ระบบร้านค้าออนไลน์ - ตอนที่ 322
TB:บทที่ 322 แอนเดสขอความช่วยเหลือ
ท่านประธานพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะส่งคนไปช่วยแอนเดส แต่ข้าอยากถามความเห็นจากพวกท่านว่าข้าควรส่งกำลังคนไปเท่าไหร่และข้าควรส่งใครไปช่วยแอนเดส?”
“ท่านประธานที่เคารพ เราขอเสนอว่าท่านควรส่งคนของเราไป เราเพิ่งเข้าร่วมรัฐสภาไปได้ไม่นาน ดังนั้นเราควรทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้” จู่ๆก็มีร่างสองร่างเดินออกมาจากมุมหนึ่งของห้องโถง
ประโยคเมื่อครู่มาจากชายหนุ่มรูปงามวัยสี่สิบสวมชุดสูทที่ได้รับการตัดเย็บอย่างดีจากช่างตัดสูทที่มีชื่อเสียง
และข้างๆชายคนนั้นคือสาวสวยที่มีเส้นผมดำยาวสลวย ดวงตากลมโตสีน้ำทะเลอยู่ในชุดชุดกระโปรงสีขาว
“ตระกูลวิคเตอร์?”
“ลอร์ดวิคเตอร์?”
“พวกเขาเข้ามาในรัฐสภาได้อย่างไร?”
……
สมาชิกสภาหลายท่านที่เห็นชายคนนี้อดไม่ได้ที่จะร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ ดูท่าว่าพวกเขาทุกคนต่างรู้จักชายคนนี้
ชายคนนี้คือหัวหน้าแวมไพร์ตระกูลวิคเตอร์ ซึ่งเขาไม่เคยปรากฎตัวในสภาเลยสักครั้ง
เมื่อเห็นใบหน้าแปลกใจของเหล่าสมาชิกสภา ท่านประธานจึงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ตระกูลวิคเตอร์ได้เข้าร่วมสภาแห่งศาสตร์มืดและเป็นสมาชิกของสภาแห่งศาสตร์มืดของเราอย่างเป็นทางการแล้ว โดยตระกูลวิกเตอร์จะเป็นสมาชิกลำดับที่สิบสามแห่งรัฐสภา”
วิคเตอร์หัวเราะแล้วพูดว่า “ข้าขอแนะนำให้พวกท่านได้รู้จักลูกสาวตัวน้อยของข้า ลิลิธ จะเป็นคนไปช่วยแอนเดสในครั้งนี้ นอกจากนี้แล้ว ตระกูลวิคเตอร์จะส่งแวมไพร์ระดับสูงอีกหนึ่งร้อยตัวไปช่วยแอนเดสด้วยเช่นกัน”
“แวมไพร์ระดับสูงหนึ่งร้อยตัวแม้จะไม่ได้มีพลังแกร่งกล้าแต่ก็นับว่าทรงพลังมากพอ แวมไพร์พวกนี้เก่งในเรื่องสู้กับมนุษย์ที่เกลียดชังพวกเขา อีกทั้งยังมีลิลิธที่สามารถให้ความช่วยเหลือแอนเดสและสั่งการแวมไพร์ทุกตัวได้ เยี่ยมมาก” ท่านประธานเห็นด้วยกับข้อเสนอของวิคเตอร์
ในฐานะที่วิคเตอร์เพิ่งจะเข้าร่วมรัฐสภา เป็นธรรมดาที่อีกฝ่ายจะปล่อยให้เขาจัดการเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ลิลิธกลับรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เธอเหลือบมองผู้เป็นบิดา จริงอยู่ที่ท่านพ่อต้องการให้ข้าออกไปสำรวจโลกภายนอก แต่ทำไมท่านต้องส่งข้าไปช่วยพ่อมดแห่งศาสตร์มืดด้วยเล่า
นี่ ท่านพ่อ ท่านกำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ…?
หากที่นี่ไม่ใช่สภาแห่งศาสตร์มืดล่ะก็ ข้าจะเผาเส้นผมของท่านไม่ให้เหลือสักเส้นเลย คอยดูเถอะ!
