ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 864 ขุดทอง
ลู่โจวและนักศึกษาของเขาทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข พวกเขาไม่รู้เลยว่าที่หอประชุมวุ่นวายขนาดไหน
นักวิชาการที่ปกติเป็นคนเงียบๆ และชอบเก็บตัวกลายเป็นฉลามกระหายเลือดขณะที่วิ่งกรูไปหน้าหอประชุม
แม้ว่าจะมีนักวิชาการเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่บ้าคลั่ง แต่ก็นับว่าเป็นจำนวนคนที่เยอะมากทีเดียว
คณบดีฉินเห็นว่าสถานการณ์เกินควบคุมได้แล้ว เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเขาจึงขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาช่วย
คนพวกนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแต่พวกเขามาจากกระทรวงความมั่นคงของรัฐ
พวกเขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
หลังจากนั้นคณบดีฉินเดินผ่านฝูงชนไปพร้อมกับทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและนำไวท์บอร์ดออกมาจากกลุ่มนักวิชาการ
คณบดีฉินรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าไวท์บอร์ดไม่ได้เสียหายตรงไหน
เขาไม่ได้กังวลว่าบรรดานักคณิตศาสตร์จะวิ่งชนกัน เพราะตัวเขาเองรู้จักคนดังๆ ในวงการวิชาการคณิตศาสตร์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
แต่ไวท์บอร์ดคือสิ่งล้ำค่า ถ้าใครทำเสียหายมันคงเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่…
…
สิบนาทีหลังจากการรายงานเสร็จสิ้น
เกิดการถกเถียงกันเกี่ยวกับการรายงานนี้ในเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวอย่างดุเดือด
โพสต์ที่เป็นที่นิยมที่สุดเป็นโพสต์ของเทอเรนซ์ เถา
[มันเป็นการรายงานที่ตื่นเต้นที่สุดที่ผมเคยเข้าร่วมในช่วงสามปีที่ผ่านมา…ครั้งล่าสุดที่ผมรู้สึกแบบนี้ก็ที่งานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นพยานในการพิสูจน์สมมติฐานเสมือนของรีมันน์ เราใกล้จะได้อยู่บนจุดสูงสุดของคณิตศาสตร์เข้าไปทุกที :)]
ครั้งสุดท้ายที่ศาสตราจารย์เถาโพสต์บนเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวคือเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว นั่นก็คือตอนที่วิทยานิพนธ์นี้ถูกตีพิมพ์
ตอนนั้นเขาเองก็รู้สึกคลางแคลงใจกับวิทยานิพนธ์และต้องการเวลาในการคิดทบทวน ทุกคนต่างรอคอยคำวิจารณ์ของศาสตราจารย์เถาที่มีต่อวิทยานิพนธ์ของลู่โจวเป็นเวลานาน
โพสต์นั้นกลายเป็นกระแสบนเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวทันที
[ศาสตราจารย์เถากำลังบอกว่าข้อพิสูจน์ของศาสตราจารย์ลู่ถูกต้องใช่ไหม]
[เดี๋ยวนะศาสตราจารย์เถาควรจะอยู่ที่การรายงานที่มหาวิทยาลัยจินหลิงนี่นา แสดงว่า…ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์คิดว่ามันถูกเหมือนกันเหรอ]
[เป็นไปไม่ได้! เราทุกคนรู้ว่าชายเยอรมันคนนั้นเย่อหยิ่งและดื้อด้านขนาดไหน]
[เป็นไปไม่ได้ ความดื้อและความเย่อหยิ่งของเขามาจากความสำเร็จทางวิชาการและความเคารพจากนักวิชาการคนอื่น คิดจริงๆ เหรอว่าเขาจะยอมเสียหน้าเพื่อความซื่อสัตย์ทางวิชาการ? ]
[เราทุกคนได้อ่านวิทยานิพนธ์ของศาสตราจารย์ลู่ เห็นชัดๆ อยู่แล้วว่ายังโต้แย้งได้]
[มีใครได้ไปที่นั่นบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง ฉันอยากรู้ผลแล้ว!]
