ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 289 จะจับโจรต้องจับหัวหน้าโจรก่อน!
บทที่ 289 จะจับโจรต้องจับหัวหน้าโจรก่อน!
บทที่ 289 จะจับโจรต้องจับหัวหน้าโจรก่อน!
เมื่ออักขระในมือของอูโจ้วก่อรูปขึ้น เสียงการโจมตีของเจิ้งชิงเทียนก็เคลื่อนลงมาจากด้านบน
“วิถีคุณธรรม ห้าผนึก!”
เมื่อสิ้นคำนั้น เสียง ‘วิ้ง’ ก็ดังขึ้น พลันเกิดการสั่นสะเทือนระหว่างฟ้าดิน
แสงสีทองวูบไหวจากรอบทิศทาง ผนึกกฎเกณฑ์ห้าวิถีพลันอุบัติขึ้นเพื่อขวางเส้นทางทั้งห้าเบื้องหน้าอูโจ้วไว้
พลังแห่งวิถีคุณธรรมปรากฏขึ้น พร้อมกับเคลื่อนลงมาหาอีกฝ่าย
อูโจ้วสัมผัสได้ว่าพลังกล้าแกร่งพลันกดทับลงมา ทำให้ร่างกายหนักอึ้งจนเคลื่อนไหวไม่ได้ ส่วนอักขระที่รวมตัวกันอยู่รอบฝ่ามือของเขาก็พังทลายในชั่วพริบตา
แผ่นหลังของเขาโค้งงอเพราะแรงกดดันจากพลังดังกล่าว ทำให้ดวงตาแดงก่ำด้วยความไม่อยากเชื่อ
พลังนี้ทำให้เกิดความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจงั้นหรือ?! ทำให้เขาอยากยอมจำนนหรืออย่างไร?!
เป็นไปไม่ได้!
เขาคือผู้นำเผ่าสาปมารที่ทรงพลัง!
หากเป็นเมื่อห้าแสนปีก่อน เขาย่อมเป็นตัวตนที่ทัดเทียมกับเผ่าสัตว์เทวะ!
จะมายอมจำนนแก่ผู้อื่นได้อย่างไร?!
ทว่าก่อนจะทันได้ครุ่นคิด พลังรอบข้างก็เกิดความผันผวน ผนึกกฎเกณฑ์ทั้งห้าพลันหายไปก่อนจะมุ่งหน้าเข้าหาอูโจ้ว
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ผนึกกฎเกณฑ์เหล่านี้ประหนึ่งระฆังขนาดใหญ่ เจตจำนงอันสูงส่งของมันทำลายห้วงอากาศ ก่อนจะเคลื่อนลงมาหาอูโจ้วในทันที
เขากัดฟันพลางประสานมือ ทำให้เส้นลมปราณปูดโปนขึ้นทั่วแขนราวกับงูตัวเล็ก
เส้นโลหิตเหล่านี้คล้ายกับได้รับคำสั่งจากบางสิ่ง พวกมันเริ่มบิดเบี้ยวจนกลายเป็นรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน
เขาพึมพำบางเบา ๆ เมื่อสิ้นคำก็มีโลหิตไหลออกมา
และผนึกวิถีคุณธรรมห้าวิถีก็เคลื่อนลงมาในยามนี้!
ทันใดนั้น!
อักขระสีเขียวและสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากร่างของอูโจ้ว
วิ้ง!
ผนึกวิถีคุณธรรมห้าวิถีหยุดนิ่ง ซึ่งพลังที่ไม่อาจอธิบายได้ปรากฏขึ้นบนร่างของอูโจ้วอย่างมั่นคง ทำให้รากฐานการบ่มเพาะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในเวลาอันสั้น
ด้วยความช่วยเหลือของพลังนี้ เขาจึงยันกายขึ้น โลหิตที่มุมปากยังคงส่องแสง ดวงตาของเขาซึ่งเป็นสีแดงก่ำพลันเหลือบมองขึ้นไป
เขาเห็นเจิ้งชิงเทียนยืนอยู่กลางอากาศ พร้อมหันกระบี่ยาวมาทางตัวเอง
อูโจ้วไม่ทราบว่าหญิงแกร่งที่ปรากฏตัวขึ้นนี้เป็นใคร แต่เขาทราบว่านางทรงพลังมาก!
