ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 441 ทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์
บทที่ 441 ทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์
บทที่ 441 ทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์
ครืน!
หมู่เมฆพลันรวมตัวกันเหนือท้องนภา ม่านหมอกสีดำราวกับหมึกเคลื่อนลงมาพร้อมความกดอากาศต่ำ เสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง ชวนให้น่าสะพรึงไม่น้อย!
ลู่หยวนเหลือบมองก่อนจะเอ่ยถามตามตรง “ระบบ เจ้าสามารถใช้ค่าชะตาเพื่อเลี่ยงช่วงเวลานี้ได้หรือไม่?”
[แจ้งเตือนจากระบบ: ไม่ได้! การฝืนสังหารบุตรแห่งโชคชะตาของท่าน ทำให้ต้องแบกรับทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์!]
“เช่นนั้นจะคำนวณค่าชะตาที่ได้จากการฆ่าชิวเสวียนได้อย่างไร?”
[หลังท่านรอดจากทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์ จึงจะสามารถคำนวณได้!]
ลู่หยวนยกยิ้ม “เหอะ… ข้าวางแผนสำหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว!”
สิ้นคำ เขารวบรวมพละกำลังทั้งหมดก่อนจะโจมตีไปที่นอกตระกูลชิว!
ระหว่างทาง ผู้คนทั้งหลายจากตระกูลชิวเห็นภาพติดตาเคลื่อนผ่านไปด้วยความเร็วสูง แต่ไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แม้จะอยากไล่ตามก็ไม่สามารถตามความเร็วดังกล่าวทันได้!
เพียงไม่กี่อึดใจ ลู่หยวนก็พุ่งออกจากค่ายกลของตระกูลชิว ก่อนจะมาถึงหุบเขาลึกแล้วยืนกลางอากาศ
ชั้นเมฆหมอกอันน่าสะพรึงได้มาถึงนอกตระกูลชิวแล้วในยามนี้ ก่อนจะผสานรวมกับหมู่เมฆอัสนีที่อยู่ในสภาพแปรปรวนด้านนอก!
สายฟ้านับหมื่นสายเคลื่อนเข้าหากันด้วยความเร็วสูงสุด ขณะรวมตัวกันเป็นร่างขนาดใหญ่ประหนึ่งมังกรสายฟ้า ก่อนจะพุ่งออกไปอย่างต่อเนื่อง!
ลู่หยวนเหลือบมองไปยังทิศทางหนึ่ง
ไม่ไกลจากตรงนั้นมีชิวชิงหลีกับอูโจ้วอยู่!
ชิวชิงหลีสื่อสารกับลู่หยวนผ่านยันต์ โดยบอกว่านางทำทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อย!
ส่วนอูโจ้วก็เคลื่อนมาอยู่ข้างกายลู่หยวนในชั่วพริบตาเช่นกัน
อูโจ้วมองสายฟ้าที่แปรปรวนเหนือศีรษะ เสียงคำรามของพวกมันประหนึ่งจะทำให้โลกทั้งใบแตกสลาย!
สีหน้าของอูโจ้วซีดเผือด แม้กระทั่งก่อนที่สายฟ้าจะเคลื่อนลงมา เขาก็รู้สึกถึงพลังของมันแล้ว!
อูโจ้วแทบไม่อาจจินตนาการได้ว่าเมื่อสายฟ้าเคลื่อนลงมา เขาจะต้องรับผิดชอบในการทำลายสิ่งเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้!
ครืน!
เสียงคำรามยังคงดังกระหึ่มจนทำให้หัวใจของอูโจ้วอ่อนยวบ เขาอดไม่ได้ที่จะมองลู่หยวนด้วยความไม่มั่นใจ หลังจากลอบกลืนน้ำลาย จึงเอ่ยว่า “นายท่าน ข้าไม่อยากตาย”
ลู่หยวนมองเขา ก่อนจะเอ่ยตามตรงว่า “ข้ารู้เพียงว่าตัวเองจะต้องไม่ตาย ส่วนเจ้า”
ลู่หยวนตบบ่าของอูโจ้ว “ขึ้นอยู่กับโชคชะตา”
เท้าของอูโจ้วอ่อนแรง ลู่หยวนเอ่ยเช่นนี้ ไม่เท่ากับทำให้เส้นทางหลบหนีของเขาแคบลงหรอกหรือ?!
“อะไร? เจ้าไม่เต็มใจทำหรือ?”
