ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 241 บรรพชนเซียน
บทที่ 241 บรรพชนเซียน
บทที่ 241 บรรพชนเซียน
เมื่อท่านหู่ตัดสินใจได้ พลังอันแข็งแกร่งจึงมุ่งโจมตีลู่หยวนผู้อยู่ภายในค่ายกลตรงหน้าในชั่วพริบตา
ตูม!
พลังมหาศาลปะทะเข้ากับค่ายกล ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นเป็นวงกว้าง
เปรี๊ยะ ๆๆ
ภายใต้การโจมตีสุดกำลังของท่านหู่ ค่ายกลเหล่านั้นไม่อาจทานทนได้ เพียงชั่วอึดใจ รอยร้าวเริ่มปรากฏขึ้น
ร่างของท่านหู่ร่นถอยออกมา ยามกลิ่นอายหนักอึ้งอีกครา รากฐานการบ่มเพาะทั้งหมดถูกถ่ายเทไปที่ดาบยาว
ดวงตาที่เริ่มเย็นเยือก เพลิงเหมันต์สงัดบนตัวดาบพัดกระพือ
ท่านหู่เงื้อดาบขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะฟาดฟันใส่ค่ายกลที่แตกสลาย
ตูม!
ยามดาบฟาดฟันลงลงมา ค่ายกลก็พังทลาย!
ดาบที่ถูกปกคลุมด้วยเพลิงเหมันต์สงัดไม่หยุดแค่นั้น มันยังคงรุกคืบเข้าหาลู่หยวน
บุตรศักดิ์สิทธิ์เอนกายไปด้านข้าง เพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี
ท่านหู่ยกมุมปากขึ้น เป็นไปตามที่คาด ลู่หยวนเลือกที่จะหลบ!
เขาจะอาศัยจังหวะนี้เพื่อชิงเพลิงอัสนีจากอีกฝ่าย!
ท่านหู่ลดดาบลงขณะพุ่งทะยานหาลู่หยวน มือขนาดยักษ์ปรากฏเพลิงเหมันต์สงัด ยามเข้าคว้าเอาเพลิงอัสนีซึ่งอยู่ในมืออีกฝ่าย
เมื่อกำลังจะคว้าได้ กลับพบว่าอัสนีรอบเพลิงอัสนีในมือของบุตรศักดิ์สิทธิ์พลันหนักอึ้ง เสียงฟ้าคำรามและสายฟ้าทั้งหลายหายไปในบัดดล
ฟู่!
ท่านหู่สะบัดมือยักษ์ที่ปกคลุมด้วยเพลิงเหมันต์สงัด มันทะลุผ่านเพลิงอัสนี คว้าได้เพียงแต่อากาศ
“เป็นไปได้อย่างไร?!”
ท่านหู่ตกตะลึง เขารีบมองที่มือของลู่หยวน ก่อนจะพบว่าเพลิงอัสนีในมือของอีกฝ่ายสะกดสายฟ้าเอาไว้ ราวกับแสดงท่าทียอมจำนน
เป็นไปไม่ได้!
ช่วงที่เขาโจมตี เพลิงอัสนีในมือของลู่หยวนยังไม่ถูกใช้!
แต่เพียงไม่กี่อึดใจ มันถึงกับยอมจำนนงั้นหรือ?!
แม้แต่จักรพรรดิเพลิงผู้ควบคุมเปลวเพลิงวิญญาณทั้งหลาย ยังไม่สามารถใช้เปลวเพลิงได้เร็วขนาดนี้!
ลู่หยวนมอง ‘ฉู่เชิ่ง’ ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา เสียงระบบพลันดังขึ้นในใจของเขา
[ระบบแจ้งเตือน การเร่งความเร็วการหลอมเพลิงอัสนีเสร็จสิ้นแล้ว! ค่าชะตาวายร้ายถูกใช้ไป 8,000 แต้ม!]
[ค่าชะตาวายร้ายของท่านในปัจจุบันคือ 25,000 แต้ม!]
เพียงลู่หยวนกำมือ เพลิงอัสนีก็เลือนหาย
“ฉู่เชิ่งหรือ?” บุตรศักดิ์สิทธิ์ยกมุมปาก “ไม่สิ พยัคฆ์โลหิตสินะ”
ท่านหู่หยุดความคิด ยามสบตากับลู่หยวน เขารู้สึกราวกับถูกมองออกจนทะลุปรุโปร่ง
คำของอีกฝ่ายเป็นเหตุให้เขาต้องชะงักงันอยู่ภายใน
ลู่หยวนล่วงรู้ได้อย่างไร?!