เมื่อผนึกกฎเกณฑ์เคลื่อนลงมา เขาก็ฝืนใช้ทักษะลับของเผ่า!
นอกจากนี้… แม้ภาพมายาของหมู่เมฆจะเริ่มเลือนราง แต่ผู้ที่ทำให้มันปรากฏขึ้นจะต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ไม่ผิดแน่!
อูโจ้วจับจ้องไปยังเจิ้งชิงเทียนอีกครั้งก่อนจะกวาดมองลู่หยวนผู้ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ไกลออกไป
เมื่อลู่หยวนเห็นอีกฝ่ายจ้องมองมา เขาเพียงยิ้มอ่อนพร้อมกับยักคิ้วยั่วโมโห
ภายในใจของอูโจ้วไม่มีความผันผวน เขาเพียงคิดว่าจะหาทางออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร!
บัดนี้ เขาติดอยู่ในค่ายกล ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะทะลวงออกไปได้ง่าย ๆ!
ส่วนผู้หญิงบนท้องนภาก็ไม่ใช่คนที่อูโจ้วจะเอาชนะได้!
หนทางรอดเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ก็คือ… ยิงคนก่อนยิงม้า! จับโจรเอาหัวโจก!
สีหน้าของอูโจ้วมืดมนลง ขณะที่พลังทั้งหลายมุ่งเข้าสู่ทะเลลมปราณตรงช่วงท้องน้อย
ผนึกวิถีคุณธรรมห้าวิถีสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อสัมผัสถึงการขัดขืน ก่อนจะล่าถอยแล้วพุ่งตรงกลับไปอย่างรุนแรง
ตู้ม!
ผนึกวิถีคุณธรรมห้าวิถีเข้าปะทะจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
แม้กระทั่งภายในค่ายกล อากาศก็เริ่มสั่นไหวก่อนที่หลุมดำจะปรากฏ พร้อมกับกวาดล้างสรรพสิ่ง
แสงสีขาวทะยานลงมา ก่อนจะปกคลุมอากาศที่แตกสลายอย่างรวดเร็ว
เจิ้งชิงเทียนผู้อยู่เหนือท้องฟ้าขมวดคิ้ว นางยกกระบี่วิถีโลกาขึ้น โดยมีพลังวิถีคุณธรรมปกคลุมไปทั่ว
นางกวาดล้างสรรพสิ่งตรงหน้า แต่ภายใต้พลังของผนึกวิถีคุณธรรมห้าวิถีกลับไม่สามารถบดขยี้อูโจ้วได้!
ทันใดนั้น!
หางตาของนางก็เหลือบไปเห็นร่างหนึ่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภาด้วยความเร็ว
เจิ้งชิงเทียนหันไปด้านข้างแล้วแทงกระบี่วิถีโลกาออกไป ปราณกระบี่ทั้งหลายซึ่งปกคลุมอยู่ภายในพลังวิถีคุณธรรมพุ่งตรงเข้าหาอูโจ้ว
หลังจากอีกฝ่ายสัมผัสได้ว่านางกำลังใกล้เข้ามาแม้จะเพิ่มรากฐานการบ่มเพาะทั้งหมดแล้วก็ตาม ความรู้สึกยอมจำนนก็ก่อตัวขึ้นภายในใจ
เขารู้สึกปั่นป่วนก่อนจะกระตุ้นเส้นโลหิตให้ไหลย้อนกลับ เพื่อสะกดทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
เจิ้งชิงเทียนฟาดกระบี่วิถีโลกา หมายจะสังหารในพริบตา อูโจ้วกลั้นหายใจพลางขยับมือซ้าย ทำให้ค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากอากาศเพื่อปัดป้องกระบี่ที่ทะลวงเข้ามา
ตู้ม!
กระบี่ฟาดเข้าใส่ค่ายกล เพียงชั่วพริบตาก็เกิดรอยร้าวก่อนจะแตกสลายภายในหนึ่งอึดใจ
เจิ้งชิงเทียนดึงกระบี่กลับมาแล้วร่นถอยเล็กน้อย เพื่อโจมตีอีกครั้ง!
