ระบบร้านค้าออนไลน์ - ตอนที่ 252
TB:บทที่ 252 ไป่เตียซวน(กำปั้นเหล็กขาว)
“แปลกใจใช่ไหมละ?” เฉินหลงมองไปที่ไป่เตียซวน
“พลังของแกข้ามไปจนถึงระดับ 9 แล้วหรอเนี่ย” ไป่เตียซวนมองฉินหลงอย่างประหลาดใจ
“ใช่ พลังของข้าได้ผ่านมาถึงระดับหลอมรวมธรรมชาติแล้ว มา เอาพลังมาโจมตีใส่กันเถอะ” เฉินหลงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับกำปั้นเหล็กที่เขาต้านไว้ได้
เมื่อพลังของเฉินหลงได้เลื่อนขั้นมาถึงหลอมรวมธรรมชาติแล้ว เขาจึงสามารถต่อสู้ได้โดยทที่ไม่ต้องใช้พลังทั้งหมด และตอนนี้คู่ต่อสู้อย่างไป่เตียซวนก็อยู่ตรงหน้า เขาจะไม่ปล่อยให้หนีไปไหนแน่
“อุปกรณ์ที่แกมีมันช่างน่าอัศจรรย์ แกคิดว่ามันยุติธรรมกับข้าแล้วหรอ?” ไป่เตียซวนมองไปที่ไม้เท้าพลังและพูดกับเฉินหลง
ตอนนี้ไป่เตียซวนหมดหนทางแล้ว ตั้งแต่ที่เฉินหลงสามาถหาตัวเขาเจอได้แม้จะใช้เวลาสักพัก แต่นั้นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าชายคนนี้มีความสามารถมากพอที่จะหาตัวของเขาพบ ตอนนี้ไป่เตียซวนวิ่งหนีไปไหนไม่ได้แล้ว เขาได้เพียงแต่เผชิญหน้าต่อสู้ แต่ไม้เท้าพลังที่อยู่ในมือของเฉินหลงก็ทำให้เขารู้สึกกลัวมากเช่นเดียวกัน
“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแก” เฉินหลงยกไม้เท้าพลังขึ้นมาแล้วตีไปที่หัวของไป่เตียซวน
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไป่เตียซวนได้โกงใช้พลังของตนรังแกเขา ในตอนนั้นเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องความเป็นธรรมเลย พอมาครั้งนี้ ทำไมไป่เตียซวนถึงมาถามหาความเป็นธรรมให้กับตัวเองตอนนี้ละ
เมื่อเห็นไม้เท้าพลังที่รวมพลังธรรมชาติอยู่ตรงหน้า ไป่เตียซวนก็ไม่กล้าเข้าใกล้เฉินหลง ดังนั้นตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงหลบไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขารีบเอาตัวเองไปหลบอีกด้าน ระเบิดเปลวเพลิงก็ระเบิดขึ้นมาทันทีซึ่งนั้นทำให้ตัวของไป่เตียซวนกระเด็นกลับมาที่เดิม ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงต้องเผชิญหน้าและต้านพลังของเฉินหลงไว้เท่านั้น
เมื่อพลังของเฉินหลงอัพเกรดมาถึงระดับหลอมรวมธรรมชาติแล้ว เขาจึงสามารถสร้างระเบิดไฟขึ้นที่ไหนก็ได้ในระยะ 100 เมตรในทันทีเพียงแค่ใช้ความคิด
หลังจากที่ถูกระเบิดเปลวเพลิงโถมเข้ามาใส่ ไป่เตียซวนทำได้เพียงสวนเฉินหลงกลับไปด้วยหมัดของเขาและนั้นก็เป็นผลทำให้กำปั้นเหล็กที่ซัดออกไปถูกเฉินหลงสวนกลับมาจนทำให้กำปั้นที่มีพลังออกมาเหมือนปราการถึงกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“มันไม่ยุติธรรมเลย” หลังจากที่กำปั้นเหล็กของไป่เตียซวนถูกทำลาย นั้นก็ทำให้มือของเขาได้รับบาดเจ็บไปด้วย ดังนั้นเขาจึงถอยและคิดที่จะใช้การต่อรองเข้าสู้แทน
“ไม่มีความยุติธรรมบนโลกสำหรับนักรบหรอก มีแค่เพียงแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ ตอนที่แกแข็งแกร่งกว่าข้าและไล่ล่าข้า แกเคยคิดถึงเรื่องควายุติธรรมบ้างไหม? เมื่อมันไม่ได้เป็นแบบนั้น งั้นเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงเรื่องความยุติธรรม เข้ามาอีกสิ” เฉินหลงตามไป่เตียซวนไปและยังคงโจมตีไป่เตียซวนต่อด้วยไม้เท้าพลัง
