ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 944 ทำให้เสร็จเลยก็แล้วกัน
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 944 ทำให้เสร็จเลยก็แล้วกัน
หนึ่งชั่วโมง?!
ลูกศิษย์ของศาสตราจารย์โจเซฟตกใจราวกับเพิ่งเห็นผี
เขาใช้เวลาหลายปีในการวิจัยอย่างเข้มข้นเพื่อให้โหมด Dixit-Stiglitz เสร็จสมบูรณ์กับดิซิทที่เป็นผู้ร่วมงานของเขา เขาเสนอรูปแบบนี้ในวิทยานิพนธ์เรื่อง ‘การแข่งขันแบบผูกขาดและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม’ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ทำให้ทั้งประชาคมเศรษฐกิจถึงกับต้องตกตะลึงเพราะมันทำให้เกิด ‘ทฤษฎีการค้าใหม่’ ทางอ้อมและได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2001 ไป!
ไม่มีใครรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์คณิตศาสตร์มากไปกว่าเขาอีกแล้ว!
โจเซฟทราบดีถึงความยากลำบากในการพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์แบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ได้…
แต่ลู่โจวกลับบอกเขาว่าโมเดลแบบจำลองลู่ บิวลีย์ใช้เวลาทำเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น!
ตลกสิ้นดี!
แม้ว่าเขาจะใช้โมเดลบิวลีย์เป็นพื้นฐาน แต่มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปรับปรุงโมเดลที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมง!
ในหนึ่งชั่วโมง…
คนส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะเข้าใจโมเดลบิวลีย์
“คุณต้องล้อเล่นผมเล่นแน่ๆ …” ศาสตราจารย์โจเซฟพูดขณะที่เขาจ้องไปที่ไวท์บอร์ด
เห็นได้ชัดว่าเขาพูดกับลู่โจว
อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขากลับส่งไปไม่ถึงหูของลู่โจว
เพราะมันถูกกลบด้วยเสียงของผู้คนที่กำลังปรบมืออย่างเกรียวกราว
และคนที่กำลังเขียนสมการอยู่บนเวที…
ที่เขาเดินออกไปนานแล้ว
…
ณ นอกห้องบรรยาย
ลู่โจวปิดประตูข้างหลัง และได้ยินเสียงแห่งความโกลาหลที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
มันค่อนข้างดังจนสามารถได้ยินผ่านกำแพง
“มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
นี่ไม่ได้โกหกนะ แต่แค่ชั่วโมงเดียวจริงๆ
ตอนนี้ลู่โจวไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาจึงพยายามเดินออกจากห้องบรรยายไป
แต่ก็มีหญิงสาวที่มีผมสั้นสีดำและถือสมุดจดอยู่ในมือไล่ตามเขาไป
“ท่านเทพลู่ คุณช่วยมาเป็นที่ปรึกษาให้ฉันได้ไหมคะ!” หญิงสาวพูดอย่างตื่นเต้นขณะที่ใช้ร่างกายขวางทาง
ลู่โจวมองไปที่หญิงสาวและพูดด้วยอาการปวดหัว
“คุณเรียนเศรษฐศาสตร์ใช่ไหม? ผมไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์มากนัก คุณควรหาคนอื่น—”
หญิงสาวก้าวไปข้างหน้าและพูดต่อ
“ฉันรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่คุณทำบนเวทีมากๆ! คุณเปิดโลกของฉันเลยนะคะ! และฉันอยากเรียนคณิตศาสตร์กับคุณ!”
ลู่โจว “…?!”
พูดเรื่องอะไรของเธอเนี่ย…
ลู่โจวรู้ได้ว่ามีคนจำนวนมากกำลังไล่ตามเขา ดังนั้นนี่คือโอกาสของเขาที่จะหลบหนี เขาสูดหายใจเข้าลึกและพูดขึ้น
“ขอโทษที คุณดูเป็นคนดีนะ”
“???”
ลู่โจวรีบเดินหนีผ่านเธอไปทางลิฟต์
เหตุผลที่เขาวิ่งหนึ่งชั่วโมงทุกเช้าก็เพื่อที่เขาจะได้วิ่งเร็วกว่านักศึกษาเศรษฐศาสตร์
“เดี๋ยวก่อน ท่านเทพลู่ อย่าเพิ่งไป!”
ลู่โจวปิดประตูลิฟต์และยิ้มเยาะ
“ช้าไปแล้วล่ะ…”
ประตูลิฟต์ปิดลง
ลิฟต์เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นไป
ตอนนี้คนในลิฟต์กำลังมองหน้ากัน
เกิดอะไรขึ้น?
