ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 820 แมสไดรเวอร์ดวงจันทร์
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 820 แมสไดรเวอร์ดวงจันทร์
ณ ปักกิ่ง
ภายในห้องประชุมที่ถนนฉางอาน
นักวิชาการหวังหรงจุนสวมเสื้อโค้ตสีเทา เขาเดินเข้าห้องประชุมอย่างเชื่องช้าและนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเอง เขาวางแก้วสุญญากาศไว้บนโต๊ะ
เขามองดูที่โต๊ะและพยายามหาเอกสารการประชุม แต่เขาหาอะไรไม่เจอเลย
นักวิชาการหวังหรงจุนรู้สึกสับสน และเขากำลังจะไปถามทีมงาน แต่เขาได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง
“ผู้เฒ่าหวัง คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ?”
หวังหรงจุนหันไปเห็นหัวหน้าวิศวกร นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนจากกรุ๊ปทางรถไฟจีน นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียเริ่มเดินเข้ามาหา
เมื่อหวังหรงจุนเห็นเพื่อนเก่า ตาของเขาเบิกกว้าง!
“ผมก็กำลังจะถามคุณเหมือนกัน! ครั้งสุดท้ายที่ผมชวนคุณไปดื่มด้วย คุณบอกว่าคุณมีประชุมที่เมืองอื่น แล้วคุณมาอยู่ที่ปักกิ่งได้อย่างไร?”
“ใช่แล้ว ผมมีประชุมที่เมืองอื่น แต่จู่ๆ กระทรวงป้องกันราชอาณาจักรก็โทรหาผมแล้วบอกว่ามีการประชุมลับที่นี่ พวกนั้นซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผมด้วย ผมคิดว่าการประชุมนี้เป็นความลับ ผมเลยไม่ได้บอกคุณ” นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนกระแอมและพูดว่า “ผมไม่คิดว่าคุณจะถูกเชิญมาเหมือนกัน”
“ถ้าคุณถูกเชิญมา พวกนั้นก็เชิญผมมาอยู่แล้ว” นักวิชาการหวังหยิบแก้วสุญญากาศขึ้นมาและเปิดฝาออก เขาจิบน้ำและกวาดตามองห้องประชุมที่หนาแน่น เขาพูดว่า “มีคนเบอร์ใหญ่อยู่ที่นี่เยอะนะ”
มีนักวิชาการจากบริษัทการรถไฟจีนที่ถูกเชิญมาและก็มีนักวิชาการจากองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนอีกด้วย
นอกจากนั้น มีคนที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่จำนวนหนึ่ง คนพวกนี้ดูไม่น่ามาจากแวดวงอุตสาหกรรมหรือว่ามาจากสายงานวิชาการ คนกลุ่มนี้ดูเหมือนว่ามาจากองค์กรวิจัยทางการทหาร
เขาเริ่มนึกถึงสายโทรศัพท์ที่เขาได้รับมาเมื่อสองวันก่อน
ระหว่างที่คุยโทรศัพท์ คนที่โทรมาไม่ได้บอกว่าการประชุมเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่เมื่อดูจากคนเบอร์ใหญ่ที่อยู่ที่นี่ มันน่าจะเป็นการประชุมที่สำคัญ…
“ใช่” นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนพยักหน้าและพูดว่า “บุคคลระดับสูงในอุตสาหกรรมมาอยู่ที่นี่กันหมด…บางทีจีนอยากจะวางแผนโปรเจกต์รถไฟความเร็วสูงพิเศษใช่ไหม?”
ตาของนักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนเป็นประกายและเขาตื่นเต้นอย่างมาก
รถไฟความเร็วสูงพิเศษเป็นคอนเซปต์ที่ถูกนำเสนอโดยองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีน มันใช้เทคโนโลยี ‘การลอยตัวด้วยแม่เหล็กและท่อสุญญากาศ’ เพื่อให้ได้ความเร็วซูเปอร์โซนิค มันมีความเร็วในทางทฤษฎีที่ 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ตอนที่รถไฟความเร็วสูงของจีนมีความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็มีการพูดคุยถึงแผนการสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงพิเศษ เทคโนโลยีได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปได้จริง และมีนักวิชาการหลายคนได้สนับสนุน แต่โปรเจกต์ไม่เคยถูกเริ่มขึ้น
สาเหตุแรกคือเหตุผลด้านความปลอดภัย และอีกสาเหตุคือจีนได้มีระบบรถไฟความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว มันจึงไม่มีความต้องการมากเท่าไหร่สำหรับรถไฟที่มีความเร็วสูงกว่า
การส่งออกเทคโนโลยีการรถไฟไปยังประเทศโลกที่สามอย่าง แอฟริกามีกำไรและมีความหมายมากกว่าสำหรับจีน
แต่วันนี้ทางกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรได้เชิญบุคคลระดับสูงจากอุตสาหกรรมคมนาคมมาการประชุมครั้งนี้ ผู้คนอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
“ใครจะไปรู้…” นักวิชาการหวังหรงจุนส่ายหัวและพูดว่า “เดี๋ยวเราก็รู้ว่ากระทรวงป้องกันราชอาณาจักรมีอะไรจะพูด”
“คุณพูดถูก” นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนยิ้มและพูดว่า “การประชุมกำลังจะเริ่ม พวกเขาคงจะบอกเราว่าการประชุมครั้งนี้เกี่ยวกับอะไร”
มันเป็นเวลาสิบโมงตรง ผู้เข้าร่วมการประชุมทุกคนอยู่ในห้องแล้ว ทีมงานได้ปิดประตูเข้าหลักของห้องประชุม และการประชุมเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ผู้อำนวยการหลี่จากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรเป็นผู้ดำเนินการประชุม เมื่อเขาเดินขึ้นมาบนเวที เสียงพูดคุยทั้งหมดในห้องประชุมเงียบลง ผู้คนจำนวนมากมีสีหน้าเคร่งเครียด
“ขอบคุณพวกคุณทุกคนที่สละเวลาว่างจากตารางที่ค่อนข้างยุ่งเพื่อมาร่วมการประชุมครั้งนี้” ผู้อำนวยการหลี่กระแอมและพูดต่อ “สาเหตุที่พวกเราเชิญคุณมาวันนี้ก็คือเรามีเรื่องสำคัญที่ต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องจากเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอด เราจึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆ ได้ก่อนเริ่มการประชุม ผมหวังว่าพวกคุณจะเข้าใจ
นอกจากนี้ ผมหวังว่าพวกคุณสามารถเก็บเนื้อหาการประชุมเป็นความลับอย่างเคร่งครัด ในขณะเดียวกัน อย่าลังเลที่จะแบ่งปันความเห็นของคุณ ถ้าคุณมีไอเดียดีๆ ได้โปรดแบ่งปันกับเรา”
โปรเจกเตอร์ฉายภาพขึ้นหน้าจอที่ห้องประชุม
เมื่อทุกคนเห็นภาพที่ถูกฉายขึ้นจอ ห้องประชุมที่เพิ่งเงียบสงบเริ่มเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
ผู้คนมองหน้ากันด้วยสายตาฉงนใจ
แมสไดรเวอร์ดวงจันทร์!
