ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 263 ฉู่เชิ่งปะทะมู่พ่านซาน
บทที่ 263 ฉู่เชิ่งปะทะมู่พ่านซาน
บทที่ 263 ฉู่เชิ่งปะทะมู่พ่านซาน
ลู่หยวนยกมือขึ้นฟ้า พลันปรากฏยันต์สีแดงในมือ
ขณะนั้นเอง เสียงระบบก็ดังขึ้น
[ขอแสดงความยินดีกับท่านสำหรับการแลกยันต์อหังการ! ผลของยันต์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ไร้ความหวาดกลัว ไร้ความกังวลในช่วงเวลาสั้น ๆ!]
[ค่าชะตาวายร้ายของท่านลดลง 1,000 แต้ม!]
[ค่าชะตาวายร้ายของท่านในปัจจุบันคือ 25,000 แต้ม!]
ลู่หยวนกวาดตามองไปยังคนสองคนที่เผชิญหน้ากัน ก่อนที่สายตาของเขาจะสบเข้ากับฉู่เชิ่ง จนบุตรศักดิ์สิทธิ์คลี่ยิ้มออกมา
“เป็นเจ้านี่แหละ!”
ข้อมือของลู่หยวนสั่นไหว ยันต์แผ่นนั้นก็หายไปทันที ลมหายใจต่อมา แสงสีแดงก็สว่างวาบมาจากด้านหลังฉู่เชิ่งขณะที่ยันต์หลอมเข้าไปในร่างของบุตรแห่งโชคชะตา
ร่างกายของฉู่เชิ่งสั่นสะเทือนในทันใด แสงในดวงตาของเขาเป็นประกาย ความกังวลในใจก็หายวับไป
ความเย่อหยิ่งซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้พวยพุ่งขึ้นมาจากจิตสำนึก หลังผ่านไปครู่หนึ่ง มันก็เข้าครอบงำสมองของเขา
เห็นเพียงฉู่เชิ่งยืนขึ้นพร้อมดาบยาวในมือ เขายกมุมปาก พลางแสดงท่าทางหยิ่งผยอง
ฉู่เชิ่งมองคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงข้ามด้วยสายตาดูถูกหยียดหยาม
“หึ มู่พ่านซาน เจ้านับเป็นตัวอะไรกันถึงกล้าต่อกรกับข้า?!”
“ดูให้ดีว่า ข้าจะตบเจ้าให้กลิ้ง!”
ฉู่เชิ่งเหวี่ยงดาบยาว ทันใดนั้นเพลิงสวรรค์ก็กระจายออกจากร่างวิหคเพลิง จากนั้นเปลวไฟที่แผดเผาก็ห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้ทั้งหมด บนคมดาบ เปลวไฟยังพัดไปทั่ว พลังในการต่อสู้ก็พุ่งสูงขึ้นราวเทพอัคคี
เมื่อมองไปยังคู่ต่อสู้ผู้เปลี่ยนท่าทีกะทันหัน มู่พ่านซานก็แปลกใจเล็กน้อย
เมื่อครู่เจ้านี่ยังไม่กล้าก้าวมาข้างหน้าไม่ใช่หรือ?
ทำไมตอนนี้อยู่ ๆ ก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน?!
ฉู่เชิ่งรู้สึกเพียงว่ามีเสียงในใจกระตุ้นเขาอย่างต่อเนื่อง
‘ฉู่เชิ่ง เจ้าเอาชนะเขาได้! เจ้าเอาชนะเขาได้!’
แม้จิตสำนึกของฉู่เชิ่งรู้ดีว่าตัวเองไม่ควรเป็นฝ่ายเปิดฉากต่อสู้กับมู่พ่านซาน แต่กลับไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ในหัวใจเขา ราวกับโลกทั้งใบอยู่ในกำมือ จนแม้แต่ผู้เป็นเซียนและเทพในแดนเซียนยังต้องกราบแทบเท้า!
ดวงตาของฉู่เชิ่งจ้องตรงไปยังมู่พ่านซาน ยกดาบยาวขึ้น กลิ่นอายของเพลิงสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา พร้อมเพลิงสวรรค์ที่ลุกโชน
มู่พ่านซานหรี่ตาลง สายตาของเขาจับจ้องไปยังจุดที่เปลวไฟสีน้ำเงินอมม่วงพวยพุ่งออกมาจากผิวหนังของอีกฝ่าย
เปลวไฟนั้นคือเพลิงเหมันต์สงัดที่ฉู่เชิ่งถือครองอยู่
เจ้านี่จะต่อสู้สุดชีวิตสินะ!
