ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 882 วันปีใหม่ของปี 2022
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 882 วันปีใหม่ของปี 2022
ถึงแม้ลู่โจวจะสงสัยเรื่องการจับทุจริตเด็กสาวคนนั้นของหลัวเหวินเซวียน แต่เขาก็ไม่กล้าถามออกไป
ทั้งสองคนยังกินไปพูดไปต่อ แล้วก็ค่อยๆ เปลี่ยนประเด็นจากเรื่องแผนที่จะทำในวันปีใหม่ไปเป็นสมมุติฐานของรีมันน์
“ฉันแน่ใจว่าตราบใดที่เราแก้สมมุติฐานของรีมันน์ได้ พวกเราก็จะสามารถไขความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังฟังก์ชันซีตาของรีมันน์ได้เช่นกัน แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว แนวคิดพวกนี้มันอายุห่างกันเป็นร้อยๆ ปีก็จริง แต่มันต้องมีจุดเชื่อมโยงกันแน่ๆ !
นายคิดว่ามันเป็นไปได้ไหมที่รีมันน์จะเป็นนักเดินทางข้ามเวลาน่ะ? ไม่อย่างนั้นแล้ว นายจะหาคำอธิบายให้กับฟังก์ชันหลายคู่สหสัมพันธ์ของค่าลักษณะเฉพาะในเมทริกซ์แอร์มิตแบบสุ่มที่ใช้ได้กับเรื่องรากที่ไม่ชัดแจ้งของฟังก์ชันซีตาของรีมันน์ได้อย่างไรกัน? ช่วงศตวรรษที่ 18 ยังไม่มีกลศาสตร์ควอนตัมเลยด้วยซ้ำ!”
ลู่โจวหัวเราะกับมุกตลกของหลัวเหวินเซวียนและพูดออกมาอย่างชิลๆ ว่า
“แล้วนายรู้ได้อย่างไรว่าอดีตของพวกเราจริงๆ แล้วเป็นอนาคตที่มีการปรับเปลี่ยนไปแล้ว? การเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงปัจจุบันเสียหน่อย”
“แล้วถ้าอดีตของเราถูกเปลี่ยนโดยนักเดินทางข้ามเวลาจริงล่ะก็ จะแปลว่าอดีตของเราคืออนาคตของเราหรือเปล่าล่ะ?” หลัวเหวินเซวียนโต้ตอบบ้าง เขายืนขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันมีไอเดียแล้ว ว่าจะทำหลังปีใหม่…หรือจะทำตอนนี้เลยดีนะ!”
เพราะเขาพูดเสียงดังมาก คนรอบๆ ตัวจึงเริ่มมองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ
ลู่โจวกระแอมอย่างกระวนกระวายและส่งสัญญาณให้เขาใจเย็นลง
“เฮ้ย ใจเย็นๆ หน่อยสิ”
หลัวเหวินเซวียนเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ในที่สาธารณะ เขาจึงนั่งลงอย่างอายๆ
แต่ความอายของเขาก็อยู่แค่แป๊บเดียวเท่านั้น
เขาวางมือตัวเองบนโต๊ะแล้วมองไปทางลู่โจวด้วยท่าทีตื่นเต้น
“นายรู้ไหมว่าฉันเพิ่งคิดอะไรได้?! ฉันรับปากเลยว่านายต้องเซอร์ไพรส์กับไอเดียของฉันแน่ๆ ! ฉันแม่*โคตรอัจฉริยะว่ะ!”
