ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 942 ไม่มีแม้แต่คนเดียว?
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 942 ไม่มีแม้แต่คนเดียว?
เมื่อลู่โจวมาถึงห้องบรรยาย 1 การรายงานก็เริ่มไปแล้ว
ชายสูงวัยที่สวมแว่นตายืนอยู่ด้านหน้าของจอโปรเจคเตอร์ระหว่างที่กำลังอธิบายถึงสิ่งที่ลู่โจวไม่เข้าใจอย่างช้าๆ
อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่นักวิชาการคนอื่นๆ ก็รับฟังอย่างเงียบๆ
เรื่องนี้ทำให้ลู่โจวนึกถึงการรายงานของเขาเอง เมื่อใดก็ตามที่เขาทำการรายงาน ผู้ชมก็มักจะฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
ดูเหมือนว่าผู้พูดคนนี้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ลู่โจวยืนนิ่งอยู่ได้ไม่นาน เขาก็เจอที่นั่งว่างที่แถวสุดท้ายแล้วเขาก็นั่งลง
อันที่จริงแล้ววิสล์ออกจะพูดเกินจริงไปหน่อย แม้จะมีคนจำนวนมากในห้องบรรยาย แต่เขาก็ยังสามารถหาที่นั่งได้
มีบางคนนั่งอยู่ที่พื้นตรงหน้าห้องบรรยาย และคนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่สวมแว่นตาหนาๆ พวกเขามาฟังการรายงานด้วยความตั้งใจที่จะมาถามคำถาม
หลังจากลู่โจวนั่งลง เขาก็มองไปรอบๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาแก้ไขวิทยานิพนธ์ที่เขากับเสี่ยวถงร่วมกันทำและใช้ความสนใจที่เหลือในการฟังการบรรยายของศาสตราจารย์โจเซฟ
เขาลืมส่วนทฤษฎีของแบบจำลองลู่ บิวลีย์ ไปเกือบหมดแล้ว แม้ว่าแบบจำลองนี้จะดูเหมือนมีความสำคัญในแวดวงเศรษฐศาสตร์ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขา
เขาอ่านงานวิจัยอีกครั้งและกระตุ้นความจำเกี่ยวกับความรู้ของเขาในเรื่องแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่เขาสร้างขึ้นมา
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วการอ่านงานวิจัยขณะที่ฟังการบรรยายไปด้วยเป็นเรื่องที่ยาก
แต่ทว่าลู่โจวถนัดในเรื่องการทำหลายๆ อย่างพร้อมกันและเขาก็ชินกับอะไรแบบนี้
ย้อนกลับไปตอนที่เขาเป็นศาสตราจารย์ที่พรินซ์ตัน เขาจะทำหลายอย่างพร้อมกันและมุ่งความสนใจไปที่สามสิ่งในคราวเดียว
ศาสตราจารย์โจเซฟพูดอยู่บนเวทีอย่างช้าๆ เมื่อเขาเห็นแสงไฟวาบขึ้นมาจากแถวด้านหลัง เขาก็ขมวดคิ้ว
แสงจากโทรศัพท์ของลู่โจวไม่ได้สว่างเป็นพิเศษ และมันก็แทบจะไม่เป็นที่สังเกต
อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ ในห้องบรรยายต่างก็จ้องมองมาที่โจเซฟ ยกเว้นคนเดียวที่มองแต่ที่โทรศัพท์ของตัวเอง แม้ว่าลู่โจวจะนั่งอยู่แถวหลัง แต่โจเซฟก็ยังสังเกตเห็นเขาได้ง่าย
การที่ใครคนหนึ่งใช้โทรศัพท์ในระหว่างการรายงานไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่โจเซฟก็มักจะต่อต้านพฤติกรรมแบบนี้เสมอ เขารู้สึกเหมือนว่าผลการวิจัยของเขากำลังถูกดูหมิ่น
โจเซฟเพียงแต่ขมวดคิ้วและเลิกสนใจสมาชิกผู้ชมที่ขาดความเคารพ
ถ้านี่เป็นการบรรยายของเขา เขาคงจะไล่คนคนนั้นออกไปจากห้องบรรยายของเขาอย่างแน่นอน แต่นี่เป็นการรายงานทางวิชาการ เขาจะไม่ทำให้นักวิชาการคนอื่นๆ เสียเวลาไปกับเรื่องเล็กๆ เช่นนี้…
ลู่โจวไม่รู้เลยว่านักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังรู้สึกเคืองเขา
ถ้าเพียงแต่โจเซฟจะรู้ว่าลู่โจวไม่ได้กำลังเล่นโทรศัพท์ เขากำลังอ่านวิทยานิพนธ์ต่างหาก!