ยามนี้สายตาที่กำลังเปลี่ยนไปของท่านหู่จับจ้องไปยังดวงตาของลู่หยวน ทำให้เห็นอีกฝ่ายแสยะยิ้มกว้างยิ่งขึ้น “ไง ข้าเดาถูกอย่างนั้นหรือ?”
ท่านหู่ลอบหวาดกลัวชายตรงหน้า ชายหนุ่มราวกับปีศาจจากขุมนรกที่ไม่มีสิ่งใดถูกปิดบังซ่อนเร้นจากเขาได้!
หนี!
ความคิดนี้ก่อตัวขึ้นในใจของท่านหู่ มันจึงระดมรากฐานการบ่มเพาะทั่วทั้งร่างกาย ก่อนจะล่าถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
เพียงหนึ่งอึดใจ ท่านหู่ถอยออกมาราวหนึ่งร้อยจั้ง
ลู่หยวนเย้ยหยันว่า “จะไปแล้วหรือ? สายไปแล้ว! ขอข้าใช้เจ้าทดสอบเพลิงอัสนีนี้หน่อยก็แล้วกัน!”
บุตรศักดิ์สิทธิ์ยกมือขึ้น เพลิงอัสนีพลันพุ่งออกไป
ตูม!
เพลิงอัสนีพุ่งออกจากมือของลู่หยวน พลังสีม่วงของมันประหนึ่งเสาที่ทะยานสู่ท้องนภา
หมู่เมฆที่ลอยอยู่บนท้องนภาถูกปกคลุมด้วยอสนีบาตสีม่วง กลุ่มพลังไร้ที่สิ้นสุดกดทับลงมา สายฟ้าทั้งหลายยังคงร่ายรำท่ามกลางหมู่เมฆ
กรร!
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นท่ามกลางอัสนีสีม่วงจากสวรรค์ทั้งเก้า
สายฟ้านับไม่ถ้วนที่หลับใหลอยู่เคลื่อนตัวพร้อมกัน ก่อนจะรวมตัวเป็นมังกรอัสนี
ยามนี้ท่านหู่กำลังควบคุมร่างของฉู่เชิ่ง ไม่กล้าหันหลังกลับไป รากฐานการบ่มเพาะทั้งหมดของร่างกายถูกรวมไว้ที่ขา เขายังคงวิ่งไปที่ด้านนอกของเขตแดนลับ
ภัยคุกคามจากด้านหลังรุนแรงมากขึ้น ทำให้ท่านหู่ทราบว่าต่อให้เสี่ยงหันกลับไป สุดท้ายเขาก็ต้องตาย!
ยามนี้การหลบหนีคือทางออกที่ดีที่สุด!
ท่านหู่นึกเกลียดฉู่เชิ่งที่มีเพียงแค่ขาสองข้าง!
เหนือท้องนภา หมู่เมฆสีม่วงปกคลุมรอบข้าง มังกรสายฟ้าแผดเสียงคำรามท่ามกลางเมฆา ราวกับกระตือรือร้นที่จะทะยานลงมา
“พยัคฆ์โลหิต ข้าบอกแล้ว วันนี้เจ้าหนีไม่รอดหรอก!”
“มังกรสายฟ้า ไป!”
สิ้นเสียงตะโกนต่ำของลู่หยวน ท่ามกลางกลุ่มเมฆในสวรรค์ทั้งเก้า มังกรสายฟ้าเก้าตัวทะยานออกไป ก่อนจะตรงเข้าหาท่านหู่
ตูม! ตูม! ตูม!
มังกรอัสนีเคลื่อนลงมาอย่างรุนแรง ก่อนจะทะยานมาด้านข้าง
สายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดลงมาสู่ปฐพี มันแผ่ขยายเป็นวงกว้าง
ตูม! ตูม! ตูม!
ทรายและหินนับไม่ถ้วนพังทลายภายใต้สายฟ้าฟาด
พลังของมันเคลื่อนผ่านระหว่างเม็ดหินดินทราย พร้อมพุ่งเข้าหาเท้าของท่านหู่
สายฟ้านับไม่ถ้วนรวมตัวอีกครั้ง มังกรสายฟ้าเก้าตัวก่อตัวขึ้น ก่อนจะทะยานจากใต้เท้าของท่านหู่
กรร! กรร! กรร!