ลู่โจวมองหลัวเหวินเซวียนแล้วก็ถอนหายใจ
“…ไม่ว่าจะเป็นไอเดียอะไร ฉันก็หวังว่านายจะไม่ใส่ชื่อฉันลงไปในธีสิสนั้นด้วยนะ”
หลัวเหวินเซวียนยิ้มเยาะ
“แล้วนายจะต้องเสียใจ”
ลู่โจวยักไหล่
“ฮะฮ่า ไม่มีทาง”
เรื่องย้อนเวลาอะไรนั่นเป็นเรื่องไร้สาระทั้งเพ
ลู่โจวมั่นใจว่ามีหลายคนเคยเขียนธีสิสเรื่องความขัดแย้งของเวลาแล้ว
นั่นคือการวิจัยของฟิสิกส์เชิงทฤษฎี
ก่อนอื่นพวกเขาจะสมมุติว่าทฤษฎีสตริงเป็นจริง จากนั้นพวกเขาก็จะสร้างทฤษฎีใหม่ขึ้นมา หลังจากนั้น พวกเขาก็จะสมมุติว่าทฤษฎีสตริงไม่เป็นจริง และพวกเขาก็จะอธิบายว่าทำไมทฤษฎีใหม่ที่พวกเขาสร้างมาถึงไม่เป็นจริงเช่นกัน
การวิจัยแบบยืนยันด้วยตนเองและปฏิเสธด้วยตนเองประเภทนี้เริ่มกลายเป็นลักษณะการวิจัยที่พบเห็นได้ทั่วไปขึ้นเรื่อยๆ
นี่แสดงให้เห็นว่าไอน์สไตน์นั้นเป็นอัจฉริยะ
เขาคาดการณ์ธรรมชาติของหลุมดำได้ เช่นเดียวกับการมีอยู่ของคลื่นความโน้มถ่วง
ทุกความสำเร็จที่เขาสร้างมาในวงการฟิสิกส์ตั้งแต่เขาตายไม่ได้หักล้างกับกรอบทฤษฎีดั้งเดิมของเขาเลยแม้แต่น้อย
จนกระทั่งถึงวันนี้ วงการฟิสิกส์เชิงทดลองก็ยังไม่สามารถทดสอบทฤษฎีของไอน์สไตน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ นักวิชาการพวกนี้กำลังหยุดชะงักและไม่รู้ว่าควรไปไหนต่อ…
เดี๋ยวก่อนนะ…
ลู่โจวเริ่มคิดไตร่ตรอง
ไอน์สไตน์ไม่ใช่คนเดียวนี่ที่เป็นแบบนี้
การย้อนเวลามันเป็นเรื่องไร้สาระแน่ๆ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานมากพอมาช่วยสนับสนุนว่ามันเป็นจริงได้เลย
แต่ลู่โจวจะสามารถพิสูจน์ได้อย่างไรว่าประวัติศาสตร์ที่เขาคุ้นเคยมาไม่ได้เป็นผลจากการข้ามเวลา?
มันไม่มีวิธีพิสูจน์นี่นา…
ทันใดนั้นเองเขาก็คิดถึงเรื่องระบบ
เอิ่มมม…
“น่าสนใจนะ…”
ลู่โจวลูบคางตัวเองและเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ทุกประการ เขาพึมพำกับตัวเองในขณะที่กำลังใช้ความคิด
“…อืม เข้าใจแล้วว่านายกำลังจะสื่ออะไร น่าสนใจดี นายอยากทำงานด้วยกันไหม?” หลัวเหวินเซวียนจึงกล่าวกับลู่โจว
“นายต้องเข้าใจผิดแน่” ลู่โจวพยายามทำตัวไม่สนใจขณะพูดว่า “ส่วนเรื่องทำงานด้วยกัน…คอยทำหลังจากพวกเราเสร็จเรื่องสมมุติฐานของรีมันน์ก็แล้วกัน”
“โอเค” หลัวเหวินเซวียนยอมรับ “แล้วเราจะฉลองตอนไหนล่ะ? นายไม่ได้ปฏิเสธนี่นา”
ลู่โจวพูดขึ้นมาทันทีว่า “ถ้างั้นก็ทำเหมือนว่าฉันปฏิเสธแล้วกัน”
หลัวเหวินเซวียน “…”
…
ในวันปีใหม่ของปี 2020 แสงจากเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นผานกู่ส่องสว่างให้กับอนาคตของฟิวชั่นที่ควบคุมได้
ในวันปีใหม่ของปี 2021 ‘สกายโกลว์’ ยานอวกาศระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องขับดันพลังไอออนลำแรกของโลกได้ประสบความสำเร็จในการบินทดสอบครั้งแรก เรื่องนี้ช่วยเบิกทางให้กับการไปดวงจันทร์ของประเทศจีนในเวลาต่อมา
ส่วนวันปีใหม่ของปี 2022 นั้นค่อนข้างจะน่าเบื่อ นอกจากการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ทั้งอุตสาหกรรม และหลักฐานพิสูจน์สมมุติฐานเสมือนของรีมันน์แล้ว ก็ไม่มีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นเลย
ในวันแรกของปีใหม่
มีผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิดมาเยี่ยมที่บ้านของลู่โจว
