ระบบรักฉบับเทพบุตร - ตอนที่ 79
ตอนที่ 79 เพียงแค่เดือนกว่า ถ่ายทําไปแล้ว 70%
ซูหยาง เหลือบมองไปที่ไอศครีมบนพื้นหยิบมันขึ้นมาและทิ้งลงในถังขยะอย่างเงียบ
อากาศร้อนมาก แต่หัวใจของ ซูหยาง กลับเย็นชาเพราะเจ็บปวด เขาคิดว่าตัวเองกําลังทําอะ ไรอยู่ และตอนนี้ ซูหยาง นั้นไม่สามารถที่จะทําอะไรเพื่อ เซี่ยหว่านชิว ได้เลย แม้แม้แต่ไอศครีม เขาก็ยังไม่มีช่องว่างที่จะเข้าไปให้กับเธอได้
ในตอนนี้ หลินจิงจิง เดินไปที่ด้านข้างของซูหยาง และยื่นขวดน้ําแร่ให้พร้อมกับเสียงที่ไพ เราะ “ดื่มน้ําไหมคะ”
“ขอบคุณครับ” ซูหยาง พยักหน้าและชําเลืองไปที่ หลินจิงจิง ที่อยู่ข้างๆ เขารู้สึกดีขึ้นมากตอนนี้โลกของเขาไม่เงียบเหงาเหมือนเช่นเมื่อสักครู่
“คุณไม่มีความสุขเหรอ..งั้นให้ฉันร้องเพลงให้คุณฟังเอาไหม?” หลินจิงจิง นั่งข้าง ซ่หยางและเธอมองดูหลินฟ้านและเซี่ยหว่านชิววิ่งเล่นด้วยกันอย่างเงียบ ๆ
“ดีเลยครับ” ซูหยาง พยักหน้า
จากนั้นเธอร้องเพลงโดยมีเนื้อเพลงเริ่มต้นที่บอกว่า” ฉันอยากเจอคุณ.ฉันอยากเจอคุณ.. ฉันอยากเจอคุณ. ” หลินจิงจิงเริ่มร้องเพลง เธอร้องเพลงได้เพราะมากและ ซูหยางก็นั่งฟังการร้องเพลงของหลินจิงจิงอย่างเงียบๆพร้อมกับยิ้ม
“ คุณร้องเพลงได้ดีมากนะครับ” ซูหยาง กล่าวชม
” ขอบคุณค่ะ.งั้นฉันจะไปทํางานก่อนนะ” หลินจิงจิงพยักหน้าอย่างมีความสุขและวิ่งเหยาะๆ
“เธอกําลังจะทําอะไร” ซูหยาง มองไปที่ หลินจิงจิงและกอดขวดน้ําแร่ไว้
หลินจิงจิง ชี้ไปที่ หลินฟ้าน ที่อยู่ในระยะไกล บอกว่า”หลินฟาน ทํางานหนักมากในการถ่าย ทําเธอจะเอาน้ําแร่ให้เขาด้วยเช่นกัน และก็จะซื้อไอศครีมให้เขาอีกชิ้นซ่หยาง ต้องการด้วยไหม”
ซูหยาง เหลือบมองตัวเองอย่างเงียบ ๆ เขามองไปที่ หลินจิงจิง อีกครั้งพร้อมกับขวดน้ําแร่ใน มือของเขาและส่ายหัว
เมื่อเห็น หลินจิงจิง ถือน้ําแร่ไปที่ข้าง ๆ ของหลินฟาน อย่างเร็วและบอกว่าเขาจะซื้อไอศค รีมให้ หลินฟานซ่หยาง ก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่เรียกว่าหัวใจของเขาอีกครั้ง
เมื่อ หลินจิงจิง เดินไปข้างๆเขา เขาก็มีจินตนาการอยู่พักหนึ่ง ว่าบางทีเขาควรจะถนอมน้ําใจ คนตรงหน้าเขา
จากนั้นคนตรงหน้าเขาก็กอดน้ําแร่จํานวนมากเพื่อวิ่งไปหาหลินฟาน
ซูหยาง ทรุดลงจริงๆในครั้งนี้
“เกิดอะไรขึ้นกับสเน่ห์ของฉัน”
ปรากฏว่าที่ หลินจิงจิง เอาน้ําแร่มาให้เขานั้นเพียงเพราะว่าเป็นทางผ่านก่อนจะไปที่ หลินฟ้าน
สําหรับการร้องเพลงเธอก็แค่อยากจะร้องเพลงเท่านั้น แต่ ซูหยาง ถึงกับคิดว่าตอนนี้เธอชอบซ่หยาง
