ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 404 ไปเยือนตระกูลชิว
บทที่ 404 ไปเยือนตระกูลชิว
บทที่ 404 ไปเยือนตระกูลชิว
ลู่หยวนพยายามฝึกฝนอย่างหนัก จึงทำให้แข็งแกร่งกว่าบุตรของตระกูลชั้นสูงคนอื่น!
แต่ด้วยวัยเพียงเท่านี้ เขาก็ได้บรรลุไปถึงขั้นครึ่งก้าวจ้าวยุทธ์แล้ว!
ด้วยพลังระดับนั้น ย่อมสามารถก่อตั้งสำนักได้!
แม้ทั้งสองคนจะมีความสุข แต่กลับเต็มไปด้วยความกังวลไร้ทางออกเช่นกัน
พวกเขาเกรงว่ายิ่งลู่หยวนเติบใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากขึ้น
ยิ่งยืนอยู่จุดที่สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งตกลงมาเจ็บเท่านั้น!
หากสักวัน ตัวตนเมล็ดพันธุ์มารของเขาถูกเปิดโปงขึ้นมา ผู้คนทั่วทั้งโลกจะต้องไล่ล่าเด็กคนนี้เพียงผู้เดียว!
พวกเขาในฐานะครอบครัวจะไม่คิดเผื่อเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างไร?
ถ้าเช่นนั้นก็ต้องทำให้ลู่หยวนแข็งแกร่งขึ้น!
เขาต้องแข็งแกร่งจนไม่มีใครในโลกกล้าต่อสู้ด้วย ต่อให้กลายเป็นราชันมารก็ตาม!
แผนที่ฉีกขาดซึ่งลู่เทียนเฉิงส่งมาให้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี!
สถานที่นั้นมีโชคชะตาที่ทั่วทั้งแผ่นดินไม่เคยเห็นมาก่อน!
ทว่าลู่เทียนเฉิงไม่ได้ไปที่นั่นเพียงลำพังตั้งแต่แรก แต่ยังมีศิษย์จากตระกูลทั้งหลายรวมอยู่ด้วย บัดนี้พวกเขาได้รับแผนที่ ตระกูลอื่นซึ่งซ่อนตัวอยู่ก็น่าจะได้รับแผนที่นี้เช่นกัน!
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเตรียมตัวกันให้พร้อม!
ทั้งสองคนสวมกอดกันสักพัก จากนั้นจึงกลับไปเตรียมกำลังคนที่อยู่ใต้อาณัติของตน ณ ห้องโถงใหญ่
…
เช้าวันต่อมา ลู่หยวนไปรับกู่อี้เจี้ยนกับชิวชิงหลีก่อนจะมุ่งหน้าสู่ตระกูลชิว
ทันทีที่เดินทางออกจากแดนมัชฌิม พวกเขาเห็นกลุ่มคนกำลังรออยู่บนอากาศ ทุกคนต่างมองมาทางลู่หยวน
เมื่อเห็นชิวชิงหลี ทุกคนล้วนมีสีหน้าตื่นเต้น
พวกเขาเหาะทะยานมาทางทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว
“ท่านประมุขน้อย!”
หลายคนก้มศีรษะแต่โดยดีหลังจากเห็นชิวชิงหลี
ชิวชิงหลีชำเลืองมอง คนเหล่านี้ต่างก็เป็นพวกรุ่นเยาว์ในตระกูล พรสวรรค์และการบ่มเพาะนับว่ายอดเยี่ยม หากภายภาคหน้านางรับหน้าที่เป็นประมุขตระกูล พวกเขาน่าจะกลายเป็นผู้อาวุโสเช่นกัน
นางส่งเสียงอืมแล้วเอ่ยว่า “พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
ผู้นำคือชายร่างกำยำผู้มีนามว่าชิวเฮ่า ก้าวออกมาแล้วเอ่ยว่า “พวกข้ามาที่นี่เพื่อต้อนรับประมุขน้อยและบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ตามคำสั่งของประมุข!”
ชิวชิงหลีมองลู่หยวนผู้เผยรอยยิ้มเจื่อนโดยไม่เอ่ยอะไร
ผู้คนในตระกูลชิวยามนี้ล้วนทราบว่าเขาคือบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลลู่!
พวกเขาจึงประสานมือทำความเคารพทันที “คารวะบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่!”
แม้จะเป็นการคารวะ แต่อาจจะไม่เพียงพอ!