ท่ามกลางเสียงคำรามของมังกรสายฟ้า ท่านหู่ไม่อาจหลบหนีได้
“เจ้าหนู เจ้าบังคับให้ข้าต้องทำแบบนี้!”
สายตาของท่านหู่เผยแววเหี้ยมโหด เขายกมือขึ้นกรีดนิ้ว ทำให้โลหิตไหลออกมา
ท่านหู่ปาดโลหิตผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว ทำให้อักขระแปลกประหลาดก่อตัวขึ้น
วิ้ง!
เสียงประหนึ่งระฆังขนาดใหญ่มาจากสวรรค์ทั้งเก้า ทำให้มังกรสายฟ้าเก้าตัวที่กำลังจะทะยานเข้ามาสงบลงในบัดดล
มุมหนึ่งของหมู่เมฆาสายฟ้าที่ปกคลุมท้องนภาแยกออกจากกัน พร้อมเพลิงสีแดงทะยานออกมา
บนท้องนภาเกิดเป็นเพลิงเมฆาที่ม้วนตัวประหนึ่งปีกบดบังฟากฟ้า
เสียงแผ่วเบาดังขึ้นจากอากาศธาตุ “ใครคือผู้เรียกข้าออกมา?”
ท่านหู่ควบคุมร่างของฉู่เชิ่งให้คุกเข่าหันหน้าไปทางหมู่เพลิงเมฆา ก่อนจะโค้งคำนับด้วยความเคารพ “ท่านผู้อาวุโส ข้าคือลูกหลานของเผ่าพยัคฆ์โลหิต!”
หมู่เมฆสายฟ้าสีม่วงจางหายไปอีกครา “มีเรื่องอะไร?”
ท่านหู่ตอบทันทีว่า “วันนี้ข้าประสบปัญหา หวังว่าท่านผู้อาวุโสจะแสดงความเมตตาเพื่อช่วยชีวิตข้า!”
กลุ่มเมฆาม่วงแยกออกอีกหน ก่อนจะมีเงาประหนึ่งเซียนยืนอยู่เหนือหมู่เพลิงเมฆา
เซียนผู้นั้นสวมชุดลายเมฆอัคคี เส้นผมของนางประหนึ่งเพลิง สายตาหลุบต่ำ ปราศจากซึ่งอารมณ์ทั้งมวล
นางทอดสายตาลงมาก่อนจับจ้องไปที่ลู่หยวน ท่ามกลางหมู่เมฆสีม่วงที่อยู่ข้างกาย สายฟ้านับไม่ถ้วนยังคงร่ายรำ ราวกับกำลังสำแดงฤทธา
“เจ้าหนู ฝีมือนับว่าไม่ตื้นเขิน แถมยังกำราบเพลิงอัสนีได้”
เซียนเอ่ยอย่างแผ่วเบา แววตาของนางเผยรอยยิ้มออกมา “หากยังอยู่บนโลกใบนี้ ข้าย่อมรับคนมากพรสวรรค์เช่นเจ้าเป็นศิษย์อย่างแน่นอน”
ยามได้ฟังคำพูดของผู้อาวุโส หัวใจของท่านหู่พลันสั่นสะท้าน
ผู้ที่เขาเรียกมาคือบรรพชนวิหคเพลิงผู้ให้กำเนิดเผ่าพยัคฆ์โลหิต!
บรรพชนผู้นี้ล่วงลับไปแล้ว แต่นางหลงเหลือร่างมายาเอาไว้ให้ลูกหลานเผ่าพยัคฆ์โลหิตสามารถอัญเชิญเพื่อช่วยพวกเขาจากภยันตรายได้
แต่ดูจากท่าทีของบรรพชนในยามนี้ ราวกับมีความสนิทสนมกับลู่หยวน!
ท่านหู่เริ่มไม่มั่นใจว่าจะสามารถรอดจากปัญหาในวันนี้ได้หรือไม่!
สิ้นคำของเซียนผู้อยู่เหนือหมู่เมฆสีม่วง ลู่หยวนเพียงยิ้มโดยไม่เอ่ยอะไร
นางหลับตาลงราวกับกำลังนึกถึงห้วงอดีต รวมถึงเรื่องราวมากมาย
ผ่านไปหลายอึดใจ เซียนผู้นั้นจึงเอ่ยคำ “แม้ข้าจะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถึงอย่างไรวิญญาณพยัคฆ์โลหิตก็เป็นลูกหลานของข้า เจ้าหนู ช่วยปล่อยเขาไปได้หรือไม่?”