เนื่องจากผู้อำนวยการหลี่จากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรมีงานต้องทำที่พื้นที่อุตสาหกรรมการบินและอวกาศไฮเทคและพื้นที่ไฮเทคของจินหลิง เขาจึงมาเยี่ยมลู่โจว
ผู้อำนวยการหลี่โผล่มาเวลาใกล้ๆ กับเวลาอาหารกลางวัน ดังนั้นลู่โจวจึงสั่งอาหารจากโรงแรมใกล้ๆ มา เขาเปิดขวดไวน์เพื่อฉลองกับเพื่อนเก่าคนนี้
ข่าวต่างประเทศกำลังฉายบนหน้าจอทีวี
และก็เป็นเรื่องบังเอิญที่เนื้อหาข่าวบนทีวีดันเป็นเรื่องเดียวกับที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่พอดี…
“…ตามการประกาศแยกก่อนหน้านี้ของนาซาและทำเนียบขาว นาซาจะทำโปรเจกต์ประตูจันทราในปีนี้
โปรเจกต์นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสำรวจดวงจันทร์ที่นาซาประกาศในปี 2018 ตามแผนการที่เปิดเผยออกมา นาซาจะส่งกระสวยอวกาศและยานอวกาศไปยังวงโคจรของดวงจันทร์ในช่วงต้นปี 2022 สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งแรกของแผนการสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรรอบดวงจันทร์
“อย่างไรก็ตามเส้นทางโคจรที่ดีที่สุดนั้นถูกจับจองโดยสถานีอวกาศ ‘ปราสาทจันทรา’ อยู่แล้ว ดังนั้นนาซาจึงตั้งใจว่าจะใช้วงโคจรรูปไข่ที่มีรัศมีวงโคจรที่ใหญ่กว่า
รายงานนี้ยังบอกอีกว่าโปรเจกต์ได้รับการอนุมัติจากสํานักงานวิเคราะห์และติดตามการใช้งบประมาณแห่งรัฐสภาในปี 2021 แล้ว และกำลังเข้าสู่ระยะการเตรียมปล่อยยาน จากประกาศของโฆษกนาซา ‘ประตูจันทรา’ จะทำหน้าที่เป็นสถานีอวกาศนานาชาติ เช่นเดียวกับ ‘ปราสาทจันทรา’ บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกล่าวไว้ว่า โปรเจกต์นี้เป็นความพยายามของทำเนียบขาวในการฟื้นคืนความเป็นผู้นำในวงการการบินและอวกาศของพวกเขา…”
เนื่องจากยานอวกาศสกายโกลว์ประสบความสำเร็จ นาซาจึงเตรียมทำโปรเจกต์นี้มาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
แต่เพราะโครงการแอรีสจึงทำให้สื่อเริ่มไม่เชื่อในตัวนาซา ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา นาซา สเปซ-เอ็กซ์ และบริษัททางการบินและอวกาศอื่นๆ ต่างก็ทำตัวอยู่เงียบๆ
แต่เมื่อตอนนี้ถึงช่วงปีใหม่แล้ว ก็ถึงเวลาของการเริ่มต้นใหม่เช่นกัน
ลู่โจวไม่มีทางเชื่ออยู่แล้วว่าความผิดพลาดครั้งเดียวจะทำให้ความทะเยอทะยานในด้านการบินและอวกาศของอเมริกาจบสิ้นลงได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว การแข่งขันในครั้งนี้คงจะน่าเบื่อแย่
สหรัฐอเมริกาได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองและพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว การแข่งขันมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
“พวกคนอเมริกันไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ผู้อำนวยการหลี่พูดขณะดูทีวี เขากินเป็ดตุ๋นแล้วถอนหายใจ
“ไม่มีใครอยากถูกทิ้งไว้ข้างหลังหรอกครับ การแข่งในลักษณะนี้เป็นการแข่งที่ดีนะ” ลู่โจวยิ้มขณะมองผู้อำนวยการหลี่ เขาพูดว่า “จะว่าไปแล้ว ทำไมจู่ๆ คุณถึงมาหาผมเหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณยุ่งกับงานอยู่เหรอ?”
“ก็ยุ่งนะ แต่ก็ยังมีเวลามาหาเพื่อนสนิทบ้างไง” ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มแล้วบอกว่า “ผมได้ยินว่าคุณวางแผนจะกลับบ้านตอนตรุษจีน ผมก็เลยมาเยี่ยมคุณล่วงหน้าเลย หวังว่าคงจะไม่ได้รบกวนคุณหัวหน้านักออกแบบนะ?”
