ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 362 การตัดสินใจของตระกูลเจียง
บทที่ 362 การตัดสินใจของตระกูลเจียง
บทที่ 362 การตัดสินใจของตระกูลเจียง
เมื่อลู่หยวนปรากฏตัว ตระกูลทั้งหลายในแดนมัชฌิมก็เริ่มมีกำลังใจในการต่อสู้
ผู้ที่สนับสนุนแนวทางสันติต่างไม่พูดไม่จา
เส้นชีพจรจักรพรรดิคือสิ่งที่เป็นของแดนมัชฌิมนับแต่ปรากฏขึ้นบนแผ่นดินหลัก!
ผู้ที่พิชิตมันได้นับตั้งแต่อดีตกาลล้วนเป็นคนของแดนมัชฌิมทั้งสิ้น!
ผู้คนแคว้นอื่นเข้ามาก้าวก่ายเส้นชีพจรจักรพรรดิของแดนมัชฌิมได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!
ยิ่งกว่านั้น ลู่หยวนคือคุณชายของตระกูลลู่ เป็นตระกูลชั้นหนึ่งแห่งเวิ้งทะเลแดนเหนือ หากอีกฝ่ายได้มันไปครอบครอง จะต้องเหนือกว่าตระกูลชั้นสูงทั้งหลายเป็นแน่!
ถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในแผ่นดิน!
ไม่สิ เป็นราชวงศ์อันดับหนึ่งต่างหาก!
หากพวกเขายิ่งพัฒนาตนเป็นอย่างดีมาหลายชั่วอายุคน เกรงว่าจะกลายเป็นตระกูลผู้ทรงอำนาจเพียงหนึ่งเดียวในแผ่นดิน!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แทบทุกคนต่างก็ไม่ยินยอมที่จะให้เรื่องราวนี้เกิดขึ้น
ยามนี้ตระกูลทั้งหลายเริ่มแลกเปลี่ยนข่าวสาร จุดประสงค์มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือสังหารลู่หยวนก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าเส้นชีพจรจักรพรรดิจะเป็นของผู้ใด!
จะปล่อยให้อีกฝ่ายได้มันไปครองไม่ได้เด็ดขาด!
โลกก็เป็นเช่นนี้ ยามผู้อื่นตกต่ำ พวกเขาย่อมไม่คิดที่จะสนับสนุน แต่ถ้าผู้ใดต้องการฉกฉวยโอกาสเพื่อทะลวงสู่จุดสูงสุด พวกเขาก็จะจับมือกันเพื่อโค่นล้มอีกฝ่าย ทำให้คนคนนั้นตกลงสู่หุบเหวจนไม่มีวันกลับมาผงาดได้อีก!
สถานการณ์ในแดนมัชฌิมกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว!
ตระกูลเจียงย่อมทราบข่าวเช่นกัน!
แน่นอนว่ามียันต์ถูกส่งมาที่ตระกูลเพื่อขอให้พวกเขาส่งคนไปสังหารลู่หยวน!
ยันต์จำนวนนับไม่ถ้วนถูกวางกองไว้ในห้องโถงใหญ่ เจียงสิงอวิ๋นผู้เป็นประมุขตระกูลเจียงนั่งอยู่ด้านบน โดยมีผู้อาวุโสยืนอยู่ทั้งสองฝั่งด้านล่าง
เขากุมหน้าผากขณะที่ดวงตาแดงก่ำ “ทุกท่าน พวกเราควรทำอย่างไรดี?!”
ทุกคนที่อยู่เบื้องล่างล้วนตกอยู่ในความเงียบ พวกเขามองหน้ากันโดยไม่มีใครกล้าเสนอความคิดเป็นคนแรก
พวกเขาไม่เหมือนกับในอดีต หากบรรพชนยังออกมาช่วยสนับสนุนได้ พวกตนย่อมมีความมั่นใจที่จะตอบรับยันต์เหล่านี้เพื่อเข้าร่วมการต่อสู้
แต่บัดนี้บรรพชนจะล่วงลับเมื่อใดไม่ทราบได้ หากพวกเขาไปเข้าร่วมการต่อสู้แล้วจบลงที่ตระกูลส่วนใหญ่แพ้พ่าย ถึงตอนนั้น พวกตนจะต้องถอนตัวออกจากแดนมัชฌิมเพื่อหาพื้นที่ขนาดเล็กในการเอาชีวิตรอด!