ไม่ว่ายังไงลู่โจวก็ไม่ได้สนใจว่าโจเซฟจะคิดอะไรอยู่แล้ว
อย่างแรกคือเขาไม่ได้อยู่ในสาขาเศรษฐศาสตร์ อย่างที่สองคือมีคนหลายร้อยคนที่ไม่ชอบเขา ดังนั้นจะสนไปทำไมถ้ามีเพิ่มอีกคน…
ลู่โจวอ่านวิทยานิพนธ์จบทั้งในส่วนคณิตศาสตร์และทฤษฎี
ลู่โจวเก็บโทรศัพท์ของเขาเข้าที่ เขาสนใจว่าการประเมินผลใดที่ศาสตราจารย์โจเซฟจะใช้กับแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของเขา อย่างไรก็ตามคำพูดของชายสูงวัยก็ทำให้เขาตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง
“เราทุกคนรู้ว่าแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ใหม่พอควรเพิ่งจะถูกเพิ่มมาในสาขาเศรษฐศาสตร์ ผู้ที่คิดมันขึ้นมาก็คือศาสตราจารย์ลู่โจว ผู้ได้รับเหรียญฟิลด์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี แบบจำลองใหม่ของเขาได้ปรับปรุงแบบจำลองบิวลีย์ ลดจำนวนการคำนวณที่จำเจ และสร้างการคำนวณแบบจำลองที่แม่นยำมากขึ้น…
“ผมไม่ได้ปฏิเสธว่าแบบจำลองทางคณิตศาสตร์นี้ยอดเยี่ยม”
ศาสตราจารย์โจเซฟมองไปรอบห้องบรรยายและพูดว่า “ผมเป็นผู้สนับสนุนทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศใหม่ และผมก็มักจะใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์เพื่อช่วยให้ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ของผมแข็งแกร่งขึ้น ถึงอย่างไรผมต้องกล่าวว่าคณิตศาสตร์เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งสำหรับเศรษฐศาสตร์เท่านั้น เพราะยังไงก็แล้วแต่นี่เป็นการประชุมเศรษฐศาสตร์มหภาคไม่ใช่การประชุมด้านบัญชีและการเงิน”
กลุ่มผู้ชมหัวเราะเบาๆ
คนส่วนใหญ่ชอบมุกตลกของชายสูงวัยคนนี้
นักเศรษฐศาสตร์ใหม่ๆ กำลังเริ่มพึ่งพาคอมพิวเตอร์และเครื่องมือทางคณิตศาสตร์มากขึ้น รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์เกือบจะกลายเป็นรางวัลทางคณิตศาสตร์รางวัลหนึ่ง
สำหรับนักเศรษฐศาสตร์ที่คร่ำครึ การผสมผสานคณิตศาสตร์เข้ามาเป็นสิ่งที่โง่เง่าอย่างแท้จริง
ศาสตราจารย์โจเซฟนิ่งไปครู่หนึ่งและพูดว่า
“เศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับการศึกษาการกระทำเกี่ยวกับเศรษฐกิจของมนุษย์ นั่นก็คือการสร้าง การเปลี่ยนแปลง และมูลค่าการซื้อขาย นี่ไม่ใช่เกมคณิตศาสตร์ เราเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่นักบัญชี
“ถึงแม้รายงานนี้จะมีพื้นฐานมาจากแบบจำลองลู่ บิวลีย์ แต่ผมก็คงจะทำให้หลายคนผิดหวัง” ศาสตราจารย์โจเซฟมองมาที่ครุกแมน ผู้ซึ่งนั่งอยู่แถวหน้า เขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งและพูดว่า “ผมจะมุ่งความสนใจในการรายงานไปที่ข้อบกพร่องของแบบจำลองลู่ บิวลีย์
“ในความเห็นของผม ข้อบกพร่องเหล่านี้ร้ายแรง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงซุบซิบกันในห้องบรรยาย
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของโจเซฟ สีหน้าของลู่โจวก็กลับมาเป็นปกติ
เขาเป็นนักคณิตศาสตร์คนหนึ่ง เป็นคนธรรมดาในสาขาเศรษฐศาสตร์โดยสมบูรณ์ ถ้ามีข้อบกพร่องที่ร้ายแรงจริงๆ เขาก็คงแค่ต้องยอมรับมัน
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ศาสตราจารย์โจเซฟกำลังวิจารณ์คุณค่าทางเศรษฐศาสตร์ของแบบจำลองลู่ บิวลีย์ ไม่ใช่คุณค่าทางคณิตศาสตร์
ดังนั้นลู่โจวจึงไม่สนใจเลย
เขาสามารถจะพูดอะไรก็ได้ที่เขาอยากจะพูด
ลู่โจวพิงหลังกับเก้าอี้และบังเอิญได้ยินบทสนทนาของวัยรุ่นสองคนซึ่งท่าทางจะเป็นนักศึกษาปริญญาเอก
“ศาสตราจารย์ครุกแมนไม่ได้อภิปรายเรื่องแบบจำลองลู่ บิวลีย์ ในงานวิจัยล่าสุดของเขาเหรอ? มันดูเหมือนเขาจะไม่เห็นด้วยกับโจเซฟใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ! ครุกแมนเป็นผู้สนับสนุนคณิตเศรษฐศาสตร์ และเขาก็คิดว่าแบบจำลองเศรษฐศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมจะต้องมีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์… แต่ครุกแมนเองก็ไม่ได้มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์ดีนักหรอก”
“ดูเหมือนว่าการรายงานนี้กำลังจะดูน่าสนใจขึ้นมาแล้ว”
“ใช่ ใช่ ศาสตราจารย์ครุกแมนก็อยู่ที่นี่ด้วย ใช่ไหม?! เป็นไปได้ว่าโจเซฟทำรายงานนี้เพื่อเป็นการตอบโต้วิทยานิพนธ์ของครุกแมน”
“แย่จังที่ศาสตราจารย์ครุกแมนไม่ได้มีอิทธิพลเท่าศาสตราจารย์โจเซฟ!”