ในเวลาเดียวกัน ระเบิดเปลวเพลิงก็ปรากฏขึ้นมากั้นกำปั้นเหล็กที่สวนมา เวลานี้ไป่เตียซวนถอยหนีไปไหนไม่ได้แล้ว เขาหมดหนทางแล้วเพราะกำปั้นเหล็กของเขาป้องกันได้เพียงการโจมตีด้วยแขนของฝ่ายคู่ต่อสู้เท่านั้น
แขนของเขาเป็นเพียงแค่เนื้อหนังที่ไม่สามารถเปรียบกับเนื้อโลหะได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม้เท้าพลังยังเป็นเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์กึ่งเทพอีกด้วย
หลังจากที่ถูกโจมตีไปสองสามครั้ง ไป่เตียซวนก็เริ่มรู้สึกถึงความพ่ายแพ้จนต้องร้องขอความเมตตา
“ท่านเทพ ท่านเทพ ได้โปรดหยุดโจมตีเถอะ ข้ายอมแพ้แล้ว ข้ายอมแพ้แล้ว”
เฉินหลงยิ้มและพูดว่า “การอ้อนวอนไม่ใช่วิธีที่ดีนักในการต่อสู้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดกลับไปได้ ดังนั้น ไม่ว่าแกจะร้องขอความเมตตายังไง ข้าก็จะไม่ให้” พูดจบ เฉินหลงก็ใช้ไม้เท้าพลังในมือของเขาโจมตีไปที่ไป่เตียซวนต่อ
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินหลงแล้ว ใจของไป่เตียซวนก็จมอยู่กับความสิ้นหวัง เขาสู้ต่อไม่ไหวแล้วและไม่สามารถหนีไปไหนได้ด้วย มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่เขาเลือกได้ นั้นก็คือความตาย
ในความคิดของไป่เตียซวน เขาคงจะถูกฆ่าด้วยไม้เท้าพลังของเฉินหลง และคิดขึ้นมาได้ว่าท้ายที่สุดแล้วราชาหมีในดินแดนมหัศจรรย์ก็ยังถูกฆ่าโดยเฉินหลง และคงไม่ต้องพูดถึงชาวคุณหลุนที่มีพลังระดับขอบเขตหลอมรวมธรรมชาติเลย พลังของเขาคงจะต่อกรกับคนพวกนี้ไม่ได้เช่นกัน
หลังจากที่ฆ่าไป่เตียซวนแล้ว เฉินหลงก็เหาะกลับมายังทางของภูเขามด เขาไม่ได้ติดต่อกับลูกศิษย์ของเขาเลยมาเป็นเวลาหลายเดือน ตอนนี้คงถึงเวลาที่ต้องไปเยี่ยมกบ้างแล้ว
ในเวลาเดียวกัน เขาก็คิดได้ว่าทางวิหารศักดิ์สิทธิ์ก็อยากจะให้เขาไปหาไม่ใช่หรือ? งั้นก็ไปดูกันว่าว่าพวกเขาต้องการอะไร?
ส่วนไป่เตียซวนได้ถูกฝังไว้ที่หุบเขาอสรพิษซึ่งการทำแบบนี้ทำให้ นักฆ่าทั้งเจ็ดแห่งคุณหลุนถูกทำลายไปด้วย
หลังจากผ่านไป 10 วัน เฉินหลงก็เดินทางมาถึงเขามด ซึ่งมีชาวคุณหลุนจำนวนมากกำลังขุดแร่เหล็กอยู่ ชาวคุณหลุนเป็นคนที่แข็งแรงและแข็งแกร่ง การขุดแร่เหล็กพวกนี้ พวกเขาจึงสามารถขุดได้อย่างรวดเร็ว
แร่เหล็กจำนวนมากถูกลำลียงไปยังเกวียนทองคำที่จอดอยู่ตรงตีนเขา เมื่อบรรจุจนเต็มคันรถแล้ว เกวียนทองคำก็จะถูกลากไปเมืองใต้ดินโดยมีสัตว์อสูรยาเบลเป็นตัวลากไป
เมื่อเฉินหลงปรากฏตัวขึ้น ณ ภูเขามด ชาวคุณหลุนก็กำลังขุดแร่เหล็กอยู่ก็ต่างพากันมาแสดงความเคารพกับเฉินหลงทีละคน
ความโกลาหลที่เกิดจากชาวคุณหลุนมารวมตัวกันทำความเคารพเฉินหลง ในไม่ช้าก็ทำให้ไป่ไท่ฮางที่อยู่ในเมืองได้ปรากฏตัวขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าอาจารย์กลับมาแล้ว ไป่ไท่ฮางก็เดินเข้าไปหาเฉินหลงและคุกเข่าลงต่อหน้าเขา เขาพูดออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “อาจารย์ท่านกลับมาแล้วหรือ?”
