ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 388 ผู้แข็งแกร่งกว่าก็จะกลายเป็นราชวงศ์!
บทที่ 388 ผู้แข็งแกร่งกว่าก็จะกลายเป็นราชวงศ์!
บทที่ 388 ผู้แข็งแกร่งกว่าก็จะกลายเป็นราชวงศ์!
เส้นชีพจรจักรพรรดิในแดนมัชฌิมได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยปราณวิญญาณ หากสิ่งที่หล่อเลี้ยงถูกทำลาย มันก็จะพังทลายเช่นกัน!
ทันทีที่ค่ายกลซึ่งถูกสร้างโดยลู่หยวนทำงาน เจียงเชียนชิวก็สัมผัสได้ว่าพลังในร่างกายกำลังลดลง!
กู่จินเจาเงื้อกระบี่หนักขึ้นมาฟาดฟันไปยังเบื้องหน้า พอได้ประมือในครั้งนี้ เขาก็รู้สึกเสียเปรียบ!
นางทราบเช่นกันว่าโอกาสมาถึงแล้ว จึงได้โคจรพลัง ทำให้รอบข้างพังทลายก่อนจะมาบรรจบกันที่กระบี่ในมือ
ร่างวิหคเพลิงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของกู่จินเจา!
มันแผดเสียงคำรามพร้อมกับดวงตาของนางที่เฉียบคมขึ้น
เพลิงสวรรค์พวยพุ่งขึ้นจากร่างของกู่จินเจาในชั่วพริบตา ก่อนจะปกคลุมนางและกระบี่หนัก!
เปลวเพลิงทะยานสู่ท้องนภาประหนึ่งเทพอัคคีจุติมาสู่โลก!
กู่จินเจาถือกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้าง ฟาดฟันไปทางเจียงเชียนชิว
กระบี่ทะลวงผ่านอากาศ เพลิงสวรรค์อันลุกโชนพลันพุ่งตรงเข้าหาอีกฝ่าย!
ก่อนตัวอาวุธจะมาถึง ปราณกระบี่อันเกรี้ยวกราดก็มาถึงก่อน!
เจียงเชียนชิวยกง้าวมังกรครามแปดแดนร้างขึ้นต้านทันที แต่ปราณวิญญาณยังไม่ทันรวมตัวกัน ก็ปะทะกับปราณกระบี่ที่รุกคืบเข้ามา!
ตู้ม!
ปราณกระบี่ซัดง้าวมังกรครามแปดแดนร้างจนมือของเจียงเชียนชิวเกิดอาการชา!
ก่อนเขาจะทันได้ตอบสนอง กระบี่หนักก็ตรงเข้ามาปลิดชีพแล้ว!
เจียงเชียนชิวพลันหันหลังเตรียมจะถอยหนี
กู่จินเจาตวัดกระบี่ลงมาแล้ว พลังทั้งหลายก็กระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง!
พื้นดินในแดนมัชฌิมทรุดตัวหลังจากรับการโจมตีอีกครั้ง!
ตู้ม!
ปราณกระบี่ระเบิดพลังออกมา ทั่วทั้งแดนมัชฌิมพลันถูกแยกออกจากกัน
เปลวเพลิงที่ทอดยาวยังคงลุกโชนทั่วปฐพี แล้วเพลิงสวรรค์ที่แผดเผาก็กลืนกินสรรพสิ่งรอบข้าง!
เจียงเชียนชิวรู้สึกหวาดกลัว เมื่อเห็นเปลวเพลิงเบื้องล่าง
ต่อให้เขาในตอนนี้จะมีเส้นชีพจรจักรพรรดิ แต่เพลิงสวรรค์ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้ามได้!
กู่จินเจายืนอยู่ในอากาศขณะสะบัดกระบี่หนักในมือ แล้วอากาศรอบข้างก็ถูกเปลวเพลิงร้อนแรงกลืนกินจนสิ้น!
เมื่อสมาชิกตระกูลเจียงซึ่งอยู่ไกลออกไปสัมผัสได้ว่าเจียงเชียนชิวกำลังจะพ่ายแพ้ พวกเขาล้วนวิตกกังวล
หลังจากอีกฝ่ายได้รับเส้นชีพจรจักรพรรดิก็ยังไม่ได้แบ่งพลังให้กับพวกเขา
หากเจียงเชียนชิวพ่ายแพ้แล้วถูกคนเหล่านี้สังหารขึ้นมา เส้นชีพจรจักรพรรดิก็จะไร้เจ้าของอีกครั้ง!
พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะต่อกรกับคนเหล่านี้แน่นอน!
