ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 807 โปรเจกต์ดวงจันทร์
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 807 โปรเจกต์ดวงจันทร์
ห่างออกไปหลานแสนกิโลเมตร วงโคจรดวงจันทร์
ไม่ไกลจากสถานีอวกาศปราสาทจันทรา อุปกรณ์เคลือบเงินรูปทรงหกเหลี่ยมถูกปล่อยมาจากสะพานนกกางเขน ซึ่งมันตกลงพื้นผิวดวงจันทร์
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน สถาบันจินหลิงเพื่อการวิจัยขั้นสูงร่วมมือกับหลายสถาบันวิจัยภายใต้สหประชาชาติเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาในด้านอุปกรณ์ทำเหมืองบนดวงจันทร์อัตโนมัติ
โปรเจกต์ได้มีความคืบหน้าบางส่วน อุปกรณ์ราคา 300 ล้านหยวนที่ถูกเรียกว่า ‘ไพโอเนียร์’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลการวิจัยของโปรเจกต์นี้ หน้าที่หลักของมันคือการขุดแร่ไทเทเนียมอุดมสมบูรณ์เบื้องต้น
ถ้าอุปกรณ์นี้ทำงานได้ตามปกติ คณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์จะพิจารณาใช้เครื่องหลอมแร่อัตโนมัติบนพื้นผิวดวงจันทร์ และมันจะถูกใช้เพื่อแปลงแร่ไทเทเนียมเป็นแท่งไทเทเนียม หรือแม้กระทั่งอัลลอยไทเทเนียม จากนั้นไทเทเนียมจะถูกใช้สำหรับเฟสที่สองของโปรเจกต์ปราสาทดวงจันทร์ ซึ่งเป็นการจัดตั้งศูนย์วิจัยที่ดาวอังคาร
อุปกรณ์สีเงินทรงหกเหลี่ยมค่อยๆ ตกลงไปทางดวงจันทร์
ยิ่งมันเข้าใกล้ดวงจันทร์มากเท่าไหร่ ทีมงานปราสาทจันทราและสะพานนกกางเขนก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากเท่านั้น
“นับถอยหลังสู่การชน…5 4 3 2 1…การลงจอดประสบความสำเร็จ!
“เปิดใช้ขายึด!”
เมื่ออุปกรณ์ทรงปริซึมสีขาวเงินแตะกับพื้นผิวดวงจันทร์ ฝุ่นดาวอังคารสีเทาฟุ้งกระจายเป็นวงใต้ตัวอุปกรณ์
อุปกรณ์ฝังเท้าไว้กับหินดวงจันทร์
ทีมงานปราสาทจันทราสองคนที่มองหน้าจออยู่รู้สึกโล่งอก พวกเขาแปะมือไฮไฟว์กันและฉลองกันอยู่สักพัก ก่อนที่จะกลับไปทำภารกิจต่อทันที
“นี่คือปราสาทจันทรา อุปกรณ์ต้นแบบในการขุดเหมืองอัตโนมัติได้ลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จ ขอคำสั่งเพิ่มเติมด้วย”
“นี่คือศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน ขอแสดงความยินดีด้วยที่ทำภารกิจสำเร็จ โปรดยืนยันสถานะของอุปกรณ์ขุดเหมืองอัตโนมัติ ถ้าทุกอย่างปกติดี เริ่มการทดสอบภายในสิบนาที”
“รับทราบครับ”
ทีมงานปราสาทจันทรายืนยันสถานะของอุปกรณ์อย่างคล่องแคล่ว พวกเขาเปิดอุปกรณ์ในทันที
สัญญาณไฟบนเครื่องขุดเหมืองอัตโนมัติกะพริบขึ้น มันเหมือนกับสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ตื่นจากการหลับใหล
เพลตอัลลอยด้านล่างเปิดขึ้นและมีสว่านขนาดใหญ่ลงขุดเจาะผืนดินของดวงจันทร์
สว่านเริ่มหมุนและหินดวงจันทร์ที่มีไทเทเนียมถูกเจาะแตกออกเป็นชิ้นส่วนย่อยหลายชิ้น หินดวงจันทร์ถูกดูดโดยท่อประมวลแร่แล้วถูกพ่นออกจากอีกด้านของอุปกรณ์
เมื่ออุปกรณ์หลอมเหลวถูกใช้งานแล้ว ท่อปล่อยวัสดุที่ด้านข้างอุปกรณ์ขุดเหมืองอัตโนมัติจะถูกเชื่อมต่อกับเครื่องหลอมเหลวผ่านท่อพิเศษ จากนั้นวัสดุจะถูกส่งไปเตาเผาหลอมเหลว สิ่งนี้เป็นกระบวนการทำเหมืองอัตโนมัติ
แต่สำหรับตอนนี้ หินดวงจันทร์ที่มีไทเทเนียมนอนอยู่ในกอง เนื่องจากอุปกรณ์ทำงานได้ตามปกติ จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องเปิดใช้งานทิ้งไว้
“เครื่องจักรทำงานตามปกติ”
“งั้นปิดมัน”
“รับทราบครับ”
สว่านค่อยๆ หยุดหมุน และมันหดตัวเองเข้าไปในอุปกรณ์ขุดเหมือง ท่อปล่อยไม่ได้ปล่อยหินดวงจันทร์ออกไปอีก
เนื่องจากสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำของดาวอังคาร มันก็มีฝุ่นดาวอังคารฟุ้งไปทั่ว
จอห์นสันนั่งดูเหตุการณ์นี้ผ่านหน้าต่างที่ปราสาทจันทรา เขามองดูพื้นดวงจันทร์ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและอ้าปากพูด
“พระเจ้า…พวกคนจีนกำลังทำอะไรกับดวงจันทร์?”