“อืม เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลย ข้าพอใจกับผลงาน ลุกขึ้นเถอะ “
ในสามเดือนนี้ ไป่ไท่ฮางได้ฝึกวิชาระฆังทองจนถึงระดับ 11 แล้ว
ไป่ไท่ฮางลุกขึ้นจากนั้นก็พูดกับเฉินหลง
“อาจารย์ ไปคุยกันเรื่องนี้ที่ที่พักของข้ากันเถอะ” พูดจบ ไป่ไท่ฮางก็นำเฉินหลงไปยังแคมป์พักชั่วคราวในหุบเขามด ซึ่งแคมป์พักของที่นี่สร้างจากไม้
หลังจากที่ได้เข้ามาในห้องพักของไป่ไท่ฮางแล้ว เฉินหลงก็ได้ทราบเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจากปากของไป่ไท่ฮาง
ข้อมูลที่ว่าก็คือเหมืองแร่เหล็กและถ่านหินของภูเขาแสนลูกถูกค้นพบโดยท่านเทพได้ถูกแพร่กระจายข่าวออกไปทั่วเมืองคุณหลุน ซึ่งชื่อของท่านเทพเฉินหลงก็ถูกแพร่ออกไปด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามมีเพียงท่านเทพเท่านั้นที่รู้วิธีการสำรวจเหมือง
เช่นเดียวกับนักล่าไป่ไท่ฮางที่กำลังนั่งตัวแข็งอยู่ตอนนี้ด้วย เป็นเพราะหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่เฉินหลงต้องการแล้ว ไป่ไท่ฮางก็รู้แล้วว่าเฮยจุ่ยก็มีความสามารถพอที่จะเข้าไปสำรวจในครั้งนี้เช่นกัน
หลังจากที่เหมืองแร่เหล็กได้ถูกขุดขึ้นมาแล้ว เมืองใหญ่หลายแห่งก็ต่างพากันสนับสนุนมหานครหลวงอย่างเต็มที่ ชาวเมืองหลายคนต่างพารถขนแร่และสัตว์อสูรยาเบลมาที่มหานครหลวงด้วยซึ่งมันทำให้การผลิตแร่เหล็กเพิ่มขึ้นและเป็นไปอย่างรวดเร็ว และยังทำให้ชาวคุณหลุนมีความมั่นใจขึ้นในการรับมือกับการโจมตีของสัตว์อสูรขนาดเล็กที่คอยตระเวนมาเป็นพักๆในช่วงครึ่งปีหลังนี้อีกด้วย
หลังจากที่พูดคุยกับไป่ไท่ฮางมาเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ในวันถัดมาเฉินหลงได้ออกเดินทางต่อและถึงเวลาที่เขาจะต้องไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์สักที
หลังจากที่ออกมาจากหุบเขามดแล้ว เฉินหลงก็ติดต่อไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ผ่านหินสื่อสารและได้บอกไปว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
เฉินหลงรอการตอบกลับไม่เพียงกี่นาที หนึ่งในพวกเขาที่มีพลังระดับเดียวกับเฉินหลง นั้นก็คือ ผู้อาวุโสไป่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา
เมื่อได้พบกับท่านอาวุโสไป่ เฉินหลงก็นึกถึงตอนที่เขาได้พบกับชาวตะวันตกผิวขาว แต่เฉินหลงก็ได้สลัดความคิดนี้ทิ้งไปทันทีเพราะคงไม่มีชาวตะวันตกบนโลกที่จะมีความสามารถที่จะมาอยู่อาศัยบนดาวเคราะห์แห่งนี้ได้
“เจ้าคือเฉินหลงหรอ? ข้า ไป่หลี่ หนึ่งในสิบสองของผู้อาวุโสแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ มากับข้าสิ” ไป่หลี่ยิ้มให้กับเฉินหลง พูดจบ ไป่หลี่ก็คว้าไปที่แขนเฉินหลงแล้วเหาะขึ้นไปบนฟ้าด้วยกัน
ทันใดนั้น เฉินหลงก็รู้สึกได้ถึงโล่ของพลังงานที่อยู่รอบนอกร่างกาย จากนั้นเขาก็รู้เริ่มสึกว่าเหมือนกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ความเร็ว 100 เท่าของความเร็วเสียง แต่ภาพที่เห็นกลับมันดูช้ามากๆจนทำให้ลืมวันและเวลาไปได้
หลังจาที่ผ่านไปไม่กี่นาที ไป่หลี่ก็หยุดและโล่พลังงานรอบตัวก็กลับเข้าไปที่ร่างเฉินหลง
“ที่นี่หรอ?”
ถึงแม้ว่าภาพข้างหน้าจะไม่มีสิ่งใดปรากฏอยู่ แต่เฉินหลงก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างตรงหน้าเขา