ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 953 ผมขอลงทุน!
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 953 ผมขอลงทุน!
ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ
รวมถึงคนอยู่บนเวทีเช่นกัน
“… โปรเจกต์ของคุณน่าสนใจ และผมคิดว่ามันดี”
ทุกคนในห้องประชุมต่างจ้องมองที่ลู่โจว ลู่โจวกำลังจะอธิบายว่าทำไมเขาถึงคิดว่าโปรเจกต์นี้ดี แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็บ่นในใจก่อนจะพูดว่า “ผมคิดว่าพาวเวอร์พอยต์ของคุณน่าสนใจ แต่ห้าล้านดูเหมือนจะไม่เพียงพอ” ลู่โจวกล่าวเสริมต่อว่า “ผมจะลงทุนเริ่มต้นให้สิบล้านเลย”
สิบล้าน!
เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในห้องประชุม
สำหรับนักลงทุนเหล่านั้นสิบล้านไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะน้อยเลยสักนิด
สิ่งที่ทำให้พวกเขาสับสนมากที่สุดคือโปรเจกต์นี้มีมูลค่าถึงสิบล้านได้อย่างไร?
ลู่โจวกลับไปนั่งที่โดยไม่อธิบายอะไรต่อ ผู้ชายที่อยู่บนเวทีก็ต่างพากันงุนงง
ชายคนนี้จะลงทุนโดยไม่ถามคำถามใดๆ เหรอ?
อย่างน้อยเขาก็ควรถามเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทในปัจจุบันไม่ใช่หรือไง?
มันจะได้ให้ฉันได้อ่านพาวเวอร์พอยต์อีกครั้ง…
อย่างไรก็ตาม ลู่โจวไม่ได้ถามคำถามอะไรต่อเลยจริงๆ
หลี่ถิงหุยอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าผู้ชายคนนี้กำลังเล่นตลกกับเขาอยู่หรือเปล่า…
สิบล้านสำหรับโปรเจกต์นี้เนี่ยนะ?
เขาเป็นลูกหลานใครกันเนี่ย?
ผู้จัดการจางจากฉางเจียงที่นั่งอยู่แถวหน้า เมื่อเห็นว่ามีคนเต็มใจที่จะลงทุนในเรื่องไร้สาระนี้ ก็ทำให้เขาขมวดคิ้วและมองไปทางด้านหลังทันที
จากนั้นเขาก็คิดได้ว่าคนที่ยืนแถวหลังนั้นดูคุ้นเคยแปลกๆ
เขาคือใครกัน?
เขามองไปที่ผู้ช่วยของเขาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ตัวเอง
“เสี่ยวหยาง ดูผู้ชายคนนั้นสิ ฉันรู้สึก… คุ้นๆ นะ ”
ผู้ช่วยมองดูลู่โจวครู่หนึ่ง เขาขยับแว่นขึ้นไปที่สันจมูกและดูประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าลู่โจวนั้นดูคุ้นเคยเช่นกัน แต่เขาจำเขาไม่ได้ว่าคนนี้ๆ คือใคร
ไม่นานจู่ๆ ก็มีภาพแวบเข้ามาในความคิดของเขา และดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นขณะพูด
“จาง… คุณจาง…”
ผู้จัดการจางกล่าวทันทีว่า “รู้เหรอว่าเขาคือใคร?”
“เขาคือลู่โจว! นักวิชาการลู่!”
หลังจากได้ยินมือของผู้จัดการจางก็ลอยขึ้นไปในอากาศทันที
“กลุ่มทุนฉางเจียงขอลงทุน!”
แต่เขาช้าเกินไป
เพราะเขาไม่ใช่คนเดียวที่จำลู่โจวได้
“นั่นลู่โจวเหรอ!”
“ไอ้บ้า เขามาทำอะไรที่นี่กันเนี่ย? ฉันไม่รู้ว่าเขาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนี้ด้วย? ฉันเพิ่งได้ยินมาว่าซีอีโอหญิงจากสตาร์สกายเทคโนโลยีมาที่นี่… แต่ทำไมนักวิชาการลู่ถึงมาที่นี่ด้วย?”
“สถานีชาร์จ… นิวเคลียร์ฟิวชัน… ฉันว่าฉันพอจะเดาได้แล้วล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“สตาร์สกายเทคโนโลยีมีแผนพัฒนาเครื่องชาร์จไฟฟ้า! บ้าจริง ฉันไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
มีอีกสามมือที่ชูขึ้นไปในอากาศ
“เฮติเวนเจอร์ยินดีลงทุนห้าล้าน! สิบล้านยังไม่พอ คุณควรตั้งเป้าไปที่ไชน่าโกวเตียนคอเปอร์เรชั่นเสียด้วยซ้ำ เราจะช่วยคุณจัดหาเงินทุนซีรีส์เอ ของคุณให้สมบูรณ์! แต่เราต้องการความยุติธรรมที่มากกว่านี้!”
