ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 885 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบินและอวกาศ
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 885 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบินและอวกาศ
หลังวันปีใหม่สามวัน บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองก็จางหายไปจากจินหลิง คนงานต่างกลับไปทำงานที่เขตอุตสาหกรรมการบินและอวกาศไฮเทค
ประตูของโรงงานหลายแห่งเปิดกว้าง รถบรรทุกขนส่งของหลากหลายขนาดต่างโลดแล่นอยู่บนทางหลวงขนาดใหญ่ รถบรรทุกบางคันจะขนวัตถุดิบ ส่วนคันที่เหลือก็ขนชิ้นส่วนต่างๆ มากมาย รถบรรทุกพวกนี้ก็เหมือนกับเม็ดเลือด พวกมันช่วยลำเลียงสารอาหารให้กับเขตอุตสาหกรรม ทำให้อุตสาหกรรมการบินและอวกาศของประเทศจีนแข็งแกร่งขึ้น
อาคารที่ตั้งอยู่ใจกลางศูนย์อุตสาหกรรมทั้งหมดคือศูนย์ประกอบชิ้นส่วนทางการบินและอวกาศของจินหลิงที่มีเป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
ข้างในโรงงานจะเป็นโครงยานอวกาศที่ทำจากโลหะ มันถูกแยกออกเป็นสามชิ้น
สถานที่นี้เป็นเหมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ โครงเหล็กก็เหมือนโลงศพ มันดึงดูดความสนใจของนักบินอวกาศจากทั่วโลก
บริษัทต่างๆ อย่างโบอิ้ง สเปซ-เอ็กซ์ และแอร์บัส หรือบริษัทอื่นๆ ที่ทำธุรกิจได้ดี ต่างก็เต็มใจจะจ่ายเงินหลักหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้ได้ร่วมมือกับสตาร์สกายเทคโนโลยี เพียงเพื่อจะให้วิศวกรของบริษัทได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมศูนย์ประกอบแห่งนี้
ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติกลุ่มหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างโครงของสะพานนกกางเขน ในขณะที่กำลังกระซิบกระซาบกันและชี้ไปทางนู้นทีทางนี้ทีด้วยความประหลาดใจ
“พระเจ้า…คุณจะวางแผนส่งเจ้านี้ไปอวกาศอย่างไรเนี่ย?”
วิศวกรชาวจีนที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขาไม่ได้ตอบคำถาม เขาแค่ยืนกุมมือไว้ข้างหลังตัวเองเฉยๆ
เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญต่างชาติคนนั้นไม่พอใจ เขาจึงพูดในเชิงยั่วโมโหและประชดประชันเพิ่มว่า
“โครงทรงลูกบาศก์นี้มีข้อบกพร่องหลายจุดเลย คุณเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าเกิดมันชนอุกกาบาตเข้าจะเป็นอย่างไร? แล้วถ้าโลหะพวกนี้เจอปรากฏการณ์เชื่อมเย็นบนอวกาศล่ะ? เครื่องขับดันขนาดใหญ่แบบนี้ต้องทำให้ความเสี่ยงทุกอย่างเพิ่มขึ้นแน่”
วิศวกรที่ใส่หมวกนิรภัยยังคงยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนสุภาพบนใบหน้า ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติแต่ละคนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญต่างชาติไม่สามารถดึงข้อมูลมาจากปากของวิศวกรชาวจีนได้ พวกเขาเริ่มมีทีท่าผิดหวังนิดหน่อยแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญที่ไว้เคราซึ่งเป็นคนที่พูดเรื่องปรากฏการณ์เชื่อมเย็นมาก่อนหน้าก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ เขาพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “บ้าเอ๊ย…นี่คิดจะไม่หือไม่อืออะไรเลยเหรอ?”
ทันใดนั้นเองวิศวกรที่เงียบมานานก็พูดขึ้นว่า
“ไม่มีอะไรให้ต้องอธิบายมาก ยานอวกาศนี้ก็บอกทุกอย่างด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว”
“…”
ผู้อำนวยการหลี่ที่กำลังอยู่ระหว่างการเดินชมโกดังได้มองไปทางกลุ่มผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่ดูผิดหวังแล้วถามผู้ช่วยของเขาว่า “พวกนั้นเป็นใครกันน่ะ? แล้วมาทำอะไรกันที่นี่?”