ลู่หยวนมองอูโจ้วพร้อมยกยิ้ม “หากเจ้าไม่เต็มใจก็เชิญพูดมาตามตรง”
รอยยิ้มของลู่หยวนที่ปรากฏในดวงตาของอูโจ้วไม่ต่างจากราชันแห่งนรกกำลังพรากชีวิต แล้วเขาจะกล้าตอบว่าไม่เต็มใจได้อย่างไร
เขาร่ำไห้ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แต่ยังคงพยายามปั้นยิ้มให้ดูมีความสุข “ข้าเต็มใจตายเพื่อนายท่าน ต่อให้ต้องทำนับร้อยครั้งก็ยอม!”
อูโจ้วยังคงไม่ยอมแพ้ขณะถามอย่างไม่มั่นใจ “นายท่าน สมมติ…สมมติว่าข้าไม่เต็มใจ ท่านจะปล่อยไปหรือไม่?”
ลู่หยวนมองเขาราวกับมองคนโง่ “ไม่อยู่แล้ว ข้าแค่อยากให้เจ้าพูด แต่สุดท้ายเจ้าก็ต้องไปอยู่ดี”
อูโจ้วไม่ครุ่นคิดอะไรอีก ทว่าสีหน้าของเขากลับซีดเผือด
เขาสูดหายใจขณะมองท้องนภาด้วยความเศร้าโศกและโกรธเกรี้ยว!
ค่ายกลซึ่งชิวชิงหลีวาดไว้ท่ามกลางหมู่เมฆก็เริ่มปรากฏ!
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่แหวกว่ายระหว่างกลุ่มเมฆ ร่างของมันซ้อนทับกันจนเผยเค้าโครงของมังกรสายฟ้าราวกับกำลังสู้กันอยู่
อูโจ้วตะโกนประหนึ่งเตรียมใจเอาไว้แล้ว “ทวยเทพผู้เจ้าเล่ห์! ข้าผู้เป็นปู่ของเจ้ายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้าแน่จริงก็ฟาดสายฟ้าให้ตายไปเลย!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของอูโจ้ว สายฟ้าอันน่าตกตะลึงก็เคลื่อนลงมาฟาดใส่ตระกูลชิว!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวประหนึ่งทวยเทพพิโรธ ทำให้ทั่วทั้งปฐพีสั่นไหว!
อูโจ้วหวาดกลัวจนร่างกายสั่นสะท้าน
สายฟ้าที่มีขนาดดุจมังกรขนาดเล็กที่เคลื่อนเข้าหาค่ายกลของตระกูลชิวในพริบตาพลันหายไป
วิ้ง! วิ้ง! วิ้ง!
มีเสียงแปลกแปร่งดังมาจากค่ายกลของตระกูลชิว พวกเขาคล้ายกับได้รับผลกระทบจากสายฟ้าเมื่อครู่ อักขระที่เดิมถูกจัดเรียงอย่างแน่นหนากระจายออก เผยวี่แววของการแยกออกและพังทลาย
ลู่หยวนหลุบตาก่อนจะจากไป
อัสนีสวรรค์เป็นเพียงโหมโรงเท่านั้น
หากมันฟาดลงมา แม้แต่ชิวสิงก็ไม่กล้ารับมันซึ่งหน้า!
แต่ว่าลู่หยวนเตรียมการมาเนิ่นนาน ต่อให้อัสนีสวรรค์ในวันนี้สามารถสังหารทวยเทพได้ มันก็ส่งผลกระทบต่อเขาไม่มากนัก!
แต่ถ้าไม่ได้ผลจริง เขาเพียงโยนอูโจ้วไปรับอัสนีสวรรค์ก็พอแล้ว!
เมื่อลู่หยวนกำลังสงบสติ สีสันของท้องนภาก็เปลี่ยนไป!
โฮก!
มีเสียงสัตว์ร้ายดังอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ!
มันยื่นหัวออกมาจากกลุ่มเมฆ กลายเป็นว่าอีกฝ่ายคือสัตว์ร้ายซึ่งรวมสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่อย่างมังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว วิหคเพลิงและเต่าดำไว้ด้วยกัน!
สิ่งนี้ดูน่ากลัวยิ่ง ร่างขนาดใหญ่ของมันขดตัวอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ!
นี่คือสิ่งที่ลู่หยวนขอให้ชิวชิงหลีอัญเชิญมาเพื่อจัดการกับค่ายกลที่ถูกสลักด้วยอักขระ!
