ระบบรักฉบับเทพบุตร - ตอนที่ 85

ตอนที่ 85 งานเลี้ยงปิดกล้องและอาหารของหลินฟาน

ตอนนี้ เซียหว่านชิวโกรธและกําลังทําหน้างอเต็มที่แล้ว

“คุณจูบผมจริงๆ เหรอเนี่ย ผมแค่พูดตลก ๆ” หลินฟาน ยิ้มเขินที่ได้จูบจากผู้หญิงสวย ๆ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ใช่ เซี่ยหว่านชิว ที่มาจูบเขา

“หว่านชิว ฉันผิดไป เซี่ยหว่านชิว ด้วยสีหน้าเสียใจ”

“หลินฟ้าน นายนั่นแหละที่ผิด แล้วทําตามที่พูดด้วย ถ้าจําไม่ผิดเมื่อกี้มันเป็นจูบแรกของเสี่ยวหยู” เซี่ยหว่านชิว มองไปที่ ซูเสี่ยวหยู เธอรู้ว่า ซูเสี่ยวหยู เป็นผู้หญิงแบบไหนแม้ว่าเธอจะ โกรธมากก็ตาม เธอจูบทุกคนไม่ได้คิดอะไรมาก

ถ้าเธอแสดงตัวว่าโกรธที่นี้มันจะไม่ทําให้คนอื่นคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ หลินฟ้าน มีมากกว่านี้

“อา …. อาจารย์คุณนี่เลวเกินไปแล้ว!” ซูเสี่ยวหยู โยนความผิดให้ หลินฟ้าน ทันที

หลินฟาน: “ผมเหรอ???”

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ทําอะไรเลย

แม้ว่าจะเป็นการจูบ แต่ ซูเสี่ยวหยู ก็เข้ามาจูบเขาเอง

* ไม่เป็นไรฉันจะคุยกับผู้กํากับลู่และจะทําอาหารมื้อใหญ่ให้พวกคุณในคืนนี้” หลินฟานยิ้ม และเดินก้าวไปข้างหน้าแตะศีรษะของ เซียหว่านชิว เบา ๆ แล้วหันไปทางซ้าย

หลินฟ้าน รู้ว่าชีวิตที่สงบสุขก็ควรจะจบลงแล้ว

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฉันสามารถสนุกได้หลังจากวันนี้ก็ยังมีงานใหม่ที่ต้องทํา

ตลอดเดือนที่ผ่านมาแม้ว่าฉันจะถ่ายทํา แต่ฉันก็ไม่มีสิ่งรบกวนใด ๆ การถ่ายทําดําเนินไปอย่างราบรื่นและฉันมีความสุขมาก

ส่วนทุกคนในกองถ่ายพวกเขาทุกคนเรียบง่ายเมื่อพวกเขาก้าวออกจากงานที่กองถ่ายนี้และเผชิญกับสังคมทั้งหมดจะมีการแข่งขันทุกรูปแบบ

หลินฟาน รู้ว่าตอนนี้เขาต้องการปกป้อง เซี่ยหว่านชิว และยังไม่เพียงพอ

ในวงการบันเทิงนั้นซับซ้อนมากมาก ซิ่วหยู่เหนียน นี้เป็นผลงานชิ้นแรกของเขาและมันจะเป็นการเริ่มต้นกับ เซียหว่านชิว

หลินฟาน ไม่อยากเห็นสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นกับ เซียหว่านชิว เช่นที่นักลงทุนต้องการบีบคั้นเธอ

ตอนนี้ความต้องการของ หลินฟาน ก็ชัดเจนขึ้นเป็นพิเศษ หลังจากได้ผ่านอะไรมามากมายตลอดเวลาที่ทํางานร่วมกับ เยื่นหัว กรุ๊ป

ในงานเลี้ยงปิดกล้อง

หลายคนนั่งคุยกันคุยกันสนุกสนาน

มีเพียง หลินฟาน เท่านั้นที่ไม่อยู่ที่นั่น

“หลินฟาน ไปไหน?” ลู่เบ่ไก่ มองไปที่ เซี่ยหว่านชิว

เซียหว่านชิว หันกลับไปและพูดว่า “เขากําลังจะทําอาหารเย็นค่ะ”

” ทําอาหารเย็นเหรอไม่จําเป็นหรอกฉันเชิญ เชฟสองคนมาจัดเลี้ยงในวันนี้ ซึ่งมีเพียงพอที่จะทําอาหารอร่อยสําหรับทุกคนได้”

