ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 319 ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลฮ่วน… ฮ่วนอวี่หลัน
บทที่ 319 ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลฮ่วน… ฮ่วนอวี่หลัน
บทที่ 319 ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลฮ่วน… ฮ่วนอวี่หลัน
สวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่เดินจากไปอย่างมีความสุข ส่วนเนี่ยอิ่งมองแผ่นหลังของพวกเขาทั้งพลังอันคุกรุ่นรุนแรง
พรวด! พรวด! พรวด!
สองสามคนผู้อยู่ข้างกายเขาถูกบดขยี้เป็นชิ้น ๆ
ส่วนคนที่เหลืออยู่ต่างคุกเข่าด้วยความหวาดกลัวในสภาพร่างสั่นเทา เหงื่อเย็นพลันปกคลุมทั่วร่าง บ้างถึงขั้นหวาดกลัวจนฉี่ราด
คนเหล่านี้ได้แต่กรีดร้องอย่างขมขื่นอยู่ในใจ
บัดซบ เจ้าสองคนนั่นเข้ามาสุมไฟทิ้งไว้เช่นนี้ อยากจะฆ่าพวกเราให้ตายหรือไร?!
หลังลาจากเนี่ยอิ่ง พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่ตระกูลฮ่วน
หลายวันที่ผ่านมา ฮ่วนซิงไป๋รู้สึกรำคาญคนที่เข้ามาประจบสอพลอ เขาจึงหนีออกจากวังแดนมัชฌิมกลับมาที่จวนตระกูลฮ่วน
หลังจากนั้น สวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่จึงมาถึงเมืองฮ่วน ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการตระกูลฮ่วน
มีเมืองทั้งสิ้นเก้าสิบเจ็ดแห่งในแดนมัชฌิม โดยยี่สิบเจ็ดแห่งเป็นของตระกูลฮ่วน!
เมืองยี่สิบเจ็ดแห่งนี้คิดเป็นครึ่งหนึ่งของพื้นที่ซึ่งมั่งคั่งทั้งหมดในแดนมัชฌิม
การหมั้นหมายระหว่างตระกูลฮ่วนกับวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมถือเป็นพันธมิตรแข็งแกร่งที่มีการสานสัมพันธ์ร่วมกัน!
สวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่จัดแจงชุดอยู่นอกเมืองฮ่วน เชิดหน้าขึ้นสูงอย่างองอาจประหนึ่งเป็นปรมาจารย์บนโลกหล้า!
เมื่อทั้งสองอยู่นอกเมือง พวกเขาก็เห็นผู้คนนับพันกำลังถือง้าวคอยทำหน้าที่คุ้มกัน แต่ละคนสวมเกราะประจำตระกูลฮ่วน ดวงตาเบิกกว้าง กวาดมองและตรวจสอบผู้คนที่สัญจรไปมา
สวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่เดินอยู่นอกเมือง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปข้างในก็โดนง้าวยาวเข้ามาขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“พวกเจ้าสองคนหน้าตาดูคุ้นตานัก! เหตุใดถึงมาเมืองฮ่วน?!”
สวีชู่คือจอมดาบอันดับหนึ่งในโลกเมื่อสามร้อยปีก่อน ส่วนสวี่หลิวอวิ๋นคือปรมาจารย์ยันต์ผู้เคยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้า!
ก่อนจะเก็บตัว ผู้คนนับหมื่นต่างพากันสักการะและก้มหัวให้ในทุกที่ที่พวกเขาผ่าน!
ทุกคนต่างเคยแสดงความเคารพ ไม่แม้แต่จะกล้าปริปากเสียงดัง!
แต่เจ้าหนูตระกูลฮ่วนผู้นี้กลับบังอาจนัก!
กล้าดีอย่างไรมาขวางทางพวกเขา!
สวีชู่ขมวดคิ้วพร้อมกับโทสะที่เกิดขึ้นภายในใจ เขากำลังจะเข้าไปตำหนิ แต่สวี่หลิวอวิ๋นผู้อยู่ข้างกายห้ามปรามเอาไว้อย่างว่องไว จากนั้นก็ยกแส้จามรีขึ้นแล้วเอ่ยคำอมิตตาภพุทธ “ข้ามีนามว่าสวี่หลิวอวิ๋น”
หลังจากเอ่ยจบประโยค เขาก็หลุบตาลงแล้วยกยิ้มอย่างมั่นใจ
เพียงเท่านี้น่าจะมากพอทำให้เจ้าหนูผู้ดวงตามืดบอดตรงหน้ายอมคุกเข่ากับพื้น แล้วยอมรับความผิดพลาดแต่โดยดี!
