ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 169
บทที่ 169 เทพเซียนอยากจะเพิ่มความถูก
อย่างไรก็ตาม เมื่อหมอได้ยินสิ่งที่ผู้คนโดยรอบต่างก็พูดคุยไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น…
แม้แต่หมอก็ยังงุนงง
ชายคนที่ว่สามารถรักษาคนที่บาดเจ็บเจียนตายได้ด้วยเพียงการวางมือไว้ที่หน้าผาก
การที่เรื่องน่าเหลือเชื่อแบบนั้นกับปรากฏขึ้นในโลกแห่งความจริงนี่มัน…
นี่ทําให้เขานั้นรู้สึกขึ้นมาว่าโลกที่เขาอาศัยอยู่มากว่าสามสิบปีนี้จะมีเซียนแบบในนิยายแอบซ่อนอยู่
และเมื่อพ่อของเป่าน้อยได้ยินเรื่องราว เขารีบอุ้มเสี่ยวเป่าและเริ่มมองหาเจียงฮ่าว
อย่างไรก็ตาม เจียงฮ่าวนั้นได้จากไปไกลแล้ว
ส่วนเรื่องคนขับรถสปอร์ตคันนั้นจะอยู่หรือตาย เจียงฮาวหาได้สนใจไม่
กับคนแบบนั้นไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
และเรื่องราวที่เจียงฮาวใช้วิธีที่แปลกประหลาดในการช่วยคนนี้ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และ นี่เองก็ทําให้ผู้คนมากมายให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ถือว่าโชคยังดีที่เจียงฮ่าวนั้นไม่ได้ทําให้ตัวเองตกอยู่ในปัญหา
วันถัดมา หลังจากเจียงฮ่าวตื่นขึ้นมาก็พบพ่อของเขากําลังนั่งกินอาหารเช้าระหว่างดูทีวีอยู่
เมื่อเจียงฮาวหันไปดูก็เป็นจังหวะที่สํานักข่าวกําลังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
นี่ทําให้เจียงฮ่าวนั้นเริ่มอยู่ไม่สึกและพยายามจะแอบออกไปอย่างเงียบเชียบ นึกไม่ถึงว่าพ่อของเขากลับถามความเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ฮ่าว ฮ่าวเอ๊ยย บอกพ่อหน่อยสิว่าลูกคิดว่าบนโลกของเรานั้นมีเทพเซียนอยู่รึเปล่า”
“กับคนที่เจ็บหนักขนาดนั้น แต่ชายคนนั้นกลับเพียงใช้มือแตะหน้าผากพักเดียว คนที่ปางตายกลับสามารถแทบจะกระโดดโลดเต้นขึ้นมาได้ฟังดูแล้วน่าขนลุกดีพิลึก”
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินดังนั้น ผมสามเส้นได้เด้งขึ้นประหนึ่งดั่งมีคนตกใจร้อนตัว
เชาไม่คิดว่าการกระทําของเขาจะทําให้พ่อของเขาเริ่มตั้งคําถามเกี่ยวกับโลกนี้
เจียงฮ่าวเองเริ่มใช้ความคิดอย่างหนักก่อนที่จะพูดออกมาอย่างจริงจัง
“ผมว่าไม่น่าจะใช่เทพเซียนอะไรหรอก ชายคนนั้นน่าจะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถแปลกๆที่พอจะช่วยคนได้เท่านั้น ก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะ”
พ่อของเจียงฮ่าวเองก็ตกใจในทันทีที่ได้ยิน และรีบหันไปที่เจียงฮ่าวและถามต่อ
“โฮ่ แล้วลูกรู้ได้ยังไงเนี่ย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงฮ่าวถึงกับพูดไม่ออก แต่ไม่นานเขาก็ตอบได้ทันควัน
“ผมเคยเห็นเหตุที่คล้ายๆกันนี้ตอนดูในมือถือน่ะ”
“โอ”
พ่อของเจียงฮ่าวเชื่อว่าจริงในทันที หลังจากหลอกพ่อสําเร็จ เขาก็ลอบปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วรีบผละไปกินข้าวเช้า
“…”
หลังจากเจียงฮาวกินข้าวเช้าเร็จ เขาก็เริ่มตรวจสอบระบบโดยเริ่มจากดูค่าสถานะของตัวเอง
เมืองที่ค่าต่างๆของร่างกายแล้ว เขานั้นรู้สึกว่ามันไม่ได้แย่แต่อย่างใด นอกจากค่าๆหนึ่งที่ไม่เคยกระดิกเลย แม้แต่น้อยนั้นก็คือค่าความอดทน
เจียงฮ่าวขมวดคิ้วในทันทีและบ่นพึมพําออกมากับตัวเอง
“ตอนนี้ช่างค่าอื่นไปก่อนเลย ทําไมค่าความอึดของฉันมันน้อยขนาดนี้เนี่ย”
“ค่าความอดทนของฉันมันน้อยเกินไปนี่ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของฉันอย่างมาก”
“ก่อหน้านี้ในทุกครั้งหลังจากฉันสู้เสร็จฉันรู้สึกได้ทุกครั้งว่าฉันเหนื่อยหอบเล็กน้อยในทุกๆครั้ง แม้แต่ตอนที่ใช้มีดบินเมื่อวานเองก็ยังทําให้ฉันเหนื่อย”
“ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้สนใจ แต่เมื่อคิดดูแล้วน่าจะเป็นเพราะว่าความความอดทนของฉันที่มันน้อยเกินไป”
“ขนาดผู้ใหญ่ธรรมดามีค่านี้เพียงหนึ่ง แต่ค่าความอดทนของฉันกลับเป็น0.8 นี่หมายความว่าฉันยังอึดสู้ผู้ใหญ่คนเดียวยังไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยจริงๆที่จะเหนื่อย”
เจียงฮ่าวได้ย้อนไปนึกถึงฉากต่างๆที่เขานั้นเคยใช้ทักษะมาก่อนหน้านี้
ในทุกๆครั้งที่เขาใช้ทักษะที่ต้องออกแรงดูเหมือนว่าเขาจําเป็นต้องใช้แรงอึดถึกทนนี้ขึ้นมาอย่างมหาศาล
“แล้วฉันจะเพิ่มค่านี้ได้ยังไงกัน”
เมื่อคิดออกมาแบบนี้ เจียงฮ่าวก็เริ่มคิดจนปวดหัว หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก เจียงฮ่าวก็ได้บ่นพึมพําออกมาอีกครั้ง
“ไม่รู้ว่าถ้าออกไปวิ่งจะช่วยรึเปล่าแหะ”
“แล้วทําไมฉันไม่ลองดูล่ะ”
เมื่อคิดได้แบบนี้ เจียงฮ่าวก็คิดที่จะลอง
หลังจากเปลี่ยนเป็นชุดออกกําลังกายเขาก็ได้ออกไปข้างนอก
เจียงฮ่าวเลือกที่จะวิ่งไปตามถนนในสวน และเขาก็วิ่งไปยาวๆ
หลังจากวิ่งไปได้หนึ่งชั่วโมงเขาก็เริ่มที่จะเดินด้วยท่าทางปลอดโปร่ง
เมื่อเห็นร้านค้าอยู่ข้างหน้าเจียงฮ่าวที่ในตอนนี้เริ่มจะหิวน้ําก็ได้เดินไปด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้า