แต่ถ้าไม่ไป พวกเขาจะถูกมองว่าเป็นพวกแปลกแยกจากตระกูลทั้งหลาย แม้ภายภาคหน้าจะไม่มีการต่อว่าซึ่ง ๆ หน้า แต่ในที่ลับย่อมได้รับการปฏิบัติแตกต่างกันแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครกล้าตัดสินใจว่าจะไปฝั่งไหน
หากเกิดความผิดเพียงเล็กน้อยเพราะตระกูลตัดสินใจพลาดขึ้นมา หลังจากเหตุการณ์นี้สิ้นสุดลง พวกเขาก็จะกลายเป็นคนบาปประจำตระกูล!
เจียงสิงอวิ๋นย่อมมองออกว่าคนเหล่านี้กำลังคิดอะไรอยู่ ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครอยากแบกรับความผิดเช่นนั้นไว้!
“หากพวกเจ้าอยากพูดอะไรก็เชิญพูดมาได้เลย ข้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง!”
คำพูดนี้หมายความว่าเขาจะแบกรับทุกสิ่งเอาไว้บนบ่าเอง!
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ผู้อาวุโสสามเป็นฝ่ายยืนขึ้นก่อนแล้วเอ่ยว่า “ข้าคิดว่าพวกเราไม่ควรไป!”
“ทุกท่านต่างทราบสภาพร่างกายของท่านบรรพชนในตอนนี้เป็นอย่างดี หากลงมือขึ้นมา เท่ากับตระกูลเจียงเป็นฝ่ายสูญเสีย! ถึงตอนนั้น ไม่ว่าใครจะได้เส้นชีพจรจักรพรรดิไปครอง พวกเขาย่อมไม่มีทางปรานีพวกเราแน่!”
“ถึงตอนนั้น ข้าคงไม่จำเป็นต้องพูดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาสินะ!”
ทันทีที่สิ้นคำ ผู้อาวุโสห้าก็ลุกขึ้นพลางหันหน้าไปทางเจียงสิงอวิ๋น แล้วเอ่ยเสียงดัง “ท่านประมุข ข้าคิดว่าจะไปหรือไม่ไปก็ได้!”
เจียงสิงอวิ๋นสับสนแล้วเหลือบสายตามอง “ช่วยอธิบายให้กระจ่างด้วย!”
ผู้อาวุโสห้ากล่าวอย่างจริงจัง “หากท่านไม่ไป เช่นนั้นก็ปิดประตูจวน ไม่รับยันต์อะไรอีก! เรียกคนทั้งหมดกลับมาจากแดนมัชฌิม! ห้ามเข้าไปพัวพันแม้แต่น้อย ไม่ว่าภายภาคหน้าใครจะได้เส้นชีพจรจักรพรรดิไปครองก็อย่ายกย่องเด็ดขาด ทำแบบนี้จึงจะเรียกว่าเป็นกลางต่อเหตุการณ์ทางโลก ซึ่งในภายภาคหน้า พวกเรายังสามารถติดต่อกับตระกูลเหล่านั้นได้!”
“แต่ถ้าพวกเราไป!”
ดวงตาของผู้อาวุโสห้าทอประกายและเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณต่อสู้ “เช่นนั้นพวกเราก็ต้องได้เส้นชีพจรจักรพรรดิ! ส่งตระกูลเจียงออกไปให้หมด หากทำไม่สำเร็จ พวกเราก็จบสิ้นเพียงเท่านี้!”
“ท่านประมุขโปรดตัดสินใจด้วย!”
เสียงของผู้อาวุโสห้าทั้งก้องกังวานและทรงพลังจนได้ยินทั่วทั้งห้องโถง!
ทุกคนต่างครุ่นคิดถึงสิ่งที่เพิ่งได้ยิน จากนั้นจึงสบสายตากับเจียงสิงอวิ๋น
เจียงสิงอวิ๋นขบคิดอยู่หลายครั้งจนในที่สุดก็ตัดสินใจได้ ก่อนจะโบกมือ “ปิดประตู! เรียกคนทั้งหมดกลับมาจากแดนมัชฌิม!”
แม้ภายในใจของทุกคนจะปั่นป่วน แต่พวกเขา็กยังคงยอมรับการตัดสินใจของประมุข!
“ขอรับ!”
เจียงสิงอวิ๋นตัดสินใจเช่นนี้หลังจากชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียอยู่พักใหญ่
ตระกูลเจียงจะสามารถพิชิตเส้นชีพจรจักรพรรดิได้จริงหรือ?!
อย่าฝันเลยจะดีกว่า!
แค่อดทนรอก็พอแล้ว!
เพียงชั่วพริบตา ใครบางคนก็ส่งยันต์ไปหาเจียงเชียนชิวผู้ยังอยู่ในแดนมัชฌิมเพื่อขอให้รีบกลับมา!