ลู่โจวได้ยินบทสนทนาแล้วก็เลิกคิ้ว
ครุกแมนก็อยู่ในห้องบรรยายด้วยเหรอ?
โจเซฟกำลังทำรายงานนี้เพื่อเขาเหรอ?
ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเศรษฐศาสตร์จะถกเถียงเรื่องงานกันอย่างไร แต่ฉันมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้ชักจะน่าสนใจขึ้นมาแล้ว…
ศาสตราจารย์ครุกแมนมีสีหน้าที่นิ่งเฉยมาก
คำพูดของศาสตราจารย์โจเซฟทำให้เขาอับอายอย่างไม่ต้องสงสัย
เสี่ยวถงอดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “ศาสตราจารย์คะ แบบจำลองลู่ บิวลีย์…มีข้อบกพร่องที่ร้ายแรงจริงๆ เหรอคะ?”
“มันก็พูดยาก” ครุกแมนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมไม่คิดว่ามันมีข้อบกพร่องอะไรเลย… แต่โจเซฟค่อนข้างจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแบบจำลองคณิตเศรษฐศาสตร์ บางทีเขาอาจจะค้นพบปัญหาที่ผมไม่เจอก็ได้”
ศาสตราจารย์แองกัสพยักหน้าและเห็นด้วยกับครุกแมน เพื่อนเก่าของเขา
“เราควรจะแค่รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น บางทีมันอาจจะไม่แย่ขนาดนั้น”
ศาสตราจารย์ครุกแมนมีสีหน้าที่เคร่งขรึม
“ใช่ อดทนเอาไว้”
ศาสตราจารย์โจเซฟยังคงพูดต่อไป และเขาได้ใช้ปากกามาร์คเกอร์เขียนส่วนที่สำคัญลงไปบนไวท์บอร์ด
“อย่างที่เราทุกคนทราบ แบบจำลองบิวลีย์เอาชนะข้อบกพร่องของโครงร่างดุลยภาพทั่วไปเชิงสุ่มแบบพลวัตได้ มันได้กลายเป็นแนวทางสำคัญของการวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคทีละน้อย แบบจำลองลู่ บิวลีย์ ได้ทำการปรับปรุง อย่างเช่นการใช้ ‘วิธีตารางกริดภายใน’ สิ่งนี้ได้ลดการดำเนินการที่ยุ่งยาก…
“แต่อย่างไรเสียมันก็ยังลดความแม่นยำของแบบจำลองบิวลีย์ด้วย”
[F (x, y, z) = ag3, 1 + bg3, 2 + cg3, 3 … where x, y, z≥0 …]
[…]
เขายังเขียนบรรทัดการคำนวณลงบนไวท์บอร์ดต่อไป
ศาสตราจารย์โจเซฟหันกลับมาและหันหน้ามาทางห้องบรรยาย
“ถ้าฟังก์ชันอรรถประโยชน์ KPR ถูกนำมาใช้กับสมการ 3 เราจะสามารถเห็นได้ว่ามีปัญหาที่ชัดเจนกับแบบจำลอง
“เหมือนอย่างที่ผมบอก แบบจำลองลู่ บิวลีย์ มีข้อบกพร่องใหญ่ ดังนั้นจึงควรมีการปรับปรุงใหม่”
“การรายงานของผมจบแล้ว ถ้าใครมีคำถามอะไร ถามได้เลยครับ”
ห้องบรรยายเงียบสนิท
จนน่าจะได้ยินเสียงเข็มตกลงบนพื้น
ศาสตราจารย์โจเซฟชำเลืองมองครุกแมน ซึ่งกำลังจ้องอยู่ที่ไวท์บอร์ดด้วยสีหน้าที่สับสนวุ่นวาย
ฉันรู้อยู่แล้ว
ครุกแมนไม่สามารถที่จะไล่ตามคำอธิบายของฉันได้ทันเลย
เขาไม่มีอะไรจะต่อต้านครุกแมน เขาก็แค่ไม่พอใจกับข้อบกพร่องในแบบจำลองลู่ บิวลีย์
เขาคิดว่าอย่างน้อยครุกแมนคงจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ครุกแมนไม่ทำแม้แต่จะถามคำถาม
โจเซฟดูผิดหวัง
ไม่มีคนแม้แต่คนเดียวที่จะโต้เถียงกับฉันเหรอ?!
เขากำลังจะเดินลงจากเวทีในตอนที่เขาเห็นใครบางคนจากแถวหลังยกมือขึ้น
“ผมมีคำถามครับ”
เสียงดังมาจากด้านหลังของห้องบรรยาย…
………………..