ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 376 ตระกูลชิวกำลังเฝ้ารออยู่นอกแดนมัชฌิม
บทที่ 376 ตระกูลชิวกำลังเฝ้ารออยู่นอกแดนมัชฌิม
บทที่ 376 ตระกูลชิวกำลังเฝ้ารออยู่นอกแดนมัชฌิม
แดนมัชฌิมตกอยู่ในความปั่นป่วน ส่วนฮ่วนซิงไป๋ก็กำลังเผชิญหน้ากับพวกหลี่เจียงหนาน!
ชิวสิงผู้อยู่ด้านนอกยังคงมีท่าทางสงบนิ่ง เขานั่งขัดสมาธิโดยมีกลุ่มอัสนีไร้ขอบเขตเคลื่อนไหวไปมาอยู่ในมือ
สายฟ้าคล้ายกับถูกสยบขณะเฝ้ารออยู่ในมือของเขา
พลังในสายอัสนีถูกชิวสิงพรากไปอย่างต่อเนื่อง
ทาสอารักขาโค้งคำนับอยู่ข้างกายขณะมองชิวสิงเป็นครั้งคราวโดยไม่เอ่ยอะไร
แต่สถานการณ์ในแดนมัชฌิมพลันเปลี่ยนไป เนื่องจากเส้นชีพจรจักรพรรดิถูกพิชิต!
ทาสอารักขาทราบว่าชิวสิงจะต้องสัมผัสได้ แต่ที่ไม่ตอบสนองก็เพราะอาจกำลังเตรียมการบางอย่าง
ส่วนพวกเขาก็ไม่กล้าลงมือโดยพลการ จึงทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ข้างกายอีกฝ่าย
แต่ผ่านไปสักพัก สายฟ้าในมือของชิวสิงพลันหายไปคล้ายกับพลังของมันถูกสูบไปจนสิ้น!
ในยามนี้ ร่างทั้งหลายวูบไหวไปมาทางด้านข้าง
ดวงตาของทาสอารักขาเย็นชาและเตรียมจะลงมือ แต่ทันทีที่ชำเลืองมองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้มาเยือน เขาจึงหลุบสายตา พลังที่เพิ่งเพิ่มขึ้นก็มลายสิ้น
เขาเห็นทาสอารักขาอีกคนกลับมาพร้อมกับชิวเสวียน
เขาประสานมือทำความเคารพทันทีที่เห็นชิวสิง “ท่านบรรพชน”
ชิวสิงไม่ตอบ แต่ยังคงจดจ่ออยู่กับการดูดซับอัสนีสวรรค์
ผ่านไปสักพัก อัสนีสวรรค์อันไร้ขอบเขตก็ถูกดูดซับจนหมด
ระหว่างนั้นไม่มีกลิ่นอายเล็ดลอดออกมาประหนึ่งเขาเป็นเพียงคนธรรมดา
เมื่อชิวสิงลืมตา ทาสอารักขาทั้งหลายยิ่งให้ความเคารพ
ชิวเสวียนหลุบตาลงเช่นกัน
“ฉู่เชิ่งอยู่ไหน?”
ชิวสิงเอ่ยประโยคดังกล่าวออกมา
ชิวเสวียนแน่นิ่งขณะรู้สึกจุกอยู่ในอก
ตอนนั้นเขากำลังประมือกับฉู่เชิ่งและเป็นฝ่ายที่คุมเชิงอยู่ ตนเชื่อว่าจะสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ในไม่ช้า!
แต่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ทาสอารักขาก็ปรากฏตัวขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ฉู่เชิ่งจึงฉวยโอกาสหลบหนีไปได้!
ชิวเสวียนผู้พลาดโอกาสไปแล้วจึงต้องจำใจกลับมาพร้อมกับทาสอารักขา!
“หนีไปแล้วขอรับ”
ชิวเสวียนบอกตามจริง
ชิวสิงมองชิวเสวียน “ขยะ”
แม้น้ำเสียงจะเบาบาง แต่ก็ไม่ต่างกับเสียงฟ้าผ่ายามลอยเข้าหูของทาสอารักขาทั้งหลาย
พวกเขาต่างคุกเข่าแล้วหมอบร่างลงต่ำทันทีโดยไม่กล่าวอะไร
แต่ชิวเสวียนกลับไม่กลัวเกรง เขามีสีหน้าสงบพลางเอ่ยว่า “หากคนพวกนี้ไม่มาขัดขวาง ข้าคงจับเขาได้แล้ว!”