อ่า… ช่างประไร ท่านพ่อ วันนี้ข้าจะเห็นแก่หน้าท่าน แล้วข้าจะกลับมาคิดบัญชีกับท่านวันหลังก็แล้วกัน … ว่าแต่ โลกภายนอกนั้นจะเป็นแบบไหนกันนะ…
ลิลิธ ผู้ไม่เคยก้าวออกไปจากปราสาทเลยแม้แต่ก้าวเดียวย่อมอยากเห็นโลกภายนอกเป็นธรรมดา
จู่ๆลิลิธกที่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงโพล่งออกมาว่า “ข้าต้องการผู้รับใช้จำนวนหนึ่ง”
หลังจากที่ลิลิธพูดจบ วิกเตอร์ก็หันขวับมามองบุตรสาวด้วยความสงสัย เขาไม่เคยได้ยินเรื่องข้ารับใช้ออกมาออกจากปากของเธอมาก่อน
“ลิลิธ เจ้าต้องการผู้รับใช้คนใดหรือ? หากคนผู้นั้นเป็นคนของสภา แน่นอนว่าข้าอนุญาตให้พวกเขาไปกับเจ้า”
“สกาย สตาร์ บอร์ คาเตอร์ เอซ อาร์ท และเดย์” จากนั้นลิลิธก็ได้กล่าวชื่อของคนทั้งเจ็ด
เมื่อได้ยินชื่อทั้งเจ็ดชื่อที่ลิลิธได้กล่าวออกมา ทันใดนั้นประธานและเหล่าสมาชิกรัฐสภาต่างพากันขมวดคิ้ว
“นี่เจ้ากำลังหมายถึง…พวกโนวิลล์รึ?” ท่านประธานเอ่ยถาม
“ไม่ผิด เป็นพวกเขา” ลิลิธพยักหน้าตอบ
“ข้าอนุญาติให้พวกเขาไปกับเจ้า” ประธานพยักหน้ายินดี
เมื่อพูดถึงคนทั้งเจ็ดแล้ว ประธานถึงกับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายต้องการตัวคนพวกนี้ ความสามารถคนพวกนี้สูงมากในหมู่แวมไพร์รุ่นเยาว์
ในเวลาเพียงหนึ่งร้อยปี ตำแหน่งของพวกเขาได้เลื่อนขั้นเป็นมาร์ควิส
แต่ทั้งเจ็ดคนนี้กลับไม่เหมือนกับพวกแวมไพร์ โดยทั่วไปแล้ว แวมไพร์จะสง่างามและสูงส่ง แต่เจ้าเจ็ดคนนี้กลับทำตัวไม่สมกับที่เป็นแวมไพร์เลยสักนิด เพราะทั้งเจ็ดคนเป็นพวกที่ชอบใช้กำลังเหมือนกับพวกนักเลงไม่มีผิด
ทุกครั้งที่ท่านประธานได้พบเจอกับคนพวกนี้ ไม่ว่าเขาจะมองมุมไหนก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ในเมื่อตอนนี้ลิลิธต้องการให้พวกเขาไปกับเธอ เขาจึงยินดีส่งตัวพวกเขาไปเพื่อที่คนพวกนี้จะได้ไม่อยู่ในสายตาของเขาอีก
“ข้าขอขอบคุณ ท่านประธาน” ลิลิธกล่าวด้วยความปิติ
หลังจากจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง วิคเตอร์จึงไปพบบุตรสาวของตน
“ลูกข้า เจ้ากำลังวางแผนให้ทั้งเจ็ดคนนั้นทำอะไรหรือ? เจ้าจงระวังให้ดี อย่าให้ทั้งเจ็ดคนนั้นพาเจ้าออกนอกลู่นอกทางได้เป็นอันขาด” วิคเตอร์กล่าวเตือนบุตรสาว
“เรื่องนั้น ท่านพ่อไม่ต้องกังวล ข้าไม่มีทางปล่อยให้คนพวกนั้นทำให้ข้าหลงผิดได้” ลิลิธยิ้มตอบ
เมื่อเห็นรอยยิ้มของบุตรสาว วิคเตอร์ก็นึกถึงสิ่งที่บุตรสาวได้ทำไว้กับเขาทันทีที่กลับถึงบ้าน จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าตัวเองคงจะกังวลเกินไป นอกจากนี้ เขายังเป็นคนต้นคิดให้บุตรสาวออกไปสำรวจโลกภายนอก นี่อาจเป็นโอกาสที่เขาจะได้พักผ่อนสักสองสามวัน
สภาแห่งศาสตร์มืดส่งกำลังคนมาไปช่วยแอนเดส และเขาจำเป็นต้องมาพบคนพวกนี้ด้วยตนเอง แม้จะบอกว่าในฐานะผู้รับใช้ แต่เขาก็ไม่อาจมองข้ามสถานะของคนพวกนี้ไปได้
ในพื้นที่ร้างแห่งหนึ่ง แอนเดสกำลังยืนรอการมาถึงของใครบางคนอยู่ด้านนอกทางเข้าป้อมปราสาททมิฬ
ตอนนี้แอนเดสกำลังรอให้ลิลิธ ผู้ช่วย… อันที่จริงเขาผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นหัวหน้าเสียมากกว่าเดินออกมาพบเขา
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือชายหนุ่มเจ็ดคนที่หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะสวมเสื้อสีฉูดฉาด กางเกงยีนส์เปื้อนสีและใส่เครื่องประดับเงินและทองเต็มตัวแถมคนพวกนี้ยังมีส่วนสูงที่ไล่เลี่ยกัน
พวกเขาคือตัวประหลาดทั้งเจ็ดแห่งโนวิลล์!
