ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 433 ค่ายกล
บทที่ 433 ค่ายกล
บทที่ 433 ค่ายกล
สือจิ่วยกมือขึ้น แล้วกลิ่นอายมารก็ควบแน่นกลายเป็นกระบี่ ก่อนพุ่งโจมตีชิวสิงอย่างบ้าคลั่ง!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
กระบี่มารอันคมกริบจำนวนนับไม่ถ้วนบนท้องนภาพลันพุ่งลงมาหาชิวสิง!
ชิวสิงรีบตอบสนองหลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของสือจิ่ว เขาก็ถอยห่างทันที
ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ!
กระบี่มารแหวกผ่านอากาศขณะกระหน่ำลงมาประหนึ่งดอกลูกแพร
ร่างของชิวสิงขยับกายอย่างรวดเร็วจนหลบกระบี่มารทั้งหมดได้!
เมื่อกระบี่มารเคลื่อนลงมา ร่างของสือจิ่ววูบไหวอยู่ท่ามกลางกลุ่มกระบี่มารอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเคลื่อนลงมาอย่างบ้าคลั่ง
พลังรอบกายสือจิ่วยังคงพลุ่งพล่านราวกับจะมุ่งไปถึงจุดสูงสุดของโลกใบนี้ในชั่วพริบตา!
กลิ่นอายไร้ที่สิ้นสุดแผ่ออกจากร่างกายประหนึ่งขุนเขายักษ์ที่กดทับลงมา
ชิวสิงสัมผัสได้ถึงแรงกดดันนี้จนรู้สึกตกตะลึง
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วกวาดสายตามอง พลังแห่งวิถีคุณธรรมในมือก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
คลื่นอากาศอันบ้าคลั่งปรากฏขึ้นในชั่วพริบตา ทำลายกระบี่มารรอบข้างจนสิ้น!
เพียงหนึ่งสะบัดมือ กระบี่ยักษ์สีขาวก็ถูกกวัดแกว่งอย่างรวดเร็ว!
สือจิ่วเคลื่อนกายลงมาพร้อมกับมือเปล่า แล้วพลังมารอันบ้าคลั่งก็ก่อตัวเป็นโล่ขนาดใหญ่ ก่อนจะเข้าปะทะกับกระบี่ใหญ่ในมือของชิวสิง!
ตู้ม!
คลื่นคลั่งลูกนั้นสั่นไหว โดยด้านหลังของทั้งสองมีพลังรวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง!
ด้านหลังของชิวสิงฉายภาพดวงอาทิตย์สีขาวสั่นไหวอย่างรุนแรง โดยมีคลื่นแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่องประหนึ่งเป็นลมหายใจของเขาเอง ฉับพลันนั้นพละกำลังในร่างกายก็ผันผวนตาม!
สายตาของสือจิ่วเฉยชา ไร้ร่องรอยแห่งอารมณ์ กลิ่นอายมารโคจรไปมาอยู่ด้านหลัง แล้วดวงอาทิตย์สีดำก็ปรากฏขึ้นขณะเผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์สีขาวซึ่งอยู่ไกลออกไป!
ดวงอาทิตย์สีดำเคลื่อนตัวประหนึ่งความชั่วร้ายในโลกอันมืดมิดกำลังแผ่อิทธิพลอย่างต่อเนื่อง!
พวกเขาคนสองต่างโจมตีใส่กันโดยใช้พลังซึ่งแข็งแกร่งที่สุด
ชิงสิงมองสาวน้อยผู้เข้าประชิดตัว ถึงแม้นางจะอายุไม่มาก แต่เขากลับรู้สึกคุ้นเคยด้วยเหตุผลบางอย่าง!
ราวกับว่าเขาเคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน!
ดวงอาทิตย์สีขาวและดำสาดแสงใส่กันจนเกิดเป็นระลอกคลื่น
ชิวสิงสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายรอบกายกระจายออกไปอย่างต่อเนื่องจนทำให้ตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ
คนผู้นี้… ละม้ายคล้ายกับราชันมาร!
หลังจากทั้งสองคนเผชิญหน้ากันสักพัก ชิวสิงก็สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายมารของฝั่งตรงข้ามคล้ายกับไปถึงจุดสูงสุดแล้วเริ่มสลายอย่างต่อเนื่อง!
“เหอะ… สาวน้อย เจ้าเองก็ทำไม่ได้เหมือนกัน!”
ชิวสิงเย้ยหยัน แล้วพลังในมือของเขากำลังจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้น พลังอันมหาศาลด้านหลังก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ทำให้อากาศรอบข้างแตกสลาย!
ชิวสิงสัมผัสได้เช่นกันว่าผิวหนังด้านหลังเกิดอาการชา!
ทันใดนั้น ชิวสิงก็รวบรวมพละกำลังไว้ในมือ ก่อนจะกลายเป็นกระบี่ยาวแล้วก้าวไปด้านข้าง
แน่นอนว่าเขามองเห็นคนที่กำลังวิ่งตามหลังมา!
คนคนนั้นก็คือลู่หยวน!
พลังในตอนนี้คล้ายกับทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นคนละคน!
กลิ่นอายรอบกายลู่หยวนซึ่งยืนอยู่กลางอากาศพลันหายไป หลงเหลือเพียงชั้นเพลิงวิญญาณที่กำลังสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
เสื้อผ้าท่อนบนของเขาฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เผยให้เห็นมัดกล้ามที่มีเส้นสีทองเข้มปูดโปดจากหางคิ้วไปจนถึงแขนขา!
เนตรเทวะบนหน้าผากก็แปลกประหลาดเช่นกัน แสงสีแดงเข้มวูบไหวก่อนลูกตาสีดำจะปรากฏ!
ลู่หยวนมีตาดำสามดวง แล้วเขามารก็งอกมาจากบนหน้าผาก ก่อนรูปลักษณ์มารแรกจะปรากฏขึ้น!
ลู่หยวนถือง้าวมังกรครามแปดแดนร้างขณะเสียงมังกรอันเกรี้ยวกราดดังขึ้น!
“สุนัขเฒ่า ลองชิมฤทธิ์ง้าวของข้าดู!”
ลู่หยวนมาถึงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พละกำลังเกือบครึ่งของชิวสิงถูกสือจิ่วกำราบไว้!
ผ่านไปสักพัก เขาก็ไม่อาจโคจรพลังมาขัดขืนลู่หยวนได้!
ชิวสิงครุ่นคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว!
พลังแห่งวิถีคุณธรรมทั้งหลายพลันพลุ่งพล่าน ก่อนจะเกาะติดกับพลังมารของสือจิ่ว จนทำให้ฝ่ายหลังตกตะลึง
ชิวสิงฉวยโอกาสรวบรวมพลังทั้งหมดก่อนจะทำลายล้างอีกฝ่ายจนสิ้น!
พันธนาการของสือจิ่วก็หายไปเช่นกัน จึงทำให้ชิวสิงหลบเลี่ยงการสะกดของนางได้ ก่อนรีบเปลี่ยนพลังแห่งวิถีคุณธรรมให้กลายเป็นโล่ เพื่อปัดป้องการโจมตีของลู่หยวนที่พุ่งเข้ามา!
ส่วนชายหนุ่มก็เคลื่อนผ่านห้วงอากาศจนกระทั่งมายืนอยู่บนพื้น!
ลู่หยวนไม่อาจหยุดพลังในมือได้ จึงทำได้เพียงโจมตีใส่โล่ดังเดิม
ตู้ม!
โล่ยักษ์ถูกบดขยี้จนเป็นผุยผงในชั่วพริบตา!
ชิวสิงผู้อยู่ด้านล่างอุ้มชิวเสวียนมา ก่อนจะวิ่งไปทางค่ายกลที่ติดตั้งไว้โดยไม่เหลียวหลังกลับมา!
ลู่หยวนที่ยืนถือง้าว มองไปทางที่ชิวสิงกำลังจากไปอย่างสงบ
สือจิ่วเดินตามมา “อยากให้ไล่ตามหรือไม่?”
ลู่หยวนเผยรอยยิ้มอย่างสงบ “ไม่จำเป็น ยังไม่ถึงตาของข้าที่จะฆ่าชิวสิง”
“แต่ถ้ารอนานกว่านี้ เขาจะได้ตัวชิวเสวียนไปนะ”
ลู่หยวนมองไปทางท้องนภาขณะประเมินเวลา “ชิวชิงหลีน่าจะเตรียมพร้อมใกล้เสร็จแล้ว”
ความเร็วของชิวสิงค่อนข้างไว เขาจึงมาถึงดินแดนที่ค่ายกลถูกติดตั้งไว้ก่อนจะถ่ายทอดคำสั่งกับชิวเซี่ยวเทียนและผู้อาวุโสจำนวนมาก!
ชายชราสั่งให้คนเหล่านี้รีบกลับมาพร้อมสมาชิกตระกูลชิวเพื่อหยุดยั้งลู่หยวน!
ชิวสิงย่อมทราบถึงพละกำลังของลู่หยวน และรู้ดีว่าต่อให้สมาชิกในตระกูลร่วมมือกันก็ไม่สามารถขัดขืนอีกฝ่ายได้ พวกเขาทำได้เพียงถ่วงเวลาได้เล็กน้อยเท่านั้น!
แต่สำหรับชิวสิง แค่นั้นก็มากพอแล้ว!
ชิวสิงมองไปข้างหน้า เขาติดตั้งค่ายกลเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ระยะของมันครอบคลุมในรัศมีหลายสิบลี้
อักขระจำนวนมากคดเคี้ยวและบิดเบี้ยว เส้นสีแดงเข้มประหนึ่งโลหิตทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกประหลาดจนยากจะอธิบายเมื่อมองดู หากมองสักพักก็จะรู้สึกเย็นสันหลังวาบ!
สิ่งนี้คือค่ายกลใหญ่!
ค่ายกลจำนวนมากถูกติดตั้งไว้รอบข้าง โดยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนคล้ายกับค่ายกลใหญ่
ชิวสิงมองค่ายกลนับร้อยแห่งรอบ ๆ ก่อนจะสงบลง
ต่อให้พวกเดนขยะแห่งตระกูลชิวจะไม่สามารถหยุดพวกลู่หยวนได้ แต่ค่ายกลเหล่านี้ก็สามารถรั้งตัวอีกฝ่ายไว้ได้หลายชั่วยาม!
ชิวสิงเบนสายตากลับมามองค่ายกลใหญ่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
ข้ารอคอยช่วงเวลานี้มาสามแสนปี!
ดวงตาของชิวสิงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น!
เขารีบเชื่อมกระดูกที่แตกหักทั้งหมดของชิวเสวียนก่อนจะป้อนโอสถจำนวนมากเข้าไป
นี่คือร่างกายที่เขาจะยึดครองในภายหลัง ดังนั้นเขาจึงต้องทำให้มันปลอดภัยไว้ก่อน
ดวงตาของชิวเสวียนหมองหม่นขณะมองชิวสิงเคลื่อนไหวไปมา
ในใจของชิวสิงพลุ่งพล่านไปอย่างบ้าคลั่ง เขาจึงไม่สังเกตเห็นว่ามีวังวนขนาดเล็กกำลังผันผวนอยู่ในทะเลลมปราณของชิวเสวียนอย่างต่อเนื่อง
โลหิตในร่างของเขากำลังไหลเวียนอย่างรวดเร็ว!
ชิวสิงโยนร่างของชิวเสวียนเข้าไปในค่ายกล แล้วเส้นสีแดงเข้มของค่ายกลก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วก่อนโซ่หลายสิบเส้นจะปรากฏขึ้น แล้วพันธนาการร่างของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างแน่นหนา!
ชิวสิงขยับมือ แล้วปราณกระบี่ก็ปรากฏขึ้นก่อนจะกรีดมืออีกข้างของเขา
จากนั้นเขาก็วาดฝ่ามือไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ทำให้อักขระแปลกประหลาดปรากฏขึ้น!
ขณะอักขระก่อตัวเป็นรูปร่าง ฟ้าดินก็มืดมิด!
อัสนีสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนซุ่มซ่อนอยู่ในหมู่เมฆนอกจวนตระกูลชิวประหนึ่งทัณฑ์สวรรค์มาเยือน!
ราวกับสายฟ้าเหล่านี้พร้อมจะฟาดลงมาบดขยี้โลกเบื้องล่างให้กลายเป็นซากปรักหักพัง!
ชิวชิงหลีกำลังสลักค่ายกลอักขระ หลังจากเห็นสายฟ้าเหล่านั้น ดวงตาของนางก็ทอประกาย
เป็นอย่างที่ลู่หยวนคาดไว้ อัสนีสวรรค์กำลังมา!