ชิวเฮ่าเอ่ยว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์มาเยือนตระกูลชิวในครั้งนี้ ย่อมนำความรุ่งโรจน์มาด้วยเป็นแน่!”
ลู่หยวนยิ้มแล้วพยักหน้า “ประมุขตระกูลเป็นผู้ตระเตรียมให้อย่างนั้นหรือ?”
“ถูกต้อง!”
สิ้นคำของชิวเฮ่า เขาสะบัดมือ ก่อนที่อาวุธวิเศษรูปทรงดุจสิ่งปลูกสร้างขนาดเล็กจะลอยออกจากแขนเสื้อ
อาวุธวิเศษดังกล่าวพลันขยายขนาด แล้วสิ่งปลูกสร้างหยกก็ปกคลุมท้องนภาเกือบทั้งหมด!
กระเบื้องสีเขียวและชายคาสีแดง ก่อตัวกันเป็นศาลา!
“เชิญ ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
ชิวเฮ่าและสมาชิกตระกูลชิวจำนวนมากผายมือเชิญลู่หยวนเข้าไปก่อน
ลู่หยวนคลี่ยิ้มก่อนก้าวเท้าเข้าไปข้างในด้วยท่าทีสงบ
ชิวชิงหลีคิ้วขมวด ก่อนจะเดินตามไปอย่างไม่ลังเล
ไอเย็นแผ่ออกมาจากร่างของกู่อี้เจี้ยนขณะเดินเข้าไปพร้อมกระบี่ในมือ
สมาชิกตระกูลชิวที่เหลือเดินตามหลังไป เหลือเพียงชิวเฮ่ากับผู้แข็งแกร่งที่สุดสามคน ซึ่งกำลังเปิดทางเข้าหอคอยลอยฟ้าอยู่
วิ้ง!
หอคอยลอยฟ้าเคลื่อนผ่านทุกหนแห่ง ส่วนลู่หยวน เมื่อเห็นราวระเบียงเขาก็นั่งลง บรรยากาศเกียจคร้านพลันอบอวลไปทั่ว
ชิวชิงหลียืนอยู่ข้างกายชายหนุ่ม
หอคอยลอยฟ้ายังคงเคลื่อนที่ต่อไปราวกับหมู่เมฆเคลื่อนผ่านสรรพสิ่งเบื้องล่าง
กู่อี้เจี้ยนหน้านิ่วคิ้วขมวด จากนั้นจึงหาที่เอนกายแล้วหลับตาพักผ่อน
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ มีบางอย่างแปลกประหลาดกับหอคอยลอยฟ้านี้หรือไม่เจ้าคะ?”
ชิวชิงหลีเอ่ยถามด้วยความกังวล
ลู่หยวนระบายยิ้มออกมา ก่อนเอ่ยปากเปล่าโดยไม่ส่งกระแสจิต “แน่นอนว่ามี ค่ายกลมากกว่าเก้าพันสามร้อยแห่งถูกติดตั้งที่นี่ ตั้งแต่ข้าก้าวเข้ามา พวกมันมากกว่าสามพันแห่งก็ได้ทำงานแล้ว”
เมื่อคนจากตระกูลชิวได้ยินเช่นนั้น พวกเขาพลันเอ่ยโพล่งขึ้น “บุตรศักดิ์สิทธิ์อย่าล้อเล่นแบบนี้สิขอรับ พวกข้าจะติดตั้งค่ายกลที่นี่ได้อย่างไร?”
ลู่หยวนกวาดสายตา จากนั้นยื่นมือขวาแล้วยกขึ้น
ชิ้ง!
พลังอันเลือนรางกวาดออกจากร่างของลู่หยวนก่อนจะส่งคลื่นกระแทกไปทั่วทุกทิศทาง!
หลังจากลู่หยวนลงมือ ค่ายกลจำนวนมากซึ่งปกคลุมเกือบทั่วทั้งหอคอยลอยฟ้าก็ถูกเปิดเผย
สายตาของชิวเฮ่าผู้อยู่ด้านนอกก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
สมาชิกของตระกูลชิวที่เพิ่งเอ่ยออกมาพลันหุบปาก ใบหน้าของเขาขึ้นสลับสีแดงและขาว เห็นได้ชัดว่าไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น!
“เจ้าสุนัขเฒ่าชิวสิง…”
ลู่หยวนยิ่งยิ้มกว้าง
ยังไม่ทันเจอหน้ากันก็ทำกันแบบนี้เสียแล้วหรือ?
