ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 399 มารในจิตใจ
บทที่ 399 มารในจิตใจ
บทที่ 399 มารในจิตใจ
แม้ชิวเสวียนหัวเราะอยู่ในใจ แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดแสน
เขาช่างโง่เขลาอะไรอย่างนี้!
เขาถึงกับคิดว่าบรรพชนผู้นี้รักตนและผู้เป็นบิดา!
ก่อนหน้านี้พ่อของเขาดีใจมาก ถึงแม้ตนจะไม่ได้รับตำแหน่งประมุขตระกูล แต่ก็ยังได้รับความเคารพจากบรรพชน
แต่เขาไม่ทราบว่าความรักที่ไม่คาดคิดนี้เป็นเพียงผลมาจากการให้กำเนิดลูกชายที่ดีเท่านั้น!
“ชิวสิง เจ้าอยากได้ร่างของข้าหรือ?”
ดวงตาของชิวเสวียนเต็มไปด้วยจิตสังหาร “ฝันไปก่อนเถอะ!”
เมื่อสิ้นเสียง ร่างของเขาก็สั่นสะท้าน พลังอันแกร่งกล้ายังคงโคจรอยู่ภายในทะเลลมปราณ
ราวกับมันกำลังจะระเบิดทุกเมื่อ!
มันคือการทำลายตัวเอง!
ชิวเสวียนยิ้มอย่างทะนงตน “ชิวสิง หากมีชีวิตหลังความตาย ข้าจะต้องให้เจ้าตายโดยไม่มีที่ฝัง!”
ทันทีที่เอ่ยถ้อยคำอันโหดเหี้ยมจบ ชิวสิงก็กดฝ่ามือลงมา แล้วปราณวิญญาณทั้งหมดในร่างของชิวเสวียนก็สงบลงจนไม่เหลือร่องรอย!
“เหอะ… ขยะ!”
ชิวสิงยิ้มหยัน
คนผู้นี้คือลูกหลานของวิถีคุณธรรมสูงสุดจริงหรือ?!
พยายามทำลายตัวเองต่อหน้าผู้ทรงพลังอย่างแท้จริง ช่างอวดดีอะไรเยี่ยงนี้!
เสียดายนักที่มีร่างกายที่ดี แต่ดันมีสมองเช่นนี้!
“ชิวเสวียน ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อบอกว่าเจ้าเหลือเวลาไม่มากแล้ว ลองคิดทบทวนดูว่าเจ้ามีและไม่มีอะไรบ้าง ดีกว่ามาคิดว่าจะตายอย่างไร!”
ทันทีที่สิ้นคำ ร่างของชิวสิงก็หายไป
แรงกดดันอันตรธานหายไปในบัดดล
ชิวเสวียนคุกเข่ากับพื้นในสภาพอ่อนแรง ดวงตาแดงก่ำ ภายในใจไม่มีอะไรนอกจากความสิ้นหวัง
ผ่านไปหลายอึดใจ ชิวเสวียนเกลือกกลิ้งก่อนจะนอนแผ่หลา แล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดมีหยาดน้ำเอ่อที่หางตา
“ฮ่า ๆ ๆ!!! ไอ้ขี้แพ้ชิวเสวียน ฮ่า ๆ ๆ ๆ…”
ชิวเสวียนในยามนี้ไม่แม้แต่จะฆ่าตัวตาย เขาทำได้เพียงนอนรอความตายอย่างเงียบงันเท่านั้น
ทุกสิ่งในอดีตไม่ต่างจากเรื่องขบขัน คนจากตระกูลชิวผู้ให้การคุ้มกันเขาอยู่ด้านนอกพลันปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็โยนอาหารเข้ามาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กินให้ไว”
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว…
ไม่สิ ไม่ใช่เปลี่ยนไป เขาไม่ใช่ลูกชายที่น่าภาคภูมิใจของตระกูลชิว ไม่ใช่ลูกหลานคนโปรดของบรรพชนมาตั้งแต่แรกแล้ว…
เหตุใดเขาถึงอ่อนแอเพียงนี้?!
