ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 446 เส้นชีพจรสวรรค์คุณธรรม! เสร็จสิ้น!
บทที่ 446 เส้นชีพจรสวรรค์คุณธรรม! เสร็จสิ้น!
บทที่ 446 เส้นชีพจรสวรรค์คุณธรรม! เสร็จสิ้น!
หากไม่มีคำสั่งของลู่หยวน พวกเขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามออกไปด้วยกลัวว่าจะรบกวนแผนการของอีกฝ่าย!
ฉินอี่หานยืนอยู่ที่มุมหนึ่งขณะหลับตาด้วยท่วงท่าสงบ
สองชั่วยามต่อมา เสียงเหรียญทองแดงตกกระทบพื้นก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงกระอักโลหิต
ทุกคนมองเสวียนเทียนชวนด้วยสีหน้ากังวล
แต่ดวงตาของเขาทอประกายขณะเอ่ยอย่างแหบพร่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!”
เมื่อคนอื่นได้ยินเข้า ในใจของพวกเขาก็สงบเช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน!
ค่ายกลเก้าอันล้วนเข้าปะทะร่างลู่หยวนอย่างต่อเนื่อง!
ความเจ็บปวดในร่างกายสั่นสะท้านไปถึงกรามของเขา
การพิชิตเส้นชีพจรสวรรค์คุณธรรมไม่ใช่สิ่งที่ทำได้โดยง่าย
เดิมทีลู่หยวนมีเมล็ดพันธุ์มารซึ่งอยู่คนละฝั่งกับวิถีคุณธรรม ทำให้พลังมารและพลังวิถีคุณธรรมขัดแย้งกัน
ครั้งนี้เขาต้องฝืนรับร่างวิถีคุณธรรม แต่ร่างนี้คือขั้วตรงข้ามกับตนเอง
มันคือการเกิดใหม่โดยสมบูรณ์!
ค่ายกลเก้าอันเข้าปะทะอย่างต่อเนื่องในขณะที่พลังรากเหง้าของวิถีคุณธรรมถูกลู่หยวนยับยั้งเอาไว้
พลังวิถีคุณธรรมส่วนหนึ่งยังคงพุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เคลื่อนไปตามแขนขาและกระดูก!
ราวกับใส่บางสิ่งเข้าไปในตัวลู่หยวน!
[แจ้งเตือนจากระบบ: ขอแสดงความยินดี ท่านได้รับร่างระดับสวรรค์: เส้นชีพจรสวรรค์คุณธรรม]
ลู่หยวนลืมตาขึ้น ความผันผวนของวิถีคุณธรรมพลันระเบิดออกมาทุกทิศทาง!
ความยิ่งใหญ่ของพลังนี้สัมผัสได้ไกลหลายหมื่นลี้!
ยามนี้ผู้รอบรู้และผู้ทรงพลังทั้งหลายต่างพากันถอนหายใจแล้วมองไปยังทิศทางที่พลังพุ่งออกมา!
พวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงพลังแห่งวิถีคุณธรรมแบบนั้นมานานแล้ว!
หรือจะมีเจ้าหนูอัจฉริยะปรากฏในตระกูลชิวแห่งวิถีคุณธรรม?!
ทุกคนต่างคาดเดาในใจ!
วิถีคุณธรรมและวิถีมารมักอยู่ขั้วตรงข้าม การปรากฏของผู้แข็งแกร่งในวิถีคุณธรรมมักบ่งบอกว่าผู้ทรงพลังจะปรากฏขึ้นในวิถีมารเช่นกัน
หากวิถีมารทรงพลังดังใจหวัง คนของวิถีมารก็จะถือกำเนิดขึ้น
เป็นเช่นนี้นับตั้งแต่การก่อเกิดแผ่นดิน วิถีคุณธรรมและวิถีมารขัดแย้งกันจนเกิดเป็นวัฏจักรที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน
ตอนนี้ การปรากฏของใครบางคนที่มีพลังแห่งวิถีคุณธรรมบริสุทธิ์ย่อมหมายความว่าฝั่งมารก็จะให้กำเนิดผู้แข็งแกร่งเช่นกันไม่ใช่หรือ?!