แม้ภายในใจจะกู่ร้องตะโกน แต่ก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียงดัง เพราะเหตุการณ์ผู้อาวุโสที่ถูกสังหารเมื่อครู่เป็นตัวอย่างที่ยังตราตรึงในความทรงจำของพวกเขา!
หากยามนี้พูดมากเกินไป พวกเขาอาจหลบหนีความตายไม่พ้น!
เจียงสิงอวิ๋นผู้เป็นประมุขตระกูลก็วิตกอย่างยิ่ง ขณะสายตาจับจ้องเหตุการณ์ดังกล่าวสักพัก
ผู้อาวุโสคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ข้างกายลังเลสักพักก่อนจะเอ่ยว่า “ท่านประมุข ด้วยกำลังของพวกเราตอนนี้ คงช่วยเหลือคุณชายได้ยาก แต่ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากพลังของเส้นชีพจรจักรพรรดิ สมาชิกทั้งหลายในตระกูลย่อมทะลวงขั้นจนกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งเพื่อให้การสนับสนุนได้!”
สายตาของเจียงสิงอวิ๋นหลุบต่ำจนไม่อาจทราบได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เจียงเชียนชิวถือง้าวไว้ในมือเพื่อเผชิญหน้ากับกู่จินเจา!
ทั้งสองฝ่ายต่างระดมกำลังราวกับพร้อมจะพุ่งออกไปเพื่อทำการตัดสินแพ้ชนะครั้งสุดท้ายทุกเมื่อ!
แต่ไม่ว่าใครก็มองออกว่าพลังของเจียงเชียนชิวอ่อนแอลงกว่าก่อนหน้านี้มาก
ปราณวิญญาณในแดนมัชฌิมกำลังสลาย ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลเสียต่อเขามากเท่านั้น!
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็เคลื่อนเข้ามา ก่อนหยุดยืนอยู่ไม่ไกล พลันตะโกนไปทางเจียงเชียนชิวว่า “เชียนชิว แบ่งเส้นชีพจรจักรพรรดิให้ตระกูล หลังจากพวกเขาทะลวงขั้นแล้วก็จะให้การช่วยเหลือเจ้าได้!”
เจียงสิงอวิ๋นเอ่ยเสียงจริงจัง “ด้วยจำนวนคนจากตระกูลเจียงมากขนาดนี้ หากได้รับการสนับสนุนจากเส้นชีพจรจักรพรรดิ พวกเราย่อมขับไล่พวกมันได้อย่างแน่นอน!”
เมื่อสมาชิกตระกูลเจียงที่เหลือได้ยินคำพูดเช่นนี้ พวกเขาต่างก็เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย แต่ละคนต่างโผล่หน้ามาแต่ไกลแล้วตะโกนเสียงดัง “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกกระหม่อมก็พร้อมจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อฝ่าบาท!”
เจียงเชียนชิวเหลือบสายตามองใบหน้าของสมาชิกตระกูลที่ต่างพากันเอ่ยคำสาบาน เขาเพียงมองปราดเดียวก็เห็นความละโมบไร้ที่สิ้นสุดบนใบหน้าเหล่านั้น
พวกเขามองเจียงเชียนชิวด้วยความกระตือรือร้นและจริงจัง
มันเป็นสีหน้าของคนที่อยากได้อะไรบางอย่าง!
“เหอะ…”
เจียงเชียนชิวเอ่ยว่า “พวกเจ้าอยากบุกน้ำลุยไฟเพื่อข้าจริงหรือ?”
ทันทีที่สิ้นเสียง พวกเขารู้แน่ชัดว่าจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น แต่ละคนจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วยืนขึ้น พร้อมตะโกนเสียงดังเพื่อแสดงความจงรักภักดี
พวกเขาต่างเผยรอยยิ้มกว้างที่ยากจะหุบลงได้
ขอเพียงเจียงเชียนชิวยอมถอยสักก้าว พวกเขาก็จะได้รับพลังสูงสุดมาครอบครอง!
นั่นคือพลังของเส้นชีพจรจักรพรรดิ!
หากมีสิ่งนี้ พวกเขาจะไม่ใช่ตระกูลเจียงอีกต่อไป แต่เป็นราชวงศ์!
พวกเขาจะกลายเป็นกลุ่มที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในแดนมัชฌิม!
คนเหล่านี้วางแผนทุกอย่างเสร็จสรรพในเวลาอันสั้น!
ดูจากสถานการณ์ในวันนี้ เจียงเชียนชิวย่อมไม่สามารถเอาชนะกู่จินเจาได้!
