ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 976 มาตรฐาน
ณ มหาวิทยาลัยจิน อาคารแผนกคณิตศาสตร์
มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
วินาทีที่ต่อสายโทรศัพท์เสียงที่ไพเราะก็ดังขึ้นผ่านโทรศัพท์ออกมา
“ผู้เฒ่าลู่ พวกที่คุณพามาไม่ใช่คนที่ดีหรอก!”
เมื่อลู่โจวได้ยินคำว่า ‘เฒ่าลู่’ เขาเกือบจะพ่นน้ำในปากออกมา
ลู่โจวพ่นลมหายใจออกมาและรู้สึกว่าน้ำตาของเขากำลังไหล เขาไออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ไม่เรียกผมว่าผู้เฒ่าไม่ได้เหรอ? อย่างน้อยผมก็อายุน้อยกว่าคุณนะ!”
แม้ว่าฉันจะใกล้สามสิบแต่ก็ยังอยู่เลขสองนะ! ฉันแค่ดูโตกว่าอายุเฉยๆ แต่ก็ยัง…
ตลกสิ้นดี!
“ฮ่าๆๆ!” นักวิชาการหวังเจิงกวงยิ้มและกล่าวว่า “คุณเป็นคนขอความช่วยเหลือจากผมให้มาจากปักกิ่งนะ แล้วแค่จะจะตั้งชื่อเล่นให้ก็ไม่ได้หรือไง?”
ลู่โจว “…”
ลู่โจวพูดไม่ออก
คนส่วนใหญ่ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากตำนานอุตสาหกรรมนิวเคลียร์คนนี้ได้ นักวิชาการหวังคงทำประโยชน์ให้ลู่โจวมาก ถ้าไม่นับเรื่องเรียกชื่อเล่นเขา
เมื่อเห็นว่าลู่โจวไม่ตอบสนอง นักวิชาการหวังเจิงกวงก็ยิ้มและพูด
“ผมได้ดูโปรเจกต์เรื่องการชาร์จของคุณแล้ว เทคโนโลยีและการออกแบบมันไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่ แต่ก็น่าสนใจ ผมสับสนเล็กน้อยว่าทำไมคุณถึงเชื่อมต่อเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายกับแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์เข้าด้วยกัน ผมคิดว่าไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกันได้เพราะพวกมันทำงานได้ดีกว่าตอนอยู่เดี่ยวๆ”
ลู่โจว “อันที่จริง… ผมก็ไม่แน่ใจ ผมเป็นแค่นักวิชาการที่ไม่เข้าใจอะไรมากมายนอกวิชาการ แต่ซีอีโอของผมบอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้และผมคิดว่ามันน่าสนใจดีเลยขอความช่วยเหลือจากคุณก็แค่นั้น”
นักวิชาการหวังเจิงกวงกล่าวว่า “เหรอ? แล้วซีอีโอของคุณบอกว่าไงล่ะ”
ลู่โจวยิ้ม
“เพื่อให้เป็นผู้กำหนดมาตรฐาน!”
แม้ว่าแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์จะไม่เกี่ยวข้องกับการชาร์จแบบไร้สาย แต่หากสตาร์สกายเทคโนโลยีได้ควบคุมเทคโนโลยีทั้งสองนี้ได้ก็จะสามารถรวมเทคโนโลยีเข้าด้วยกันและกำหนดให้ใช้ทั้งสองอย่างพร้อมกันได้
ดังนั้นบริษัทอื่นๆ จะมีทางเลือกสองทาง คือ ยอมจ่ายราคาสูงขึ้นหากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน หรือจะประนีประนอมกับสตาร์สกายเทคโนโลยีและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้
มันอาจไม่เป็นประโยชน์ในระยะสั้น แต่เมื่อสตาร์สกายเทคโนโลยีได้เป็นผู้กำหนดมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดเมื่อไหร่…
แม้ว่าจะมีบริษัทที่ต้องการต่อต้านกระแสน้ำ มันก็สายเกินไปที่จะทำเช่นนั้นเสียแล้ว
เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาจะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสิทธิบัตรของสตาร์สกายเทคโนโลยีแน่นอน…
ปลายสายเงียบลง
ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ
“ผู้กำหนดมาตรฐาน? ฟังดูน่าสนใจ” นักวิชาการหวังยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ ผมไม่มีอะไรแล้ว ดังนั้นผมจะช่วยคุณเอง! โอ้ใช่ผมมีมาตรฐานที่สูงนะ หากนักวิจัยบางคนลาออกไปก็อย่าว่ากันนะ”
“ไม่แน่นอน!” ลู่โจวยิ้มและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “พวกเขาสามารถลาออกได้หากต้องการ หาคนมาแทนได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ยังมีคนเหลือแค่หนึ่งเราก็ฝึกฝนพวกเขาให้เป็นผู้นำทางวิชาการและมันจะคุ้มค่า”
หลังจากนั้นพวกเขาคุยกันเล็กน้อยๆ และวางสายไป
ประตูห้องทำงานของหวังก็เปิดออก นักวิจัยวัยกลางคนสวมแว่นเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสาร
“นี่คือแผนที่แก้ไขแล้วครับ” เหยาหงกล่าวขณะที่วางเอกสารลงบนโต๊ะ เขาดันแว่นขึ้นไปที่สันจมูกแล้วพูดว่า “ผมให้พวกเขาทำส่วนสำคัญๆ ใหม่”
หลังจากเหลือบไปเห็นแผนการปรับปรุง นักวิชาการหวังพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ไม่เลว”
นักเรียนของฉันน่าทึ่งมาก แผนมันดีกว่าเดิมมาก
เหยาหงมองไปที่นักวิชาการหวัง ทันใดนั้นก็พูดว่า “ศาสตราจารย์ครับ”
นักวิชาการหวางมองดูนักเรียนของเขาแล้ววางแผนที่แก้ไขแล้วเอาไว้
“มีอะไรเหรอ?”
เหยาหงลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพูดความคิดที่แท้จริงของเขา
“เราควร… ช่วยพวกเขาจริงๆ เหรอครับ?
“สตาร์สกายเทคโนโลยีเป็นบริษัทเอกชน และบี๊บบี๊บชาร์จจิง… เรากำลังช่วยเหลือพวกเขาฟรีๆ อยู่นะครับ”
นักวิชาการหวังมองไปที่นักเรียนของเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณกำลังจะบอกว่าเรากำลังใช้ความไว้วางใจสาธารณะในทางที่ผิดเหรอ?”
เหยาหงพยักหน้า
“แม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้เงินทุนและห้องปฏิบัติการของรัฐ แต่การวิจัยและพัฒนาก็เป็นส่วนหนึ่งของทรัพยากรทางสังคมเช่นกัน”
นักวิชาการหวังขัดจังหวะนักเรียนของเขาและกล่าวว่า “คุณไม่สามารถทำตามกฎอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้ นักวิชาการควรมีความยืดหยุ่น”
“แต่-“
“ถ้าคุณคิดว่าเรากำลังใช้ทรัพยากรทางสังคมในทางที่ผิด คุณเคยคิดบ้างไหมว่าพวกเขาทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง? ใครเป็นผู้สร้างพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้? สตาร์สกายเทคโนโลยีเป็นบริษัทเอกชน แต่คุณเห็นศาสตราจารย์ลู่ถือสิทธิบัตรนิวเคลียร์ฟิวชันหรือไม่?
หลังจากฟังคำพูดของที่ปรึกษา เหยาหงก็พูดไม่ออก
อย่างไรก็ตามเขาไม่ยังไม่ยอมแพ้ ดังนั้นเขาจึงเสริมต่อว่า “แต่… เทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นเป็นผลมาจากความพยายามของทุกคน ดังนั้นสิทธิบัตรไม่ควรเป็นของเขาคนเดียวนะครับ”
“โอ้ จริงเหรอ” นักวิชาการหวังยิ้มและส่ายหัว เขากล่าวว่า “ถ้าเขาไม่กลับมาที่ประเทศจีนและอยู่ที่สมาคมมักซ์พลังค์ คุณไม่คิดว่าเขาจะสามารถสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันในเยอรมนีได้มั้ย? คุณกำลังพูดว่าเราแก้ปัญหานิวเคลียร์ฟิวชั่นแค่พวกเราเองเหรอ?”
“แต่…” เหยาหงพูดอย่างเชื่องช้า “เขาเป็นคนจีน และจีนเป็นบ้านของเขา”
“ใช่ มันเป็นบ้านของเขา”
นักวิชาการหวางพยักหน้าและพูดด้วยความคิดถึง “นี่คือบ้านของเรา เราทุกคนต้องการให้ที่นี่ดีกว่านี้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสละโอกาสเหล่านั้นและกลับมาที่นี่ เขาเดินทางไปกับทีมวิจัยทั่วประเทศและไม่บ่นเลยสักนิด นี่คุณคิดว่าเรากำลังช่วยเหลือเขาอยู่จริงๆ เหรอ?”
นักวิชาการหวังหยุดพูด
เขามองไปที่นักเรียนของเขาและยิ้ม
“นอกจากนี้ ผมเองก็สนใจแผนการของเขาด้วย
“สักวันหนึ่งเราจะกลายเป็นผู้กำหนดมาตรฐานของโลกไป เราจะเป็นราชาแห่งไฟฟ้า ทุกประเทศจะต้องปฏิบัติตามกฎของเรา
“หวังว่าวันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า…”
นักวิชาการหวางเอื้อมมือออกไปและตบไหล่นักเรียนเบาๆ ขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ถ้างั้นก็เลิกพยายามสร้างศัตรูได้แล้ว!
“เราอยู่ทีมเดียวกัน!”
………………….