ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 159
บทที่ 159 ก็แค่หมาเลียรองเท้า
ที่ข้างๆเจียงฮ่าวนั้น อ้วนน้อยได้มองไปที่หลี่หยวนด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
“ลูกพี่ฮาว ดูเหมือนไอ้นี่จะหาเรื่องมาให้นะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงฮ่าวก็พูดออกมาอย่างไม่แยแส
“ไม่ป็นไรน่า ปล่อยให้เขาก่อเรื่องไปฉันล่ะอยากเห็นจริงๆว่าไอ้หมอนึ่งวดนี้จะมาอีท่าไหนกัน”
ในขณะที่นักเรียนทุกคนกําลังพูดคุยกันในเรื่องนี้ซุนฉีและพวกอีกแปดคนได้เดินเข้ามาจากด้านนอก
ซุนฉีหัวเราะออกมากับพวกพ้องในขณะที่กําลังเดินเข้ามาพร้อมทั้งรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมปรากฎบนใบหน้าในขณะที่ตกอยู่ท่ามกลางสายตาของทุกคนนี้ก็ไม่ได้มีท่าที่ประหม่าเลยแม้แต่น้อยแถมยังทําท่าทางราวกับจะสนิทสนมกับทุกคนอีกด้วย
“โอ้ ดูเหมือนทุกคนจะไม่ต้อนรับพวกเราล่ะนะ”
เป็นตอนนี้ที่หลี่หยวนรีบพูดออกมาเพื่อทําลายบรรยากาศนี้ลง
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน”
“ทุกคน ขอให้ฉันได้แนะนําให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อนนี่คือหัวหน้ากลุ่มซุนเขามาจากกลุ่มหลิวหยุน(เมฆคราม)ส่วนข้างหลังนั่นเป็นพี่น้องทั้งแปดของเขา”
-หลิวหยุน กลุ่มหลิวหยุนงั้นเหรอ
ถึงแม้เจียงฮ่าวจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่เมื่อได้ยินคําว่าหลิวหยุน เขาก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“อ้ะนึกออกแล้ว
“เมื่อวานตอนที่ไปหาของดีที่ย่านของเก่า ไอโจรสี่ตัวที่มาปล้นฉันมันบอกว่าพวกมันอยู่กลุ่มหลินหยุนนี่หว่า
-ก็ว่าอยู่ทําไมถึงคุ้นนัก
เป็นตอนนี้ที่หลี่หยวนที่กําลังแนะนําซุนฉีให้กับทุกคนอยู่นั้น หลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มพูดต่อโดยชี้มาที่เจียงฮ่าวและแนะนําให้ซุนฉีรู้จักด้วยท่าทางที่อยากจะพูดออกมา
“นี่คือบุคคลที่มีชื่อเสียงของห้องเรา”
หลังจากนั้นเขาก็ได้ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยและพูดต่อ
“หัวหน้าห้อง ทําไมนายไม่เป็นตัวแทนห้องชนแก้วกับหัวหน้ากลุ่มซุนสักหน่อยล่ะ”
“หากไม่ใช่เพราะฉันล่ะก็คนอย่างพวกนายไม่มีสิทธิพอที่จะได้รู้จักคนอย่างหัวหน้ากลุ่มซุนหรอกนะ”
หลี่หยวนพูดออกมาด้วยท่าที่โอ้อวดทําให้คนในห้องหลายคนถึงกับต้องขมวดคิ้ว
แต่เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินดังนั้นเขากลับจ้องมองกลับไปยังหลี่หยวนด้วยรอยยิ้ม
เป็นตอนนี้เองที่อ้วนน้อยที่อยู่ข้างเจียงฮ่าวรู้สึกทนไม่ไหวจนต้องตบโต๊ะตรงหน้าก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่หลี่หยวนและพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
“หลี่หยวน วันนี้เป็นงานเลี้ยงของห้องเรานะโว้ย ไม่ใช่งานเลี้ยงส่วนตัวของนาย”
“หากว่านายอยากให้ใครเป็นไปเลียเท้าล่ะก็นายก็ทําไปเองก็แล้วกัน อย่าได้คิดจะให้คนอื่นยอมทําด้วยกําลังแบบนี้”
หลังจากที่อ้วนน้อยพูดจบลง คนที่ไม่ชอบใจในการกระทําของหลี่หยวนก็ได้กล่าวสําทับขึ้นมาในทันที
“ถูกต้องแล้ว อยากทําก็ทําเองสิ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่หยวนที่ได้ยินก็ถึงกับเดือดดาลและได้ชี้นิ้วไปที่อ้วนน้อย
“หวังเสี่ยวหมิง แก..”
ซุนนี้ได้เดินออกมาด้วยรอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้ายังไม่เสื่อมคลาย เขาได้วางมือลงบนบ่าของหลี่หยวนอย่างนุ่มนวลก่อนจะพูดออกมา
“ไม่ดีนะครับนายน้อย คุณไม่ควรจะทําให้เพื่อนเก่าต้องเจ็บตัวนะ”
ในตอนนี้เอง สายตาซุนนี้ได้ตกไปอยู่ที่เจียงฮ่าว
“นี่คงเป็นหัวหน้าห้องเจียงสินะ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้เห็นเจียงฮ่าวชัดๆแล้ว บรรยากาศของเขาก็ได้เปลี่ยนไป
“ฮัม เป็นแก”
“แกใช่ไหมที่บังอาจหักขาพี่น้องสี่คนของฉันเมื่อวานนี้”
เมื่อพูดจบ เขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไม่คิดเลยว่าการมาที่นี่จะได้รับผลตอบแทนที่มากมายขนาดนี้
“ไอ้หนู ส่งเครื่องรางเสือมาซะและให้ฉันหักขาแกสักข้าง แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”
และในตอนนี้ลูกน้องอีกแปดคนก็ได้รุมล้อมเจียงฮ่าวเอาไว้
ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าหลี่หยวนจะสับสนอยู่บ้างที่ซุนฉ่รู้จักกับเจียงฮ่าว
อย่างไรก็ตามเท่าที่ฟังดูแน่นอนว่าสองคนนี้ต้องมีเรื่องขัดแย้งกันมากกว่าที่จะรู้จักกันแบบธรรมดา
นี่ทําให้หลี่หยวนตื่นเต้นจนแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ดี ดี”
“ฆ่ามันให้ตายไปซะ”
ในตอนนี้เองท่าทีของทุกคนในห้องก็ได้นิ่งอึ้งไปในทันที
แต่ในตอนนี้เองพวกเขาก็ได้รู้สึกตัวแล้วว่า นักเลงแปดคนได้รายล้อมหัวหน้าห้องของตน
เหล่าวัยรุ่นเลือดร้อนของเด็กม.ปลายปีสามห้องแปดบางคนได้เริ่มมองหน้ากันก่อนที่จะจับจ้องไปยังซุนฉีและคนอื่นๆ
และนี่ทําให้พวกเขารับรู้ได้ว่าพวกเขากําลังโดนหาเรื่อง
“ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ นั่งลงก่อน”
“พวกนายไม่เห็นหรือไงว่านี่เป็นเรื่องระหว่างหัวหน้ากลุ่มซุนและหัวหน้าห้อง แล้วพวกนายจะไปร่วมวงด้วยทําไม”