หากเขาตาย ใครเล่าจะสืบทอดบัลลังก์ของแดนมัชฌิม?
แม้ใบหน้าของคนรุ่นเก่าจะไม่เผยสิ่งใด แต่ในใจของพวกเขาล้วนวางแผนเพื่อให้การช่วยเหลือลูกหลานของตน
แต่ใบหน้าของหนุ่มสาวทั้งหลายในรุ่นเดียวกันกับเจียงเชียนชิวกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันบ้าคลั่ง
พวกเขาคิดเช่นกัน ว่าหากเจียงเชียนชิวถึงแก่ความตาย เจียงสิงอวิ๋นก็จะไร้ผู้สืบทอด แล้วคนที่ขึ้นครองบัลลังก์ย่อมต้องถูกเลือกจากในหมู่พวกเขา!
คนเหล่านี้ต่างพากันวาดฝันอันงดงามอยู่ภายในใจ ทว่าสีหน้าละโมบปรากฏในดวงตาของเจียงเชียนชิวอย่างแจ่มชัด
เขายิ้มหยันอยู่ในใจ ถึงแม้ไม่ได้ฉลาดปราดเปรื่องเท่าหลี่เจียงหนาน แต่ตนก็รู้จักคนในตระกูลเป็นอย่างดี!
หากต้องการให้ความช่วยเหลือจริง พวกเขาก็คงหยิบยื่นให้ตั้งแต่ไม่มีเส้นชีพจรจักรพรรดิแล้ว!
ถึงแม้บรรพชนของตระกูลกำลังจะตาย แต่ในกลุ่มพวกเขาก็มีคนที่มีพลังขั้นปรมาจารย์ยุทธ์และจ้าวยุทธ์อยู่เป็นจำนวนมาก!
แต่คนเหล่านี้กลับเอาแต่ดูการต่อสู้อยู่เนิ่นนาน ไม่มีใครคิดยื่นมือเข้าช่วย ทว่าเมื่อต้องการส่วนแบ่งพลังของเส้นชีพจรจักรพรรดิ ทุกคนต่างพากันยืนหยัดขึ้นมา
แม้แต่คนโง่ก็เข้าใจว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่!
บอกว่าจะช่วยงั้นหรือ เหอะ… แท้จริงแล้วพวกเขาอยากให้เจียงเชียนชิวถูกฆ่าตาย จากนั้นบัลลังก์ก็จะตกอยู่ในกำมือของตนต่างหาก!
“อยากสืบทอดเส้นชีพจรจักรพรรดิหรือ? ก็ได้!”
เจียงเชียนชิวตวัดง้าวในมือแล้วชี้ไปที่คนของตระกูลเจียง พร้อมกับเผยรอยยิ้มเย็นชา
“ข้าไม่ต้องการขยะ ยิ่งแบ่งเส้นชีพจรจักรพรรดิ พลังก็ยิ่งอ่อนกำลัง บัดนี้ตระกูลเจียงมีอยู่ราวห้าร้อยคน แต่มากันสี่ร้อยกว่าคน ข้าจะแบ่งกำลังให้ห้าสิบคน!”
“ใครแข็งแกร่งกว่า ข้าก็จะแบ่งให้!”
ทันทีที่สิ้นคำ ผู้คนทั้งหลายจากตระกูลเจียงที่กำลังแย้มยิ้มก็แข็งทื่อ
หลังจากเงียบสักพัก ปราณกระบี่พลันทะยานขึ้นจากพื้นซึ่งเต็มไปด้วยสมาชิกตระกูลเจียง
ปราณกระบี่ตวัดไปมาจนศีรษะของสมาชิกตระกูลเจียงทั้งหลายต่างปลิวว่อน
โลหิตสาดกระเซ็นจนอาบย้อมพื้นที่ให้กลายเป็นสีแดง
ทุกคนเบี่ยงตัวหลบโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในหมู่พวกเขามีชายหนุ่มรูปร่างธรรมดาผู้หนึ่งถือกระบี่ยาวเอาไว้ขณะเผยจิตสังหารออกมา
ผู้อาวุโสของตระกูลเจียงตวาด “เจ้ากล้าฆ่าคนของตัวเองได้อย่างไร! เสียสติไปแล้วหรือ?!”
ชายหนุ่มเงยหน้าพร้อมเผยจิตสังหารในดวงตา “ผู้อาวุโสสาม เลิกเสแสร้งได้แล้ว ฝ่าบาทพูดเองว่าใครแข็งแกร่งกว่าก็จะกลายเป็นราชวงศ์!”