หลินฟาน เป็นนักแสดงเหนื่อยมามากแล้วในการถ่ายทําฉันจะให้เขาทําอาหารด้วยตัวเองได้อย่างไร “ลู่เปไก่ กล่าวและเขาก็ไม่รู้อย่างหนึ่งนอกจากทักษะการแสดงของ หลินฟานนั้นยอดเยี่ยม มากการทําอาหารก็ดีมากด้วย

เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสฉวนล้วนเป็นเชฟชั้นหนึ่งโดยปกติแล้วคนเหล่านี้ทํางานในโรงแรมระดับ 5 ดาวและเป็นเชฟในโรงแรมระดับห้าดาว

มันดีมากที่สามารถมาทําอาหารที่นี่ได้ หลินฟาน จะทําอาหารมื้อใหญ่อีกครั้งและเขาก็ไม่สามารถยุ่งกับเชฟด้านอาหารเสฉวนสองคนนั้นได้เพราะเขามีความเชี่ยวชาญในการทําอาหารอยู่แล้ว

“ใช่ เซี่ยหว่านชิว นี่ไม่ควรเลย คุณต้องเชื่อว่าเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสฉวนที่เรากําลังมองหานั้นเก่งมากดังนั้นอย่าปล่อยให้ หลินฟาน ทํางานหนักในครัว” เลี่ยว กล่าว

ซูหยาง พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน “ฉันรู้ว่า หลินฟ้าน เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ และฉันได้ยินมาว่ารสชาติอาหารค่อนข้างดี แต่ให้ หลินฟาน ไปทําอาหารให้พวกเราทุกคนไม่ได้”

” แต่ก็ช่วยไม่ได้ เขาจะทํา” เซี่ยหว่านชิว มองที่ทุกคนทําหน้ามุ่ย

เห็นได้ชัดว่า หลินฟาน กําลังทําอาหารมื้อใหญ่นี้ให้เธอ

ทุกคนอาจมีข้อสงสัยในใจ แต่พวกเขาไม่รู้แม้ว่า หลินฟ้าน

แม้ว่าจะเป็นเพียงร้านอาหารเล็ก ๆ แต่ทักษะการทําอาหารของ หลินฟาน ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเชฟคนใหนเลย

เซียหว่านชิว กล่าวว่า “การทําอาหารของ หลินฟ้าน นั้นอร่อยมากจริง ๆ นะคะ”

ซูเสี่ยวหยู พยักหน้าเช่นกันเธอก็มีพ่อครัวระดับห้าดาวที่บ้าน

นอกจากนี้ยังมีพ่อครัวชั้นนําในครอบครัวของเธอ แต่เมื่อเทียบกับฝีมือของ หลินฟ้าน แล้วไม่มีการเปรียบเทียบเลย

แม้แต่แตงกวาและกล้วยในบ้านของ หลินฟาน ก็อร่อยมาก

ลู่เปไก่ ส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่เป็นไรฉันจะเชิญ หลินฟ้าน กลับมาเป็นการส่วนตัวเองและกินอาหารเย็นที่ทําโดยเชฟอาหารเสฉวนสองคนนั้น”

ในแง่หนึ่ง ลู่เบ่ไก่ ไม่ต้องการให้ หลินฟาน ทํางานหนักอย่างการทําอาหาร ในทางกลับกันเขายังรู้สึกว่างานอาหารของ หลินฟาน นั้นเทียบไม่ได้กับเชฟอาหารเสฉวนทั้งสอง

เซี่ยหว่านชิว ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ลู่เบ่ไก่ บังคับให้ไปหา หลินฟาน แต่เธอก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน

เมื่อ ลู่เบ่ไก่ ขับรถเข้าไปในครัวกองถ่ายฉากตรงหน้าทําให้เขาตกตะลึง

เห็นเชฟด้านอาหารเสฉวนสองคนที่เขาเชิญกลับมายืนอยู่ทางด้านซ้ายและขวาของ หลินฟาน อย่างสุภาพคอยช่วย หลินฟาน

คนหนึ่งถือซีอิ้วและน้ําส้มสายชูไว้ในมือขณะที่อีกคนถือเกลือและเครื่องปรุงอื่น ๆ เชฟด้านเสฉวนสองคนยืนเคียงข้าง หลินฟาน อย่างเคารพเช่นเดียวกับรุ่นพี่ร่วมชั้นเรียนและเด็กฝึกงาน