“คุณลิลิธ คุณสกาย สวัสดีครับ ผม..แอนเดสครับ” เมื่อเห็นทั้งแปดคนโดยมีลิลิธเป็นคนเดินนำออกมา แอนเดสจึงรีบกล่าวทักทายพวกเขาทันที
“นี่นาย พาฉันไปที่อื่นสักที ฉันไม่ยอมอยู่ที่นี่รอให้นกอึใส่หัวหรอกนะยะ” ลิลิธกล่าวโดยไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเลยซักนิด
“รับทราบครับ” แอนเดสรีบพยักหน้าขึ้นลงอย่างว่าง่าย
ในขณะเดียวกันนั้น ในใจของแอนเดสก็รู้สึกถึงความขมขื่น ครั้งนี้สภาคือซาตานดีๆนี่เอง คนพวกนั้นบอกให้เขามารับผู้ช่วยด้วยตัวเอง แต่แทนที่เขาจะได้ผู้ช่วย เขากลับได้คุณย่ามาหนึ่งคนและคนทั้งเจ็ดแห่งโนวิลล์อีก อ่า ถึงคราวหายนะมาเยือน คุณเฉินครับ ผมหวังว่าคุณเฉินจะสามารถอยู่ร่วมกับคนพวกนี้ได้นะครับ
…
ทั้งเจ็ดคนที่เขาพูดถึงนี้ต่างเป็นที่รู้จักกันดีในรัฐสภา ไม่แปลกที่แอนเดสจะจดจำพวกเขาได้
สามชั่วโมงต่อมา แอนเดสได้พาลิลิธและอีกเจ็ดคนกลับไปที่ปราสาท
ส่วนแวมไพร์อีกหนึ่งร้อยตน แอนเดสให้พวกเขาตามหาปราสาทด้วยตัวเอง
“นี่ แอนเดส นายรู้ไหมว่ารถของนายมันทั้งเก่าแล้วก็อืดมาก วันพรุ่งนี้ นายต้องไปหารถที่แรง เร็วแล้วก็สวยกว่านี้มาให้ฉัน นั่น! ดูอย่างเฟอร์รารี่ที่จอดอยู่บนถนนคันนั้นสิ สวยมากเลย!” หลังจากลงจากรถ ลิลิธก็ได้กล่าวตำหนิแอนเดสเรื่องรถ
“ครับ เข้าใจแล้วครับ” และแน่นอนว่าสิ่งเดียวที่แอนเดสสามารถทำได้ในตอนนี้คือการทำตามคำสั่งของลิลิธเท่านั้น
หลังจากที่แอนเดสตอบปากรับคำอีกฝ่าย จู่ๆเขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที หากเขาหารถมาให้เธอขับจริงๆ เกรงว่าอีกฝ่ายคงสร้างเรื่องให้เขาไม่เว้นวันแหงๆ ยัยป้าตัวแสบเอ้ย!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น แอนเดสก็ได้แต่ถอนหายใจฮ์อกใหญ่ออกมา ส่ายหัวเบาๆ แล้วพาพวกเขาไปหาเฉินหลง
“คุณเฉินครับ เธอคือลิลิธ ส่วนอีกผู้ชายทั้งเจ็ดคนนี้มาจากแก๊งโนวิลล์ชื่อ สกาย สตาร์ บอร์ คาเตอร์ เอซ อาร์ท แล้วก็เดย์ครับ” ทันทีที่ได้เห็นเฉินหลง แอนเดสก็ได้แนะนำตัวให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันทันที
“และทางด้านนี้คือเฉินหลง คุณเฉินเป็นหุ้นส่วนแล้วก็พันธมิตรของเราครับ” แอนเดสกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม