ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 438 สู้อีกครั้ง (1)
บทที่ 438 สู้อีกครั้ง (1)
บทที่ 438 สู้อีกครั้ง (1)
ลู่หยวนผู้อยู่กลางอากาศได้รับการแจ้งเตือนจากระบบทันทีที่เวลาหยุดนิ่ง!
[แจ้งเตือนจากระบบ: ทั่วทั้งบริเวณตระกูลชิวหยุดนิ่งโดยไม่ทราบสาเหตุ! แม้แต่นายท่านก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ท่านสามารถใช้ค่าชะตาวายร้ายเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ได้ ท่านต้องการหรือไม่?]
ลู่หยวนสนใจขึ้นมาทันที
โดยไม่ทราบสาเหตุ…
ชิวเสวียนผู้นี้กำลังจะถึงฆาตแล้ว!
จะมาไม่ทราบสาเหตุในช่วงวิกฤตเช่นนั้นได้อย่างไร?
สมแล้วที่เขาคู่ควรกับตำแหน่งบุตรแห่งโชคชะตาผู้มีค่าชะตาแปดหมื่นแปดพันแต้ม!
“ไม่ต้อง!”
ลู่หยวนเอ่ยปฏิเสธระบบอย่างนุ่มนวล ก่อนจะเข้าสู่การหยุดเวลาเหมือนกับสิ่งอื่น
แม้ร่างกายจะเข้าสู่การหยุดเวลา แต่ความคิดของเขาหาได้หยุดนิ่งไม่
หากมีระบบอยู่ข้างกาย เขาย่อมมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เบื้องหน้าดูจะมีร่างอยู่ในหลุมลึกที่ยกชิวเสวียนขึ้นมา ทำให้ลู่หยวนมองเห็นสิ่งนั้นอย่างชัดเจน
ไม่นานหลังจากนั้น ลู่หยวนพบว่าร่างดังกล่าวพลันหายไป ก่อนที่พลังของชิวเสวียนจะเพิ่มขึ้น!
พลังอันแก่กล้านี้ล้วนมาจากชิวสิง!
ทันใดนั้น ชิวเสวียนที่ถือกระบี่ยาวก็พุ่งเข้ามาโจมตีใส่ลู่หยวน!
ตอนนี้ ทุกสิ่งยังคงหยุดนิ่ง!
เมื่อกระบี่ยาวซึ่งถูกปกคลุมด้วยพลังมหาศาลบดขยี้อากาศพุ่งเข้ามาปลิดชีพลู่หยวน
“ระบบ คลายการหยุดเวลา!”
[ระบบรับคำสั่ง!]
สิ้นเสียงของระบบ ร่างของลู่หยวนพลันขยับไปด้านข้างในจังหวะที่กระบี่ยาวฟาดเข้าใส่!
ชิวเสวียนหยุดมือ ดวงตาของเขาเผยความตกตะลึง
ลู่หยวนใช้ปลายเท้าสัมผัสอากาศ ก่อนจะทะยานถอยออกไปไกล!
เขาถือง้าวไว้ด้านหลังขณะเผยสีหน้าสนใจ!
วิ้ง!
กลิ่นอายอันเจือจางถูกคลายออกมา แล้วสรรพสิ่งก็เข้าสู่ช่วงเวลาปกติ
ชิวเสวียนในตอนนี้พลาดโอกาสดีที่สุดในการสังหารลู่หยวนไปแล้ว!
ชิวเสวียนมองลู่หยวนด้วยความไม่อยากเชื่อ
เมื่อครู่ แม่ทัพมารหยุดเวลาไว้ ทำให้อีกฝ่ายขยับไม่ได้ เมื่อครู่เขาน่าจะโดนฟันไปแล้วไม่ใช่หรือ
แต่อีกฝ่ายกลับแสร้งทำอย่างนั้นหรือ?!
แม่ทัพมารซึ่งอยู่ในจิตเทวะของชิวเสวียนก็สับสนเช่นกัน
หากว่ากันตามเหตุผล เด็กคนนั้นไม่ควรจะคลายการหยุดเวลานี้ได้!
