ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 204 หนึ่งร่างสองวิญญาณ
บทที่ 204 หนึ่งร่างสองวิญญาณ
บทที่ 204 หนึ่งร่างสองวิญญาณ
ฉู่เชิ่งล้มลงกับพื้น ร่างกระแทกเข้ากับหินจำนวนมาก สภาพร่างกายตกอยู่ในอันตราย ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย
สีหน้าของลู่หยวนเฉยชา เขายืนอยู่ในอากาศ สวมชุดคลุมสีชาดห่มดำ พลังมังกรยิ่งใหญ่รอบข้างทรงพลัง ราวกับบุตรแห่งเทพที่จุติมาสู่โลก
“ทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย”
“ชิงหลี เจ้าไม่คิดอย่างนั้นหรือ?”
สายตาของลู่หยวนย้ายมาที่อีกฝ่าย แววตาของเขาเหมือนกับกำลังคลี่ยิ้ม สีหน้าดูอ่อนโยน แต่เหตุใดเมื่อครู่มันให้ความรู้สึกเหมือนกับมัจจุราชได้?!
สีหน้าของชิวชิงหลีราบเรียบ หางตาของนางกวาดมองร่างของฉู่เชิ่งที่อยู่ด้านล่าง พร้อมร่องรอยความกังวลผุดขึ้นในใจ
พละกำลังที่ลู่หยวนสำแดงในวันนี้น่าทึ่งล้นเหลือ แต่มันไม่ทำให้นางสูญเสียกำลังใจในการต่อสู้แม้แต่น้อย
ทว่าชิวชิงหลีสัมผัสได้ชัดเจนว่าเฉิงไท่ผู้ยืนอยู่ที่นี่ ถึงจะไม่ได้มาก้าวก่ายแม้แต่น้อย แต่สายตาของเขาจับจ้องผู้คนอยู่ตลอดเวลา มันต้องมีความหมายลึกล้ำบางอย่างเป็นแน่
ชิวชิงหลีไม่มั่นใจว่าเฉิงไท่ยืนอยู่ข้างบุตรศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น ตามบุคลิกอวดดีของนางแล้ว หากชิวชิงหลีลุกขึ้นสู้ในวันนี้ อย่าว่าแต่สถานการณ์ต่อสู้เลย เรื่องหลังจากนั้นก็ยังยากที่จะคลี่คลายลงได้
ปัจจุบันฉู่เชิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ทราบว่าส่วนสำคัญตรงใดได้รับผลกระทบไปบ้าง ดังนั้นนางจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์ เพื่อหาทางส่งตัวฉู่เชิ่งไปรักษา
หากปล่อยให้ล่าช้ามากกว่านี้ เกรงว่าวิถีกระบี่ที่ลู่หยวนสำแดงจะยังคงอยู่กับตัวฉู่เชิ่ง จนทำร้ายไปถึงรากเหง้า!
อนาคตยังอีกไกล ไว้ค่อย ๆ จัดการเรื่องของลู่หยวนก็ยังไม่สาย!
ดวงตางดงามของชิวชิงหลีหรี่ลง นางไม่ตอบคำถามของบุตรศักดิ์สิทธิ์ เพียงกล่าวว่า “สิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไป บุตรศักดิ์สิทธิ์คิดดีแล้วหรือยัง? ไม่ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ต้องการอะไร ข้าจะทำอย่างสุดความสามารถแน่นอน”
ชายหนุ่มยืนเอามือไพล่หลัง เดินไปด้านข้างเล็กน้อย สายตามองตรงไปที่ชิวชิงหลี ริมฝีปากที่คลี่ยิ้มได้หายไป
เหอะ…
ผู้หญิงคนนี้มีช่วงเวลาชีวิตที่กระจ่างเสียยิ่งกว่าเจ้าหนูฉู่เชิ่ง!
อย่าได้มองว่ารูปลักษณ์สตรีของนางอ่อนแอ ใจนางมีเรื่องอะไรอยู่นั้นกระจ่างชัด
แม้ลู่หยวนเอ่ยคำขอต่ำช้า เช่นการขอให้ชิวชิงหลีอยู่เคียงข้าง แต่การเก็บตัวนางเอาไว้ มันไม่อาจได้ประโยชน์อะไร
ชิวชิงหลีเองก็เป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ นางจะไม่มีอุบายติดตัวหรืออย่างไร?!
หากว่าอยู่ข้างกายลู่หยวน ชีวิตตัวเองคงรักษาเอาไว้ได้ อีกทั้ง นางยังฉลาดเฉลียว หากว่าได้อยู่เคียงข้างเขาสักหลายวัน เกรงว่านางอาจล่วงรู้เรื่องราวทั้งหมด!
ปัจจุบันนางแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นก็เพื่อหาตื้นลึกหนาบาง ถัดจากนั้นจึงรอคอยให้ฉู่เชิ่งอาการดีขึ้น สามีภรรยาคู่นี้คงร่วมแรงกันเพื่อเล่นงานวายร้ายเช่นตัวเขา!
รอยยิ้มมุมปากของลู่หยวนปรากฏขึ้นอีกครั้ง “จริงหรือ?”
ชิวชิงหลีมองตรงมาที่ชายหนุ่ม ไม่มีความสั่นคลอนในดวงตา “แน่นอนอยู่แล้ว เชิญบุตรศักดิ์สิทธิ์พูดมาได้เลย”
สตรียิ่งงดงามเพียงใด ก็ยิ่งยากเชื่อใจได้เท่านั้น
เมื่อผู้คนที่อยู่รอบข้างได้ยินดังนี้ พวกเขาเริ่มทำการประเมิน
“เจ้าคิดว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะขออะไรหรือ?”
ศิษย์คนหนึ่งที่มีกระบี่ยาวในมือเผยดวงตาร้อนผ่าว พร้อมตอบทันทีว่า “ข้าได้ยินมาว่าศิษย์พี่ชิวชิงหลีมีกระบี่คู่กายอยู่ มีชื่อว่าวิถีโลกา! เป็นอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์! หากข้าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ ย่อมต้องการกระบี่เล่มนี้แน่นอน!”
“เจ้าคนบ้ากระบี่! หมกมุ่นแต่กับกระบี่อยู่นั่นแหละ! เหอะ รูปลักษณ์ของศิษย์พี่ที่เปรียบดั่งเซียน เจ้ามองไม่ออกหรือ?! แค่เท้าหยกคู่นั้นก็มากพอที่จะให้ข้าเล่นสนุกได้ทั้งปีแล้ว!”
“เหอะ ๆ ขาของศิษย์พี่งดงามไม่น้อย หากเป็นข้า ข้าก็อยากได้ศิษย์พี่เช่นกัน!”
ชิวชิงหลีที่ได้ยิน สายตาเย็นเยือกจึงกวาดมอง กลิ่นอายทรงอำนาจของนางปรากฏแผ่พุ่ง ทั่วทั้งพื้นที่กลายเป็นถูกปกคลุมด้วยปราณกระบี่อันรุนแรง
พรวด! พรวด! พรวด!
ภายใต้ปราณกระบี่ คนทั้งหลายที่เมื่อครู่ปากมากต่างถูกตัดลิ้นขาดจนเลือดสาดกระเซ็นอย่างน่าสะพรึง
ผู้คนที่เหลือต่างเงียบเสียงอย่างที่ไม่กล้าจะเอ่ยคำอื่นใดอีก
ลู่หยวนขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดว่าชิวชิงหลีจะลงมือสังหารอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ แม้แต่ศิษย์ร่วมสำนักก็ไม่เว้น
หญิงสาวคนนี้ร้ายกาจ แถมอารมณ์ค่อนข้างผิดแปลกด้วย
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น “สิ่งที่ข้าต้องการง่ายมาก”
สายตาของทุกคนมองมา ชิวชิงหลีจ้องมองอีกฝ่ายเช่นกัน ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย “บุตรศักดิ์สิทธิ์เชิญว่ามา”
“ตอนนี้สาวใช้สองคนของข้ากำลังฝึกฝนอยู่ ทำให้ไม่มีใครมาดูแลปรนนิบัติเตรียมอาหาร ซักเสื้อพับผ้านวมให้เลย”
ลู่หยวนเชยคาง มองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ลังเล “รูปลักษณ์และการบ่มเพาะของเจ้ายังนับว่ารับได้ ดังนั้นมาอยู่กับข้าในฐานะสาวใช้เถอะ”
ทันทีที่กล่าวจบ ฝูงชนทั้งหลายต่างอ้าปากค้าง
ผู้มีปัญญาต่างสังเวยการบ่มเพาะเพื่อถอยเว้นระยะห่างไกลโพ้น เพราะกลัวเกรงจะถูกลูกหลงจากสงครามที่ปะทุอย่างกะทันหัน!
ผู้อื่นที่เหลือต่างตอบสนองไม่ต่างกัน พวกเขาสังเวยอาวุธวิเศษเพื่อปกป้องชีวิตตนเองเอาไว้
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่อยากให้ศิษย์พี่ชิวชิงหลีเป็นสาวใช้ของเขางั้นหรือ?! ข้าได้ยินไม่ผิดใช่หรือไม่!”
