ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 973 จุดพลิกของศาสตราจารย์สแตนลีย์
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 973 จุดพลิกของศาสตราจารย์สแตนลีย์
แม้ว่าแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์จะยังไม่มีอยู่จริง แต่ข่าวของมันก็ทำให้หลายคนกลายเป็นคนตาบอดไปแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเช่นนี้ มันก็ได้ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมและย่อมส่งผลกระทบต่อชุมชนวิชาการด้วยเช่นกัน
บางคนประหลาดใจ บางคนไม่มั่นใจ
บางคนก็ดีใจ บางคนก็โกรธ
สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อเงินทุนวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายพันล้านเหรียญและความสามารถของผู้คนนับไม่ถ้วนในการทำวิทยานิพนธ์สำเร็จการศึกษา
อย่างไรก็ตามโปรเจกต์ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้ถูกตัดออกไป แม้แต่อาจารย์ในสาขานี้ก็ยังประสบปัญหา เพราะนักศึกษาของพวกเขากำลังน้อยลง…
ในการประชุมวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุของอเมริกาเหนือซึ่งจัดขึ้นที่ตัวเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลกได้มารวมตัวกันที่นี่
หัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้จะเป็นงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับวัสดุโมโนเลเยอร์โมลิบดีนัมไดซัลไฟด์ ซึ่งได้รับทุนจาก Microsoft Intel และบริษัทอื่นๆ เนื้อหานี้ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนวิชาการเพื่อให้เป็นวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต
อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่สำคัญกว่าเกิดขึ้น
เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์บดบังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ในระหว่างการรายงานครั้งแรกในการประชุม ศาสตราจารย์สแตนลีย์ได้เดินบนเวทีโดยสวมชุดทักซิโด้ เขาประกาศการถือกำเนิดของยุคแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์ด้วยน้ำเสียงที่เร่าร้อน และโมเลกุลคาร์บอนในกรงของเขาว่ามันช่างน่าอัศจรรย์เพียงใด…
การประชุมวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุในปีนี้เป็นไปอย่างดุเดือด
คนส่วนใหญ่คิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนขี้อวดดี
แม้ว่าจะไม่มีใครโยนรองเท้าขึ้นบนเวที แต่การบรรยายทั้งหมดก็อยู่ในความโกลาหล
คู่แข่งด้านการวิจัยส่วนใหญ่ต่างพากันโกรธจัด และพวกเขาแสดงความโกรธต่อศาสตราจารย์สแตนลีย์
ตัวอย่างเช่น ดร.เคอร์ติส จากห้องปฏิบัติการแห่งชาติอาร์กอน
ด้วยความร่วมมือกับศาสตราจารย์ อามิน สลีหิ โคจิน จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ชิคาโก พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างวิธีการที่ประสบความสำเร็จในการใช้แบตเตอรี่ลิเธียมแอร์เจ็ดร้อยรอบ
และหลังจากแก้ไขปัญหาลิเธียมเดนไดรต์แล้ว พวกเขาก็สามารถเพิ่มจำนวนได้ถึงเก้าร้อย สุดท้ายตอนนี้ตัวเลขนี้อยู่ที่หนึ่งพัน
ถ้าไม่ใช่เพราะโมเลกุลของคาร์บอนที่ถูกขังในกรง พวกมันอาจจะเป็นตัวแสดงบนเวทีแทนไปแล้วก็ได้!
แม้แต่ศาสตราจารย์เคอร์ติสที่ปกติแล้วสงบนิ่งก็ยังเดือดดาลด้วยความโกรธ เคอร์ติสถามคำถามมากมายในระหว่างเซสชันตอบคำถาม ด้วยความหวังว่าจะพบปัญหาเกี่ยวกับโมเลกุลคาร์บอนที่ถูกขังในกรงของสแตนลีย์
แน่นอน เคอร์ติสรู้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากเรื่องนี้…
งานเลี้ยงอาหารค่ำถูกจัดขึ้นที่โรงแรมระดับห้าดาว ถัดจากสถานที่จัดงาน
ศาสตราจารย์สแตนลีย์สวมชุดทักซิโด้ ผมของเขาเป็นมันเงาและสยายไปข้างหลัง เขายิ้มอย่างเย่อหยิ่งต่อคนรอบข้างและแลกเปลี่ยนนามบัตรกับผู้นำในอุตสาหกรรม
รายงานดำเนินไปอย่างน่าอัศจรรย์สำหรับเขา
เนื่องจากลู่โจวไม่ได้มาที่การประชุมเป็นการส่วนตัว ในฐานะผู้ประดิษฐ์วัสดุ เขาจึงเป็นศูนย์กลางของความสนใจ
แม้ว่านักวิชาการคนอื่นๆ จะไม่พอใจเขา แต่ทำไมเขาต้องสนใจด้วยล่ะ?