ดูสิ่งที่ หลินฟาน ดูเหมือนตอนที่เขาทําอาหารมันคือ

“สะเด็ดน้ํามันและเติมเกลือ” หลินฟานกล่าว

“อาจารย์ หลิน เข้าใจแล้วครับ” หลี่ซู่เหวิน กล่าว เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสฉวนที่มีชื่อเสียงเขาเคยสอนคนอื่นทําอาหาร แต่วันนี้เขากําลังช่วย หลินฟาน

” นั่นมะเขือเทศนี้อย่าลืมนั่นให้ดีคุณจะใช้ไม่ได้ถ้านั่นไม่ดี” หลินฟ้านพูดพร้อมกับมองไปที่ – ฟูผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสฉวนอีกคน

“โอเคค่ะ อาจารย์หลิน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นทักษะการทําอาหารของคุณและงานเลี้ยงนี้ด้วยอาหารที่คุณปรุง มันต้องอร่อยมากแน่นอน 5 หลี่ฟูผิง พูดพร้อมกับมองเพียงเล็กน้อยด้วยความเคารพ

หลังจาก หลินฟาน เข้ามาเขาก็พบปัญหาบางอย่างทันทีเมื่อพวกเขาทําอาหาร

จากนั้น หลินฟาน ก็เริ่มปรุงด้วยตัวเองและเชฟด้านอาหารเสฉวนทั้งสองก็ยังต้องตะลึง

ทักษะการทําอาหารการควบคุมความร้อนและความสามารถในการปรุงอาหารของ หลินฟานแม้ในรายละเอียดบางอย่างก็เกินความรู้ความเข้าใจ

แม้แต่หมูต้มเพียงแค่สักชิ้นก็สามารถให้ความรู้สึกหอมและมีรสสัมผัสนุ่มและครีมก็อร่อยมากเมื่อเชฟด้านอาหารเสฉวนสองคนชิมแล้ว พวกเขาพบว่าอาหารมื้อใหญ่นี้ของหลินฟาน เหนือกว่า พวกเขาหลายระดับ

แค่นี้ก็ … อร่อยที่สุดในแผ่นดิน!

เมื่อ หลินฟาน ยังคงทําอาหารอื่น ๆ ต่อไป ในรายละเอียดทั้งหมด เชฟชาวเสฉวนทั้งสองมองดูด้วยความตกตะลึงในสายตาของพวกเขาเท่านั้น

ราวกับว่าพวกเขาค้นพบโลกใหม่ พวกเขามองไปที่อาหารของ หลินฟาน และพวกเขาไม่ได้รูถึงระดับในการทําอาหารของ หลินฟ้าน

ที่สําคัญคือแม้แต่ข้าวผัดไข่ฝีมือของ หลินฟาน รสชาติก็ยังเหนือกว่าพวกเขามาก

ข้าวผัดไข่ที่พวกเขาทําสามารถเรียกได้ว่าเป็นข้าวผัดไข่ที่อร่อยที่สุด

สําหรับข้าวผัดไข่ที่ทําโดย หลินฟาน นั้น เชฟเสฉวนสองคนก็รู้สึกว่าพวกเขากําลังจะตกหลุมรักข้าวผัดไข่จานนี้

ความรู้สึกของการกินก็เหมือนกับการได้พบกับงานเลี้ยงของนางฟ้าในซานาดูและการ มรสซุปปลาก็เหมือนกับการค้นพบไวน์ ฉงเซี่ยง

ในการทําอาหารแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด แต่ก็มีระดับที่แตกต่างกันมาก

นี่คือศิลปะการทําอาหารที่สืบทอดกันมานับพันปีมีเพียงผู้ที่ศึกษาการทําอาหารมาถึงระดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถทําอาหารได้เช่นนี้

เชฟด้านอาหารเสฉวนทั้งสองตกใจมากพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมาที่นี่เพื่อทําอาหารมื้อใหญ่สําหรับทุกคนและพวกเขายังจะสามารถเรียนรู้ได้มากมายจาก หลินฟ้าน

เมื่อเห็นทัศนคติที่น่าเคารพของเชฟด้านอาหารเสฉวนทั้งสอง

ลู่เปไก่ ก็อยู่ในสภาวะที่ตกตะลึง “มันเกิดอะไรขึ้น เชฟทั้งสองที่เขาเชิญมากลับต้องมากลายเป็นผู้ช่วยครัวให้กับ หลินฟาน”

ทั้งที่สองคนนั่นเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสฉวน

เป็นไปได้ไหมที่อาหารของ หลินฟาน จะดีกว่าอาหารของเชฟด้านอาหารเสฉวนทั้งสองนี้