…
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้เช็กอินที่โรงแรม แต่เขาสามารถเข้าถึงลิฟต์ของโรงแรมได้โดยใช้บัตรเชิญเข้าร่วมการประชุมได้
ลู่โจวเดินไปที่ห้องรับรองพิเศษและแสดงบัตรเชิญของเขาที่แผนกต้อนรับ และไปนั่งที่ริมหน้าต่างหลังชั้นหนังสือ
“อยากดื่มอะไรไหมครับ?”
“ขอกาแฟหนึ่งถ้วย… กับกระดาษเปล่า”
“กระดาษเอสี่ใช้ได้หรือเปล่าครับ?”
“ครับ”
“ได้ครับ”
พนักงานเสิร์ฟหันหลังและเดินออกไป
ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมง คงอีกนานกว่าบุฟเฟ่ต์ของโรงแรมจะพร้อม
ลู่โจวมองโทรศัพท์ของเขาและบ่นพึมพำกับตัวเอง “แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว… มั้ง?”
พนักงานเสิร์ฟกลับมาพร้อมกับกองกระดาษ
“นี่คือกระดาษเอสี่ที่คุณต้องการ แต่สำหรับกาแฟมันต้องใช้เวลาสักครู่ครับ”
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ”
ตอนนี้เขามีกระดาษและปากกาแล้ว
ลู่โจวหยิบปากกาที่ระลึกออกจากกระเป๋าของเขา เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มเขียน
จริงๆ แล้วเขาไม่เข้าใจรายงานทั้งหมดเลยในตอนนั้น
แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์เลยก็ตาม แต่การรวมข้อมูลที่ได้รับจากเสี่ยวถงรวมทั้งเนื้อหาที่ศาสตราจารย์โจเซฟอธิบายไว้ก็สามารถทำความเข้าใจได้อย่างคร่าวๆ ในด้านเศรษฐศาสตร์ของแบบจำลองลู่ บิวลีย์
หลังจากเรียนรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ของแบบจำลองลู่ บิวลีย์ เขาตระหนักว่าศาสตราจารย์โจเซฟไม่ได้ผิดไปทั้งหมด
โจเซฟนั้นถูกครึ่งนึง
สถานการณ์ประเภทนี้พบได้ทั่วไปในการวิจัยคณิตศาสตร์ประยุกต์
บางสิ่งนั้นมันก็ชัดเจนพอสำหรับลู่โจว แต่สำหรับนักวิชาการนอกการวิจัยคณิตศาสตร์สิ่งเหล่านี้กลับไม่ชัดเจนเลย
“… สมมติฐานของศาสตราจารย์ครุกแมนนั้นเป็นความจริง แบบจำลองลู่ บิวลีย์ยังมีช่องว่างที่ต้องปรับปรุงทั้งในด้านคณิตศาสตร์และด้านเศรษฐศาสตร์”
ลู่โจวจำข้อมูลที่เขาได้ยินจากรายงานได้ เขาถือว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ และจากนั้นเขาก็เริ่มเขียนลงบนกระดาษ
ไม่นานกระดาษเอสี่ก็ถูกหมึกของปากกาถมไปจนเต็มทั่วทั้งกระดาษ
ลู่โจวมองดูกระดาษและรวบรวมความคิดของเขา จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ยิ้ม
“ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจ แต่ไหนๆ ฉันก็อยู่ที่นี่แล้ว ทำให้เสร็จเลยก็แล้วกัน…”
…
เมื่อมีคนเข้าสู่สภาวะที่มีสมาธิ เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ไม่นานโทรศัพท์บนโต๊ะก็สั่นขึ้น
เสี่ยวไอ [เจ้านาย มีอีเมลเข้ามา (1 • ᄇ • ) و ✧ ]
ลู่โจววางปากกาลงและมองดูท้องฟ้านอกหน้าต่าง “มาจากศาสตราจารย์ครุกแมนใช่ไหม?”
เสี่ยวไอ [ใช่แล้ว เจ้านาย! เดาได้อย่างยอดเยี่ยม! (・∀・*)]
ลู่โจว “เขาว่าเขียนอะไรในอีเมล”
[เขาถามว่าคุณพอจะมีเวลาทานข้าวเย็นด้วยกันไหม ⊙▽⊙ ]
ลู่โจวจัดกระดาษเอสี่ไว้ในมือ เขาดูหน้ากระดาษที่เขียนไว้ครึ่งหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดสักครู่แล้วพูด
“เขียนตอบกลับเขาให้ที”
“บอกเขาว่าฉันว่างทานอาหารเย็นตอนหนึ่งทุ่ม”
……………………..