ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 840 เร็วอะไรขนาดนี้
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 840 เร็วอะไรขนาดนี้
สำหรับประตูทางเข้าชุมชนระดับไฮเอนด์เช่นนี้ ในทุกการเข้าออกจะต้องมีการลงทะเบียนทุกครั้ง
และหลังจากที่ลู่โจวย้ายเข้ามาทางเข้าก็ได้เพิ่มระดับความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั่วบริเวณมากขึ้น
ลู่โจวยังต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยเหมือนคนอื่นๆ แม่ว่านี่จะเป็นรถของเขาก็ตาม
หลังจากที่หวังเผิงจอดรถแล้ว เขาก็ลงจากรถและบ่นพึมพำว่า “รถคันนี้มันจะเร็วอะไรขนาดนี้เนี่ย”
เขาทำอาชีพนี้ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะเคยขับรถมาแล้วมากมาย ตั้งแต่รถยนต์ต่างประเทศระดับพรีเมียมไปจนถึงรถยนต์ในประเทศที่ถูกปรับแต่งเอง แต่คันนี้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ดีที่สุดที่เขาเคยขับมาในชีวิตเลยก็ว่าได้
และเมื่อดูจากข้อเท็จจริงที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าเพิ่งมีได้ไม่กี่ปี มันก็ยิ่งน่าทึ่งมากขึ้นไปอีก
ลู่โจวยืดไหล่และยิ้ม “ครับ”
หวังเผิง “มันต้องแพงมากแน่ๆ ใช่มั้ยครับ?”
ลู่โจว “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ มันมีคันเดียวในโลก…”
หวังเผิงพูดอย่างอารมณ์ดี
“คนรวยก็อยู่กันแบบนี้สินะ”
ลู่โจวกล่าวว่า “ไม่ต้องหลอกผมหรอกน่า คุณน่ะเคยขับรถถังทหารมาก่อนนะ นี่ก็แค่รถสปอร์ตเท่านั้น”
หวังเผิงลูบจมูกแล้วพูดว่า “ผมไม่เคยขับรถถัง ผมเคยแต่นั่งรถถังครับ…”
ลู่โจว “…”
ว้าว…
ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะเคยนั่งในรถถังมาก่อนจริงๆ
ทันใดนั้นลู่โจวก็เริ่มสงสัยว่าผู้คุ้มกันของเขาเคยใช้ชีวิตแบบไหนมาก่อนกันแน่
หวังเผิงมองไปที่กุญแจรถในมือแล้วพูดว่า “ผมจะไปลงทะเบียนรถนะครับ มันอาจจะใช้เวลาสองสามนาที คุณจะรอหรือจะไปด้วยกัน?”
ชุมชนล้อมรั้วนี้ค่อนข้างปลอดภัย
ชุมชนนี้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในจินหลิง แม้แต่เจ้าหน้าที่ข่าวกรองจากประเทศอื่นก็ต้องมีปัญหาในการเข้ามาที่นี่
“ผมขอรออยู่ที่นี่แหละ แล้วอย่าลืมมารับผมพรุ่งนี้นะ คืนนี้ไม่ต้องมารับนะ ผมไม่ได้อยากไปไหนเป็นพิเศษ”
หวังเผิงพยักหน้า “โอเคครับ งั้นผมขอตัวก่อน”
“แน่นอน… ว่าอย่าดัดแปลงรถมากจนเกินไปนะ เอาแค่นิดเดียวก็พอ” ลู่โจวกล่าวด้วยสีหน้ากังวล
หวังเผิงมองดูลู่โจวประหม่า จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “อย่ากังวลไปเลยครับ ผมจะนำมันกลับมาเหมือนเดิมเป๊ะๆ เลย”
“หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะ!”