เพลิงสวรรค์โหมกระหน่ำ ราวกับเพลิงเหมันต์สงัดทั้งหมดถูกสังเวยให้กับมัน!
เขาเห็นเพียงฉู่เชิ่งถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้าง ขณะแผ่กลิ่นอายหยิ่งผยอง
เพลิงสวรรค์พลันปะทุขึ้น และพุ่งตรงไปยังมู่พ่านซาน
เพลิงสวรรค์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดโจมตีเข้ามา สะท้อนเข้าดวงตาขององครักษ์ราวกับเทพเจ้าผู้ควบคุมชะตาชีวิตลงมาจุติ!
แรงกดดันของมู่พ่านซานยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เพลิงสวรรค์ก็ยิ่งรุกคืบเข้ามาหาเขาในทันที
“มู่พ่านซาน รับดาบของข้าไปซะ!”
ฉู่เชิ่งตะโกน ก่อนพุ่งตามเพลิงสวรรค์ไปฆ่าอีกฝ่าย
มู่พ่านซานเผยสีหน้าเคร่งเครียด พยายามระงับความกลัวที่ก่อตัวขึ้นในใจ พลางหลอกตัวเองว่าเขาไม่ใช่คนของราชวงศ์! เขาไม่ใช่คนของราชวงศ์! เผื่อความขลาดกลัวเพลิงสวรรค์จะลดลงบ้าง
เมื่อเพลิงสวรรค์บุกเข้ามา มู่พ่านซานก็หันหลบไปด้านข้าง ยับยั้งตัวเองให้ได้มากที่สุด และปัดป้องผ่านเพลิงสวรรค์
ครั้นดาบของฉู่เชิ่งมาถึง เห็นมู่พ่านซานหันไปด้านข้าง บุตรแห่งโชคชะตาก็ต้องการหมุนดาบไปรอบ ๆ และฟันออกไป
ยามมู่พ่านซานเหลือบมองก็พบจุดอ่อนได้อย่างง่ายดาย!
ชายวัยกลางคนเรียกดาบใหญ่ออกมาทันทีโดยไม่ลังเล แล้วโจมตีฉู่เชิ่งด้วยพละกำลังทั้งหมด
ฉู่เชิ่งหลบไม่ทัน เพลิงสวรรค์รอบตัวเขาก็ไม่มีเวลาพอให้ตอบสนอง
ดาบใหญ่เล่มนั้นเหมือนลูกศรทะลวงท้องฟ้าทะยานมาทางเขา
ชิ้ง!
ดาบใหญ่แทงผ่านชั้นเพลิงสวรรค์ พุ่งไปตรงหน้าของบุตรแห่งโชคชะตาในทันที
ฉู่เซิงตื่นตัว จากนั้นโคจรพลังทั้งหมดในร่างกาย ก่อนถอยหลังกลับ
ดาบใหญ่ฟาดฟันไปข้างหน้า เฉียดร่างของฉู่เชิ่ง ไป
พรึ่บ!
ดาบใหญ่บินออกไป เพลิงสวรรค์โดยรอบก็ลุกโชน ห่อหุ้มดาบใหญ่จนมันถูกเพลิงสวรรค์ทำลายและกลายเป็นฝุ่นผง
ฉู่เชิ่งยืนตัวตรงและมองไปที่แขนของเขา
จึงเห็นว่าถูกฟันด้วยดาบ และมีรอยเลือดจาง ๆ
ประกายความโกรธวาบขึ้นในดวงตา ครั้นฉู่เชิ่งเงื้อดาบยาวในมือขึ้น เพลิงสวรรค์โดยรอบก็พุ่งเข้ามาล้อมเขาอย่างรวดเร็ว
เพลิงเหมันต์สงัดในร่างกายของบุตรแห่งโชคชะตาแผดเผาโหมกระหน่ำอย่างเต็มที่ และเสียสละตัวเองให้กับเพลิงสวรรค์
เพลิงสวรรค์บนร่างกายของฉู่เชิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
มู่พ่านซานมองไปยังความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นของเพลิงสวรรค์รอบกายอีกฝ่าย ประกายบางอย่างเปล่งแสงวาบในดวงตา
เขารู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าฉู่เชิ่งเปลี่ยนไปมาก
เพลิงสวรรค์บนร่างของอีกฝ่ายเดิมมีขนาดเล็กมาก แต่ตอนนี้ได้กระจายไปทั่ว เนื่องจากการสังเวยเพลิงเหมันต์สงัดให้กับมัน
เช่นเดียวกับฉู่เชิ่งในตอนนี้ หากเขาทำให้เพลิงเหมันต์สงัดแผดเผาอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดเปลวไฟนี้ก็จะหมดลง
ตอนนั้นเอง เพลิงสวรรค์ก็จะดับลงเช่นกัน!
