ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 257 ร่างมายาดาบทองคำ
บทที่ 257 ร่างมายาดาบทองคำ
บทที่ 257 ร่างมายาดาบทองคำ
ร่างของลู่หยวนหยุดชั่วคราว “ค่าชะตาของฉู่เชิ่งเพิ่มขึ้นรึ? ข้าได้ยินผิดไปหรือไม่?”
[ไม่ผิด! เนื่องจากบุตรแห่งโชคชะตาฉู่เชิ่งได้รับวาสนาใหม่ ทำให้ค่าชะตาของเขาเพิ่มขึ้น!]
ชายหนุ่มขมวดคิ้วรูปกระบี่ครู่หนึ่งก็คลาย แววตาฉายความตื่นเต้น “เช่นนั้น ข้าก็สามารถชิงมาได้มากขึ้นน่ะสิ!”
ระบบเงียบงัน…
ลู่หยวนแสยะยิ้ม ฉู่เชิ่งผู้นี้ไม่เลว ครั้งที่แล้วก็ชิงค่าชะตามาไม่น้อยแล้วแท้ ๆ
แต่เจ้าหมอนี่โชคดีได้รับค่าชะตาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
นี่ไม่ใช่การส่งค่าชะตาให้เขาเต็ม ๆ หรอกหรือ!
ทว่า… เมื่อพิจารณาจากเวลาแล้ว ฉู่เชิ่งกับลู่หยวนได้สลับตำแหน่งกัน ยามนี้น่าจะอยู่ที่ซากปรักหักพังวิหคเพลิง
แปลว่าภายในนั้นยังมีโชคชะตาที่ยังไม่ถูกค้นพบ!
ลู่หยวนจัดแจงสิ่งของต่าง ๆ จนเรียบร้อย กำลังจะหยิบดาบสีทองที่ลอยอยู่กลางอากาศ
เมื่อเขาเข้าใกล้ดาบ ทันใดนั้นก็มีกลิ่นอายรุนแรงแผ่ออกมา เสียงดังไปทั่วทั้งตำหนักใหญ่
“เจ้าคือผู้ใด ถึงกล้าบุกรุกพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าข้า!”
เห็นเพียงบนดาบสีทอง เจตจำนงแห่งดาบไร้ที่สิ้นสุดก็กระจายออกไปในชั่วพริบตา พร้อมเสียงดังสนั่นยามปราณดาบทุกชนิดพวยพุ่ง ครู่ต่อมา อักขระยันต์สีทองจากมุมทั้งสี่ทิศของตำหนักใหญ่ก็เข้าตะลุมบอนกับปราณดาบอย่างดุเดือดทันที
ครืน! ครืน! ครืน!
มีอักขระยันต์ใหม่กะพริบไหวในสี่ทิศทางของตำหนักทั้งแปด ในอึดใจเดียว อักขระยันต์ก็ไขว้กันบนพื้น วงเวทลอยขึ้นจากอากาศปกคลุมตำหนักใหญ่ทั้งหมด
ด้านหลังลู่หยวนมีร่างมายาปรากฏขึ้นตรงกลางวงเวท เป็นชายวัยกลางคนในชุดเกราะหนาสีดำ รูปร่างกำยำ พร้อมแววตาดุดัน
ลู่หยวนหันกลับมามองร่างมายาของชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างใจเย็น
อีกฝ่ายหลับตาลง ครั้นลืมตาขึ้นอีกครั้ง พลันมีปราณดาบโจมตีออกมา
“เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นผู้ใด?!”
เมื่อชายคนนั้นเอ่ยปาก เสียงก็กึกก้องไปทั่วทั้งตำหนักในทันที แรงกดดันอันมหาศาลแผ่ออกมา
ลู่หยวนยืนเอามือไพล่หลัง ดวงตาสงบนิ่ง พลางเอ่ยเย้ยหยัน “เจ้าสมควรรู้หรือ?”
“บังอาจ!”