พวกเขาเป็นศัตรูทั้งนั้น
ลำดับความสำคัญของเขาคือการสร้างเครือข่ายกับผู้นำในอุตสาหกรรมที่ทรงอิทธิพลเหล่านี้ พวกเขาเป็นคนที่จะให้ทุนสนับสนุนการวิจัยของเขาได้ เพื่อนร่วมงานของเขาทุกคนหัวเราะเยาะเขาตอนเขาล้มเหลว
จริงๆ ศาสตราจารย์สแตนลีย์ตาสว่างแล้ว
เขาคิดอย่างรอบคอบว่านอกจากที่ทำให้เขาอับอายแล้ว ลู่โจวก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นอันตราย
สิทธิบัตร?
นั่นก็ยังคงเป็นทรัพย์สินของเอ็กซอนโมบิลอยู่ดี เขาเป็นคนหนึ่งที่ลงนามในข้อตกลงการวิจัยและพัฒนา
จะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับเอ็กซอนโมบิลอย่างนั้นเหรอ?
ชื่อเสียงของเขาในอุตสาหกรรมเหรอ?
เขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากในช่วงหกปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เขากลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจในหมู่บริษัทใหญ่ๆ แล้ว
แล้วเขาจะขุ่นเคืองลู่โจวไปทำไม?
สแตนลีย์ฟังคำชมของผู้คนและมองดูคนที่เคยทอดทิ้งเขาที่ตอนนี้กำลังคลานกลับมาหาเขา เขาอธิบายไม่ได้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหน
คณบดีภาควิชาเคมีที่สถาบันเทคโนโลยีแมซซาชูเซตส์เขาเป็นศาสตราจารย์เก่าที่เคยร่วมงานด้วยกันในด้านแบตเตอรี่ ศาสตราจารย์จับมือแน่นและกล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “ยินดีด้วย ศาสตราจารย์สแตนลีย์! หลังจากที่แบตเตอรี่ลิเธียมแอร์เข้าสู่ตลาด ทางคณะกรรมการรางวัลโนเบลจะต้องพิจารณาคุณและศาสตราจารย์ลู่เพื่อรับรางวัลอย่างแน่นอน… ทำไมคุณไม่มาที่ MIT ดูล่ะ? ผมคิดว่าเราสามารถจัดหาทรัพยากรและสภาพแวดล้อมสำหรับโปรเจกต์ต่อไปของคุณได้แน่! ผมสัญญาว่าคุณจะต้องพอใจมากแน่นอน”
เมื่อศาสตราจารย์สแตนลีย์ได้ยินชื่อศาสตราจารย์ลู่ คิ้วของเขาก็กระตุก
แต่เขาไม่ใช่มือใหม่ในแวดวงวิชาการ
ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะสั่นเทา แต่เขาก็สามารถควบคุมอารมณ์และพูดอย่างอ่อนโยนกับเพื่อนเก่าของเขาได้อย่างปกติ
“ขอบคุณนะ… แต่มหาวิทยาลัยบิงแฮมตันสัญญาว่าจะให้ผมเป็นหัวหน้าแผนกเคมี… ผมไม่มีแผนจะย้ายไปแบบระยะสั้น”
แม้ว่าศาสตราจารย์ MIT จะผิดหวัง แต่เขาไม่มีอะไรจะเสนอให้สแตนลีย์อีก เพราะเขาไม่สามารถมอบตำแหน่งงานให้กับสแตนลีย์ได้
ศาสตราจารย์ MIT พยักหน้าและพูด
“ผมเข้าใจ ผมหมายความว่าสำหรับพวกเราที่เป็นนักวิชาการแล้ว สภาพแวดล้อมที่มั่นคงนั้นมีความสำคัญมากกว่าสิ่งไหน … ก็ถามคุณต้องการมาที่ MIT อย่าลืมติดต่อผมนะ”
สแตนลีย์พยักหน้าเบาๆ
“แน่นอน”
ปกติแล้วเขาจะไม่พูดแบบนี้กับหัวหน้าแผนกเคมีที่ MIT อย่างลวกๆ แบบนั้น เพราะชายคนนี้เป็นกรรมการของสมาคมเคมีอเมริกา
แต่ตอนนี้เขาอยู่ในระดับเดียวกับศาสตราจารย์คนนี้ หรือแม้แต่ระดับที่สูงกว่าแล้ว
ระหว่างที่ศาสตราจารย์สแตนลีย์กำลังสนใจอยู่นั้น ก็มีคนเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงและพบเขาอย่างเร่งรีบ
สแตนลีย์เห็นบุคคลนั้นและพูดด้วยความประหลาดใจ
“วูดส์? เพื่อนรัก… เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน คนที่เฉียบแหลมและสดใสที่สแตนลีย์เคยรู้จักได้เปลี่ยนไปจนดูแก่และทรุดโทรม
“มีบางอย่างเกิดขึ้น” วูดส์สูดหายใจเข้าลึกๆ และมองเข้าไปในดวงตาของศาสตราจารย์สแตนลีย์ในขณะที่เขาพูด “ฟังนะ ก่อนหน้านี้เราเข้าใจผิดไปที่เราตัดโปรเจกต์วิจัยของคุณออกไป แต่ตอนนี้—”
“หยุดตรงนั้น” ศาสตราจารย์สแตนลีย์กล่าว “บอกมาสิ คุณต้องการอะไร?”