เมื่อเพลิงสวรรค์มอดดับ มู่พ่านซานจะไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ
ในเวลานั้น ทั้งชีวิตและความตายของฉู่เชิ่งจะอยู่ในการควบคุมของราชองครักษ์ใหญ่!
แต่ฉู่เชิ่งดูจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาสังเวยเพลิงเหมันต์สงัดแด่เพลิงสวรรค์อย่างสุดกำลัง ให้มันคอยคุ้มกันอยู่รอบกาย
เห็นเพียงบุตรแห่งโชคชะตายกมือขึ้น เพลิงสวรรค์ก็จะฟาดฟันดาบยาวออกไปในอากาศ
เพลิงสวรรค์ที่ขนานนามว่าเป็นเพลิงวิญญาณจักรพรรดิแห่งดินแดนหยวนหง ทลายความว่างเปล่า พุ่งเข้าไปสังหาร
มู่พ่านซานตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้อีกฝ่ายใช้พลังจนกว่าเพลิงเหมันต์สงัดจะหมดลง
เขาเคลื่อนหลบเพลิงสวรรค์มากมายอย่างรวดเร็ว
คนทั้งสอง หนึ่งโจมตี หนึ่งหลบหลีก เพลิงสวรรค์ยังคงเผาไหม้ในอากาศอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน…
ลู่หยวนนั่งสบาย ๆ อยู่กลางฟากฟ้า ชมการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนเงียบ ๆ
เจิ้งชิงเทียนอดไม่ได้ที่จะออกมาสนทนาสักสองสามประโยค
ทั้งสองคุยกันไม่กี่คำ เกี่ยวกับเรื่องที่ตระกูลชิวส่งคนไปตรวจสอบชิวชิงหลี
นางมารร้ายหยุดไปชั่วขณะ แล้วออกความเห็นว่า “นายท่าน ตามการคาดเดาของข้า ครั้งนี้ตระกูลชิวอาจไม่ได้มาหาเพียงชิวชิงหลี!”
ลู่หยวนยกยิ้ม ท่าทางเกียจคร้านเมื่อครู่พลันหายไป “ข้ารู้”
“คนตระกูลชิวจะมาตอนไหนไม่มา ต้องให้ข้าผู้นี้ใช้ลูกแก้วส่องสวรรค์ตรวจสอบตระกูลชิว ถึงได้ยอมมา”
“ข้ายังจำได้ว่า ภาพสุดท้ายที่ชิวสิงเงยหน้าขึ้นในตอนนั้น ดวงตาของเขาราวกับมองผ่านลูกแก้วส่องสวรรค์มาถึงข้าที่อยู่เบื้องหลัง!”
“ชิวสิงมีชีวิตอยู่มายืนยาว ตระกูลชิวได้สะสมกำลังมากมายมาหลายปี หากไม่แม้แต่จะรับรู้ถึงการสอดส่องของลูกแก้วส่องสวรรค์ ข้าคงสงสัยว่าตระกูลอันดับหนึ่งแห่งวิถีคุณธรรมนี้เป็นเพียงชื่อที่ว่างเปล่า!”
ลู่หยวนหยุดครู่หนึ่ง “ตั้งแต่ข้าได้ยินว่าตระกูลชิวส่งคนไปสอบสวนชิวชิงหลีอย่างละเอียด ข้าก็คิดแล้วว่าคนที่ชิวสิงส่งมาอาจไม่มาที่นี่เพื่อตรวจสอบลูกแก้วส่องสวรรค์!”
เมื่อฟังสิ่งที่ลู่หยวนพูด ในใจของเจิ้งชิงเทียนก็มีความชื่นชมเพิ่มขึ้นหลายส่วน
นางติดตามข้างกายลู่หยวนมานานเพียงนี้ จึงไม่แปลกใจกับความแข็งแกร่งที่คาดเดาไม่ได้ของเขา
แต่สิ่งที่รับรู้ได้มากที่สุดก็คือกลยุทธ์ของลู่หยวนนั้นไร้ที่ติ!