“เหอะ…”
ชิวสิงเย้ยหยัน “ข้ารู้ว่าเหตุใดเจ้าถึงไล่ตามฉู่เชิ่ง เขาเห็นร่างเมล็ดพันธุ์มารใช่หรือไม่?”
หัวใจของชิวเสวียนเต้นระรัว ทาสอารักขาซึ่งอยู่ซ้ายขวาคือผู้จงรักภักดีต่อชิวสิงมากที่สุด เขาจึงไม่กังวลว่าคนเหล่านี้จะเอาไปแพร่งพราย
แต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะคาดเดาได้ไวขนาดนี้
ชิวเสวียนกัดฟันก่อนเอ่ยปากยอมรับ “ใช่ขอรับ…”
ชิวสิงเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม
เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดชะตาสวรรค์ถึงมาจุติในขยะพรรค์นี้
ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์มารถือกำเนิดขึ้น เคยมีคนที่ไร้สมองเฉกเช่นคนผู้นี้บ้างหรือไม่?!
ตอนแรก คนที่ชื่อ “ฉู่เชิ่ง” คือผู้ที่สามารถทำให้ชิวเสวียนใช้พลังของชิวสิงได้
แล้วตอนนี้เล่า?!
แม้มีพรสวรรค์ที่ดีและเปี่ยมด้วยความหาญกล้า แต่ชิวเสวียนย่อมใช้พลังนี้ไม่ได้!
หากใช้สมองอีกเสียหน่อยก็คงไม่ถูกปรนนิบัติเยี่ยงวานร!
ทว่าการเป็นขยะก็ใช่จะไม่ดีเสมอไป เพราะมันทำลายสิ่งได้ง่ายมากขึ้น!
เมื่อเห็นชิวเสวียนยังคงมีสีหน้าวิตก ชิวสิงก็ทราบว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร
พวกเขาเพียงกังวลว่าปัญหาทั้งหลายจะตามมาหากตัวตนถูกเปิดโปง
“ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก”
ชิวสิงเอ่ยอย่างแผ่วเบา
ชิวเสวียนรู้สึกโล่งอกทันที การที่บรรพชนเอ่ยเช่นนี้ แสดงว่าเขาจัดการทุกอย่างได้
ชิวสิงถ่ายทอดคำสั่งว่า “เจ้าอยู่ที่นี่ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวไปไหน เรื่องในแดนมัชฌิมยังไม่คลี่คลาย”
ชิวเสวียนย่อมเชื่อฟัง
แต่เมื่อมองแดนมัชฌิม เขาก็ทราบเช่นกันว่าอำนาจอันแกร่งกล้าก่อนหน้านี้คล้ายกับยอมรับเจ้าของแล้ว!
เส้นชีพจรจักรพรรดิถูกพิชิตแล้ว!
ชิวเสวียนพอจะทราบเช่นกันว่าการที่บรรพชนส่งร่างจำแลงออกมาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่มาจัดการเรื่องของตนเท่านั้น!
เกรงว่าอีกฝ่ายมาที่นี่ก็เพราะเส้นชีพจรจักรพรรดิ!
อันที่จริง ชิวเสวียนพอจะทราบเรื่องที่เกิดกับชิวสิงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ตอนที่ค้นพบเศษเสี้ยวราชันมารครั้งแรก ความสงสัยของเขาก็ได้รับการยืนยันบางส่วน
สถานที่ซึ่งตระกูลถูกก่อตั้งขึ้นคือจุดที่พลังมารเข้มข้นที่สุด ชิวเสวียนได้ฝึกฝนอยู่ที่นั่นจนก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว!
แต่เมื่อหันมาดูสมาชิกตระกูลชิวคนอื่น การบ่มเพาะของพวกเขากลับถูกพันธนาการไว้
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีเพียงชิวเสวียนกับชิวชิงหลีที่มีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุด!
ในบรรดาทั้งสองคน คนหนึ่งอยู่ในตระกูลชิวมาตลอดไม่ไปไหน ส่วนอีกคนถูกส่งไปสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ยังเด็กจนไม่ค่อยได้กลับบ้าน!