หากมีพรสวรรค์สูงส่งและอุบายอันแยบยลเหมือนลู่หยวน เขาย่อมต่อกรกับชิวสิงในยามนี้ได้!
ไม่มีทางมานอนราบอยู่ที่นี่ราวกับคนไร้ประโยชน์เช่นนี้หรอก!
หากเขามีความสามารถ ย่อมทำให้ทั้งตระกูลชิวชดใช้ได้! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
ขณะที่ชิวเสวียนกำลังตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังที่สุด น้ำเสียงลุ่มลึกพลันดังขึ้นจากส่วนลึกในใจ “เจ้าอยากแก้แค้นหรือไม่?”
ชิวเสวียนตกตะลึงก่อนจะกลับมามีสติ ดวงตาเผยอารมณ์บางอย่างออกมา
“ใครเป็นคนพูด?!”
“ฮ่า ๆ… ข้าก็คือเจ้า ส่วนเจ้าก็คือข้า!”
เสียงนั้นยังคงเอ่ยต่อ “เพียงแต่ผู้คนทั้งหลายมักตั้งชื่อพิเศษให้กับข้าว่า… มารในจิตใจ…”
บัดนี้ชิวเสวียนมีสติครบถ้วน
“มารในจิตใจหรือ?!”
ชิวเสวียนคุ้นเคยกับคำเรียกนี้
แม้ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่ย่างสู่วิถีมารเพราะมารในจิตใจ แต่พวกเขากลับมีนิสัยชอบเข่นฆ่า ก่อกรรมทำเข็ญไปทั่วทุกสารทิศ!
ทว่าคนส่วนใหญ่มักถูกฆ่าหลังจากเข้าสู่วิถีมาร หรือไม่ก็เลือกปลิดชีพตัวเองในช่วงที่ยังมีสติเลือนราง
ชิวเสวียนยังคิดเกี่ยวกับความจริงที่เขาเป็นเมล็ดพันธุ์มาร หากไม่ระวังตอนบ่มเพาะ มารในจิตใจก็จะเกิดขึ้น ถึงตอนนั้น มันจะต้องอยากยึดร่างของเขาแน่นอน!
ทว่ามารในจิตใจกลับปรากฏขึ้นในสถานการณ์นี้
มันเกียจคร้านเกินกว่าจะพูดจาเหลวไหล ก่อนจะอธิบายทุกอย่างให้ชิวเสวียนฟัง
“ฮ่า ๆ ข้าไม่ใช่มารในจิตใจธรรมดา แต่เป็นมารในจิตใจของราชันมารคนก่อน!”
“เพียงแต่การต่อสู้ครั้งใหญ่ในตอนนั้น ราชันมารถึงแก่ความตาย ส่วนข้าก็ถูกสะกดไว้ ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องหายไปแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าวันนี้เจ้าจะปลุกข้าขึ้นมาได้”
“ฮ่า ๆ เจ้าหนู เจ้าอยากได้พลังหรือไม่?”
ชิวเสวียนกังวลอยู่บ้าง ผู้ที่เชื่อฟังมารในจิตใจจนได้รับพลังมาในอดีต มักมีจุดจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่!
มารในจิตใจมองความคิดของเขาออกนานแล้ว
ความจริงแล้ว มันตื่นขึ้นเมื่อหลายปีก่อนเพราะแก่นโลหิตมารของชิวเสวียน แต่นอกจากเขาแล้ว คนอื่นซึ่งอยู่ที่นี่ต่างมีร่างกายที่ถูกปกคลุมไปด้วยพลังแห่งวิถีคุณธรรม
สิ่งนี้ทำให้มารในจิตใจต้องระแวดระวัง!
