ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 856 พายุอีกลูก
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 856 พายุอีกลูก
ขณะที่โลกคณิตศาสตร์กำลังเผชิญกับพายุฝน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้รับจดหมายความยาว 2,000 คำ
ผู้บริหารอาวุโสที่มีค่าตัวเป็นพันล้านดอลลาร์สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง แม้ว่าพวกเขาจะพยายามใช้เส้นสายเพื่อสืบว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็กลับไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย
มีบางคนบอกว่าประเทศกำลังจะเปิดตัวนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำ บางคนก็บอกว่ามีการค้นพบเทคโนโลยีลิโธแกรฟีนขนาด 7nm ในขณะที่มีบางคนบอกว่ารัฐบาลวางแผนสร้างเทคโนโลยีสารกึ่งตัวนำที่ล้ำสมัยเพื่อจะได้เป็นประเทศทางด้านการผลิตสารกึ่งตัวนำอันดับห้าของโลก
ข่าวลือสุดท้ายดูจะใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด
หลังจากที่ข่าวเรื่องเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์แกรฟีนแพร่ออกไป สิ่งแรกที่มีการอภิปรายกันในห้องประชุมที่ปักกิ่งคือการรวมและจัดการบริษัทสารกึ่งตัวนำที่มีอยู่
การประชุมนี้เกิดขึ้นเพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
แน่นอนว่าเนื้อหาหลักของการประชุมก็คือเพื่อเปิดเผยกับราชการระดับสูง ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมต้องเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูลและยินยอมที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมเป็นเวลาหนึ่งปี
ผู้นำอุตสาหกรรมหลายแห่งสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น แต่ข่าวลือที่แพร่ออกไปดูไม่ชอบมาพากลราวกับว่ารัฐบาลจงใจปล่อยข่าวลือเพื่อปกปิดบางอย่าง
หวังเจิ้งเฟย ซีอีโอหัวเหว่ยเป็นหนึ่งในผู้บริหารอาวุโสที่มาประชุม
สัญชาตญาณบอกเขาว่าอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำกำลังจะสร้างพายุลูกใหญ่ แต่มีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พายุสงบ
ขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยพายุลูกนี้ คำเชิญเข้าร่วมการประชุมที่ถนนฉางอันก็อยู่บนโต๊ะของซีอีโอแล้ว
ผู้บริหารอาวุโสมองไปที่บัตรเชิญเข้าร่วมประชุมและในที่สุดปมในใจของเขาก็คลายออก
อย่างน้อยมันก็อยู่ที่นี่!
…
ณ ถนนฉางอัน ปักกิ่ง
ห้องประชุมใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน
หวังเจิ้งเฟยเจอที่นั่งของตัวเองและนั่งลง เขามองไปรอบๆ และเจอเจ้านายเก่าของเขา หลี่จือซวนที่มาจากฮัวซิงกรุ๊ปก็อยู่ที่นี่ด้วย
ซีอีโอหลี่เองก็สังเกตเห็นเขา
ทั้งสองมองหน้ากันและฝืนยิ้ม
ให้ตายเถอะ!
ใครเป็นคนจัดที่นั่งกันนะ
“โอ้ ซีอีโอหวัง ไม่คิดเลยว่าคุณเองก็ได้รับจดหมายเชิญเหมือนกัน”
หวังเจิ้งเฟยยิ้ม
“ครับ ผมก็ยุ่งๆ แต่ก็หาเวลามาจนได้”
หลี่จือซวนยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ยุ่งเกินกว่าที่จะมาเหรอ
น่าขำจริงๆ
พูดอย่างกับจะปฏิเสธการประชุมของรัฐบาลอย่างนั้นแหละ
ทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ พวกเขานั่งเงียบๆ และรอให้การประชุมเริ่มขึ้น
หวังเจิ้งเฟยใช้เวลานี้ในการมองดูผู้เข้าประชุมคนอื่นๆ
เขาสังเกตเห็นว่าคนที่มามีแต่คนใหญ่คนโตจากอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำและอิเล็กทรอนิกส์ มันทำให้เขาพอจะรู้ว่าการประชุมน่าจะเป็นเรื่องอะไร
สีหน้าประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของเขา
เดี๋ยวนะพวกเขาไม่เพียงแค่มาจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แต่ทั้งหมดก็ยังมีเงินด้วย
บางทีอุตสาหกรรมการบินและอวกาศอาจต้องการเงินทุน
พวกเขาคงไม่ขอเงินจากเราหรอกใช่ไหม
ผู้เข้าประชุมทยอยมาทีละคน หลังจากนั้นไม่นานการประชุมก็เริ่มขึ้น
ผู้ร่วมประชุมที่นั่งอยู่โต๊ะของพวกเขาหยุดคุยและมองตรงไปข้างหน้า ชายสูงวัยหน้าตาเคร่งขรึมเดินขึ้นมาบนเวที
ตอนที่หวังเจิ้งเฟยเห็นชายสูงวัย เขาถึงกับตกใจ
ประธานคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน!
ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนจัดการประชุม!
สีหน้าของเขาตึงเครียดขณะที่หยิบสมุดและปากกาออกมาโดยไม่รู้ตัว
ดูเหมือนว่าการประชุมวันนี้ต้องสำคัญมากแน่ๆ !
“ผมต้องขอโทษที่รบกวนตารางงานของพวกคุณ ผมต้องการให้คุณมารวมตัวกันที่นี่เพื่อคุยถึงเรื่องบางเรื่อง
“ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น ผมอยากเน้นย้ำว่าเนื้อหาของการประชุมในครั้งนี้เป็นความลับสุดยอด ห้ามพูดคุยกับใครนอกห้องประชุมถึงหัวข้อทุกหัวข้อที่อภิปรายในการประชุมนี้
“ถ้าข้อมูลใดก็ตามเกิดการรั่วไหลเราจะทำการสืบสวน คนคนนั้นจะโดนจับโทษฐานจารกรรมและก่อกบฏ”
อยู่ๆ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในห้องประชุม
โทษเหล่านี้โดยเฉพาะโทษฐานจารกรรมค่อนข้างน่ากลัวสำหรับพวกเขา
ชายสูงวัยมองไปรอบๆ ห้องประชุมเพื่อมั่นใจว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปชัดเจน เขาหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “เข้าเรื่องกันเลย”
ชายสูงวัยพยักหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ข้างๆ เขา
จอโปรเจกต์ฉายพาวเวอร์พอยต์
ตอนที่หวังเจิ้งเฟยเห็นหัวข้อพาวเวอร์พอยต์ เขาอึ้งไป
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ซีอีโอของฮัวซิงกรุ๊ปที่นั่งติดกับเขาและผู้บริหารด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในห้องต่างก็ตกใจหลังจากที่อ่านหัวข้อ
“ชิปคาร์บอนเหรอ? “
หลี่จือซวนดันแว่นขึ้นและโน้มตัวไปข้างหน้า เพื่อจะมองจอให้ชัดๆ
ตอนที่เขามั่นใจว่าหน้าจออ่านว่าชิปคาร์บอนจริงๆ เขาก็อดพึมพำไม่ได้ “นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน”
หวังเจิ้งเฟยที่นั่งติดกับเขาสูดลมหายใจเข้าและพยายามตั้งสติ
ชิปคาร์บอนเหรอ?
อะไร?
เรื่องตลกนี่น่าขำเกินไปแล้ว
มันน่าขำจนฉันไม่รู้จะเริ่มอย่างไร
ไม่ใช่แค่ซีอีโอทั้งสองคนที่ตกใจกับเรื่องนี้
มีเสียงซุบซิบดังขึ้นรอบๆ ห้องประชุม
ชิปคาร์บอน!
พวกเขาต่างคุ้นเคยกับคอนเซปต์นี้ บ่อยครั้งที่มีคนใช้ชิปคาร์บอนในการพูดเพื่อให้นักลงทุนสนใจ พวกเขาเห็นพาวเวอร์พอยต์แย่ๆ ที่พูดถึงชิปคาร์บอนในอนาคตมานับไม่ถ้วน
แต่ทุกคนรู้ดีว่าการลงทุนไปกับโปรเจกต์นี้ก็เหมือนการเผาเงินไปเปล่าๆ
ลืมเรื่องนั้นไปได้เลย เพราะขนาดไมโครซอฟต์ กูเกิ้ล และ Intel ยังคิดค้นเทคโนโลยีนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไม่ใช่ทุกคนที่บ้าระห่ำเหมือนลู่โจว
แต่ครั้งนี้กลับไม่มีการพูดจูงใจใดๆ …
ครั้งนี้คือการประชุมที่จัดขึ้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน และคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ล้วนแต่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำและอิเล็กทรอนิกส์ทั้งนั้น คนที่ยืนบนเวทีก็คือประธานคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน หัวข้อในการอภิปรายคืออนาคตของอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำของจีน…
ดังนั้นคำว่าชิปคาร์บอนหมายถึงบางสิ่งบางอย่างที่ต่างออกไปสิ้นเชิง
การประชุมดำเนินต่อไป
พาวเวอร์พอยต์ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ
หวังเจิ้งเฟยยิ่งรู้สึกประหลาดใจจนมือของเขาค่อยๆ สั่น
นี่คือโอกาสของหัวเหว่ยที่จะเป็นที่หนึ่งของโลก! นี่คือโอกาสในชีวิต
เขากลั้นหายใจและกำหมัดแน่น
เขาจะต้องใช้ประโยชน์จากโอกาสในครั้งนี้
หัวเหว่ยจะต้องได้ประโยชน์จากโอกาสนี้!
เขาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตถ้าไม่คว้ามันไว้…
…………………………………….