อีกฝ่ายน่าจะตายด้วยการฟาดฟันกระบี่เมื่อครู่ไปแล้ว!
ลู่หยวนมองสายตาตกตะลึงของชิวเสวียน แล้วมุมปากยกเป็นรอยยิ้ม “ถึงแม้ข้าจะไม่ทราบว่าเจ้าปลดปล่อยพลังของชิวสิงได้อย่างไร แต่ข้าพอจะเดาได้ว่าเจ้าได้รับอุบายหรือได้รับความช่วยเหลือจากใครบางคน…”
“ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าไปพบใคร แต่แบบนี้ก็ดี ข้าต้องการให้พลังของชิวสิงมีประโยชน์!”
“ส่วนเจ้า รวมถึงคนที่หนุนหลังจะต้องตาย!”
สิ้นคำ ลู่หยวนก็ระเบิดพลังออกมา แล้วร่างสีทองขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นจากอากาศด้านหลังของเขา
ร่างนั้นถือง้าวเอาไว้ขณะปกคลุมด้วยแสงสีทอง ทำให้กลิ่นอายมารเกาะติดกับมัน ก่อนจะกลายเป็นชุดเกราะปกป้อง!
ร่างสีทองในตอนนี้ประหนึ่งแม่ทัพจากแดนเซียนผู้พร้อมจะทะยานออกไปทั้งสี่ทิศ!
ด้านหลังชิวเสวียน กลิ่นอายมารทั้งหลายเริ่มหมุนวน แล้วร่างของแม่ทัพมารก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน!
ทั้งสองร่างเผชิญหน้ากันจากระยะไกล
เมื่อชิวเสวียนเปิดฉากโจมตี ร่างทั้งสองก็พุ่งเข้าใส่และฟาดฟันกันไปมาจนเกิดคลื่นอันบ้าคลั่ง!
ตู้ม!
ทั้งสองต่อสู้กันอีกครั้งจนเกิดเสียงดังกึกก้องทั่วท้องนภา!
ลู่หยวนสัมผัสได้ชัดเจนว่าพลังของชิวเสวียนในตอนนี้หมดลงแล้ว!
ราวกับชิวสิงมาสู้เอง
สิ่งนี้ทำให้ลู่หยวนสับสน คนที่เขากำลังเผชิญหน้าไม่ใช่ชิวเสวียน แต่เป็นชิวสิง!
หลังจากทั้งสองคนประมือกันสักพัก พวกเขาก็ผละออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรวบรวมพละกำลังเข้าสู้อีกครั้ง!
หลุมดำขนาดใหญ่ที่เดิมเริ่มขยายตัว ทำให้ปราณวิญญาณรอบข้างกลับมาเติมเต็มหลุมดำยักษ์อย่างต่อเนื่อง!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงการต่อสู้อันเต็มไปด้วยพลังไร้ที่สิ้นสุดยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
สมาชิกตระกูลชิวบางส่วนผู้กำลังตรวจตรารอบข้างตามคำสั่งของประมุขประหนึ่งแมลงวันไร้หัวบังเอิญมาอยู่ชานเมืองบริเวณนี้!
เสียงคำรามที่ดังมาแต่ไกลกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของทุกคน
แต่ทันทีที่ทั้งสองคนขยับ พวกเขาก็สัมผัสได้ว่าหูหนวกฉับพลัน โลกตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ ชั่วพริบตาต่อมา ความเจ็บปวดสุดแสนก็แล่นมาบริเวณหน้าอก เลือดลมปั่นป่วนจนไหลออกจากเจ็ดรูทวาร!
ผ่านไปหลายอึดใจ พวกเขาทั้งสองก็ตายลง!
กลุ่มคนจากแดนมัชฌิมเดินทางมุ่งหน้าสู่ด้านนอกตระกูลชิวอย่างรวดเร็ว พวกเขาเกือบจะมาถึงพื้นที่บริเวณดังกล่าวแล้ว!
แต่เมื่อพวกกู่จินเจากำลังเคลื่อนไปตามทางอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็พบกับกลุ่มคนที่กำลังจะไปยังตระกูลชิว!