หรือว่าราชันมารจะปรากฏตัว?!
ผู้คนทั้งหลายเกิดความกังวล!
เมื่อลู่หยวนยืนขึ้น พลังแห่งวิถีคุณธรรมทั้งหมดก็มาบรรจบกัน
เพราะเส้นชีพจรสวรรค์คุณธรรมเพิ่งถือกำเนิด บัดนี้มันอยู่ในสภาพอ่อนแอจึงไม่ขัดแย้งกับพลังมาร
ส่วนการใช้พลังทั้งสองในภายภาคหน้า นอกจากสิ่งที่ชิวเสวียนปกปิดไว้ก่อนหน้าแล้วก็มีเพียงลู่หยวนที่จะต้องประยุกต์ใช้ด้วยตัวเอง
ถึงอย่างไรตลอดยุคสมัยที่ผ่านมา มีเพียงสองคนที่สามารถใช้ทั้งพลังแห่งวิถีคุณธรรมและพลังมารได้พร้อมกัน
คนแรกคือชิวเสวียน ส่วนอีกคนคือลู่หยวน!
บนโลกใบนี้ไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับวิธีใช้พลังทั้งสองนั้นพร้อมกัน ซึ่งร้านระบบก็ไม่มีการกล่าวถึงส่วนนี้!
ลู่หยวนตระเตรียมทุกสิ่งแล้วเอ่ยว่า “ระบบ เริ่มทำการสรุปได้”
[ระบบอยู่ระหว่างการสรุป…]
หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ ระบบก็เอ่ยอีกครั้ง
[สรุปเสร็จสิ้น! ค่าชะตาวายร้ายเดิมของท่าน: 39000!]
[เพราะท่านฝืนฆ่าชิวเสวียนผู้เป็นบุตรแห่งโชคชะตา ค่าชะตาที่ได้ในครั้งนี้จึงไม่เพิ่มพูนเป็นเท่าตัว!]
[หลังจากหักการแลกเปลี่ยนที่ท่านใช้ ค่าชะตาวายร้ายที่เหลือในตอนนี้: 80000!]
แปดหมื่น…
ลู่หยวนปรายตามองก่อนจะยอมรับ
หากดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เขาก็ยังสามารถโค่นชิวเสวียนได้ แต่แบบนั้นมันจะช้าเกินไป
หากมัวแต่รอฆ่าอีกฝ่ายก็ไม่ทราบว่าจะใช้เวลากี่วันหรือกี่เดือน
วันที่จะไปเกาะสังหารเซียนไม่คอยใคร อีกทั้งเขายังมีหลายสิ่งที่ต้องทำ
และแม้ก่อนหน้านี้จะมีเวลาเหลือเฟือที่จะต่อสู้กับบุตรแห่งโชคชะตา แต่ตอนนี้เขาไม่มีแล้ว!
แค่ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!
ลู่หยวนยื่นมือขวา แล้วจิตสำนึกที่เหลืออยู่ของเจิ้งชิงเทียนในสภาพอ่อนแรงก็มาอยู่ในมือด้วยสภาพสั่นไหว
เดิมทีเจิ้งชิงเทียนเป็นคนแนะนำค่ายกลนี้ นางถึงขั้นเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อสร้างมันขึ้นมา
หากลู่หยวนไม่ยื่นมือเข้าปกป้องจิตสำนึกกลุ่มสุดท้ายของนางในช่วงวิกฤติ เกรงว่ามันคงกระจัดกระจายออกไปแล้ว!
ลู่หยวนเก็บจิตสำนึกเหล่านี้ของเจิ้งชิงเทียนไว้ในจิตเทวะตัวเอง จากนั้นปกป้องด้วยค่ายกลแล้วรอให้หอคอยอสูรสวรรค์เปิดออกอีกครั้งเพื่อรับมันไปดูแลอย่างดี
หลังจากจิตสำนึกฟื้นคืนกลับมา นางก็จะกลับมามีรูปลักษณ์เป็นของตัวเอง!
เมื่อเรื่องราวจบลง ลู่หยวนก็เข้าสู่ค่ายกลของตระกูลชิว
ตอนนี้พันธนาการกับตระกูลชิวหายไปแล้ว แต่พวกเขาต่างก็ประหลาดใจราวกับมีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นตรงหน้า
แต่ละคนพยายามระดมพละกำลังสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถสัมผัสพลังวิถีคุณธรรมได้!