ร่างมายาชายผู้นั้นตวาดเสียงเกรี้ยวกราด ปราณดาบที่ไม่มีที่สิ้นสุดโหมกระหน่ำทั่วร่างพุ่งเข้าหาคู่กรณี
บุตรศักดิ์สิทธิ์เอื้อมมือขวาออกไป ตามด้วยเสียงคำรามต่ำ หอกพันมังกรเก้าสวรรค์ทะลวงอากาศดุจมังกรที่ชูศีรษะขึ้น ปะทะปราณดาบที่พุ่งมา
ตูม!
หอกยาวและคมดาบเชือดเฉือนกัน เสียงระเบิดดังสนั่น ความว่างเปล่าแตกเป็นเสี่ยง ๆ หลุมดำโผล่ขึ้นมากลืนกินพลังจากการปะทะกันระหว่างคนทั้งสอง
คลื่นลมกระจายออกไปทุกทิศทุกทาง จนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตำหนัก
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจทุกอย่างก็หายไป ร่างมายาชายผู้นั้นหรี่ตา พร้อมเสียงเคร่งขรึมดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริง ๆ!”
“ชายหนุ่มที่กำลังจะสืบทอดเจตจำนงแห่งดาบของข้าก็หายไปทันทีเพราะเจ้า”
“เจ้าคงมีกลอุบายบางอย่าง ข้าอยู่ในแผ่นดินหยวนหงมาหลายพันปีแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นวิธีการเช่นนี้มาก่อน!”
ลู่หยวนไม่สนใจเขา หอกในมือหนักอึ้ง กวาดสายตามองไปที่เงาลวงตา เห็นเพียงว่าตรงหน้าอกของชุดเกราะหนักนั้นแตกต่างจากเงาลวงตาที่อยู่รอบตัวเขา
ชุดเกราะเกล็ดนั้นดูเหมือนของจริงมากกว่า! และประกายแสงสีทองเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบก็มีลมหายใจลึกซึ้งไม่คล้ายเป็นสิ่งของธรรมดา
“ระบบ ตรวจสอบเกราะเกล็ดตรงหน้าอกของร่างมายานั่นซิ!”
[รับทราบ! กำลังตรวจสอบ]
[การตรวจสอบเสร็จสมบูรณ์!]
[ชุดเกราะเกล็ดนี้คือชุดเกราะเกล็ดวิถีสวรรค์! เป็นเกราะเกล็ดหนักที่สืบทอดพลังของเจตจำนงแห่งดาบเล่มนั้น!]
[แจ้งเตือน สามารถชิงมาเพื่อทำการดูดซับได้!]
เมื่อสิ้นเสียงของระบบ ลู่หยวนก็กะพริบตา
แววตาของบุตรศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนไป… มันเผยแววความปรารถนาและละโมบ
ในสายตาของชายตรงหน้า ร่างมายารู้สึกว่าตนเองเหมือนลูกแกะรอถูกเชือด!
ร่างมายาชะงักไปครู่หนึ่ง คิ้วขมวด โทสะพลุ่งพล่านอยู่ในใจ
ก่อนตาย ตนเคยเป็นกษัตริย์แห่งฉวนจง!
ทั่วทั้งเขตฉวนจงนับถือเขาเป็นจักรพรรดิ ผู้คนในดินแดนอื่นก็เคารพนอบน้อมต่อเขาเช่นกัน
เขาจะเคยมีช่วงเวลาเช่นนี้เสียที่ไหน?!
“เจ้าหนุ่ม วันนี้ข้าจะให้เจ้ารู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
ร่างมายายื่นหัตถ์ใหญ่ออกมา ดาบสีทองที่ห้อยอยู่กลางอากาศพลันลอยเข้าไปในมือ
เกล็ดบนหัวใจของร่างมายาสว่างวาบ และพลังแห่งวิถีก็พุ่งตามมา ทั้งตำหนักใหญ่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังแห่งวิถี
ครืน!
