ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 903 ครึ่งที่สาม
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 903 ครึ่งที่สาม
การประชุมเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์นานาชาติกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีก 3 วัน ดังนั้นลู่โจวจึงมีเวลาว่าง 3 วัน
อย่างไรก็ตามลู่โจวมาจากเจียงหลิงแล้วมาที่เจียงเฉิง แล้วจากเจียงเฉิงก็มาที่ปักกิ่ง เขาเดินทางมาอย่างยาวนานและรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
หลังจากที่เขาวางกระเป๋าเดินทางลงที่โรงแรม เขาก็ไม่มีอะไรจะทำ หลังจากอาบน้ำแล้วเขาก็เริ่มอ่านสมุดบันทึกของเขาอย่างเงียบๆ โดยเทียบกับวิทยานิพนธ์ของเวร่าในบางครั้ง
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น เขาก็โทรหาโรงแรมแล้วสั่งรูมเซอร์วิส หลังจากที่เขากินเสร็จแล้ว เขาก็อ่านเอกสารการประชุม อาบน้ำ แล้วก็รีบเข้านอน
ในวันต่อมาลู่โจวตื่นแต่เช้าตรู่และโทรหาหวังเผิงก่อนจะขอให้พาไปยังสวนหยวนหมิงหยวน
ลู่โจวกำลังจะไปมหาวิทยาลัยเยียนจิง แต่เขาเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายแล้วเดินตรงไปยังมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่แทน
พนักงานรักษาความปลอดภัยดูบัตรประจำตัวของเขาและปล่อยให้เขาเข้าไปอย่างสุภาพ
ลู่โจวเดินไปตามทางที่ขนาบด้วยต้นไม้ของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่และเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นวิชาการอย่างเข้มข้นเมื่อเขาเดินไปยังประตูฝั่งตะวันตก
ระหว่างที่เดินอยู่ริมทะเลสาบ เขาก็ได้พบกับคนรู้จักของเขา 2 คนโดยบังเอิญ
ทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง
พวกเขาเป็นผู้นำในแวดวงฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ของจีน
ทั้งสองคนจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณชิว ผู้สร้างการวิเคราะห์เรขาคณิต และคุณหยาง
ลู่โจวอยากจะเข้าไปทักทาย แต่เขาบังเอิญได้ยินทั้งสองคนกำลังหารือเรื่องบางอย่างอยู่ ดังนั้นเขาจึงเดินตามพวกเขาไปและพยายามฟังบทสนทนา
“คุณหยาง ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนั้น คุณหมายความว่ายังไงที่ว่าสิ้นเปลืองเงิน? แล้วคุณจะใช้เงินไปกับอะไร? ในความเห็นของผม นี่เป็นที่ที่เหมาะแล้วที่จะนำเงินมาใช้”
“หึ คุณหมายความว่ายังไง ที่ที่เหมาะสมเหรอ? นี่คุณถามความเห็นจากทุกคนหรือยัง?”
ทันใดนั้นคุณหยางก็สังเกตเห็นว่าลู่โจวเดินอยู่ใกล้ๆ เขาขมวดคิ้วแล้วหรี่ตามองลู่โจว
“นักวิชาการลู่?”
ทันใดนั้นชิวเฉิงถงก็หันหน้ามาแล้วพบกับลู่โจว เขาทักทายลู่โจวด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ นักวิชาการลู่! ช่างบังเอิญจริงๆ ลมอะไรหอบคุณมาที่สุ่ยมู่ล่ะ?
ลู่โจวยิ้มและตอบว่า “ผมมาประชุมที่นี่ครับ ผมก็เลยแวะมาเยี่ยมเยียนที่นี่”
“การประชุมเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์นานาชาติใช่ไหม?” ดวงตาของท่านผู้เฒ่าชิวเป็นประกายขณะที่เขายิ้มและพูดว่า “บังเอิญอะไรอย่างนี้ ผมเพิ่งจะพูดกับคุณหยางเรื่องนี้พอดี เขาจะไม่ยอมรับว่าเขาน่ะผิด ถ้าให้คุณเป็นคนตัดสินหน่อยได้ไหม?”
ให้ฉันเป็นผู้ตัดสินเนี่ยนะ?
ทำไมกัน?
ลู่โจวไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี
คุณหยางเฉินหนิงเหลือบมองชิวเฉิงถง
“คุณหมายความว่ายังไงที่ว่ายอมรับว่าผมผิด? ผมก็แค่พูดเรื่องข้อเท็จจริงกับเหตุผล ผมผิดตรงไหน?
“ประเทศของเรายังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แทบจะยังไม่ได้เข้าไปสู่ขั้นกลาง ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาสำหรับการหลับหูหลับตามองโลกในแง่ดี”
ชิวเฉิงถงพูดอย่างไม่พอใจว่า “ท่านผู้เฒ่าหยาง ผมไม่เห็นด้วยในข้อนั้น ตอนนี้วันเวลามันเปลี่ยนไปแล้ว เงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่เราไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของทั้งโปรเจกต์ แล้วอีกอย่างเราจะสามารถดึงดูดนักวิจัยวิทยาศาสตร์นานาชาติเก่งๆ หลายพันคนให้มาทำงานกับเราได้ เราจะสามารถส่งออกวัฒนธรรมของเราไปยังแวดวงวิชาการนานาชาติได้ และนี่ก็คือสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้!