“ผู้จัดการหยาง ถ้าสิบล้านไม่พอห้าล้านจะทำอะไรได้? เรายินดีลงทุนสิบล้าน! เราแค่ต้องการความเท่าเทียม คุณจะสามารถควบคุมการดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่! และเราสามารถช่วยจัดหาเงินทุนให้กับซีรีย์เอ ของคุณได้เช่นกัน!”
“ยี่ฟางแคปปิตอลยินดีที่สิบห้าล้าน!”
“ฉันก็อยากลงทุนเช่นกัน!”
ห้องประชุมอยู่ในความโกลาหล
วินาทีก่อนหน้านี้ หลายบริษัทคิดว่าโครงการนี้เป็นขยะ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังสู้กับเพื่อหาโอกาสในการลงทุนซะอย่างนั้น
นี่ทำให้เจ้าภาพถึงกับอึ้ง
ไม่มีนักลงทุนคนใดถามคำถามเลยแม้แต่น้อย แต่กลับนำเสนอแนวคิดให้กับผู้ประกอบการ ตั้งแต่การนำบริษัทสู่สาธารณะไปจนถึงการผลิตผลิตภัณฑ์เบื้องต้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าภาพได้เห็นอะไรแบบนี้
ไม่เพียงแค่เขา แต่หลี่ถิงหุยก็สับสนเช่นกัน
ในตอนแรกไม่มีใครวางแผนที่จะลงทุนกับเขาเลยแม้แต่น้อย แถมไม่มีใครถามถึงแผนธุรกิจด้วยซ้ำ ตอนนั้นเขาพร้อมที่จะยอมรับความล้มเหลว แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะคนแถวหลังต้องการลงทุนสิบล้าน
ท่ามกลางนักลงทุนที่ส่งเสียงดัง ในที่สุดเขาก็จำชายที่นั่งแถวหลังได้ว่าคนนั้นๆ คือใคร…
พูดตามตรง หลี่ถิงหุยไม่ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับลู่โจวมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจมาก
แต่เขาก็เคยได้ยินหัวหน้าของเขาพูดถึงลู่โจวเมื่อสองสามปีก่อน…
ย้อนกลับไปตอนนั้นที่เครื่องปฏิกรณ์ผางกู่ยังไม่ถูกสร้างขึ้น และวิชาเอกวิศวกรรมไฟฟ้าก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก ที่ปรึกษาของเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าทั่วไป คำเชิญที่ส่งมาจากสถาบันวิศวกรรม ได้เชิญที่ปรึกษาของเขาไปปฏิบัติภารกิจลับที่ไห่โจว…
ที่ปรึกษาของเขาช่วยสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้เครื่องแรก
หลี่ ถิงหุยไม่ใช่คนเดียวที่ตกใจ
เพราะคนที่เซอร์ไพรส์ที่สุดคือลู่โจว
อะไรเนี่ย ฉันคิดว่าพวกนี้ไม่อยากลงทุนเสียอีก?
ทำไมถึงพยายามที่ขโมยมันไปล่ะ?
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวเจอกับแบบนี้นอกการประชุมวิชาการ…
อันที่จริงสิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท
เพราะยังไงเขาไม่สามารถหาเหตุผลใดๆ ได้เลยว่าทำไมการลงทุนนี้ดีตรงไหน เขาแค่คิดว่าเด็กนั่นทำให้เขานึกถึงตัวเอง เขาจึงตัดสินใจทุ่มเงินให้ก็เท่านั้น
บริษัทจ้งซานซินฉายซึ่งควบคุมโดยสตาร์สกายเทคโนโลยี มีธุรกิจผลิตแบตเตอรี่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว และบริษัทจ้งซานซินฉายก็ทำงานร่วมกับบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่หลายแห่งที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน เขาอาจจะสามารถแข่งขันกับอีลอน มัสก์ในตลาดสถานีชาร์จของกลุ่ม กลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงได้
ในที่สุดเซียงหงฉวน หุ้นส่วนจากกลุ่มทุนจูเจียงที่นั่งถัดจากลู่โจวก็เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เขายิ้มอย่างสุภาพให้ลู่โจว
ไม่มีโอกาสให้ผู้เล่นตัวเล็กๆ อย่างเขาได้คว้าเอาไว้
“อืม… นักวิชาการลู่ สิบล้านเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างใหญ่และมีความเสี่ยงมากเลยนะครับ บางทีคุณควรคิดเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงดูนะ? ”
“เรามีเงินทุนอยู่บ้างนะ บางที… ลองทบทวนดูดีไหม?”
ลู่โจว “…”
ฉันควรจะบอกผู้ชายคนนี้ให้ไปที่อื่นดีไหม?
แต่ฉันว่าฉันควรจะหุบปากเพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของตัวเองสินะ…
……………….