“ศิษย์พี่ชิวชิงหลีผู้เป็นโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ในรอบหลายพันปี รูปลักษณ์นั้นเป็นประหนึ่งเซียน! พรสวรรค์ของนางยิ่งหาได้ยากยิ่งกว่า ขณะนี้อายุเพียงยี่สิบก็สำเร็จขั้นเทียมเทพ! ความภาคภูมิแห่งสวรรค์เช่นนี้ในสายตาบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่กลับเป็นได้เพียงแค่ ‘พอรับได้’ งั้นหรือ?!”
“เช่นนั้นด้วยการบ่มเพาะของข้าที่อยู่ระดับสูงของขั้นเทียมเซียน ไม่เท่ากับเป็นสุนัขในสายตาของบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่หรอกหรือ?!”
“ศิษย์พี่ไม่มีทางแบกรับความอับอายใหญ่หลวงเช่นนั้นได้แน่ นางต้องสู้กับลู่หยวนแน่นอน! ทุกท่าน อย่าประมาทเชียว!”
สายตาทุกคู่จับจ้องคนทั้งสอง
เฉิงไท่เห็นดังนี้ แววตาก็เผยรอยยิ้มออกมา
ลู่หยวนคนนี้ …กล้าพูดแบบนั้นออกมาจริงด้วย!
เจ้าเด็กนี่มีลูกเล่นแพรวพราวมากมายก็จริงอยู่ เพียงแต่มีหรือที่ชิวชิงหลีจะมีน้อยกว่า?
หากนางโกรธขึ้นมาย่อมไร้ความปรานีจนถึงขั้นสังเวยกระบี่วิถีโลกา ถึงเวลานั้นยอดเขาบรรพชนอีกหลายแห่งของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์อาจพังทลายอีกก็เป็นได้!
ถึงตอนนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ผู้อวดดีคนนี้อาจจะไม่สามารถขัดขืนได้!
ชิวชิงหลีหลุบตา แท่นดอกบัวสีเขียวใต้เท้าหมุนไปมา ฟ้าดินเงียบสงัด
ผ่านไปหลายอึดใจ ชิวชิงหลีเงยหน้าขึ้น บรรยากาศรอบข้างพลันสั่นสะเทือน ลู่หยวนสังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งผิดปกติในบรรยากาศ แต่ก่อนจะได้ทำการสืบสาว กลิ่นอายก็สลายไปในพริบตา
“ได้ ข้าจะทำตามที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ว่า”
เสียงกระจ่างเย็นเยือกดังออกจากริมฝีปากชิวชิงหลี มันค่อนข้างเป็นน้ำเสียงที่ต่ำจนผิดปกติ
“ศิษย์พี่ยอมงั้นหรือ?!”
“บ้าน่า! สาวใช้อันดับหนึ่งของทำเนียบสวรรค์! นี่นับเป็นครั้งแรกของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์เลย! บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ช่างเป็นแบบอย่างสำหรับคนรุ่นข้าเสียจริง!”
“ฮือ ๆๆ ข้าอยากเป็นสาวใช้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่บ้าง!”
“เจ้าเป็นผู้ชายนะ จะไปเป็นสาวใช้หาพระแสงอะไร! ข้าสิเหมาะกว่า เพราะว่าข้าเป็นผู้หญิง! บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ช่วยรับข้าเป็นคนใช้ด้วย!”
สายตาลู่หยวนจับจ้องชิวชิงหลีผู้อยู่ตรงหน้า มุมปากเผยรอยยิ้มลุ่มลึกอย่างที่ในเวลานี้ไม่มีใครสังเกตเห็น และตอนนี้เองที่เนตรเทวะในดวงตาของชายหนุ่มเริ่มปรากฏ
ในสายตาของเขา ร่างกายชิวชิงหลีผู้ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้านี้ถึงกับมีสองวิญญาณอยู่ร่วมกัน!
หนึ่งนั้นกำลังควบคุมร่างของชิวชิงหลี ขณะที่อีกหนึ่งหลับใหลอยู่เคียงข้าง
หนึ่งร่างสองวิญญาณหรือ?
น่าสนใจ…
นางสมควรที่จะเป็นผู้หญิงของบุตรแห่งโชคชะตาจริง ๆ!
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ชิวชิงหลี เหตุใดยังไม่ไปต้มน้ำให้ข้า? ข้าอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว!”
ชิวชิงหลีไม่แสดงความโกรธแต่อย่างใด ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน เพียงพริบตา นางก็ตรงเข้าสู่ยอดเขาหอก