ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 821 ฉันอยากเรียนคณิตศาสตร์กับคุณ!
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 821 ฉันอยากเรียนคณิตศาสตร์กับคุณ!
นักวิชาการหลี่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกอิจฉา
เอาจริงๆ แล้ว เกือบทั้งชุมชนวิชาการต่างอิจฉาลู่โจว
เขาสามารถเริ่มโปรเจกต์มูลค่าสิบหลักได้เพียงแค่เขียนจดหมาย เนื่องจากรางวัลโนเบล เหรียญฟิลด์ และตำแหน่งนักวิชาการควบสอง นักวิจัยอ่อนหัดนับพันต้องเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อเผยแพร่ธีสิสหนึ่งฉบับ
ไม่ใช่แค่นั้น เขาเพิ่งอยู่ในวัยอายุยี่สิบปี…
เขาเป็นยอดเพชรของนักวิชาการ
แต่เขาไม่ใช่แค่อิจฉา
นอกจากความอิจฉาที่มี นักวิชาการหลี่ชิงเฉวียนก็ยังชื่นชมลู่โจว คนส่วนใหญ่คงใช้เวลาหลายชั่วชีวิตเพื่อได้ความสำเร็จของศาสตราจารย์ลู่ในประเทศจีน
ดังนั้น มันจึงสมเหตุสมผลที่รัฐบาลจีนถึงจริงจังกับลู่โจว
ลู่โจวนำหน้านักวิชาการธรรมดาไปเยอะมาก
เมื่อการประชุมโปรเจกต์แมสไดรเวอร์ดวงจันทร์โดยกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรเสร็จสิ้น ลู่โจวได้เดินทางออกจากปักกิ่งเพื่อกลับไปจินหลิง
เขาทำงานส่วนของตัวเองสำหรับคณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์เสร็จหมดแล้ว เขามีเวลาที่ได้พักจากคณะกรรมการโคจรรอบดวงจันทร์ในที่สุด และได้โฟกัสที่มหาวิทยาลัยจินหลิง
ไม่ใช่แค่นั้น เขายังต้องตรวจธีสิสของนักศึกษา ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องมาที่ออฟฟิศภาคคณิตศาสตร์ทุกวัน
“เมื่อวาน ผมได้รับการตอบกลับจากแผนกบรรณาธิการของอินเทอร์เนชั่นแนล แมททีเรียลส์ รีวิวส์ ขอแสดงความยินดีด้วย ธีสิสของคุณถูกเผยแพร่แล้ว”
หานเมิ่งฉียืนอยู่หน้าโต๊ะลู่โจว และเธอปลื้มใจที่ได้ฟังข่าวดี เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วมีรอยยิ้มโล่งใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า
เธอได้เตรียมตัวมาตลอดหกเดือนที่ผ่านมาเพื่อธีสิสจบการศึกษา ภูเขาถูกยกออกจากอกเธอในที่สุด และเธอสามารถพักได้แล้ว อย่างน้อยก็จนกว่าฤดูร้อนถัดไป
ลู่โจวมองไปที่หานเมิ่งฉีและยิ้ม
“อย่าเพิ่งสบายใจไป คุณได้คิดหรือยังว่าจะทำอะไรต่อหลังจบการศึกษา?”
หานเมิ่งฉีเกาหัวและส่ายหน้า เธอลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดว่า “ฉัน…ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ”
“เริ่มคิดได้แล้วนะ…” ลู่โจวมองเธอด้วยสีหน้าขึงขังและพูดว่า “ถ้าคุณอยากเรียนปริญญาเอกต่อ คุณควรเริ่มเตรียมตัวก่อนต้นปีหน้า ถ้าคุณอยากจบการศึกษา ก็ควรมองหางานทำในเร็วๆ นี้นะ ถ้าคุณจะสมัครงาน ผมช่วยเขียนจดหมายแนะนำให้ได้”
หานเมิ่งฉีก้มมองพื้นและพูดด้วยท่าทีประหม่า “ศาสตราจารย์ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”
ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “เอาเลย การตอบคำถามเป็นงานของผม”
“การเรียน…ปริญญาเอกเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“มันรู้สึกอย่างไรบ้าง? มันเป็นคำถามทั่วไปมาก” ลู่โจวครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วตอบว่า “ผมจะอธิบายยังไงดี…จริงๆ แล้ว มันค่อนข้างคล้ายกับสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้ ความแตกต่างเดียวคือจิตภาพของคุณ”
“จิตภาพ?” หานเมิ่งฉีเอียงหัวและเธอรู้สึกฉงน “ช่วยอธิบายเพิ่มได้ไหมคะ?”