พอลู่โจวได้ยินคำนั้นจากเพื่อนสนิท เขาก็รู้สึกแปลกๆ
พวกเขาทำงานอย่างสนิทชิดเชื้อกันมาตั้งแต่โปรเจกต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้แล้ว แต่ก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่จากอายุพวกเขาอยู่
เขาก็รู้สึกแบบเดียวกันเวลาเขาคุยกับศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ เหมือนกับว่า พวกคนที่แก่กว่าทำตัวเหมือนลู่โจวอายุเท่ากันกับพวกเขา
ผมยังเด็กกว่าพวกคุณเยอะนะ เข้าใจไหมครับ?
นี่ยังอายุไม่เข้าเลขสามเลย…
ลู่โจวกระแอมและพูดออกมาอย่างสบายๆ ว่า “ไม่เลยครับ ผมยังมีเวลาฉลองวันปีใหม่อยู่”
“ดีเลย เพราะผมก็ไม่อยากมาเพื่อรบกวนคุณทำงานเหมือนกัน ผมลังเลอยู่พักใหญ่เลยก่อนจะตัดสินใจมาที่นี่น่ะ” ผู้อำนวยการวางถ้วยชาลงแล้วมองที่ลู่โจว เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ผมมั่นใจว่าคุณคงรู้แล้วว่าผมมาที่จินหลิงเพราะจุดประสงค์บางอย่าง”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วตอบคำถาม “มีคนบอกผมแล้วล่ะครับ”
ผู้อำนวยการหลี่พยักหน้าแล้วพูดต่อ “โครงการประตูจันทราของสหรัฐได้เริ่มขึ้นแล้ว ตามที่นาซาประกาศมา งบประมาณในโครงการนี้ของพวกเขามีมากกว่าหนึ่งแสนล้านเหรียญสหรัฐ นี่มากกว่าที่คาดไว้ตอนแรกว่าจะราวๆ สองหมื่นหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐมาก
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยในจีนก็ได้วิเคราะห์ว่าแผนของทำเนียบขาวจะไม่ได้ง่ายเหมือนที่พวกเราคิดไว้ จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาคือการรวบรวมพันธมิตรของพวกเขากลับมาผ่านทางการทูตและเศรษฐกิจ เพื่อแบ่งประเทศบนโลกนี้ออกเป็นสองฝ่าย นี่จะคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนสงครามเย็น”
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมสหรัฐอเมริกาถึงทำแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าสหรัฐพยายามจะสร้างสมดุลที่เกิดจากการกลายเป็นผู้นำของประเทศจีนขึ้นมาใหม่
ในที่สุดประเทศจีนก็ได้มีข้อได้เปรียบในสากล เนื่องจากมีพลังงานฟิวชั่นที่ควบคุมได้และเทคโนโลยีทางการบินและอวกาศ นี่จะต้องเป็นการแข่งขันครั้งใหม่ของพวกเขาแน่ๆ ถึงแม้ว่ากลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์จะเร่งเดินหน้าด้วยความเร็วสูงแล้วก็ตาม ลู่โจวก็ยังสัมผัสได้ว่า โฟกัสของทศวรรษหน้าจะเป็นเรื่องของวงการการบินและอวกาศอย่างแน่นอน
ลู่โจวเริ่มใช้ความคิด ในขณะที่ผู้อำนวยการก็พูดอย่างจริงจังต่อไป
“สหรัฐอเมริกาได้เปิดประตูเชื้อเชิญบริษัททางการบินและอวกาศของประเทศจีนให้เข้าร่วมในโปรเจกต์ราคาหนึ่งแสนล้านเหรียญสหรัฐแล้ว คุณคิดว่าพวกเราควรจะส่งความช่วยเหลือทางการบินอวกาศออกไปให้พวกเขาไหม?”
นี่เป็นปัญหาที่น่าสนใจดี
ถ้าพวกเขาตัดสินใจจะส่งความช่วยเหลือออกไป นั่นหมายความว่าสตาร์สกายเทคโนโลยี และบริษัททางการบินอวกาศยักษ์ใหญ่สองแห่งที่รัฐเป็นเจ้าของ จะร่วมก่อสร้างในโครงการประตูจันทราไปด้วยกัน
ลู่โจวคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ถามคำถามออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า “ถ้าหัวเหว่ยมีโอกาสจะขายชิปคอมพิวเตอร์ให้แอปเปิลแล้วล่ะก็ คุณจะหยุดพวกเขาไหมครับ?”