ตอนนี้เขาได้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขาแล้ว ซูหยาง ก็เข้าใจความหมายของคําว่าไร้ค่า
เขาอยากกินไอศครีมด้วย แต่ทําไม หลินจิงจิง ไม่ซื้อไอศครีมให้เขาบ้างล่ะ
ในอีกด้านหนึ่ง หยางชิง วิ่งไปหา หลินฟาน และ เซี่ยหว่านชิว
หยางชิง รู้สึกกังวลเล็กน้อย
เซี่ยหว่านชิว อยู่ภายใต้สังกัดของ เยื่นหัว กรุ๊ป และยังเป็นเทพธิดาในใจของหลาย ๆ คน
ไม่จําเป็นต้องบอกก็ว่ามีแฟน ๆ ของ เซียหว่านชิว จํานวนมากแค่ไหนบนอินเทอร์เน็ต แม้แต่คนในวงการบันเทิงหลายคนก็ชอบเซียหว่านชิว
รูปลักษณ์ นิสัยใจคอและบุคลิกของ เซี่ยหว่านชิว นั้นดูดีมาก
ยิ่งไปกว่านั้นภูมิหลังครอบครัวของ เซี่ยหว่านชิว นั้นเรียบง่ายและโดยปกติแล้วเธอจะใช้ชีวิตอย่างประหยัดเรียบง่ายและสวยงามและมีหลักการของตัวเองเธอไม่เคยเล่นฉากจูบซึ่งทําให้นักแสดงคนอื่นชอบเธอมากขึ้น
“หว่านชิว นี่ยังอยู่ในสังกัด ควรใส่ใจกับภาพลักษณ์ด้วย คุณต้องการรักษาระยะห่างกับคนอื่น และคุณไม่ควรตัวติดกันได้ทุกวัน” หยางชิง พูดอย่างเคร่งเครียด
ถ้าหากละครเผยแพร่แล้ว แทบจะไม่จําเป็นต้องอธิบายว่าทําไมทั้งสองคนถึงอยู่ด้วยกันทุกวันนั่นด้วยเหตุผลของการแสดง ต้องพูดคุยกันเรื่องบท
แต่คนที่เห็นกันอยู่ก็ไม่โง่ ตอนนี้ทุกคนเห็นแล้วความสัมพันธ์ระหว่าง หลินฟ้าน และ เซี่ยหว่านชิว นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ
” หลินฟาน คุณก็เหมือนกันแม้ว่าคุณต้องการจะแสดงความรู้สึกจริงของคุณ คุณก็ควรต้องยับยั้งชั่งใจบ้าง “ หยางชิงกล่าว เธอเป็นเพียงผู้จัดการส่วนตัวและเธอก็ไม่ได้ กล้าพูดมากเกินไป
เมื่อ เซี่ยหว่านชิว ได้ยินคํานั้น ใบหน้าสวยของเธอก็แดงระเรื่อและปกป้อง หลินฟาน เธอดูดุดันขึ้นมาทันที
“ฉันไม่มีอะไรอย่างที่เธอว่านะ.เรากําลังคุยกันเรื่องบทจริงๆ” เซี่ยหว่านชิว กล่าวและริเริ่มที่จะปกป้อง หลินฟาน
“คุณ หยางชิง พวกเรากําลังคุยบทกันอยู่จริง อากาศร้อนเกินกว่าจะจีบสาว ๆ ได้และแค่การกินไอศครีม ด้วยกันคงไม่เป็นไร มันทําให้อุณหภูมิเย็นลงได้” หลินฟาน ยิ้ม
“เอาล่ะ …. พวกคุณระวังอย่าไปไกลเกินไปถ้าไม่มีอะไรจริงๆ .. กลับไปที่ห้องด้วยล่ะ” หยางชิงถอนหายใจนี่ก็เป็นความหนักใจของเธอเช่นกัน
“ตอนนี้คุณไม่สามารถตื่นขึ้นมาพร้อมกัน และอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนได้นะ”
หลังจากที่ หยางชิง พูดจบเธอก็ออกจากที่นี่
เธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป เธอก็หมั่นไส้ในความปากแข็งและดื้อรั้นของทั้งสองคนนี้ได้
แต่เหตุผลหลักก็คือทักษะการแสดงของ หลินฟ้าน และ เซี่ยหว่านชิว นั้นดีมากจนไม่สามารถจับผิดได้และพวกเขาก็ยอมที่จะทําตาม
ในหนึ่งเดือนถัดไป
การถ่ายทําของ ซิ่วหยู่เหนียน ดําเนินไปอย่างเป็นระเบียบและขั้นตอนการถ่ายทําทั้งหมดก็เป็นไปอย่างราบรื่น
นักแสดงนําเกือบทั้งหมดของ ซิ่วหยู่เหนียน เป็นนักแสดงที่มีความสามารถและมีนักแสดงละครรุ่นเก่ามากมายที่จะเข้าร่วมแสดง
รูปแบบที่น่าสนใจของละครทั้งเรื่องพุ่งขึ้นพร้อมกัน
นอกเหนือจากการแสดงระหว่าง หลินฟาน และ เซี่ยหว่านชิว รวมถึงบทที่สมบูรณ์ หลินฟานยังช่วยผู้กํากับ ลู่เปไก่ ได้มาก และความเร็วในการถ่ายทําละครก็เร็วมากเช่นกัน
คนที่งานเยอะที่สุดคือ เซียหว่านชิว และ ซูเสี่ยวหยู พวกเธอจะใช้เวลาในการบันทึกรายการวาไรตี้” เลทส์ รัน”
และมากกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาละครก็ถูกถ่ายทําเกือบตลอดเวลา
ขั้นตอนการถ่ายทําทั้งหมดราบรื่นเป็นพิเศษและอีกไม่กี่วันก็คงสามารถปิดกล้องได้จริงๆแล้ว
ในช่วงเวลานี้ ลู่เบ่ไก่ ก็ชื่นชม หลินฟาน และยอมรับความสามารถของเขาอย่างสมบูรณ์
“โอเค…การถ่ายทําสิ้นสุดลงแล้ว”
“ถ่ายทํามานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วและฉันไม่ได้ถ่ายทําฉากของ หลินฟาน อีกเลย เกือบทั้งหมดผ่านไปด้วยการถ่ายเพียงครั้งเดียว การแสดงครั้งนี้ของทุกคน … เป็นไปอย่างสมบูรณ์ แบบ” สู่เบ่ไก่ กล่าว ด้วยรอยยิ้ม
ครูเฉิน พยักหน้าและกล่าวว่า: “ฉันได้ร่วมงานกับนักแสดงมากมาย ทักษะการแสดงของนักแสดงใหม่อย่าง หลินฟ้าน และสเน่ห์ของเขาเองก็แข็งแกร่งมาก นี่เป็นละครทีวีเรื่องแรกของหลินฟ้าน ถ้าถ่ายทําละครอีกสองสามเรื่องความนิยมของคุณ อาจจะยิ่งใหญ่กว่านี้มากและยังเหนือกว่าคนรุ่นเก่า ๆอย่างเราด้วยซ้ํา”
หลินฟาน ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มะ” ครูเฉิน และ ครูอู่ ต่างก็เป็นครูของผมทั้งคู่ ยังมีบางอย่างที่ผมอยากเรียนรู้จากคุณอีกมากเลยครับ”
เมื่อได้ยินคําพูดเช่นนี้ ครูเฉิน ก็ยิ้มเล็กน้อยเช่นทักษะการแสดงของ หลินฟาน นั้นดีมากแข็งแกร่งมาก แต่มีนักแสดงใหม่ น้อยคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนแบบนี้
ในอดีต ครูเฉิน ไม่เคยเห็นนักแสดงหนุ่มบางคนในสายตาเลย เนื่องจากนักแสดงหนุ่มเหล่านี้ไม่ยอมทนกับความยากลําบาก พวกเขาต้องหยุดงานด้วยเหตุผลเล็กน้อยและไม่ค่อยรับผิดชอบใน การจําบท ทั้งที่พวกเขาควรจะทุ่มเทกับการแสดง