ทุกคนในพื้นที่แสดงความเห็นอลหม่านกันไปหมด
ส่วนคนที่ไม่ได้ทำวิจัยสมมติฐานของรีมันน์ก็ไม่สนใจรายละเอียดยิบย่อย พวกเขาแค่อยากรู้ว่าสมมติฐานเสมือนของรีมันน์ได้รับการพิสูจน์จริงไหม และใครจะชนะศึกผู้ยิ่งใหญ่ระหว่างศาสตราจารย์ลู่และฟาลติ้งส์ในครั้งนี้
โชคยังดีที่พวกเขาไม่ต้องรอนานขนาดนั้น
หลังจากที่เถาเจ๋อเซวียนโพสต์ได้ห้านาที นักวิชาการหลายคนที่เข้าฟังการรายงานโพสต์รูปบนบล็อก เฟซบุ๊ก และช่องทางอื่นๆ
หลังจากการรายงานจบไปเพียง 30 นาที มีบางคนอัปโหลดวิดีโอลงยูทูบ ซึ่งได้ถูกแชร์ต่อๆ กันทันทีในเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลว
ทันทีที่วิดีโอถูกอัปโหลดก็เกิดการถกเถียงกันเรื่องสมมติฐานเสมือนของรีมันน์อย่างดุเดือด
ตอนที่คนได้ยินที่ฟาลติ้งส์พูดว่า “คุณพูดถูก” ตาของพวกเขาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า
[ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ยอมรับความพ่ายแพ้ไหม]
[หมายความว่าอย่างไร พ่ายแพ้ การโตแย้งกันทางวิชาการไม่ใช่การแข่งขันนะ…แต่มันก็สุดยอดเลย ข้อพิสูจน์ของศาสตราจารย์ลู่มีพลังมาก จนฟาลติ้งส์หาข้อผิดพลาดไม่เจอเลยเหรอ]
[มีความเป็นไปได้อยู่หนึ่งอย่าง นั่นก็คือเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ของศาสตราจารย์ลู่ที่เขาพูดตอนจบสมบูรณ์แบบ งานวิจัยของผมไม่เกี่ยวข้องกับเรขาคณิตเชิงพีชคณิต มีใครบอกได้ไหมว่าการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกคืออะไร]
[ยุคสมัยใหม่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น]
[ท่านเทพลู่โคตรเจ๋ง!]
ขณะที่การถกเถียงเรื่องนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ดีๆ ผู้ที่มีชื่อเสียงในสาขาเรขาคณิตเชิงพีชคณิตก็โพสต์อะไรบางอย่าง
[ผมไม่รู้ว่าพวกคุณสังเกตกันบ้างไหม แต่เครื่องมือการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกที่ศาสตราจารย์ลู่สร้างขึ้นขณะที่กำลังศึกษาสมมติฐานเสมือนของรีมันน์ค่อนข้างน่าสนใจ เขาไม่เพียงพิสูจน์การมีอยู่ของเอปซีลอนแต่ยังแสดงให้เห็นว่าเอปซีลอนสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก! ]
ที่น่าแปลกใจก็คือหลังจากที่โพสต์ถูกเผยแพร่ มีการถกเถียงกันบนเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวสูงขึ้นอย่างมาก
แต่ก็อย่างว่ามันสมเหตุสมผลอยู่แล้ว
วิดีโอในยูทูบแสดงให้เห็นมุมมองทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับเครื่องมือการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติก นักวิชาการเหล่านั้นค่อยๆ ซึมซับความรู้ใหม่ๆ จนในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมฟาลติ้งส์จึงยอมง่ายขนาดนี้ พวกเขายังพบว่าเหมืองทองอยู่ตรงหน้าพวกเขานี่เอง
พวกเขาสามารถเป็นคนที่เพิ่มค่าเอปซีลอนได้!
และยังสามารถศึกษาข้อพิสูจน์เส้นวิกฤติได้อีกด้วย!
การวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกก็เหมือนกับพลั่ว
ศาสตราจารย์ลู่ไม่เพียงแค่สร้างพลั่ว แต่ยังส่งพลั่วถึงมือพวกเขาทุกคน
คงน่าเสียดายน่าดูถ้าพวกเขาไม่คว้าโอกาสนี้ไว้…
…
[ยินดีด้วย การรายการเยี่ยมมากๆ !]