ราวกับเส้นชีพจรแห่งวิถีคุณธรรมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดหรือแม้กระทั่งพลังแห่งวิถีคุณธรรมที่น่าภาคภูมิใจล้วนหายไปสิ้น!
เมื่อพวกชิวเซี่ยวเทียนเห็นลู่หยวนกำลังเข้ามา พวกเขาก็จำกลิ่นอายแห่งวิถีคุณธรรมของอีกฝ่ายได้ทันที มันบริสุทธิ์ยิ่งกว่าของพวกตนและใกล้เคียงกับวิถีคุณธรรมไร้ขีดจำกัด!
ตอนนี้ พวกเขาพอจะคาดเดาบางอย่างได้แล้ว
หลายคนปรี่เข้าหาลู่หยวนทันทีพร้อมบันดาลโทสะ “ลู่หยวน เส้นชีพจรสวรรค์คุณธรรมในร่างของพวกข้าหายไปได้อย่างไร?! เหตุใดเจ้าถึงมีกลิ่นอายแห่งวิถีคุณธรรมบริสุทธิ์เช่นนี้?! นี่เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?”
สีหน้าเกียจคร้านของลู่หยวนไม่เลือนหาย เขาชำเลืองมองผู้คนทั้งหลายอย่างเย้ยหยันพลางขมวดคิ้ว “ข้า บุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นคนทำเอง พวกเจ้ามีปัญหาอะไร?”
น้ำเสียงแผ่วเบาเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม เพียงพริบตาชิวเซี่ยวเทียนก็หน้าถอดสี
ใช่แล้ว ต่อให้ทราบว่าลู่หยวนเป็นคนทำ แล้วพวกเขาจะไปทำอะไรได้?!
โลกนี้คือสถานที่ที่ผู้อ่อนแอจะตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่งเพราะมีบรรพชนชิวสิงคอยดูแล เขารับผิดชอบเรื่องวิถีคุณธรรม ทำให้ผู้คนในแผ่นดินหลักต้องแสดงความเคารพ ไม่มีใครกล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกเขา
บัดนี้พวกเขาหมดที่พึ่งแล้ว
บรรพชนถึงแก่ความตาย ส่วนมรดกของวิถีคุณธรรมก็ถูกตัดขาด พวกเขาไม่ต่างจากคนธรรมดาที่หาได้มีความพิเศษอันใดไม่!
หากไม่ได้รับการช่วยเหลือของเส้นชีพจรแห่งวิถีคุณธรรม พละกำลังการบ่มเพาะของพวกเขาก็น้อยกว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำ!
ชิวเซี่ยวเทียนสัมผัสได้ว่าคลื่นแห่งประวัติศาสตร์ซัดสาดเข้าสู่แผ่นดิน ทันทีที่มันเคลื่อนผ่าน ตระกูลชิวก็จะไม่สามารถยืนหยัดได้อีก!
ดวงตาของผู้น้อยตระกูลชิวล้วนแดงก่ำหลังได้ฟังคำกล่าวของลู่หยวน
แน่นอนว่าพวกเขาทราบถึงความหมายของการเสียพลังแห่งวิถีคุณธรรม!
ทุกคนในตอนนี้ย่อมรังเกียจลู่หยวน!
ชายหนุ่มผู้อยู่ใกล้เขาที่สุดจับกระบี่แล้วแทงออกไปหมายจะพรากชีวิตอีกฝ่าย!
พวกชิวเซี่ยวเทียนมัวแต่จมดิ่งกับความคิดของตนจนตอบสนองไม่ทันการ เมื่อกลับมามีสติอีกครั้ง กระบี่ของชายผู้นั้นก็มาถึงคอของลู่หยวนแล้ว!
ผู้คนในตระกูลชิวต่างกังวล ทำได้เพียงหวังว่าการโจมตีของกระบี่จะทำให้โลหิตของอีกฝ่ายสาดกระเซ็นจนถึงแก่ความตายในทันที!
——————————-