ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 245 กระบี่ใหญ่สีทอง
บทที่ 245 กระบี่ใหญ่สีทอง
บทที่ 245 กระบี่ใหญ่สีทอง
สายตาของชิวชิงหลีเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะขยับมือเพื่อโคจรพลังวิถีคุณธรรมเพิ่มขึ้น“กระบี่วิถีโลกา กลับมา!”
แม้นางจะส่งเสียงเรียก แต่กระบี่ซึ่งติดตามมาหลายปีกลับไม่มีทีท่าขยับ มันยังคงแน่นิ่งอยู่ในมือของลู่หยวน
“วิถีคุณธรรมหรือ?”
ลู่หยวนคลี่ยิ้มพลางชำเลืองมองอีกฝ่าย สายตาของเขาเต็มไปด้วยการเสียดสีไร้ที่สิ้นสุด “ชิวชิงหลี ดูจากการกระทำแล้ว เจ้าไม่สามารถปลดปล่อยพลังของกระบี่เล่มนี้ถึงหนึ่งในหมื่นด้วยซ้ำ”
ผู้ฟังคิ้วขมวด บุตรศักดิ์สิทธิ์มีพลังแห่งวิถีคุณธรรมเพียงเล็กน้อย ส่วนตนคือเชื้อสายของตระกูลชิวแห่งวิถีคุณธรรมที่มีมาหลายแสนปี นางจะด้อยกว่าเขาได้อย่างไร?!
กระบี่วิถีโลกาเล่มนี้คือตัวตนที่พิเศษมาก!
แม้กระบี่เล่มนี้จะเป็นอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่โดยปกติแล้ว มันจะถูกผนึกไว้ในตระกูลแล้วถูกใช้โดยผู้อาวุโส
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทุกคนคล้ายกับเก็บมันไว้เป็นความลับ
สุดท้ายกระบี่เล่มนี้ก็ถูกส่งมอบให้ผู้สืบทอดแห่งตระกูลชิว เพื่อให้ผู้สืบทอดตระกูลใช้มันรับรู้พลังแห่งวิถีคุณธรรม และเชื่อมต่อเส้นชีพจรแห่งวิถีคุณธรรมในร่าง จนปลดปล่อยพลังที่มหาศาลออกมาได้
ในบรรดานายน้อยแห่งตระกูลชิว ชิวชิงหลีนับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์มาก แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่นางจะสามารถใช้กระบี่วิถีโลกาตัดผ่านอากาศได้
ขนาดนางที่อยู่ในระดับนี้ยังใช้งานมันได้อย่างยากลำบาก แล้วลู่หยวนมีพลังมากเพียงใดถึงสามารถควบคุมมันได้?
ที่สำคัญ… เดิมทีกระบี่วิถีโลกาเป็นของตระกูลชิว หาใช่ของชิวชิงหลีไม่
แต่ในเมื่อมันถูกลู่หยวนแย่งชิงไปแล้ว นางย่อมต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเอากระบี่กลับคืนมา!
หาไม่แล้ว เกรงว่าเป็นการยากที่ตนจะเหลือจุดยืนอยู่ในตระกูลชิว
ขณะชิวชิงหลีกำลังจะพูดบางอย่าง วิญญาณอีกดวงพลันเอ่ยขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจนาง วาจาของอีกฝ่ายเย็นชาผิดปกติ “ข้าจะแนะนำเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จงยอมจำนนต่อลู่หยวนซะ ภายภาคหน้าเขาจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้!”
“หุบปาก!”
ชิวชิงหลีตะโกนในใจ เพื่อห้ามปรามคำพูดของอีกฝ่าย
นางเงยหน้ามองลู่หยวน คิ้วสีดำขมวดแน่น ยามขยับมือกระบี่ยาวสีเขียวคมปลาบพลันปรากฏ จิตสังหารแผ่กระจายทุกหนแห่งจากเหนือรัศมีที่พร่างพราว
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับท่าน หากยอมปล่อยฉู่เชิ่งแล้วคืนกระบี่วิถีโลกามา ความบาดหมางของพวกเราเป็นอันจบลงตรงนี้ ภายภาคหน้าท่านยังเป็นแขกของตระกูลชิว ดีหรือไม่?”