อูโจ้วฉวยโอกาสนี้สร้างผนึกด้วยสองมือ
พลังแห่งวิถีคุณธรรมรวมตัวกันบนกระบี่ยาวในมือของเจิ้งชิงเทียน ก่อนจะเกิดเป็นพลังกระบี่ไร้เทียมทาน
ตู้ม!
กระบี่ยาวทะลวงผ่านอากาศแล้วฟาดเข้าใส่อูโจ้วในชั่วพริบตา
ซู่!
กระบี่ยาวฟาดเข้าใส่อูโจ้ว ทันใดนั้นร่างของอีกฝ่ายก็ถูกผ่าครึ่ง
เจิ้งชิงเทียนตกตะลึงจนรู้สึกวิตกเล็กน้อย
นายท่านเหมือนจะสั่งให้นางจัดการเท่านั้น ไม่ได้สั่งให้ฆ่า!
การโจมตีก่อนหน้านี้ของอูโจ้วนับว่าไม่เลว ทำให้นางเลือกที่จะฟาดฟันออกไปอย่างสุดกำลัง!
อีกฝ่ายรับมือไหวหรือไม่?!
เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะถูกสังหารด้วยหนึ่งกระบี่?!
เจิ้งชิงเทียนเงยหน้าขึ้นก่อนจะรับรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติในลมหายใจ นางพบว่าไม่มีร่องรอยของโลหิตอยู่ในร่างที่ขาดครึ่งของอูโจ้ว มีเพียงหมอกสีเขียวดำที่ผันผวน
หลังจากตกตะลึงสักพัก เจิ้งชิงเทียนก็หลับตาก่อนจะพบว่ามือของอีกฝ่ายยังอยู่ในท่าร่ายผนึกอันคุ้นเคย
“แย่แล้ว!”
เมื่อสิ้นคำของเจิ้งชิงเทียน ร่างของอูโจ้วตรงหน้าพลันสูญสลายจนเหลือเพียงความว่างเปล่า
นางหันหลังก่อนจะพบว่าร่างของอูโจ้วพุ่งขึ้นไปเหนือท้องฟ้า โดยเป้าหมายของเขาคือลู่หยวนผู้อยู่กลางอากาศ!
“เจ้าหนู! เจ้ามีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งแล้วอย่างไร?!”
อูโจ้วยิ้มขณะที่หมอกสีเขียวดำที่อยู่บนผิวหนังหายไปกับสายลม ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยอักขระแปลกประหลาด
พลังอันแกร่งกล้าถูกประทับบนอักขระนี้อย่างต่อเนื่อง ทว่าพลังของพวกมันแตกต่างจากอูโจ้วมาก
เขาพุ่งมาอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจก็ทะยานมาถึงตรงหน้าลู่หยวน
เมื่ออูโจ้วประสานมือ อักขระทั้งหมดพลันผสานกัน
เมื่ออูโจ้วมาอยู่ตรงหน้าลู่หยวน พลังอันมหาศาลก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือทั้งสองก่อนจะฟาดออกไป
เจิ้งชิงเทียนผู้อยู่ไม่ไกลเค้นกำลังทั้งหมดออกมาแล้วหันหลังกลับไป แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว!
บนมือของอูโจ้วเต็มไปด้วยพลังอักขระ หากมีความเข้าใจเสียหน่อยก็จะพบว่ามันเต็มไปด้วยเคล็ดคำสาปชั่วร้าย หากปนเปื้อนเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตราย!
อูโจ้วฟาดฝ่ามือออกไป แต่ลู่หยวนกลับมีสีหน้าสงบขณะที่ยกมือขวาขึ้นช้า ๆ พร้อมชี้นิ้วออกไปเพื่อรับการโจมตีจากอีกฝ่าย
อูโจ้วลอบยิ้มหยันเมื่อเห็นเช่นนี้ แม้ว่าลู่หยวนอาจรีบชี้สองนิ้วออกมา แต่กลับไม่มีความผันผวนบนร่างกายแม้แต่น้อย!
เขากังวลด้วยซ้ำว่าลู่หยวนจะหลบหนี แต่บัดนี้อีกฝ่ายกลับเดินเข้ามาหาความตายด้วยตัวเอง!