ลู่โจวนั่งดื่มชาในห้องรับรอง เขามองไปที่ข้อความของเฉินยู่ซานแล้วยิ้มและพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ตอบ
[ขอบคุณ]
หานเมิ่งฉีสังเกตเห็นลู่โจวยิ้มและถามด้วยความสงสัย “คุยกับใครอยู่เหรอ”
ลู่โจวตอบ “พี่สาวคุณไง”
“โอ้…” หานเมิ่งฉีใส่อาหารของเธอและลู่โจวในถุงพลาสติกและพูด “เดี๋ยวฉันเก็บให้”
ลู่โจวตอบ “ขอบคุณครับ!”
หานเมิ่งฉีทำหน้าบูดและเดินจากไป เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกเศร้า
ตอนที่เธอเปิดประตูคณบดีฉินเดินเข้ามาพอดี
หานเมิ่งฉีมองไปที่คณบดีและทักทายอย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะ คณบดีฉิน! “
“สวัสดี สวัสดี…” คณบดีฉินพยักหน้าและมองที่ลู่โจวที่อยู่หลังเธอ
เขาเดินเข้ามาและยิ้ม
“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ ผมตามหาคุณอยู่”
ลู่โจว “ข้างนอกฝนตกผมก็เลยมาทานที่นี่…ทำไมเหรอครับ”
คณบดีฉิน “คณะกรรมการมหาวิทยาลัยจองบุฟเฟ่ต์ตอนบ่ายที่โรงแรมห้าดาวไว้ พวกเขามีปัญหาตอนที่การจองและเพิ่งมาบอกผมเรื่องบุฟเฟ่ต์ ผมก็เลยรีบตามหาคุณแต่ดูเหมือนว่าคุณจะทานเรียบร้อยแล้วนะ”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูด
“เยี่ยม ผมไม่ชอบงานเลี้ยงอยู่แล้ว คุณไปเลย”
“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องพูดแบบนั้น” คณบดีฉินถอนหายใจและพูด “ยังมีงานเลี้ยงตอนค่ำอีก คุณควรจะไปนะ เพราะนักวิชาการกว่าครึ่งมาที่นี่เพื่อมาเจอคุณ คุณควรทำตัวเป็นเจ้าภาพที่ดี”
ลู่โจว “ก็ได้ ผมจะไปคืนนี้…โอ้ แล้วไวท์บอร์ดล่ะ”
“ผมเอาไปเก็บแล้ว อยากจะเอากลับบ้านเหรอ”
ลู่โจวมองคณบดีฉินที่กำลังประหม่าและมองหน้าเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ
“ผมไม่ได้จะเอามันกลับบ้าน แต่ผมต้องใช้ทำอะไรบางอย่างเพราะตอนนั้นผมคำนวณสด ทั้งที่จริงแล้วยังคิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ผมก็เลยตั้งใจว่าจะคัดลอกแล้วเขียนในวิทยานิพนธ์แยกและส่งไปที่วิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี”
“โอเคดี…” คณบดีฉินถอนหายใจด้วยความโล่งใจและพูด “ผมจะบอกให้พวกเขานำไวท์บอร์ดมาที่นี่”
เขาหันหลังและออกจากห้องรับรอง
ขณะที่ลู่โจวมองเขาเดินออกไป เขาเอียงคอและพึมพำกับตัวเอง “ทำไมทำตัวประหลาดแบบนี้นะ”
ลู่โจวส่ายหัวและหยิบโน้ตบุ๊กออกมาจากกระเป๋า
ในที่สุดข้อพิสูจน์สมมติฐานเสมือนของรีมันน์ก็เสร็จเสียที
ส่วนเครื่องมือการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกก็เสร็จไปเมื่อ 30 นาทีก่อน
เขาเหลืองานอีกสามอย่างที่ต้องทำ
อย่างแรกเขาจะต้องแปลงเครื่องมือการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกเป็นวิทยานิพนธ์
แล้วจะต้องบอกเวร่าผู้เขียนร่วมของเขาเกี่ยวกับข่าวดีนี้
ส่วนอย่างที่สาม…
เขาต้องทำเรื่องที่ค้างคาให้เสร็จ…
เขาจะต้องเพิ่มค่าของ ε เป็น 1/2 และพิสูจน์ทฤษฎีตอนที่มีอายุยาวนานเป็นสิบปีให้ได้
………………………