ร่างมายานั้นยกมือขึ้น เจตจำนงแห่งดาบสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง ไอสังหารแผ่กระจายออกมาจากคมดาบสีทองพลันเล็งตรงไปทางลู่หยวน
ฟิ้ว! ฟู่ว! ฟู่ว!
ลมพายุพัดแรงขึ้นกลายเป็นพายุ พลังวิญญาณนับไม่ถ้วนผันผวนและม้วนเข้าหาปราณดาบ
ดาบเรืองแสงสีทองเช่นเดียวกับดวงตาของร่างมายา
ชั่วขณะหนึ่ง ลู่หยวนรู้สึกว่าร่างของคนตรงหน้าหายไปในทันใด เหลือไว้เพียงดาบสีทองอยู่ที่จุดเดิม
“ดาบกับมนุษย์รวมร่างกัน?” ลู่หยวนกล่าวประโยคหนึ่งช้า ๆ พร้อมกับลอบยกยิ้มที่มุมปาก “น่าสนใจดี!”
เสียงของร่างมายาพึมพำ สวรรค์และโลกเงียบลงในทันใด แรงกดดันในตำหนักใหญ่เริ่มแผ่ไปทั่ว
แม้แต่บนไหล่ของลู่หยวนก็มีน้ำหนักหลายแสนจินกดทับอยู่
เมื่อเวลาผ่านไป แรงกดดันในอากาศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กดจนเท้าของชายหนุ่มจมลงไปในพื้นหิน มือที่ถือหอกพันมังกรเก้าสวรรค์ดูราวกับมีน้ำหนักหนึ่งหมื่นจิน ยากจะยกขึ้น
“เจ้าหนุ่ม เป็นเกียรติที่ได้ตายด้วยเงื้อมมือของข้า!”
ร่างมายาโบกมือและฟัน แสงสีทองส่องวาบ ใบมีดสีทองมีขนาดใหญ่ขึ้นในทันที ดาบใหญ่ร้อยจั้งก็ฟันลงไปที่ลู่หยวน
แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ดาบทองร้อยจั้งกวาดไปทั่วพื้นที่ และฟาดฟันไปยังเบื้องหน้าของลู่หยวน แรงกดดันยิ่งหนักหน่วง
ร่างมายานั้นเห็นว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย นัยน์ตามีแววดูถูกฉายชัด
เด็กคนนี้เอาแต่คุยโว ตอนนี้เขาลงมือจริง ๆ ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม สงสัยจะขยับไม่ได้เสียด้วยซ้ำ!
ถุย!
น่าเสียดายเด็กที่กำลังจะสืบทอดเจตจำนงแห่งดาบของเขาก่อนหน้านี้ หากเพราะการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เจ้านั่นคงได้รับสืบทอดเจตจำนงแห่งดาบของเขา รากฐานการฝึกฝนก็เพิ่มขึ้นมหาศาล!
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันจนไม่มีเวลาแม้แต่จะถามชื่อเด็กคนนั้น
ช่างเถิด หากมีวาสนาร่วมกัน ย่อมได้พบกันใหม่!
ในเวลานี้ ดาบร้อยจั้งห่างจากลู่หยวนเพียงสามฉื่อ อีกเพียงลมหายใจเดียวก็จะแยกชายหนุ่มออกเป็นสองส่วน
ร่างมายาส่ายหัวพลางยิ้ม เตรียมจะนำลำแสงแห่งวิญญาณที่เหลืออยู่กลับคืนมา และกลับไปที่ดาบสีทองเพื่อบ่มเพาะ
ครืน!
สวรรค์และโลกพลันสั่นสะเทือน เห็นเพียงสีแดงเข้มปกคลุมทั่วทั้งตำหนักใหญ่ในทันที
แรงกดดันทั้งหมดในพื้นที่นั้นก็พังทลายลงในพริบตานี้เอง