ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 993 แต่ผมปฏิเสธ!
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 993 แต่ผมปฏิเสธ!
[เพิ่งผ่านศุลกากรมา กำลังจะขึ้นเครื่อง]
[ก่อนอื่นเลยต้องขอแสดงความยินดีกับสตาร์สกายเทคโนโลยีที่หลุดพ้นจากการสอบสวนการผูกขาดตลาดและคดีสิทธิบัตร เราหวังว่าบริษัทของเราจะปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ]
[อีกอย่าง จากที่มีการแสดงความคิดเห็น ผมไม่รู้ว่าคนพากันโกรธเรื่องอะไร คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศปฏิเสธการสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรม แม้ว่าคุณจะทำลายผลประโยชน์ของประเทศเรา แต่ตราบใดก็ตามที่คุณทำตามกฎ เราจะปกป้องสิทธิของคุณ นี่คือจิตวิญญาณของชาวอเมริกา…]
“…หมาบ้าพวกนี้ พูดถึงผมแทบจะทุกบทความ ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับชาติเสียหน่อย…”
ภายในร้านอาหาร ลู่โจวส่ายหัวและสงสัยว่าทำไมคุณลอว์เรนซ์ถึงยังไม่มาเสียที อยู่ดีๆ เขาก็สังเกตเห็นใครบางคนเดินตรงมาที่เขา
อีกฝ่ายสังเกตเห็นเขา เขาเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
ลอว์เรนซ์วางกระเป๋าและนั่งตรงข้ามลู่โจว เขาวางมือบนโต๊ะและพูด “เวลาผ่านไปเร็วมาก นานมากแล้วตั้งแต่คุณออกจากพรินซ์ตัน”
“ใช่ครับ”
แม้ว่ามาตรฐานตะวันตกและเอเชียจะแตกต่างกัน แต่ลู่โจวก็สัมผัสได้ว่าชายคนนี้เป็นคนที่แต่งตัวดี
เดวิด ลอว์เรนซ์
ในที่สุดลู่โจวก็เห็นหน้าของชายชื่อนี้
ในที่สุดลู่โจวก็จำได้ว่าตอนที่เขาเข้าพรินซ์ตันใหม่ๆ ศาสตราจารย์ประวัติศาสตร์แนะนำให้เขาเข้าไอวี่ฟู้ดคลับ
แค่นึกถึงมันเขาก็รู้สึกคิดถึงช่วงเวลานั้น
ลอว์เรนซ์คลั่งไคล้การเงินมาโดยตลอด แต่เขาทำวิจัยเชิงประวัติศาสตร์เพราะแรงกดดันจากพ่อ
แต่ดูเหมือนชีวิตของเขาเองก็ค่อนข้างไปได้สวยตั้งแต่ทำงานด้านการเงิน
หลังจากที่จ้องลอว์เรนซ์สักพัก ในที่สุดลู่โจวก็พูดขึ้น
“คุณเปลี่ยนไปนะ”
ลอว์เรนซ์ยิ้มและตอบ “ทุกคนเปลี่ยนไป คุณก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ จากนักคณิตศาสตร์กลายเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ส่วนผม ผมไม่เคยอยากทำงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เลย แต่”
“ผมหมายถึงคุณดูแก่ขึ้นนะ”
ลอว์เรนซ์แทบสำลักน้ำ เขาวางแก้วลงและไอ
เขาเช็ดปากด้วยกระดาษและยิ้มกระอักกระอ่วน
“ตอนนั้นผมก็อายุยี่สิบปลายๆ แต่คุณไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”
ลู่โจวยิ้มและใส่โทรศัพท์ในกระเป๋า
“ขอบคุณ แต่ผมค่อนข้างประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าคุณจะเรียนประวัติศาสตร์”
“ประวัติศาสตร์เป็นเพียงงานอดิเรกของผม แต่การเงินเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบ” ลอว์เรนซ์ยิ้มและพูด “แน่นอนว่าการอ่านหนังสือพวกนั้นที่ห้องสมุดฟายสโตนช่วยเรื่องอาชีพผมนิดหน่อย”
ลู่โจว “อย่างเช่นอะไร?”