สกิลภาษาอังกฤษของผู้ช่วยของเขาอยู่ในระดับดีมากทีเดียว เขาจึงอธิบายให้ผู้อำนวยการหลี่ฟังได้ว่า “คนต่างชาติพวกนั้น…เหมือนจะกำลังหาจุดบกพร่องกันอยู่ล่ะมั้งครับ?”
“จุดบกพร่องเหรอ?” ผู้อำนวยการหลี่เลิกคิ้ว เขายักไหล่แล้วบอกว่า “พวกเขายังมีหน้ามาลองหาจุดบกพร่องในนี้อีกเหรอ”
ถ้าเป็นสมัยก่อนเขาคงไม่กล้าพูดอะไรอย่างมั่นใจขนาดนี้ได้ เพราะเมื่อราวสองสามปีก่อน อุตสาหกรรมการบินและอวกาศของประเทศก็ยังไม่ได้แข็งแกร่งมากพอที่จะเมินความคิดเห็นติชมของผู้เชี่ยวชาญต่างชาติได้
แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นประเทศเดียวบนโลกที่มีเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้ และยานอวกาศระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องขับดันพลังไอออน ทำไมพวกเขาต้องมานั่งฟังคำแนะนำของคนอื่นด้วยล่ะ?
น่าตลกเสียนี่กระไร
“สาเหตุหลักที่พวกเขามาที่นี่ก็เป็นเพราะว่าต้องการจะมาเก็บข้อมูลเทคโนโลยีของพวกเราน่ะครับ แต่กลยุทธ์ของพวกเขามันไม่ฉลาดเอาเสียเลย พูดยั่วโมโหพวกเราไปก็ไร้ประโยชน์
โฮ่วกวง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการบินและอวกาศที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงเดินเข้ามาจับมือกับผู้อำนวยการหลี่ด้วยรอยยิ้ม เขาพูดขึ้นว่า “ผู้อำนวยการหลี่ครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์ประกอบทางการบินและอวกาศ พวกเราหวังว่าจะได้คำชี้แนะจากคุณนะครับ คุณน่าจะบอกก่อนว่าคุณจะมา ผมจะได้เตรียมการเอาไว้”
“คำชี้แนะอะไรกัน? ผมก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ให้คำชี้แนะที่มีค่าอะไรไม่ได้หรอก แล้วผมก็ไม่อยากจะรบกวนการทำงานที่นี่ด้วย ผมก็ไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะมา” ผู้อำนวยการหลี่บอกขณะจับมือกับโฮ่วกวง เขากังวลนิดหน่อยเรื่องกลุ่มผู้เชี่ยวชาญต่างชาติพวกนั้น จึงถามว่า “ถ้าคุณรู้ว่าพวกเขามาเพื่อดึงข้อมูลกลับไป ทำไมถึงยังปล่อยให้พวกเขาเข้ามาอีกล่ะ?”
“นั่นเป็นคำขอจากคู่ค้าของเราน่ะครับ พวกเขาอยากเช็กในแน่ใจว่าการรักษาความปลอดภัยในยานอวกาศของพวกเราเป็นไปตามมาตรฐาน พวกเราให้พวกเขายืนอยู่ข้างนอกเฉยๆ ไม่ได้ก็เพราะเรื่องนี้นี่แหละ” โฮ่วกวงยิ้มอย่างนิ่งระหว่างพูดต่อไปว่า “สำหรับเทคโนโลยีไหนที่สามารถทำวิศวกรรมย้อนรอยได้นั้น การแค่มองดูมันเฉยๆ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี เทคโนโลยีหลักของพวกเราอยู่ที่สถาบันการศึกษาขั้นสูง อย่าเพิ่งไปสนเรื่องที่พวกเขาไปที่นั่นไม่ได้เลย ต่อให้พวกเขามาดูพวกเราทำการทดลอง เผลอๆ ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น”
อันที่จริง สิ่งที่โฮ่วกวงบอกอยู่นี้คือสิ่งที่ทำให้เหล่าคู่แข่งหงุดหงิดมากที่สุด
พวกเขาจ่ายเงินไปมาก เพื่อมาดูงานที่นี่ในฐานะของ “การตรวจเช็กคุณภาพของความปลอดภัย” แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นก็มีแค่เศษเหล็กเต็มไปหมดแค่นั้น
ก็จริงอยู่ที่เศษเหล็กพวกนี้เป็นสิ่งมีค่า แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะดึงข้อมูลเรื่องเทคโนโลยีหรือเทคนิคอะไรออกมาได้เลย
สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถสร้างนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้แบบย่อส่วนขึ้นมาได้
ในขณะที่ผู้อำนวยการหลี่มองใบหน้าอิจฉาและแค้นเคืองของพวกผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ เขาก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นคนอื่นพยายามมาขโมยเทคโนโลยีของพวกเรา”
โฮ่วกวงยิ้มแล้วบอกว่า “ใช่ครับ บางทีก็รู้สึกเหมือนฝันไปเหมือนกัน”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญต่างชาติพวกนี้ดูเหมือนนักท่องเที่ยว พวกเขาเดินไปดูตรงนู้นทีตรงนี้ที โฮ่วกวงพักจังหวะไปแป๊บหนึ่งก็พูดต่อ
“จนถึงตอนนี้พวกเรากำลังเสนอราคากับภารกิจวงโคจรขนย้ายของดวงจันทร์น้ำหนัก 500 ตัน ของนาซาอยู่ ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ราคาเสนอของพวกเราน่าจะตั้งต่ำกว่าราคาเสนอของสเปซ-เอ็กซ์อยู่ 20% หลังจากคุยเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญแล้ว นี่เป็นแผนการเสนอราคาที่เหมาะที่สุด ถ้าการเสนอราคาครั้งนี้ประสบความสำเร็จล่ะก็ พวกเราจะได้รับเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐมาในส่วนของรายได้การคมนาคม แต่ว่า…”
ผู้อำนวยการหลี่ “แต่อะไร? นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้วคุณถามผมได้ทุกเรื่องเลย ผมจะพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ”
“ไม่ๆ คุณเข้าใจผิดแล้วครับ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมแค่จะบอกว่าโชคไม่ดีที่นักวิชาการลู่สนใจแต่กับเรื่องคณิตศาสตร์” โฮ่วกวงถอนหายใจแล้วบอกว่า “เอาจริงๆ นะ ผมคิดถึงวันที่ได้ยืนอยู่แนวหน้ากับนักวิชาการลู่ พวกเราจะแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดกัน เขามักจะมอบแรงบันดาลใจให้ผมอยู่บ่อยครั้งเลย”
ผู้อำนวยการหลี่ถอนหายใจแล้วตอบว่า
“พวกเราทำอะไรเรื่องนั้นไม่ได้หรอก นักวิชาการลู่เขาก็มีการเรียงลำดับความสำคัญของเขานั่นแหละ พวกเราจะไปขอให้เขามาช่วยพวกเราตลอดมันก็ไม่ได้”
“คุณพูดถูกแล้วครับ พวกเราไม่ควรเอาแต่พึ่งเขาเลย” โฮ่วกวงพยักหน้าแล้วพูดต่อ “เหมือนพวกเราจะต้องทำให้ดีที่สุดนะครับ นักวิชาการลู่ก็พยายามจนถึงที่สุดในการมอบข้อได้เปรียบนี้ให้พวกเราแล้ว พวกเราควรปล่อยให้มันเสียเปล่า”
ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มแล้วพยักหน้า
“ใช่แล้วล่ะ เดี๋ยวผมไปเดินดูรอบๆ หน่อยนะ ถ้าคุณเจอศาสตราจารย์ลู่ก็ฝากสวัสดีด้วย”
“โอเคครับ” โฮ่วกวงบวกมือแล้วสวมหมวกนิรภัยให้ตัวเอง
หลังจากที่โฮ่วกวงเดินจากไปแล้ว ผู้อำนวยการหลี่ก็มองไปที่สะพานนกกางเขนที่เกือบจะเสร็จแล้ว จากนั้นเขาก็มีทีท่าโล่งใจและปลาบปลื้ม
อุตสาหกรรมการบินและอวกาศของประเทศจีนกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มรูปแบบ ทุกอย่างกำลังเดินไปตามทางที่ถูกต้อง
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นสิ่งนี้ในช่วงชีวิตของตัวเอง
ถึงตายไปก็ไม่เสียใจแล้วล่ะ
…………………