ผู้นำคือผู้ชายอายุย่างยี่สิบ แต่งกายด้วยชุดคลุมสีม่วง
เขาสวมมงกุฎขนนกบนศีรษะ และนับว่าเป็นคนหล่อเหลาไม่เบา!
ชายผู้นั้นคล้ายกับรู้จักพวกกู่จินเจา คิ้วของเขาเลิกขึ้น ส่วนผู้ติดตามซึ่งอยู่ข้างกายก็เคลื่อนตัวมาอยู่ต่อหน้ากลุ่มชนแดนมัชฌิม!
ทุกคนเดือดดาล เพราะไม่ทราบว่าคนพวกนี้เป็นใครถึงกล้ามาขวางทางพวกเขา
พวกเขาในตอนนี้จึงยิ่งวิตกกว่าเดิม!
ลู่หยวนไม่ทราบสถานการณ์ในตอนนี้ แม้พวกฉินอี่หานพยายามจะติดต่อ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
นางจึงอาศัยความรู้สึกจนรับรู้ได้ว่าลู่หยวนยังไม่ตาย!
แต่ไม่มีใครทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้!
หากพวกเขามาถึงได้ทันเวลา ความเสี่ยงในตอนนี้ก็จะลดลง!
ในช่วงวิกฤตเช่นนั้น ยังมีคนกล้ามาขวางทางอีกหรือ?!
รนหาที่ตายหรือ?!
ผู้ติดตามประสานมือทำความเคารพทุกคนแล้วเอ่ยว่า “ท่านประมุขน้อยมีเรื่องอยากบอกกับท่านจักรพรรดินีเสียหน่อย”
ฮ่วนซิงไป๋เป็นคนอารมณ์ร้อนเช่นกัน ตอนนี้เขาไม่อาจอดทนอดกลั้นได้ ก่อนจะหันดาบชี้ไปที่ชายผู้นั้น “ไปบอกมารดาเจ้าเถอะ!”
สายเลือดของเขาตื่นขึ้นมาแล้ว กอปรกับเพิ่งผ่านการทะลวงขั้นมา ความสามารถในการปลิดชีพของเขาย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!
ต่อให้ผู้ติดตามจะอยู่ขั้นเซียนยุทธ์ก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา
เขาทำได้เพียงมองดาบที่ฟาดฟันเข้ามา
วิ้ง!
พลังบางอย่างกระจายมาแต่ไกลเพื่อหยุดดาบของฮ่วนซิงไป๋เอาไว้
ชายผู้สวมมงกุฎขนนกเดินเข้าหากลุ่มแดนมัชฌิมก่อนจะประสานมือ “ท่านจักรพรรดินีฉวนจง ข้ามาจากตำหนักประตูสวรรค์ มีนามว่าซ่งชิง”
คำพูดเพียงไม่กี่คำกลับทำให้เกิดความโกลาหลท่ามกลางกลุ่มแดนมัชฌิม!
โดยเฉพาะสมาชิกจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ที่เผยแววตาสนใจ
แม้ตำหนักประตูสวรรค์จะไม่อนุญาตให้ลูกหลานเข้าสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ถึงกระนั้นอีกฝ่ายก็ฝึกฝนผู้แข็งแกร่งมานับครั้งไม่ถ้วน
พวกเขาต่างรู้จักซ่งชิง!
เขาคือประมุขน้อยตำหนักประตูสวรรค์!
ว่ากันว่าเขามีพรสวรรค์ประหนึ่งทวยเทพ!
แม้แต่ในตำหนักประตูสวรรค์ คนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ก็นับว่าหาได้ยากในรอบหนึ่งล้านปี!
เมื่อคนทั้งหลายมองมายังซ่งชิง พลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่ถูกกักเก็บไว้ในร่างของอีกฝ่าย ซึ่งทัดเทียมกับพวกเขา!
เด็กคนนี้… ช่างทรงพลังนัก!
แล้วในอนาคตจะขนาดไหน…
กู่จินเจาย่อมเข้าใจถึงตัวตนของซ่งชิงหลังจากได้ยินเช่นนี้
นางชำเลืองมองด้วยสายตาเย็นชา “มีเรื่องอะไร?”