“เอ็กซอนโมบิลต้องการให้คุณกลับมา” วูดส์กล่าวอย่างจริงใจ “คุณเป็นผู้ประดิษฐ์โมเลกุลคาร์บอนที่ถูกขังในกรง เราทุกคนรู้ว่าเกียรตินี้ควรเป็นของคุณ ไม่ใช่คนจีนคนนั้น เราต้องการสารประกอบที่คล้ายคลึงกัน บางอย่างที่ไม่ขัดแย้งกับสิทธิบัตรของพวกเขา…”
หลังจากได้ยินวูดส์พูดจบ ศาสตราจารย์สแตนลีย์ก็เงียบไปครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจ
“ยอมแพ้ซะเถอะวูดส์ ผมรู้ว่าคุณไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้นหรอก เขาไม่ใช่ศัตรูของเรา”
วูดส์ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างกังวลใจ
“จะบอกเราจะมองดูพวกเขาขึ้นไปสู่ยอดด้านบน? และควบคุมอนาคตของอุตสาหกรรมพลังงานของเรางั้นเหรอ? โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในแคลิฟอร์เนียกำลังจะถูกสร้างขึ้น แบตเตอรี่ลิเธียมแอร์กำลังจะถล่มตลาด! ทุกคนต้องการพลังงานที่สะอาดและถูกกว่า แต่ลองคิดดูว่าถ้าราคาน้ำมันดิ่งลงจะมีคนตกงานกี่คน! ถ้าเราไม่มีสิทธิบัตรสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์แล้วล่ะก็ เราก็ไม่มีที่ที่จะต่อสู้กลับไปนะ!”
จะเกิดการสูญเสียงานนับไม่ถ้วน…
นั่นเป็นสิ่งที่นายทุนที่โลภต้องการไม่ใช่เหรอ?
แน่นอนว่าสแตนลีย์ไม่เคยคิดที่จะพูดแบบนี้ออกมาดังๆ
ศาสตราจารย์สแตนลีย์หยุดครู่หนึ่งแล้วมองไปที่วูดส์
“ฟังนะ ผมรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรตอนนี้ แต่เราจะทำอะไรได้? สิทธิบัตรระบุข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจน เว้นแต่คุณจะโน้มน้าวให้ลู่โจวขายสิทธิบัตรให้คุณ… แต่คำแนะนำของผมคือลืมมันไปซะเถอะ
“นอกจากนี้ผมก็ไม่รู้ว่าคุณสังเกตเห็นหรือเปล่า แต่ผมทำได้ดีมากในช่วงหกปีที่ผ่านมา เมื่อไม่กี่วันก่อน ผมโกรธและอยากจะบีบคอไอ้คนนั้น แต่ว่าตอนนี้…
“ผมตาสว่างแล้ว”
อันที่จริงสแตนลีย์กลัวมากกว่า
เพราะเขาไม่รู้ว่าลู่โจววางแผนไว้ล่วงหน้าหกปีหรือไม่ แต่เขารู้ดีว่าอาชีพนักวิชาการของเขาเกือบจะพังเพราะลู่โจว
ในที่สุดเขาก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งถึงส่วนใหญ่จะมาจากการค้นคว้าของลู่โจว แต่เขาก็ไม่ต้องการต่อสู้กับลู่โจวอีก
และตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไป
เขาไม่มีเวลาให้เสียอีกแล้วสำหรับหน้าที่การงาน!
ศาสตราจารย์สแตนลีย์ยักไหล่และจ้องไปที่วูดส์
“สำหรับงานที่หายไป นั่นเป็นปัญหาของรัฐสภา ไม่ใช่ของเรา”
วูดส์มองสแตนลีย์ตบไหล่แล้วเดินจากไป สแตนลีย์หันกลับมาและเริ่มพูดคุยกับคนดังในวงการ
วูดส์ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
ทันใดนั้นเขามองลงไปที่พื้น
เขาพึมพำกับตัวเองว่า “รัฐสภา…
“นั่นคือปัญหาของสภาคองเกรส…
“เขาพูดถูก!”
……………………………