จึงมีผลงานในซีรีส์ทีวีและภาพยนตร์น้อยมาก ที่จะแซงหน้าฮอลลีวูดไปได้ ด้วยสภาพที่เป็นอยู่ของการพัฒนาดังกล่าวในประเทศจีนแสดงละครเก่าเหล่านี้สามารถบอกถึงความผิดพลาดหลาย ๆอย่างที่เป็นผลมาจากนักแสดง
แต่ตอนนี้การปรากฏตัวของ หลินฟาน ทําให้ครูเฉิน มีความหวังมากขึ้นเล็กน้อยแล้ว
บางทีในอนาคตการพัฒนาอุตสาหกรรมศิลปะการแสดงของประเทศทั้งหมด จะออกมาจากความสามารถอย่างของ หลินฟาน ไม่ได้
หลังจากถ่ายทําไปนานแล้ว ประธานหลี่ จาก เยื่นหัว กรุ๊ป ก็ได้ติดต่อกับผู้กํากับ ลู่เบ่ไก่
“การถ่ายทําเป็นอย่างไรบ้าง หลินฟาน เป็นเด็กใหม่ยังไม่มีวุฒิภาวะพอในการแสดงและอาจพบปัญหาบางอย่างในระหว่างการถ่ายทําคุณต้องรอนานมากใช่ไหม เรามีเวลาสี่เดือนในการถ่ายทําดังนั้นเอาง่ายๆไว้ก่อนก็ได้ ” ประธานหลี่กล่าวทางโทรศัพท์
ลู่เบ่ไก่ ยิ้มและส่ายหัวและกล่าวว่า ”ประธานหลี่ คุณไม่รู้เหรอว่าทักษะการแสดงของ หลินฟ้านเอาชนะทุกคนในทีมงานของเราได้อย่างแท้จริงเลย แม้แต่นักแสดงเก่าสองคน ก็พูดถึง แต่หลินฟ้าน ชื่นชมเขา และพูดตามตรงผมรู้สึกว่าหน้าที่ผู้กํากับของผมไม่มีประสิทธิภาพเท่า หลินฟ้าน
ในระหว่างการถ่ายทําทั้งหมด หลินฟาน มักจะช่วยฉันชี้ปัญหาบางอย่าง เขามีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกํากับมากกว่าของผม”
” ขั้นตอนการถ่ายทําค่อนข้างราบรื่นแทบไม่ต้องถ่ายใหม่ เราใช้เวลาเพียงเดือนกว่าเราถ่ายทําไปแล้ว 70% ของบท แต่เดิมคิดว่าจะใช้เวลานาน ส่วนใหญ่เป็นเพราะทักษะการแสดงของหลินฟาน นั้นดีมาก แน่นอนว่าครั้งนี้นักแสดงทุกคนก็เก่งมากเช่นกัน” ลู่เบไก่กล่าว
ประธานหลี่ ถือโทรศัพท์มือถือของเขาและฟัง ลู่เปไก่ สรรเสริญ หลินฟาน มากจนเขาเองก็ตะลึงไปแล้ว
นอกเหนือจากการเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์หลักแล้ว หลินฟาน ยังมีทักษะการแสดงที่ดีอีกด้วย ที่สําคัญคือ หลินฟาน เก่งกว่าผู้กํากับอย่าง ลู่เบ่ไก่ และความคืบหน้าของการถ่ายทํานั้นรวดเร็วมาก
ประธานหลี่ ตกใจมาก
หลินฟาน น้องใหม่ในวงการบันเทิงมีความสามารถสูงขนาดนี้ได้อย่างไร มันดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินไป ที่ในชีวิตคน คนหนึ่งจะเก่งและสมบูรณ์แบบได้มากขนาดนี้ ประธานหลี่ เริ่มสงสัย ถึงความน่าทิ้งที่ออกมาจาก หลินฟาน ได้ตลอดเวลาตั้งแต่เขาเริ่มรู้จักกัน บางที่อาจมีอะไรมากกว่าที่ ทุกคนรู้ก็เป็นได้