ผู้คนต่างคาดเดากันไปว่ากระทรวงป้องกันราชอาณาจักรอยากจะพูดคุยเรื่องอะไรวันนี้ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าการประชุมจะเกี่ยวกับแมสไดรเวอร์
นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่การประชุมไม่ได้เกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงพิเศษ นักวิชาการหวังหรงจุนที่นั่งอยู่ข้างเขาได้อ้าปากกว้าง
ผ่านไปสักพัก หวังหรงจุนถามขึ้น “พวกเขาจะสร้างรถไฟความเร็วสูงบนดาวอังคารเหรอ?”
ผู้อำนวยการหลี่กระแอมและพูดด้วยท่าทีขึงขัง
“จากแผนการก่อสร้างโดยคณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์ เราวางแผนจะสร้างรางเร่งความเร็วที่ปล่องบนดวงจันทร์…
จากการเร่งความเร็วด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า วัตถุจะถูกเร่งความเร็วจนถึงความเร็วออกจากดวงจันทร์ จากนั้นก็จะถูกปล่อยสู่วงโคจรดวงจันทร์ผ่านรางเอียงอีกราง…
การก่อสร้างจะเริ่มขึ้นพร้อมกับการสร้างศูนย์วิจัยดวงจันทร์ งบประมาณเฟสแรกของโปรเจกต์อยู่ที่ 2 แสนล้านหยวน มหาวิทยาลัยกว่า 70 แห่ง สถาบันวิจัย และบริษัทต่างๆ จะเข้าร่วมด้วย”
ในขณะที่นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนฟังผู้อำนวยการกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรพูด เขามีรอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้า
2 แสนล้านหยวนสำหรับเฟสแรกของโครงการ!
เหมือนพวกเขากำลังสร้างปราสาทจันทราอีกครั้งบนดวงจันทร์!
นักวิชาการหวังหรงจุนขมวดคิ้วกับพาวเวอร์พอยต์บนหน้าเจอ และเขาพูดโพล่งขึ้นว่า “การสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาน่าจะเป็นเรื่องยากมาก ถ้าเราสร้างมันขึ้นมาได้ มันจะผลาญพลังงานอย่างมหาศาล! ผมเกรงว่าเราจะต้องสร้างเครื่องปฏิกรณ์ที่ดวงจันทร์เพื่อให้พลังงานปืนใหญ่นี้”
“ปืนใหญ่?” นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนเลิกคิ้วขึ้น “คุณหมายความว่าอย่างไร?”
นักวิชาการหวังหรงจุนตอบกลับ “มันดูเหมือนปืนใหญ่ชัดๆ”
การเร่งด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถเร่งวัตถุให้มีความเร็วมากกว่าสองกิโลเมตรต่อวินาที
มันเร็วกว่าโปรเจกต์ไทล์ปืนใหญ่ที่เคยมีมา
หลี่ชิงเฉวียนจ้องมองพาวเวอร์พอยต์และพูดอย่างสะเทือนอารมณ์
“พวกเขาเลื่อนโปรเจกต์รถไฟความเร็วสูงพิเศษมากว่าครึ่งทศวรรษแล้ว”
นักวิชาการหวังหรงจุนได้รู้ว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาจึงมองดูเพื่อนและถามว่า “ผมก็คิดเหมือนกัน…ทำไมล่ะ?”
นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนพูดว่า “มีนักวิชาการหลายคนที่สนับสนุนโปรเจกต์นี้ถูกไหม?”
นักวิชาการหวังหรงจุนถามต่อ “เพื่ออะไรกัน?”
นักวิชาการหลี่ชงเฉวียนถอนหายใจและพูดว่า “ไม่มีอะไร ผมแค่สะเทือนใจ”
โปรเจกต์รถไฟความเร็วสูงพิเศษก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณสองสามแสนล้าน แต่มันไม่เคยถูกอนุมัติ โปรเจกต์ ‘ปืนใหญ่ดวงจันทร์’ นี้ได้รับการอนุมัติจากการสนับสนุนโดยบุคคลเดียว
นักวิชาการจำนวนนับไม่ถ้วนก็ไม่สามารถเทียบกับบุคคลนี้ได้
ไม่มีนักวิชาการคนไหนที่จะมีอิทธิพลเทียบเท่ากับลู่โจว…
…………………….