ลอว์เรนซ์ “มันมีคำพูดอยู่คำพูดหนึ่ง ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”
ลู่โจวยิ้มและพูด “ก็ไม่เสมอไปหรอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในสายคณิตศาสตร์ ถ้าต้องการที่จะแก้ปัญหาใหม่ให้ได้ เราจะต้องหาไอเดียใหม่ๆ สรุปไอเดียใหม่จากทฤษฎีเดิม และกระโดดออกจากกรอบความคิดดั้งเดิมถ้าประวัติศาสตร์ช่วยเราได้บ้างก็คงจะดี แต่แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย”
อย่างสมมติฐานของรีมันน์
เขามีเอกสารแทบทุกฉบับเกี่ยวกับสมมติฐานของรีมันน์ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา แต่ไม่มีเอกสารไหนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้
จนกระทั่งเขาได้นำทฤษฎีแมนิโฟลด์อนุพันธ์ไปใช้กับการวิเคราะห์เชิงซ้อนจนทำให้งานของเขาคืบหน้าในที่สุด
นั่นก็คือวิธีการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติก
แต่มันก็ถือว่าเป็นเพียงความคืบหน้าแค่น้อยนิด เขายังมีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ และตอนนี้ยังมองไม่เห็นเส้นชัยเลยด้วยซ้ำ
“โอ้ จริงเหรอ? ไม่แปลกใจเลยที่คณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่น่าหลงใหลสำหรับคุณ”
“ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ…” ลู่โจวยิ้มให้ลอว์เรนซ์และพูด “คุณอุตส่าห์เดินทางมาถึงนี่เพื่อมาเจอผมเหรอ”
“ถ้าจะบอกว่าไม่ก็คงเป็นเรื่องโกหก” ลอว์เรนซ์ยิ้มและพูด “อยากร่วมมือกันไหม”
ลู่โจวไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกว่าชายคนนี้ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ จนทำให้เขาขนลุก
“…ร่วมมือเหรอ ร่วมมืออะไรครับ”
“ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยวิทยาศาสตร์ หรือธุรกิจ เงินก็เกี่ยวข้องกับทุกอย่าง” ลอว์เรนซ์ยิ้มและพูด “อย่างเช่นคุณตั้งใจว่าจะซื้ออีวีโกใช่ไหม”
อะไรวะเนี่ย?
รู้ได้อย่างไรกัน
ลู่โจวมองเขาด้วยความประหลาดใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาไม่รู้ว่าลอว์เรนซ์แค่เดาถูก หรือว่าลอว์เรนซ์รู้เรื่องนี้จริงๆ
แต่ราวกับว่าลอว์เรนซ์มองเห็นความคิดของลู่โจว ลอว์เรนซ์ยิ้มและพูด
“ไม่ต้องประหม่า ผมไม่ได้กำลังทดสอบคุณ ถ้าคุณไม่อยากยอมรับก็ไม่เป็นไร…เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน สมมุติว่าคุณวางแผนจะครอบครองอีวีโกและใช้มันในการแทรกแซงตลาดอเมริกา”
ลอว์เรนซ์กระแอมและพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
“ที่อเมริกาไม่ค่อยมีรถยนต์ไฟฟ้ามากนัก แต่มันก็ยังมีประโยชน์อยู่ โดยเฉพาะหลังจากที่มีสถานีพลังงานฟิวชั่นที่แคลิฟอร์เนีย ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าก็จะสูงขึ้น การจะมีส่วนร่วมในตลาดหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก คุณแค่ต้องลงทุนอย่างฉลาด นักวิเคราะห์ของเราคำนวณแล้วว่าถ้าคุณครอบครอง 80% ของสถานีชาร์จไฟฟ้าทางฝั่งตะวันตก คุณจะต้องใช้เงินอย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์
“มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ผมมั่นใจว่าแม้แต่ธนาคารเองก็ยังต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนที่จะให้คุณยืมเงินมากขนาดนี้ แต่ผมไม่คนเหมือนพวกนั้น เราคือนักลงทุน เราไม่เพียงแค่จัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้กับคุณ แต่เรายังช่วยคุณแก้ปัญหาและช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น”
ลอว์เรนซ์ยิ้มให้ลู่โจว ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
“และนั่นมันยิ่งใหญ่กว่าแค่สถานีชาร์จไฟฟ้า
“กองทุนของบอสตันไฟแนนเชียลกรุ๊ปสามารถช่วยให้คุณกลายเป็นบริษัทไฮเทคอันดับต้นๆ ของโลก ไม่มีใครสามารถหยุดคุณได้ คุณอยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ…”
ลอว์เรนซ์มองไปที่ลู่โจวเงียบๆ ขณะกำลังรอคำตอบของเขา
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ …
20 วินาทีผ่านไป
อยู่ๆ ลู่โจวก็ยิ้มและพูด
“ฟังดูน่าสนใจดีนะครับ”
ลอว์เรนซ์ยิ้มราวกับว่าเพิ่งชนะการแข่งโอลิมปิกมา เขายื่นมือออกไปและพูด
“เรามา…”
ลู่โจว “ไม่ล่ะ ขอบคุณ”
ลอว์เรนซ์ “…???”
……………