ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 132
บทที่ 132 กระหล่ำกลายพันธุ์ที่โตเร็วเวอร์
เมื่อแม่ของเจียงฮ่าวได้เห็นท่าทางของเจียงฮ่าวแล้วก็ราวจะเข้าใจเรื่องราว
กระถางนี้เป็นเธอที่นําออกมาจากห้องของเจียงฮ่าว
ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่นําออกมานั้นมันเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆเพียงเท่านั้น
ใครจะไปคิดว่าเมื่อเธอกลับมาแล้วจะพบกับหัวกะหล่ำอยู่ในกระถางเรียบร้อยแล้ว
นี่ทําให้เธอนั้นรู้แล้วว่าคงไม่มีใครอีกที่คิดจะปลูกหัวกะหล่ำไว้นานบ้านได้อีก
แต่ตอนนี้ทั้งพ่อของเจียงฮ่าวและไซหยวนยังคงนั่งนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง จับจ้องไปยังหัวกะหล่ำตรงหน้า ทั้งสองไม่สนใจว่าเจียงฮ่าวได้กลับมาแล้วด้วยซ้ำ
ทั้งสาวจ้องมองราวกับเห็นผี
และเมื่อได้เห็นท่าทางของเจียงฮ่าวแล้วทําให้รู้ได้ทันทีว่าเจียงฮ่าวนั้นต้องรู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้นกัน
“ฮ่าว เกิดอะไรขึ้น ทําไมอยู่ในกระถางถึงได้มีหัวกะหล่ำนี้ขึ้นมา”
แม่ของเขาถามออกมาอย่างสงสัย
ในทันทีที่แม่ของเจียงฮ่าวถาม ทั้งพ่อและน้องสาวของเขาก็ได้หันควับมาหาเจียงฮาวในทันที
เจียงฮ่าวเองในตอนนี้ก็ได้สติกลับมาแล้ว เขาก็เริ่มใช้ความคิดในขณะมองไปยังกระหล่ำตรงหน้าและพูดออกมา
“…แม่ นี่คือหนึ่งในผักกลายพันธุ์ที่ผมได้เมล็ดมาตอนทํานุ่นทํานี่ฆ่าเวลา”
“มันนั้นสามารถเติบโตได้เร็วอย่างสุดๆ ยิ่งไปกว่านั้นกะหล่ำปลีที่มาจากต้นนี้ยิ่งกินยิ่งสวย
เมื่อพ่อ แม่ และน้องสาวของเขาได้ยิน ทั้งสามตกตะลึงได้ในทันที
พวกเขาต่างก็ตั้งคําถามไว้ในใจว่านี่เจียงฮ่าวเอาเวลาไหนไปศึกษาเรื่องนี้ได้กัน
เป็นตอนนั้นที่แม่ของเจียงฮ่าวเกิดข้อสงสัยขึ้นมาและถามอะไรขึ้นมาบางอย่าง
“ฮ่าว ลูกบอกว่ามันโตเร็วนี่มันใช้เวลาแค่ไหนกัน”
เจียงฮ่าวเองก็นิ่งอึ้งไปอีกครั้ง เขาถึงกับสะอีกในคําถามของแม่ของตน
เขาจําได้ว่าปลูกเจ้าต้นนี้ไปตอนแปดโมงเช้า และตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงเย็น
“น่าจะราวๆหกถึงแปดชั่วโมงนะ”
ทันทีที่สิ้นคําพูดของเจียงฮ่าว ทั้งสามก็ได้บังเกิดเสียงหนึ่งขึ้นมา
“ห้ะ”
สายตาของทั้งสามจับจ้องไปยังหัวกะหล่ำตรงหน้าอีกครั้งด้วยท่าทางตกตะลึง
แม้แต่เจียงฮ่าวเองก็เช่นกัน
ใครๆก็พอจะรู้ว่าปกติแล้วกะหล่ำปลีนั้นมีรอบการปลูกอยู่ที่ห้าสิบถึงหกสิบวัน
แต่ในตอนนี้ รอบการปลูกของเมล็ดกะหล่ำกลายพันธุ์นั้นกับเหลือเพียงแค่หกถึงแปดชั่วโมง
มันร่นเวลาลงมาประมาณสองร้อยเท่าเห็นจะได้
นี่มันน่าสะพรึงเกินไป
ทั้งสามคนในตอนนี้จ้องมองไปยังเจียงฮ่าวราวกับตัวประหลาด
เจียงฮ่าวเองเริ่มอึดอัดในท่าทางของครอบครัวก็ได้เก๊กท่าหล่อตีหน้าเทออกท่าทางและพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย
“ พ่อ แม่ ผมรู้ว่าผมหล่อน่าไม่เห็นต้องมองกันขนาดนั้นเลย ผมก็อายเป็นนะ”
ทั้งครอบครัวในตอนนี้เมื่อโดนล้อเล่นโดยเจียงฮ่าวแล้วทําให้เปลี่ยนท่าทางไปในทันที
“ไอ้ลูกบ้า นี่อาการไม่หนักไปแล้วเหรอเนี่ย”
แม่ของเจียงฮ่าวเอาหลังมือมาแตะหน้าผากของเจียงฮาวก่อนที่จะใช้นิ้วแหกตาของเจียงฮาวขี้
เป็นตอนนั้นที่พ่อของเจียงฮ่าวที่ตั้งสติได้ เขารู้สึกได้ถึงเภทภัยในทันที่จึงได้พูดออกมา
“ฮ่าว มีใครรู้เรื่องนี้อีกรึเปล่า”
คําพูดของพ่อเจียงฮ่าวเองนั้นทําให้ทั้งครอบครัวเกิดความหวั่นไหว
แล้วเจียงฮ่าวนั้นจะไม่รู้ได้ยังไงว่าพ่อของคนกําลังกังวลเรื่องอะไรอยู่
เขาย่อมรู้ดีว่ามนุษย์นั้นน่ากลัวขนาดไหนเมื่อเห็นช่องทางทําเงิน
“พ่อ ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ เจ้านี่ผมเป็นคนปรับปรุงมันขึ้นมาเอง ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ พ่อของเจียงฮ่าวก็เริ่มรู้สึกเบาใจลงมา
เป็นตอนนี้ที่พ่อของเจียงฮ่าวได้มองไปยังคนในครอบครัวทั้งสามคนและพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ที่รัก ฮ่าว ไซหยวน ทุกคนห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครฟังล่ะ”
ทั้งสามคนย่อมเข้าใจความคิดและผลที่ตามมาเป็นอย่างดี นี่ทําให้ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับกันเป็นมั่นเหมาะ
“เอาน่า พ่อ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ตอนนี้เอาเป็นให้ผมลองใช้เจ้านี่ทํากับข้าวให้กินสักจานดูหน่อยแล้วกัน”
เจียงฮ่าวนั้นสัมผัสบรรยากาศอันหนักอึ้งที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี เขาจึงได้ทําการเด็ดหัวกะหล่ำออกมาแล้วพุ่งเข้าครัวไปในบัดดล