ชายผู้ถือง้าวกลอกตาหลังจากได้ยินเช่นนั้น พร้อมทั้งแสดงสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย “พวกเจ้าหูหนวกหรืออย่างไร? ข้าถามว่าพวกเจ้าชื่ออะไร?”
สวี่หลิวอวิ๋นขมวดคิ้วด้วยความตกตะลึง เขาสูญสิ้นความสงบก่อนหน้านี้ไปพร้อมชี้มาที่ตัวเอง “ข้า…ข้าคือสวี่หลิวอวิ๋น!”
“สวี่หลิวอวิ๋นหรือ? ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็หาได้ข้องเกี่ยวกับข้าไม่! เอาละ บอกข้ามาว่าเหตุใดถึงมาที่เมืองฮ่วน?!”
สวีชู่ดึงสวี่หลิวอวิ๋นมาด้านข้าง จากนั้นร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย ก่อนถอนหายใจออกมา “พวกข้าสองคนมาที่นี่เพื่อเข้าพบท่านฮ่วนซิงไป๋!”
“อ๋อ มาพบคุณชายสินะ”
ชายผู้ถือง้าวชำเลืองมองคนทั้งสองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก จากนั้นจึงส่ายหน้าแล้วชี้ไปที่แถวซึ่งยาวคดเคี้ยวเหมือนมังกร “ไปต่อแถวรอตรงนั้น”
ทั้งสองคนหันมองแถวซึ่งเรียงรายตั้งแต่ประตูเมือง มันทอดยาวออกไปไกลหลายสิบลี้ ราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด
สวี่หลิวอวิ๋นขมวดคิ้ว “ข้าคือปรมาจารย์แห่งวังจักรพรรดิแดนมัชฌิม จำเป็นต้องต่อแถวด้วยหรือ?!”
“ปรมาจารย์หรือ?”
ชายผู้ถือง้าวยิ้มหยัน “คุณชายเคยบอกว่าต่อให้ราชาสวรรค์มาเยือนในวันนี้ เขาก็ต้องต่อแถวรอเช่นกัน!”
สวีชู่ได้ยินดังนี้ก็บังเกิดโทสะทันที เขาขยับมือขวาก่อนมีดตัดกระดูกจะปรากฏขึ้น “เจ้าหนู พูดจาให้มันน่าฟังหน่อย! หากข้าไม่สั่งสอนให้หลาบจำในวันนี้ เจ้าก็คงไม่รู้จักคำว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
ตอนนี้เองที่เสียงผู้หญิงน่าหลงใหลดังมาจากท้องนภา “แหม นั่นท่านสวีชู่กับท่านสวี่หลิวอวิ๋นไม่ใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ถึงได้มาที่เมืองฮ่วนได้?”
สายตาทุกคู่ถูกดึงดูด
ผู้หญิงซึ่งมีเรือนร่างเย้ายวนปรากฏขึ้นบนท้องนภา นางสวมชุดสีแดงร้อนแรง มีส่วนโค้งเว้าได้รูป เหล่าชายชาตรีต่างลอบกลืนน้ำลายเมื่อได้เหลือบมอง ภายในใจพลันร้อนรุ่มขึ้นมา
สิ่งที่น่าสะพรึงที่สุดก็คือ รูปลักษณ์หน้าตาอันไร้ที่ติกับสายตาดูแคลนโลกของนาง คล้ายกับกำลังเย้ายวนผู้อื่น แต่ในเวลาเดียวกันก็กำลังดูแคลนโลกจากจุดสูงสุดของอำนาจที่นางมี ยิ่งกระตุ้นความปรารถนาที่จะพิชิตใจของผู้ชาย พวกเขาถึงขั้นต้องการจะฉุดอีกฝ่ายลงมาทันที!
แม้กระทั่งสวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่ก็เดือดดาลเมื่อเห็นอีกฝ่ายปรากฏตัว แต่ผ่านไปสักพัก พวกเขาต้องใช้ปราณวิญญาณเพื่อสะกดอารมณ์เอาไว้
ผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะใช่คนธรรมดา!