หลังชิวเสวียนออกจากตระกูลก็รู้สึกได้ว่าความเร็วในการบ่มเพาะของตนเองลดลงไปมาก!
เขาคาดเดาไว้นานแล้วว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของตระกูลชิว!
การที่ตระกูลก่อตั้งในสถานที่เช่นนี้ย่อมเป็นการตัดสินใจของชิวสิง ถึงอย่างไรไม่ว่าประมุขตระกูลชิวจะยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่เขาก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของอีกฝ่าย!
การเลือกที่นี่จะต้องเป็นประโยชน์ต่อชิวสิงไม่ผิดแน่!
เขาคือคนที่มาจากช่วงเวลาเมื่อสามแสนปีก่อน!
การที่สามารถอยู่รอดจนมาถึงทุกวันนี้ได้ย่อมเป็นเรื่องผิดปกติยิ่ง!
เขาต้องมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่!
บ่อยครั้งที่สิ่งเหล่านี้ต้องใช้พลังอันแข็งแกร่งเพื่อคงรักษาไว้!
ของจำพวกเส้นชีพจรจักรพรรดิจึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด…
ชิวสิงมาเยือนในครั้งนี้ต้องเป็นเพราะสิ่งนี้ไม่ผิดแน่!
“ท่านบรรพชน… แดนมัชฌิมได้ข้อสรุปแล้ว ดูเหมือนเส้นชีพจรจักรพรรดิจะถูกพิชิตเรียบร้อย”
ชิวเสวียนเอ่ย
แม้เขาจะออกมาได้ไม่นาน แต่ก็พอจะทราบเรื่องราวทั้งหลายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
เส้นชีพจรจักรพรรดิกลับสู่ตำแหน่งเดิม หากไม่ถูกนำออกมาอีกครั้งก็จะไม่มีผู้ใดได้ไปครอง!
ทว่าเงื่อนไขในการกระตุ้นมันค่อนข้างเข้มงวด การปรากฏของมันในรอบหนึ่งหมื่นปีจึงเป็นเรื่องที่พบได้ยาก
ในที่สุด แดนมัชฌิมก็ได้เปลี่ยนผู้ปกครองแล้ว!
ชิวสิงไม่รีบร้อนขณะยกยิ้มเย้ยหยัน “แดนมัชฌิมได้ข้อสรุปแล้วหรือ? เหอะ… มันมีคนที่คิดว่าหากพยายามสุดความสามารถเพื่อให้เป็นอิสระ ก็จะสามารถพิชิตใต้หล้าได้ด้วยการนั่งอย่างผึ่งผายและอวดดีต่อหน้าผู้ตระเตรียมแผนการเพื่อเดินหมากกับอีกฝ่ายสินะ”
“แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าทุกย่างก้าวนั้นช่างเปล่าประโยชน์!”
“ในเมื่อพลังยิ่งใหญ่กลับคืนสู่โลกแล้ว พวกเขาจะต่อต้านมันได้อย่างไร?!”
“ตระกูลเจียงไม่มีชะตาสวรรค์เช่นนั้นหรอก!”
แน่นอนว่าชิวเสวียนไม่เข้าใจคำพูดของชิวสิง เขาเบนมองไปทางแดนมัชฌิมแล้วเห็นเพียงหมู่เมฆดำบนท้องนภาเกิดความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางหมู่เมฆหนาทึบประหนึ่งน้ำหมึก ยังคงมีสายฟ้าเคลื่อนไหวไปมาอยู่พักใหญ่
…
ไม่มีผู้ใดทราบว่าในตอนนี้มีหินหลอมเหลวกำลังเคลื่อนตัวจากหุบเหวไร้ที่สิ้นสุดซึ่งอยู่ใต้แดนมัชฌิม
ทันใดนั้น หินหลอมเหลวพลันทะลักออกมาพร้อมกับพลังอันแกร่งกล้าที่พลุ่งพล่าน
เสียงคำรามทุ้มต่ำประหนึ่งวิญญาณบริสุทธิ์จากนรกดังขึ้น ทำเอาผู้คนสั่นสะท้าน!
ผ่านไปหลายอึดใจ หินหลอมเหลวที่กำลังเคลื่อนตัวพลันหยุดนิ่ง จากนั้นก็กระจายตัวก่อนที่ร่างผู้หญิงเปลือยเปล่าจะปรากฏขึ้นในหุบเหว!