แต่หลังจากส่งยันต์ไปได้สามสี่ใบ กลับไม่มีข้อความตอบกลับมา
เมื่อทุกคนคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเจียงเชียนชิว ยันต์ใบหนึ่งก็ถูกส่งกลับมา
เมื่อผู้อาวุโสรับยันต์แล้วอ่านเนื้อหาข้างใน เขาบังเกิดความหวาดกลัวก่อนจะเงยหน้าขึ้น “ท่านประมุข เจียงเชียนชิวอยากไปช่วงชิงเส้นชีพจรจักรพรรดิ! ตอนนี้เขาลงมือแล้ว!”
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบหลังจากได้ยินประโยคนี้ พวกเขาไม่มั่นใจว่าได้ยินถูกหรือไม่
เจียงสิงอวิ๋นตกตะลึงสักพักเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยคำด้วยความไม่มั่นใจ “เจ้าว่าอย่างไรนะ?”
“เจียงเชียนชิวลงมือแล้ว!”
ถ้อยคำดังกล่าวประหนึ่งหินก้อนใหญ่ตกลงไปในทะเลสาบจนทำให้เกิดคลื่นมหึมานับพัน
ผู้อาวุโสห้าเป็นคนที่สงบที่สุดก่อนจะเอ่ยคำทันที “ท่านประมุข หากพวกเราไปสนับสนุนตอนนี้ ก็สายเกินไป! ข้าขอแนะนำให้เนรเทศเจียงเชียนชิวออกจากตระกูลเจียง! หากไม่ข้องเกี่ยวกัน เรื่องนี้ก็จะมาโทษพวกเราไม่ได้!”
“ใช่แล้ว ๆ!”
ผู้อาวุโสทั้งหลายขานรับเช่นกัน
ยามนี้ เจียงสิงอวิ๋นลังเลขณะหยิบยันต์ขึ้นมาอ่านอย่างละเอียด ก่อนจะตัดสินใจ
“พวกเขาเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ยังพอมีเวลา!”
สิ้นคำ เจียงสิงอวิ๋นทะยานตรงไปทางแดนมัชฌิมทันที
ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างเดือดดาลเมื่อเห็นเช่นนี้!
พวกเขาคิดมาเสมอว่าเจียงเชียนชิวเป็นคนไร้ประโยชน์ ซึ่งดูจากเรื่องในคราวนี้ก็ดูจะเป็นเช่นนั้นจริง!
บัดนี้คือช่วงวิกฤตแห่งความเป็นความตาย แต่เขายังยืนกรานที่จะไปตามทางของตัวเอง ทั้งยังกระทำในสิ่งที่ขัดต่อตระกูล!
ผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลเจียงครุ่นคิดสักพักก่อนจะตามติดอีกฝ่ายไป
เจียงเชียนชิวคือทายาทเพียงคนเดียวของเจียงสิงอวิ๋น การที่อีกฝ่ายขัดคำสั่งจึงนับเป็นความผิดมหันต์!
หากเจียงสิงอวิ๋นมีความคิดเอนเอียงจนทำให้ทั้งตระกูลย่อยยับ เมื่อนั้นก็คือจุดจบของเขาเช่นกัน!
เจียงสิงอวิ๋นยังคงทะยานไปในอากาศด้วยความรู้สึกวิตกกังวล
หากเขาไม่ได้มีลูกชายเพียงคนเดียว เกรงว่าคงจะเนรเทศอีกฝ่ายออกจากตระกูลไปเผชิญโชคชะตาด้วยตัวเองนานแล้ว!
แต่เจียงสิงอวิ๋นไม่อาจสลัดความคิดนี้ออกไปได้
เจียงเชียนชิวเพิ่งจะเคลื่อนไหว เขาต้องไปปรากฏตัวให้ทันเวลาเพื่อพาตัวออกมาให้ได้!
…
หลังจากเจียงเชียนชิวผู้อยู่ในแดนมัชฌิมส่งยันต์กลับไป เขายิ่งมีท่าทีกระตือรือร้น!
เขาจะต้องชนะการต่อสู้ครั้งนี้ให้ได้!
เขาจะแสดงให้ผู้อาวุโสขี้ขลาดในตระกูลได้เห็นเอง!
โลกเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาเป็นคนหัวโบราณที่เอาแต่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรอคอยความตาย!
แต่โลกใบนี้เป็นของพวกเขา!
เจียงเชียนชิวมองตรงไปข้างหน้า มันเต็มไปด้วยหมู่เมฆสีดำหมองหม่นและอากาศแตกสลายประหนึ่งจุดจบของโลก แต่อีกไม่นาน มันจะเป็นสมรภูมิของเขา!
“ลงมือ!”