ยามนี้ชิวชิงหลียังคงสั่นสะท้านอยู่ภายใน หากลู่หยวนมองว่านางคือสมาชิกของตระกูลชิวแห่งวิถีคุณธรรม ซึ่งเป็นสมาชิกของตระกูลชั้นสูง เขาย่อมต้องไว้หน้าบ้าง
“คืนหรือ?”
ลู่หยวนยกยิ้ม กระบี่ยาวในมือของเขาสั่นไหว พลังมหาศาลแผ่ออกมา ทำให้พื้นที่รอบข้างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ความว่างเปล่าเกิดการสั่นสะท้านจนเกือบแตกสลาย
“ชิวชิงหลี กระบี่โลกาเล่มนี้เป็นของข้ามาโดยตลอด การที่บัดนี้มันกลับมาอยู่ในมือของข้า ย่อมเป็นการกลับคืนสู่เจ้าของเดิม เหตุใดจึงต้องคืนด้วย?”
“เจ้า!!!”
ดวงตาของชิวชิงหลีไหวระริก นางไม่คาดคิดว่าลู่หยวนจะหน้าด้านถึงเพียงนี้
กระบี่โลกาเล่มนี้เป็นของตระกูลชิว ทุกคนทั่วหล้าต่างทราบดี แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์กลับเอ่ยไม่กี่คำว่า กระบี่เล่มนี้เป็นของเขา!
ดวงตาของนางปรากฏจิตสังหาร ริมฝีปากเปล่งน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าเช่นนั้น ลู่หยวน ขอข้าดูฝีมือที่แท้จริงของเจ้าหน่อย!”
นางเคลื่อนไหวในชั่วพริบตา ฟาดฟันกระบี่ยาวสีเขียวในมือออกไป โดยมีรัศมีพลังแห่งวิถีคุณธรรมโคจรเวียนอยู่รอบกาย
วิถีคุณธรรมน่าเกรงขามหาใดเปรียบปรากฏบนคมอาวุธ ก่อนกระบี่นับไม่ถ้วนจะก่อตัวขึ้นที่ด้านหลังชิวชิงหลี
เพียงพริบตา กระบี่ใหญ่หลายร้อยเล่มรวมตัวในอากาศธาตุพร้อมกลิ่นอายวิถีคุณธรรมไร้ที่สิ้นสุด
หมู่เมฆสีดำเคลื่อนลงมา ผลักไสกลิ่นอายหมู่เมฆาอัสนีสีม่วงออกไปกว่าครึ่ง ตามมาด้วยแรงกดดันทรงพลังปกคลุมทั่วพื้นที่
ตูม!
ทันทีที่พลังดังกล่าวปรากฏ ปฐพีต่างถูกบดขยี้ ทำให้เม็ดทรายแหลกละเอียดกลายเป็นผุยผงในบัดดล
สายตาของชิวชิงหลีเย็นชา นางสร้างผนึกแปลกประหลาดขึ้นในมือ กระบี่นับร้อยที่อยู่ด้านหลังพลันสั่นไหวก่อนจะประสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นกระบี่ใหญ่สีทอง
วิ้ง!
เสียงระฆังใหญ่ยังคงดังก้องเหนือท้องนภาจากสวรรค์ทั้งเก้าราวกับเป็นสักขีพยาน ทำให้ยามนี้ทั่วโลกเงียบสงัด
ชิวชิงหลีตรึงกระบี่ยักษ์ไว้กลางอากาศด้วยสองมือ ก่อนจะกดลงไป
“หนึ่งกระบี่ฟาดฟันสวรรค์และโลก!”
สิ้นคำ กลิ่นอายหมู่เมฆนับไม่ถ้วนเคลื่อนไปมาเหนือความว่างเปล่า มือเมฆาสองข้างพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ พวกมันจับด้ามกระบี่ใหญ่สีทอง ก่อนจะเคลื่อนลงมาเพื่อฟาดฟันเข้าใส่ลู่หยวน!
…
ตูม!