ลู่โจวมองดูรถสปอร์ตคันใหม่อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินกลับไปที่คฤหาสน์ของเขา
เขาโยนเสื้อโค้ตกันฝนลงบนโซฟาทันทีเมื่อถึงบ้าน จากนั้นเสี่ยวไอก็บินมาหาเขา เขาบอกให้เสี่ยวไอชงกาแฟให้สักแก้วแล้วขึ้นไปชั้นบนไปที่ห้องทำงาน
เขาอัปโหลดวิทยานิพนธ์มาได้สักพักแล้ว ดังนั้นคนทั้งโลกคงได้รู้เกี่ยวกับวิทยานิพนธ์คณิตศาสตร์ของเขาแล้วในตอนนี้
แต่สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือความคิดเห็นจากวิทยานิพนธ์คณิตศาสตร์ประจำปี
โดยปกติการตรวจวิทยานิพนธ์จะใช้เวลานานมาก แต่เขาสามารถส่งข้ามขั้นตอนได้โดยส่งตรงไปถึงอีเมลของกองบรรณาธิการได้เลย
ลู่โจวไปที่คอมพิวเตอร์และเห็นอีเมลที่ยังไม่ได้เปิดอ่านอยู่ในกล่องจดหมาย
เขาไม่แปลกใจที่เป็นอีเมลจากแผนกบรรณาธิการวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี
[เรียน ศาสตราจารย์ลู่ เราได้รับต้นฉบับวิทยานิพนธ์ของคุณแล้ว ขอขอบคุณที่เลือกเราเป็นผู้เผยแพร่ วิทยานิพนธ์อยู่ในการพิชญพิจารณ์ แต่อย่างที่คุณทราบมีนักวิชาการเพียงไม่กี่คนในสาขาการวิจัยของคุณ ดังนั้นเราจึงกำลังติดต่อหาผู้ตรวจสอบที่เหมาะสมและเราจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีการปรับปรุง]
ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับการวิจัยเขตวิกฤตมานานกว่าศตวรรษ แม้ว่าจะมีคนไม่กี่คนที่ค้นคว้าสมมติฐานของรีมันน์แต่มีเพียงไม่กี่คนที่เลือกสิ่งนี้เป็นแนวทางในการวิจัย
แต่สมมติฐานนี้ยังคงมีความสำคัญมากในด้านทฤษฎีจำนวนวิเคราะห์ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีชื่ออย่างสมมุติฐานเสมือนของรีมันน์ขึ้นมาแน่ๆ
ถ้าหากว่ามีนักวิชาการคนไหนสามารถพิสูจน์สมการนี้ได้ พวกเขาจะต้องได้รับเหรียญฟิลด์ไปอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่นี่ผ่านมากว่าศตวรรษแล้วที่ไม่มีใครสามารถเพิ่มความถูกต้องของเขตลิมิตได้แม้แต่นิดเดียว หลายคนคิดว่าแนวคิดการพิสูจน์นี้ไม่สามารถทำได้ แต่ตอนนี้ มีคนพิสูจน์ว่า Re (s) = 1- ε ( ε→ 0) ซึ่งพิสูจน์ว่าขอบเขตวิกฤตสามารถเคลื่อนย้ายได้!
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
สำหรับคนทั่วไปแล้วนี่อาจไม่ได้มีความหมายมากสักเท่าไร
แต่สำหรับชุมชนคณิตศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก!
มันจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะหาผู้ทบทวนให้ได้
และเนื่องจากความสัมพันธ์ของลู่โจวในชุมชนวิชาการเป็นเช่นนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาผู้ตรวจสอบที่เหมาะสมโดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน…
ดูเหมือนว่าศาสตราจารย์ฟาลติ้งขี้ยั้วะจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ ที่สำคัญฟาลติ้งอยู่ในสาขาเรขาคณิตเกี่ยวกับพีชคณิตและทฤษฎีจำนวนวิเคราะห์อีกด้วย…
แต่มันก็ขึ้นอยู่ว่าฟาลติ้งจะมีเวลาทบทวนให้หรือไม่
เพราะการทบทวนวิทยานิพนธ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ …
‘หวังว่าฟาลติ้งจะมีเวลาทบทวนวิทยานิพนธ์ของฉันนะ’
ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออกอย่างนุ่มนวล และเสียงพึมพำที่ถือถ้วยกาแฟได้บินเข้ามาข้างในช้าๆ
[เจ้านาย กาแฟได้แล้ว (1 • ᄇ • )]
“วางไว้บนโต๊ะเลย”
[โอเค เจ้านาย (• ∀ •)]
โดรนลงจอดที่มุมโต๊ะอย่างนุ่มนวล แขนของมันได้ยืดออกและวางกาแฟลง
มุมล่างขวาของหน้าจอของลู่โจวอ่านว่า [ดื่มให้อร่อย (* / ω *)] ลู่โจวยิ้มและหยิบกาแฟของเขาขึ้นมาจิบ
“ ขอบคุณนะ อร่อยมาก”
ลู่โจววางกาแฟลงบนโต๊ะที่เดิม จากนั้นเขาก็ลากอีเมลไปทิ้งที่ถังขยะ
เขาปิดอีเมลและเริ่มทำการวิจัยที่ยังไม่เสร็จต่อ ซึ่งก็คือการเพิ่มค่าของ ε ไปเป็น 1/2 ไม่นานก็มีอีเมลปรากฏขึ้นมาในกล่องเมลของเขา
ลู่โจวหยุดไปชั่วครู่และคลิกไปที่อีเมลอันนั้น
เขาสังเกตเห็นที่อยู่อีเมลที่คุ้นเคย
[ศาสตราจารย์ คุณกำลังค้นคว้าสมมติฐานของรีมันน์อยู่เหรอ?]
…………………………