ไม่มีใครตอบเขา
จูเลียก็งงเช่นเดียวกับเขา
เธอเห็นแค่ว่าคนจีนโยนอะไรบางอย่างลงจากยานอวกาศ และแรงกระแทกเหมือนกับขีปนาวุธตกลงใส่ดาวอังคาร
“หรือพวกเขา…กำลังทดสอบอาวุธบนดวงจันทร์?”
จอห์นสันเงียบไปสักพัก เมื่อฝุ่นสงบลง เขาเห็นภาพชัดเจนว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
“หวังว่าจะไม่ใช่นะ…”
ในทางทฤษฎี สหประชาชาติเซ็นสัญญาการพัฒนาทรัพยากรนอกโลกด้วยหลักสันติ ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาอยู่ที่สถานีอวกาศ ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีหอดาราศาสตร์หลายแห่งได้พุ่งเป้าไปที่ดวงจันทร์
พวกคนจีนต้องบ้าไปแล้วถ้าพวกเขาทดสอบอาวุธบนดวงจันทร์จริงๆ
จอห์นสันเชื่อว่าจีนแค่สร้างบางอย่างบนดวงจันทร์ เหมือนกับยูนิตปลูกพืชที่ลงมือทำไปไม่นาน
จูเลียมองดูกัปตันและถามว่า “จะว่าไปแล้ว…เราจะได้กลับบ้านตอนไหน?”
จอห์นสันส่ายหน้าและพูดว่า “ผมไม่รู้”
“ทราวิสอยู่ไหนเนี่ย? ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเขาเลย?”
จอห์นสันเงียบไปสักพัก จากนั้นเขาพูดว่า “เขาน่าจะมีปัญหาน่ะ”
ได้ยินมาว่า…เขาน่าจะติดไวรัสดาวอังคาร บางทีพวกเราก็…” จูเลียพูดในขณะที่หน้าเธอกำลังซีด
แม้แต่จอห์นสันเองก็กังวล เขาพยายามปลอบเพื่อนร่วมทีม
“ไม่ต้องห่วง ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาทุกคนบนโลกอยู่ที่นี่แล้ว ทราวิส คุณ แล้วก็ผมจะปลอดภัยกัน”
จอห์นสันไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูดเลย…
ตอนที่เขาเพิ่งมาถึงปราสาทจันทรา เขาได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับนาซาเป็นเวลาสั้นๆ
โชคดีที่จีนไม่ได้ห้ามให้เขารู้ความจริง ผู้อำนวยการนาซาเล่าเรื่องราวทั้งหมด
พูดโดยสรุปคือพวกเขาเป็นโฮสต์ของแบคทีเรียดาวอังคารที่มีความต้านทานสูง แบคทีเรียนี้อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของโลก ดังนั้น พวกเขาถูกกักตัวชั่วคราวที่สถานีอวกาศ หลังจากนั้นสักพัก พวกเขาจะถูกย้ายไปที่สถานีวิจัยบนดาวอังคาร
พวกเขาจะรอดไหม? ถ้าเกิดว่าแบคทีเรียมันฆ่าไม่ตายล่ะ? จอห์นสันไม่อยากคิดถึงคำถามพวกนี้
บางทีผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการสละชีวิต จอห์นสันยังรู้สึกว่าผู้อำนวยการคาร์สันบอกใบ้ถึงการสละชีวิตระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน
แต่คนเราเกิดมามีแค่ชีวิตเดียว ไม่ว่าการสละชีวิตจะดูเป็นฮีโร่แค่ไหน จอห์นสันก็ไม่สามารถสละชีวิตได้ง่ายแบบนั้น
ทันใดนั้นประตูโมดูลใช้ชีวิตถูกเปิดออก
นักวิจัยจีนที่เพิ่งตรวจร่างกายพวกเขามีนักบินสองคนเดินมาด้วย พวกนั้นลอยมาที่โมดูลใช้ชีวิตและมายืนตรงหน้าพวกเขา
จอห์นสันรู้สึกกระวนกระวาย และเขาพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง
“เกิดอะไรขึ้น? มีความคืบหน้าด้านการวิจัยไหม?”
จอห์นสันไม่มีความหวังแล้ว ท้ายที่สุดแล้ว ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเพิ่งมาถึงปราสาทจันทราได้ไม่กี่วัน มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหาทางออกได้ในระยะเวลาสั้นแค่นี้
แต่คำพูดของจ้าวชูเซวียนทำให้เขาเซอร์ไพรส์
“นิดหน่อย”
จ้าวชูเซวียนมองดูหน้าเซอร์ไพรส์ของจอห์นสันและพูดด้วยท่าทีจริงจัง “เพื่อเป็นการพิสูจน์สมมติฐานของเรา เราอยากให้พวกคุณร่วมมือกับการทดลองเสียหน่อย”
…………………………………