“ผมขอแนะนำให้คุณไปเข้าร่วมประชุม คุณไม่อยากจะเห็นวันที่เราได้กลายเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของโลกฟิสิกส์เหรอ?”
“โอ้ ไม่เอาน่า คุณเป็นนักคณิตศาสตร์นะ ทำไมคุณไม่ไปกังวลกับนักฟิสิกส์ล่ะ” หยางเฉินหนิงบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจแล้วมองมาที่ลู่โจว
“หัวหน้านักออกแบบลู่ คุณคิดว่ายังไง?”
“หัวหน้านักออกแบบเป็นแค่หน้าที่ และก็ฟังดูจริงจังเกินไปหน่อย โปรดเรียกผมว่า ศาสตราจารย์ลู่เถอะครับ” ลู่โจวกระแอมแล้วพูดว่า “สำหรับความเห็นของผม… คุณชิวก็ได้กล่าวไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาในการประหยัดเงิน อย่างไรก็ตามถ้าคุณอยากจะทำเงินได้ คุณต้องใช้เงินก่อนครับ”
คุณหยางจ้องลู่โจว จากนั้นก็หันไปทางทะเลสาบ ผ่านไปสักพัก เขาก็พูดขึ้นว่า
“ผมเคยเขียนบทความหนึ่งมามากกว่าสิบปีแล้ว ผมยังจำชื่อบทความได้ ชื่อว่า จีนไม่ควรสร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอน ถึงแม้มันจะผ่านมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่ความเห็นของผมก็ยังไม่เปลี่ยน อย่างไรก็ตามตอนนี้พวงมาลัยรถอยู่ในมือคุณแล้ว ผมก็ไม่มีอย่างอื่นจะพูด”
ลู่โจวอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คุณหยางยังพูดต่อไปว่า “ผมไม่อยากจะวิจารณ์ความเห็นของคุณ การหาทางแก้สมการหยาง-มิลส์ เชื่อมต่อแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มกับแรงสนามแม่เหล็กไฟฟ้า… ทั้งหมดนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าคุณเป็นสุดยอดของสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎี เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนอื่นที่สามารถเปิดเผยความลึกลับเบื้องหลังแรงดึงดูดได้… ซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ในศตวรรษนี้”
คุณหยางเมินหน้าจากทะเลสาบแล้วหันมาจ้องลู่โจว
“ผมอายุเกือบจะครบร้อยปีแล้ว ผมไม่ได้ฉลาดเหมือนอย่างที่ผมเคยเป็น ผมถูก PRL ปฏิเสธเมื่อไม่นานนี้ นั่นทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมเริ่มแก่ลงแล้วจริงๆ บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่”
“มันเหมือนกับคุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่”
คุณหยางพยักหน้าให้กับผู้หญิงวัยสี่สิบที่ยืนอยู่ถัดจากเขา เขาเดินจากไปอย่างช้าๆ โดยมีผู้หญิงคนนั้นคอยประคองร่างอันอ่อนแอของเขา
“ชายแก่คนนี้…” ท่านผู้เฒ่าชิวสั่นหัวแล้วพูดว่า “ปกติแล้วเขาจะมาเถียงกับผมอย่างน้อยก็หนึ่งหรือสองชั่วโมง”
แม้ว่าสื่อมวลชนจะแสดงภาพว่าสองคนนี้อยู่ฝ่ายตรงข้ามกันในการสร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนเสมอมา แต่ทั้งสองคนก็มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ค่อนข้างดีต่อกัน ในความเป็นจริงงานวิจัยในเรื่องคาลาบี-เยา แมนิโฟลด์ของท่านผู้เฒ่าชิวเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากในฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์ ทั้งสองท่านได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องวิชาการอยู่บ่อยๆ
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สถาบันวิจัยคณิตศาสตร์ชิวเฉิงถงได้ถูกสร้างขึ้นในบริเวณมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่
ลู่โจวพูดว่า “คุณหยางเพียงแค่เป็นห่วงเรื่องอนาคตของชาติเรา และความกังวลของเขาก็ไม่ได้ไร้เหตุผลครับ”
“ใช่ ไม่เช่นนั้นผมคงจะไม่ถกเถียงกับเขาอยู่นานหรอก” ชิวเฉิงถงพยักหน้าแล้วยิ้มให้ลู่โจว “จะว่าไปแล้ว เงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ คุณจะสามารถรับมือกับความกดดันที่มากขนาดนี้ได้หรือเปล่า?”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า
“คุณชิวครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว
“มันแค่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
“นี่เป็นครั้งที่สามของผมแล้วที่ได้บริหารจัดการโปรเจกต์ระดับนี้”
………………..