หลังจากหลบซ่อนมาหลายปี มารในจิตใจก็พอคาดเดาสถานการณ์ของตระกูลชิวได้
ส่วนสาเหตุที่ชิวเสวียนสัมผัสถึงกลิ่นอายของราชันมารได้ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพราะมัน
เดิมที มันต้องการจะให้ชิวเสวียนออกไปจากที่นี่แล้วค่อยหาโอกาสยึดร่าง แต่คาดไม่ถึงว่าหลังจากออกมาแล้ว ความแข็งแกร่งของมันจะลดลงอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งชิวเสวียนกลับมาที่นี่ มันถึงกลับมามีกำลังอีกครั้ง!
ตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด!
คิก ๆ ๆ ๆ…
ด้วยความแค้นที่พ่อถูกฆ่า
นี่คือความเกลียดชังที่อยู่ในใจของชิวเสวียนมาเนิ่นนานแล้ว
สิ่งนี้เต็มไปด้วยสารอาหาร!
มารในจิตใจยังคงล่อลวงต่อไป “ชิวเสวียน เจ้ากับข้าต่างก็เป็นมาร หาได้มีความแตกต่างกันไม่ ข้าขอบอกตามตรงแล้วกันว่าต้องการร่างของเจ้า แต่ด้วยกำลังตอนนี้ไม่มากพอที่จะควบคุมได้”
“ถ้าตอบตกลง ข้าสามารถให้เจ้ายืมพลังเพื่อแก้แค้นได้ แต่เจ้าก็ต้องทำสัญญากับข้าว่าจะเป็นตายร่วมกันและแบ่งร่างร่วมกัน!”
เมื่อเห็นชิวเสวียนลังเล มารในจิตใจก็คลี่ยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าเจ้าไม่กล้าก็ช่างเถอะ เชิญนอนรอความตายอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน!”
สิ้นคำ เสียงนั้นก็พลันหายไป
ชิวเสวียนเงียบไปสักพัก จากนั้นก็ตัดสินใจได้ “ข้ายอมทำสัญญา!”
“คิก ๆ ๆ ดี ข้าชอบคนแบบเจ้านี่แหละ!”
ยันต์ปรากฏขึ้นจากอากาศตรงหน้าชิวเสวียน อักขระซึ่งอยู่ภายในนั้นแปลกประหลาดและมีกลิ่นคาวที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสะอิดสะเอียน
ชิวเสวียนมีสีหน้าหนักแน่น ก่อนจะกรีดมือจนเลือดไหล แล้วกดลงไป
วิ้ง!
โลหิตซึมเข้าไปในยันต์ และถูกแผดเผาในอากาศทันที
พลังแปลกประหลาดวนเวียนอยู่ในร่างของชิวเสวียน ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าประหลาดที่ยากจะคาดเดาได้
ผ่านไปสักพักก็มีเสียงแตกหักดังขึ้น แล้วกระดูกที่แตกละเอียดในร่างของชิวเสวียนก็สมานตัว!
เขาหลับตานั่งขัดสมาธิ ขณะที่พลังนับไม่ถ้วนกำลังโคจรอยู่ในทะเลลมปราณ
หลังจากผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม พลังในร่างก็เริ่มสงบลง
ทันใดนั้น ชิวเสวียนก็ลืมตาขึ้นพร้อมพลังทั้งหมดถูกสะกดไว้ในชั่วพริบตา เขาในยามนี้คล้ายกับเป็นคนละคน
ดวงตาข้างขวาที่เดิมแจ่มชัดกลับหมองหม่น ปราศจากสีขาวและไร้ชีวิตชีวา ส่วนใบหน้าข้างขวามีอักขระแปลกประหลาดปกคลุมทั่วทั้งใบหน้า
“คิก ๆ ๆ ๆ ร่างมนุษย์… ความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน…”
เสียงของมารในจิตใจดังออกจากปากของชิวเสวียน
ส่วนใบหน้าฝั่งซ้ายยังเป็นปกติ โดยวิญญาณของชิวเสวียนยึดครองฝั่งนี้
ทั้งมารในจิตใจและชิวเสวียนต่างไม่รับรู้ถึงตัวตนร่างจำแลงของชิวสิงที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ไม่ไกล