภาคเศรษฐศาสตร์
แม้ว่าพรินซ์ตันไม่มีคณะบริหารธุรกิจ มันก็มีภาคเศรษฐศาสตร์ น่าเซอร์ไพรส์ที่ภาคเศรษฐศาสตร์ของพรินซ์ตันนั้นมีอันดับสูงในสหรัฐอเมริกา
แต่ลู่โจวไม่เคยศึกษาเศรษฐศาสตร์มาก่อน
ดังนั้น เขาเลยไม่รู้ว่าทำไมศาสตราจารย์แองกัสถึงอยากจะพบเขา
ผ่านไปสักพัก ลู่โจวพูดว่า “โอเค ให้เขารอที่ประชาสัมพันธ์นะ”
ผู้ช่วยสาวพยักหน้า
“โอเคค่ะ ศาสตราจารย์ลู่!”
เธอหันหลังกลับและเดินออกจากห้องแล็บ
………………………………………………………………….