ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 167
บทที่ 167 ไม่ใช่หมอแต่ช่วยได้
หลังจากเสียงแหวกอากาศดังขึ้น รถสปอร์ตที่ไกลห่างไปนั้น อยู่ก็เสียหลักและอัดเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
ตามมาด้วยเสียงหวอรถตํารวจที่ดังไม่หยุด
ผู้คนข้างทางที่เห็นฉากนี้ต่างตื่นตกใจและหยุดมุงดู
เจียงฮ่าวไม่แม้แต่สนใจรถสปอร์ดที่ชนเข้ากับต้นไม้จนพังยแม้แต่น้อย เขารีบเดินไปยังทะเลเลือดไม่ไกล
ข้างๆร่างๆหนึ่งที่จมอยู่ในกองเลือด เด็กผู้ชายคนหนึ่งกําลังร้องไห้ลั่น
“คุณพ่ออออ พ่อออ”
รอบกายของเขานั้นมีผู้คนเริ่มดูอยู่โดยรอบ บางคนแจ้งตํารวจ ส่วนอีกหลายๆคนก็ได้ใช้ร่างกายของตนทําตัวเองเป็นกําแพงมนุษย์กันไม่ให้รถผ่านและโบกให้รถเลี่ยงทางไป
ฉากนี้ทําให้หัวใจของเจียงฮ่าวนั้นรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา และนี่เองทําให้เขาบังเกิดความคิดหนึ่ง
ยังมีคนดีๆอยู่ในโลกนี้จริงๆ
โดยไม่ลังเล เจียงฮ่าวฝ่าฝูงชนเข้าไปหาและตรงไปยังร่างของชายวัยกลางคนที่นอนอยู่ท่ามกลางกองเลือด
เขาใช้มือเพื่อตรวจดูว่าชายวัยกลางคนคนนี้ยังหายใจอยู่หรือไม่ เป็นตอนนั้นเองที่เสียงตะโกนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างๆ
“อย่าแตะนะ”
เจียงฮ่าวได้ยกหัวขึ้น ก็เห็นเด็กสาวคหนึ่งที่กําลังอุ้มเด็กน้อยเมื่อครู่อยู่
“นายเป็นใคร”
“นายคิดจะทําอะไรกัน”
“นายเป็นหมอเหรอ ถ้าไม่ใช่หมอก็อย่าได้ก่อเรื่องดีกว่า”
เด็กผู้หญิงคนนั้นแม้จะดูอ่อนแอและบอบบาง แต่เธอก็ยังมีความสามารถพอที่จะก่อกวนและสร้างปัญหาให้กับเจียงฮ่าวได้
ทุกๆคนที่ได้ยินต่างก็หันไปมองเจียงฮาว
เจียงฮ่าวได้มองไปยังหญิงสาวและพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่นุ่มลึก
“ฉันไม่ใช่หมอ”
คําตอบนี้ทําให้บังเกิดคลื่นความคิดหนึ่งขึ้นมาจากคนโดยรอบ
เมื่อเด็กสาวได้ยิน เธอขมวดคิ้วและมองไปยังเจียงฮ่าวได้ท่าทางไม่พอใจ
“ถ้าไม่ใช่หมอก็อย่ามาสร้างปัญหานะ”
เมื่อผู้คนโดยรอบที่ได้ยินแบบนั้นก็เห็นด้วยในทันที
“ไอ้หนุ่มนี่ยังรู้เรื่องไม่สู้เด็กน้อยนั่นเลยจริงๆ”
“สาวน้อยนั่นพูดถูกแล้ว”
“หมอ มีหมออยู่แถวนี้รึเปล่า”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงฮาวก็ได้ขมวดคิ้วก่อนที่จะมองไปยังเด็กสาว
“ถึงฉันไม่ใช่หมอแต่ก็ช่วยเขาได้”
หลังจากเจียงฮาวพูดจบ บรรยากาศผู้คนโดยรอบกลับเงียบงัน ทุกสายตาจับจ้องไปที่เจียงฮ่าวเป็นตาเดียว
ทุกคนในตอนนี้ต่างก็มองไปที่เจียงฮ่าวด้วยความสงสัย
สาวน้อยคนที่กําลังอุ้มเด็กชายอยู่เองก็ถึงกลับขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน
“ถ้าไม่ใช่หมอแล้วนายจะช่วยได้ยังไงกัน”
ถูกแล้ว ไอ้หนุ่ม หยุดมาก่อเรื่องได้แล้ว อีกไม่นานรถพยาบาลก็มาแล้ว
“ด้วยสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ นายกล้าที่จะก่อกวนงั้นเหรอ เดี๋ยวพ่อเตะส่งออกไปซะนี่”
เจียงฮ่าวเริ่มรําคาญเสียงอื้ออึงของผู้คนโดยรอบ
“แล้วคุณเป็นอะไรกับชายคนนี้ จะบอกว่าเป็นเจ้าของชายคนนี้ไง”
คําพูดอันแสนเย็นชาของเจียงฮ่าวนั้นทําให้สาวน้อยถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“นายยย…”
สาวน้อยโกรธจนเริ่มอยู่ไม่สุข
เจียงฮ่าวไม่ได้สนใจไยดีต่อสาวน้อย มองไปยังเด็กน้อยที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ําตาพร้อมกับท่าทางที่รู้สึกราวกับชีวิตจะจบสิ้น
“น้องชายตัวน้อย นายชื่อว่าอะไร”
“นายเองก็ถือได้ว่าเป็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งแล้ว นายมีสิทธิที่จะตัดสินเรื่องในวันนี้ได้”
“ที่นี่ในตอนนี้ไม่มีใครตัดสินใจเรื่องนี้ได้นอกจากนาย”
ในที่สุด เจียงฮ่าวก็ได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกแน่วแน่ และจริงใจ
“ฉัน สามารถช่วยชีวิตพ่อของน้องชายตัวน้อยได้นะ”
คําพูดของเจียงฮ่าวได้ทําให้ผู้คนโดยรอบต่างก็พูดอะไรกันไม่ออก
เมื่อเด็กน้อยได้ยินคําพูดของเจียงฮ่าวว่าสามารถช่วยพ่อของเขาได้ เขาได้รีบหันไปที่เจียงฮ่าวอย่างสะอึกสะอื้น พร้อมกับสายตาวิงวอนร้องขอ
“ผม ผมชื่อเป่าน้อย พี่ พี่ชาย พี่ใหญ่ พี่ช่วยพ่อผมได้จริงๆเหรอ”
เมื่อได้ยินดังนั้น แม้สาวน้อยที่กําลังจูงมือเด็กน้อยเอาไว้ในตอนนี้จะมีท่าที่ร้อนรนอยากจะขัดขวาง แต่เธอก็ทําอะไรไม่ได้ นั่นก็เพราะสิ่งที่เจียงฮ่าวพูดออกมานั้นเป็นความจริง
เธอไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้
เธอทําได้เพียงจ้องมองเจียงฮ่าวเท่านั้น
เจียงฮ่าวไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย เขายังคงมองที่เด็กน้อยด้วยสายตาที่มุ่งมั่นเช่นเดิม
“ใช่”