สุนัขเฒ่า รอก่อนเถอะ ข้าจะตบเจ้าให้ดิ้นเอง!
หอคอยลอยฟ้าแห่งนี้คืออาวุธวิเศษล้ำค่าเช่นกัน หลังจากใช้เวลาราวสองชั่วยามก็มาถึงเหวธรรมชาตินอกตระกูลชิว
หลังจากหยุดนิ่งครู่หนึ่ง ชิวเฮ่าก็กล่าวกับลู่หยวนว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ถึงแล้วขอรับ”
ลู่หยวนพลิกตัว กระโดดลงจากหอคอยลอยฟ้า
กู่อี้เจี้ยนกับชิวชิงหลีเดินตามหลังไม่ห่าง
เมื่อเงยหน้ามองก็พบกับภูเขาขนาดใหญ่สองลูกที่แยกจากกันอยู่ไม่ไกล โดยมีคูน้ำธรรมชาติถูกสร้างขึ้นจากพวกมัน
หมู่เมฆสีดำปกคลุมทั่วทั้งน่านฟ้าเหนือหุบเหว โดยสายฟ้าสีม่วงยังคงส่งเสียงคำรามอยู่ พวกมันเต็มไปด้วยพลังงานจำนวนมากยามฟาดลงมาจากทั่วทุกทิศทาง ประหนึ่งพลังอันแข็งแกร่งซึ่งสั่นสะเทือนสิ่งมีชีวิตรอบข้าง!
ชิวเฮ่าเก็บอาวุธวิเศษหอคอยลอยฟ้าขณะนำกลุ่มลู่หยวนไปยังเหว
เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชาผ่านไป พวกเขาก็มาถึงเทือกเขา
เมื่อก้มมองก็จะพบว่าหุบเหวซึ่งดูเหมือนห้วงลึกมีค่ายกลสีขาวขนาดใหญ่กระจายตัวอยู่ ก่อนจะปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ!
ชิวเฮ่าเอ่ยว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่คือสถานที่ที่ตระกูลชิวอยู่ โปรดตามข้ามา”
ลู่หยวนยิ้ม “ไม่ต้องรีบร้อน”
เมื่อสิ้นเสียง เขาก็ยื่นมือขวาออกไป จากนั้นสองนิ้วประสานเข้าหากัน แล้วจุดแสงสีทองพลันก่อตัวจากปลายนิ้ว
ยามลู่หยวนยกมือ แสงสีทองก็ขยับตาม ผ่านไปสักพัก ค่ายกลสีทองจึงเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง
แม้ระดับการบ่มเพาะของชิวเฮ่าจะไม่สูงส่ง แต่เขาก็เคยศึกษาเกี่ยวกับค่ายกลยันต์มาระดับหนึ่ง เพียงมองปราดเดียวก็เข้าใจว่าค่ายกลนี้ไม่ธรรมดา!
อักขระทั้งหลายที่อยู่ภายในนั้นคลุมเครือและเต็มไปด้วยพลังจำนวนมาก!
ลู่หยวนวาดค่ายกลขึ้นมาที่นี่เพื่อจะทำร้ายตระกูลชิวงั้นหรือ?!
ชิวเฮ่ารีบก้าวมาข้างหน้า “บุตรศักดิ์สิทธิ์! ท่าน…”
ก่อนจะทันเอ่ยจบ เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเริงร่าดังมาจากค่ายกลซึ่งอยู่เบื้องล่าง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ก็มา!”
คนที่ออกมาคือชายวัยกลางคนผู้มีใบหน้ามีภูมิฐาน ชายผู้นี้คือประมุขตระกูลชิวคนปัจจุบัน… ชิวเซี่ยวเทียน!
ลู่หยวนไม่ได้สนใจคนผู้นี้ แต่มุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่ถูกสลักไว้บนยันต์ตรงหน้า
ชิวเฮ่าเดินมาหาชิวเซี่ยวเทียนด้วยท่าทีวิตกก่อนจะรีบเอ่ยว่า “ท่านประมุข เขา…”
ชิวเซี่ยวเทียนยกมือขึ้นห้ามคำพูดของชิวเฮ่าทันที ก่อนจะมองค่ายกลที่ลู่หยวนเป็นคนสลักอย่างเงียบงัน
เหล่าผู้อาวุโสตระกูลชิวเดินตามออกมา พวกเขาหยุดยืนอยู่ด้านหลังผู้เป็นประมุข มองลู่หยวนโดยที่ไม่เอ่ยอะไรเช่นกัน