อักขระทั้งสี่ตัวเหล่านี้คือสิ่งที่ลู่หยวนแลกเปลี่ยนมาจากร้านค้าระบบ
สิ่งนี้ไม่เกรี้ยวกราดแต่อย่างใด ถึงอย่างไร หากลู่หยวนต้องการใช้มันเพื่อสังหารผู้คนและทำลายล้างเมือง เขาก็จำเป็นต้องเลี้ยงดูสักพักจึงจะทำได้
บัดนี้ การอัญเชิญอย่างบุ่มบ่ามไม่อาจจัดการอะไรได้ เกรงว่าแม้แต่ชิวเสวียนผู้รับมรดกการบ่มเพาะของชิวสิงมาก็ยังเอาชนะมันไม่ได้!
ลู่หยวนอัญเชิญสิ่งนี้ออกมาเพื่อวัตถุประสงค์เพียงหนึ่งเดียว!
มันคือสัตว์ร้ายเพียงหนึ่งเดียวในร้านค้าระบบที่กินอัสนีสวรรค์เป็นอาหาร!
มันมีชื่อว่าสี่ไม่เหมือน!
แน่นอนว่าลู่หยวนไม่ถูกใจชื่ออันอัปลักษณ์เช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงตั้งให้ใหม่
นั่นก็คือชุ่ยฮวา!
ลู่หยวนรู้สึกมีความสุขขึ้นมา
ชุ่ยฮวานี้มีร่างกายที่แม้แต่ฟ้าดินก็ไม่อาจทำลายได้ มันชื่นชอบอัสนีสวรรค์เป็นที่สุด!
ลู่หยวนขอให้ชิวชิงหลีวางค่ายกลไว้ล่วงหน้าเพื่อปลดปล่อยชุ่ยฮวาในหมู่เมฆนอกตระกูลชิว เพื่อให้มันได้กินอาหาร!
บัดนี้อัสนีสวรรค์ส่วนใหญ่ที่เดิมอยู่นอกตระกูลชิวได้ถูกกินเข้าไป!
ร่างของชุ่ยฮวาจึงเติบโตขึ้น!
ยามทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์นี้เคลื่อนลงมาพร้อมกับอัสนีสวรรค์ ชุ่ยฮวาที่เดิมอิ่มหนำสำราญก็คล้ายกับหิวขึ้นมาอีกรอบ!
สำหรับมัน อัสนีสวรรค์จากวิถีสวรรค์ไม่ต่างจากงานเลี้ยงชุดใหญ่ที่แทบไม่มีโอกาสได้พบเจอ!
ไม่ต่างจากสิ่งที่เจอได้แต่หาไม่ได้!
หากไม่กินตอนนี้ แล้วจะกินตอนไหนอีก?!
แต่หมู่เมฆเหล่านั้นให้กำเนิดอัสนีสวรรค์จากวิถีสวรรค์ แม้พวกมันจะรวมตัวกันเป็นเมฆอัสนีกับมังกรสายฟ้า แต่กลับไม่มีวิถีสวรรค์อยู่กับตัว
ชุ่ยฮวาเวียนวนไปมาเพื่อรอคอยโอกาส!
ลู่หยวนเรียกหอคอยอสูรสวรรค์ในจิตเทวะเพื่อถามว่าต้องการอะไรหรือไม่?
มันคล้ายกับลังเลสักพัก จากนั้นจึงพลิกตัวเพื่อบ่งบอกว่าต้องการ
ลู่หยวนมองสายฟ้าที่วาบไหวในท้องนภาขณะยกยิ้ม จากนั้นจึงนั่งขัดสมาธิแล้วรออย่างเงียบงัน!
อูโจ้วฝืนสงบสติก่อนจะเริ่มเตรียมการ
ในตอนนี้เอง!
พวกคนจากแดนมัชฉิมทะยานสู่ตระกูลชิวมาแต่ไกล ชิวชิงหลีสัมผัสถึงกลิ่นอายของคนเหล่านี้ได้ ก่อนจะโจมตีเพื่อหยุดยั้งคนกลุ่มนั้น
นางไม่ห่วงพวกเสวียนเทียนชวน แต่ห่วงคนอื่นอีกมากที่ยังไม่รู้ถึงตัวตนแท้จริงของลู่หยวน มันคงไม่ดีนักถ้าหากบุกเข้ามาแล้วเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า
“นายท่านกำลังทำการทะลวง โปรดรออยู่กับที่!”