ยามกระบี่ใหญ่สีทองลงมือ ฟ้าดินถูกบดบัง ความว่างเปล่าแตกสลายสิ้น พื้นที่ทั้งหลายคล้ายกับกำลังพังทลาย ทำให้หลุมดำนับไม่ถ้วนปรากฏ สรรพสิ่งรอบข้างถูกดูดเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
แม้อยู่นอกเขตแดนลับ แต่ไม่ว่าใครก็ย่อมสามารถสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาล
อักขระบนค่ายกลของเขตแดนลับแห่งนี้เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง บางส่วนถึงขั้นไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาล ก่อนจะเริ่มแตกสลาย
มู่พ่านซานสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงจึงคิ้วขมวด ร่างของเขาวูบไหวจนมาหยุดหน้าค่ายกล
องครักษ์จำค่ายกลนี้ได้ มันถูกตระกูลชิวผนึกเอาไว้ แถมคนผู้นั้นยังมีรากฐานการบ่มเพาะอยู่ระดับสมบูรณ์ของขั้นจ้าวยุทธ์ ด้วยเหตุนี้ผู้อยู่ขั้นจ้าวยุทธ์ธรรมดาจึงไม่สามารถทำให้มันแตกร้าวได้
ข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงได้มีพลังมหาศาลระเบิดออกมา จนเกือบทำลายค่ายกลได้?!
มู่พ่านซานครุ่นคิดอย่างถ้วนถี่ ดูเหมือนจะมีสามคนที่เพิ่งเข้าไป
ฉู่เชิ่ง ชิวชิงหลี และลู่หยวน!
ขณะมองค่ายกลตรงหน้าที่กำลังพังทลาย มู่พ่านซานยกมือขึ้นสัมผัสเพียงไม่กี่ครั้ง ทำให้อักขระที่กำลังแตกสลายรวมตัวอีกหน
ค่ายกลที่กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงเริ่มสงบภายใต้พลังของมู่พ่านซาน จนทุกสิ่งกลับสู่ความสงบ
“หรือว่าลู่หยวน”
องครักษ์คนสนิทของจักรพรรดินีคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบยันต์ขึ้นมาแล้วเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
เพียงสะบัดนิ้ว ยันต์ก็พุ่งทะยานออกไป ก่อนจะมุ่งสู่ห้องบรรทมในวังจักรพรรดิแดนมัชฌิม
…
ณ เขตแดนลับ กระบี่ใหญ่สีทองฟาดฟันผ่านมวลอากาศ ก่อนจะพุ่งเข้าหาลู่หยวน
ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนตรงเข้ามา โดยมีสายลมโหมกระหน่ำท่ามกลางการโจมตีที่โถมเข้าใส่
บุตรศักดิ์สิทธิ์ในชุดคลุมสีแดงห่มดำเดินออกมาพร้อมเชิดหน้าขึ้น เขาจ้องมองกระบี่ใหญ่สีทองที่กำลังเคลื่อนลงมาจากท้องนภา ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“ขยะ”
ลู่หยวนเอ่ยคำนี้ออกมาอย่างแผ่วเบา
ยามกระบี่ใหญ่สีทองฟาดฟันจนมาถึงตรงหน้า ชายหนุ่มยกมืออย่างเชื่องช้า ทันใดนั้นกระบี่วิถีโลกาพลันสั่นไหว กลิ่นอายแห่งวิถีคุณธรรมบริสุทธิ์สะกดการโจมตีเอาไว้ ก่อนจะกลับสู่กระบี่วิถีโลกา
วิ้ง!
กระบี่ยาวพลันส่งเสียงร่ำร้อง ทำให้ปราณกระบี่ที่อยู่โดยรอบสงบลง
ลู่หยวนเงยหน้า กระบี่วิถีโลกาในมือลอยขึ้น เพื่อเผชิญกับกระบี่ใหญ่สีทอง
ตูม!
กลิ่นอายแห่งวิถีคุณธรรมทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นพลังมหาศาลกระจายไปทุกทิศทาง จนถึงสุดขอบพรมแดน
ตูม! ตูม! ตูม!
จากศูนย์กลางการต่อสู้จนกระทั่งถึงสุดขอบ สถานที่นับไม่ถ้วนถูกกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง หลุมดำมหาศาลยังคงปรากฏขึ้นโดยรอบ
หลุมดำซ้อนทับกัน ก่อนจะกลืนกินกันเอง ทำให้ท้องนภาที่เดิมมืดมิดหายเข้าไปในหลุมดำเหล่านี้