สมาชิกตระกูลฮ่วนต่างก้มหัวให้ด้วยความเคารพหลังจากเห็นนาง “ผู้อาวุโสเจ็ด”
สิ้นคำนั้น ผู้คนที่โลหิตสูบฉีดไปทั่วร่างต่างจับขาไว้มั่น ไอเย็นเยือกเกาะกุมจิตใจ ระงับความคิดของพวกเขาเอาไว้
ผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลฮ่วน ฮ่วนอวี่หลัน… ผู้หญิงคนนี้ใช่ว่าจะหาเรื่องได้ง่าย ๆ!
ฮ่วนอวี่หลันเดินมาหาพวกเขาจากอากาศ มุมปากของนางยกยิ้ม ดูเย้ายวนแลมีเสน่ห์ยิ่ง
สวี่หลิวอวิ๋นท่องเคล็ดขัดเกลาใจอยู่หลายครั้งก่อนจะสะกดอารมณ์เอาไว้ได้ “เป็นผู้อาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลฮ่วนนี่เอง ไม่ได้พบกันเสียนาน”
ฮ่วนอวี่หลันเม้มริมฝีปากแล้วแย้มยิ้ม “ใช่แล้ว หนึ่งร้อยปีผ่านไปไวเหลือเกิน ข้าจำได้ว่าพวกท่านสองคนถูกบังคับให้เก็บตัวไม่ใช่หรือ? เป็นอย่างไรบ้าง? ตอนนี้ได้รับการปล่อยตัวแล้วหรือ?”
นางเน้นย้ำคำว่า ‘ถูกบังคับ’ เป็นพิเศษขณะปรายตามองทั้งสองด้วยความดูถูก
สีหน้าของสวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่แข็งทื่อ ถึงพวกเขาเคยมีชื่อเสียงอยู่ในแผ่นดินหลักจริง แต่ก็ถูกมู่พ่านซานบังคับให้อยู่ในถ้ำร้างด้วยเหตุผลบางอย่าง!
ถึงโลกภายนอกจะรับรู้ว่ามันคือการเก็บตัว แต่แท้จริงเป็นการถูกจองจำ
พอนึกถึงทีไร ทั้งสองก็ยังรู้สึกขุ่นเคืองใจ
หลังจากเหน็บแนมสำเร็จ ฮ่วนอวี่หลันก็ไม่คิดข้องเกี่ยวอีก จึงถามออกมาว่า “ข้าสงสัยเหลือเกินว่าพวกท่านสองคนมาทำอะไรที่ตระกูลฮ่วนในวันนี้?”
สวี่หลิวอวิ๋นคลี่ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “พวกข้ามาในวันนี้ก็เพื่อเข้าพบท่านฮ่วนซิงไป๋”
“ซิงไป๋หรือ?”
ฮ่วนอวี่หลันหลุบตาแล้วนิ่งงันไปสักพัก จากนั้นจึงถามเหล่าคนที่ถือง้าวอยู่รอบข้าง “ตอนนี้เขาอยู่หรือไม่?”
หนึ่งในพวกเขาก้าวมาข้างหน้า ก่อนทำความเคารพแล้วเอ่ยว่า “รายงานผู้อาวุโสเจ็ด คุณชายเพิ่งกลับมาเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้!”
ฮ่วนอวี่หลันพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็ควรไปรายงานให้คุณชายได้รับทราบ”
สิ้นคำสั่งของนาง สมาชิกตระกูลฮ่วนสองคนก็ตรงเข้าไปในเมืองทันที
สวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
สวีชู่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะตอนที่ออกมาในวันนี้ก็ไม่มีใครจำชื่อเขาได้!
ผิดกับสวี่หลิวอวิ๋นผู้ลูบแส้จามรีในท่าทางครุ่นคิด
สิ่งที่ฮ่วนอวี่หลันเอ่ยเมื่อครู่ถึงกับเป็นการแสดงท่าทีของนาง
แม้คนอื่นอาจจะไม่ทราบตัวตนของเขากับสวีชู่ แต่นางกลับจดจำได้!
ถึงกระนั้น ฮ่วนอวี่หลันก็กันพวกเขาไว้นอกประตูเมืองแล้วสั่งให้คนอื่นไปรายงานฮ่วนซิงไป๋ สิ่งนี้แฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง!
สวี่หลิวอวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองเมืองฮ่วนที่กว้างใหญ่ไร้พรมแดน เขาทราบดีว่าวันนี้คงไม่ได้พบฮ่วนซิงไป๋แน่นอน!