ลู่โจวอธิบายเพิ่ม “พูดอย่างง่ายๆ คือนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกทำสิ่งที่ค่อนข้างเหมือนกัน ความต่างคือนักศึกษาปริญญาโทเน้นเป็นหลักที่เครื่องมือการศึกษาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อย่างเช่น โมเดลกราฟ หรือ แบบจำลองมาร์คอฟเชน พวกนั้นใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อแก้ปัญหาเล็กที่เจอระหว่างการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ในขั้นนี้ เครื่องมือที่ใช้แก้ปัญหาถูกแนะนำโดยอาจารย์ที่ปรึกษา นักศึกษาต้องเป็นคนหาวิธีแก้ปัญหา”
“แต่สำหรับนักศึกษาปริญญาเอก…” ลู่โจวหยุดไปชั่วครู่และนึกถึงช่วงที่เขาเรียนปริญญาเอก จากนั้นเขาพูดว่า “นักศึกษาปริญญาเอกมีความรับผิดชอบหลักในการแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือใหม่ ปัญหาสามารถถูกคิดค้นโดยตัวนักศึกษาเองหรืออาจารย์ที่ปรึกษา ในระดับนี้ นักศึกษาต้องมีความสามารถในการหาปัญหาใหม่ๆ และอาจจะต้องสามารถสร้างเครื่องมือใหม่ได้ นั่นหมายความว่า เมื่อคุณเป็นนักศึกษาปริญญาเอก คุณทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้วยตัวเอง…คุณเข้าใจสิ่งที่ผมจะสื่อใช่ไหม?”
“อ่า…”
หานเมิ่งฉีที่ไม่ได้ให้ความสนใจก็มองลู่โจวกะทันหัน
เธอเห็นว่าลู่โจวจ้องเธอกลับมา เธอหน้าแดงในทันทีและเกาหัวระหว่างที่พูดว่า “ขอโทษค่ะ…ฉันแบบว่าใจลอย”
ลู่โจวพูดตอบ “ไม่เป็นไร ผมเห็นว่าคุณกำลังคิดหลายเรื่องอยู่ตอนนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมสับสนเพราะปัญหา ผมมักจะใจลอยเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องขอโทษครับ”
หานเมิ่งฉีถามต่อ “คุณรู้สึกสับสนจากปัญหาเหมือนกันใช่ไหมคะ?”
ลู่โจวควงปากกาในมือเล่น เขานิ่งเงียบไปสักพัก เหมือนกับว่าเขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร
แต่หลังจากได้ครุ่นคิดไปสักพัก เขาตอบอย่างกำกวม “ทุกคนเจอปัญหายากเป็นบางครั้งอยู่แล้ว ผมเองก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ถูกต้องตลอดทุกครั้ง แม้แต่วันนี้ ยังมีปัญหาที่ผมยังหาวิธีแก้ที่ดีไม่ได้”
หานเมิ่งฉีรู้สึกอยากรู้กะทันหันในเรื่องปัญหาที่ลู่โจวกำลังพูดถึง
หานเมิ่งฉีสูดหายใจเข้าลึกและเรียกความกล้าให้ตัวเองถาม
“ขอถามได้ไหมว่าปัญหาคืออะไร?”
“มันเป็นปัญหาส่วนตัว…” ลู่โจวกระแอมและพูดว่า “เอาเถอะ คุณมีความสามารถด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ถ้าคุณไปต่อด้านวิชาการ ผมแนะนำให้คุณไปต่อด้านวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน เฟสของเบอร์รี่ และเอฟเฟคต์ทอพอโลยีในโฟนอน การพัฒนาวัสดุทอพอโลยี 3 มิติ และการเก็บไฮโดรเจน พวกนี้เป็นสาขายอดนิยม และคุณจะทำการวิจัยออกมาได้ดี”
เป้าหมายหลักๆ ของวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณคือการสร้างโมเดลที่คาดเดาได้หรือแบบบรรยายเพื่อช่วยในการศึกษากลไกของวัสดุและลดเวลากับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาวัสดุใหม่
เมื่อสิบปีก่อน มันยังเป็นศาสตร์วิชาใหม่ แต่ตอนนี้มันได้เติบโตแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรางวัลโนเบลสาขาเคมี ปี 2018 สถาบันวิจัยหลายแห่งได้เปิดแผนกวิจัยด้านวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ สำหรับเวลาส่วนใหญ่ แผนกวิจัยวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณที่แข็งแกร่งจะจ้างนักศึกษาปริญญาเอก มันจึงมีแววด้านอาชีพที่ค่อนข้างดี
สำหรับเรื่องง่ายที่จะสร้างงานวิจัยที่ดี…
เอาตามตรง นั่นมันแค่เกี่ยวข้องกับห้องแล็บอื่นของลู่โจว
สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงเป็นสถาบันทดลองชั้นนำระดับโลกในด้านวัสดุการบินและอวกาศ วัสดุคาร์บอน และพลังงานใหม่ วารสารวิชาการด้านวัสดุศาสตร์จำนวนมากได้ ‘รักษา’ ที่ผลิตโดยสถาบันนี้ ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงจะผลิตการวิจัยที่ดีในด้านนี้
หานเมิ่งฉีนิ่งไปสักพักและลู่โจวจ้องมองเธอระหว่างที่ควงปากกาเล่น ลู่โจวถามโพล่งขึ้นมาว่า “คุณคิดอะไรอยู่?”
“ฉันคิดว่า…”
หานเมิ่งฉีกัดริมฝีปากและครุ่นคิดอยู่นาน
ในที่สุด เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความแน่วแน่และพูดว่า “ฉันอยาก…เรียนคณิตศาสตร์กับคุณ!”
ลู่โจว “…?”
…………………..