“ไม่หยุดอยู่แล้ว” ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มแล้วอธิบายว่า “ตราบใดที่พวกเขาเต็มใจจะซื้อในราคาที่เหมาะสม พวกเราก็จะทำทุกวิถีทางให้หัวเหว่ยขายชิปพวกนั้นได้”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดต่อ “ใช่ครับ ปัญหาเดียวก็คือ แล้วถ้าแอปเปิลจ่ายราคาที่ไม่เหมาะสมมาล่ะ”
ผู้อำนวยการหลี่เข้าใจแล้วว่าลู่โจวพยายามจะสื่ออะไร เขาพยักหน้า
“ผมเข้าใจที่คุณจะบอกแล้ว”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดต่อ “ประตูจันทราไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของพวกเราหรอกครับ มันก็แค่สถานีอวกาศแห่งหนึ่ง การแข่งขันที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่สถานีอวกาศหรือยานอวกาศ แต่เป็นความสามารถในการส่งสิ่งพวกนั้นขึ้นไปบนอวกาศได้ต่างหาก
ถ้าพวกเราสามารถยึดภารกิจปล่อยยานพวกนั้นมาจากสเปซ-เอ็กซ์ บลูออริจิน โบอิ้ง และอื่นๆ มาได้ พวกเราก็สามารถทำให้การแข่งขันของตลาดอ่อนลงได้ในระยะยาว และขยายช่องว่างที่มีอยู่ให้กว้างขึ้นไปอีก”
ตั้งแต่การเปิดตัวพื้นที่พัฒนาการบินและอวกาศไฮเทคของจินหลิง รวมไปถึงการพัฒนาสะพานนกกางเขนได้เสร็จสมบูรณ์ ทำให้เทคโนโลยีการเดินทางการบินและอวกาศของประเทศจีนขยับไปสู่อีกระดับใหม่แล้ว ค่าใช้จ่ายในการปล่อยยานบินขึ้นวงโคจรของดวงจันทร์ก็มีราคาน้อยกว่าประเทศอื่นๆ อยู่หลักหนึ่งเป็นอย่างต่ำ
นี่หมายความว่าทุกราคาที่สเปซ-เอ็กซ์เสนอมา เทคโนโลยีสามารถลดราคาสิ่งนั้นได้ 10 เท่า
ดังนั้นแล้ว สตาร์สกายเทคโนโลยีก็สามารถขโมยชิ้นส่วนขนาดยักษ์ของสมบัติที่เคยเป็นของบริษัทการบินและอวกาศของสหรัฐอเมริกามาก่อนได้
“…บางทีในอนาคต อาณานิคมของพวกเราในกาแล็กซีอันห่างไกลอาจจะต้องใช้ยานอวกาศของพวกเราในการขนส่งทรัพยากรก็ได้ ต่อให้พวกเขาส่งสถานีอวกาศของตัวเองไปที่ดาวอังคารและส่งชาวอาณานิคมไปสุดขอบระบบสุริยะ พวกเขาก็ยังต้องการความช่วยเหลือของพวกเราอยู่ดีครับ”
ผู้อำนวยการหลี่ยังมีข้อสงสัยนิดหน่อย เขาถามขึ้นมาว่า “แล้วถ้าทำเนียบขาวรู้เรื่องพวกนี้ล่ะ? ทำไมคุณถึงคิดว่าพวกเขากำลังขอให้พวกเราไปทำงานกับโปรเจกต์ประตูจันทราล่ะ?”
“บางทีเพื่อการรักษาความสมดุลในค่าใช้จ่ายล่ะมั้งครับ…ต่อให้พวกเขาอยากให้บริษัทในประเทศมาทำหน้าที่นี้ บริษัทพวกนั้นก็ทำตามที่พวกเขาต้องการไม่ได้อยู่ดี” ลู่โจวตอบด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็พูดต่อ “นี่ดีมากเลย มันหมายความว่า พวกเขาก็รู้ดีว่าพวกเราสำคัญแค่ไหน”
พวกเรากำลังเข้าใกล้การเอาชนะทางอวกาศได้เรื่อยๆ แล้ว…
……………….