ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 470 ไป ไปปล้นบ้าน!
บทที่ 470 ไป ไปปล้นบ้าน!
บทที่ 470 ไป ไปปล้นบ้าน!
ฟ้าร้องคำรามจนเสียดแทงหู
ก่อนจักรพรรดิจูอั้นจะทันได้ตอบสนอง จักรพรรดินาคาทะยานก็ปรากฏตรงหน้า จากนั้นร่างกายก็วูบไหวก่อนที่สายฟ้าจะฟาดเข้ามา!
หัวใจของจักรพรรดิจูอั้นพลันหยุดนิ่ง เขารู้สึกเหมือนชีวิตมาถึงจุดสิ้นสุดในบัดดล!
เขารู้สึกถึงแสงวาบตรงหน้า แต่คาดไม่ถึงว่าอสนีสวรรค์จะเลี้ยวตรงเข้าหาจักรพรรดินาคาทะยานผู้กำลังซ่อนอยู่ด้านหลัง!
‘อ๊าก!’
เสียงกรีดร้องคงอยู่เพียงสามอึดใจก่อนจะเงียบไป
จากนั้นจักรพรรดิจูอั้นก็ถอยออกมาด้วยการขยับปลายเท้าสองสามครั้ง สายตาจับจ้องจักรพรรดินาคาทะยานผู้ถูกอสนีสวรรค์ผ่าจนเนื้อฉีกขาดด้วยความเย็นชา แล้วหัวใจก็ยิ่งแจ่มชัด
‘เหอะ…’
คราวนี้จักรพรรดิจูอั้นเห็นจักรพรรดินาคาทะยานชัดเจน เขามองเห็นทุกอย่างแจ่มชัดว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร!
จักรพรรดินาคาทะยานผู้นี้คิดจะใช้เขาเป็นโล่!
‘คิดจะให้ข้า จูอั้น เป็นผู้รับอสนีสวรรค์แทนอย่างนั้นหรือ!’
‘เหอะเหอะ นี่คือพี่น้องที่เขาเคยมอบความไว้วางใจให้อย่างนั้นหรือ!’
อสนีสวรรค์ย่อมไม่สามารถสังหารจักรพรรดินาคาทะยานได้ แต่ก็มากพอจะทำให้อีกฝ่ายได้รับความทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัส!
อาการกระตุกที่เกิดจากสายฟ้ายังคงปรากฏบนร่างของจักรพรรดินาคาทะยาน
หู่เซียวเพียงเหลือบมองจักรพรรดินาคาทะยานก่อนจะเลิกสนใจความเป็นความตายของอีกฝ่าย จากนั้นก็หันมาจับจ้องกู้ชิงหรันแทน
ทุกสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเหมือนจะข้องเกี่ยวกับหญิงสาวผู้นี้!
บัดนี้ห้วงอากาศรอบข้างคนผู้นั้นกำลังพังทลายลงชั้นแล้วชั้นเล่า โดยหลุมดำขนาดใหญ่กำลังดูดกลืนเข้าไปประหนึ่งสัตว์ร้ายขนาดยักษ์จากหุบเหวที่กำลังอ้าปากเพื่อกลืนกินพวกมันเข้าไปจนสิ้น!
และเหนือสวรรค์ชั้นเก้า อักขระที่เป็นของค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าสลายไปนานแล้ว แต่ถูกแทนที่โดยหมู่เมฆที่ยังคงลอยไปมาโดยมีอสนีสวรรค์ซ่อนอยู่ด้านหลัง!
ต้นกำเนิดของหญิงสาวผู้นี้มาจากที่ใดกันแน่?!
หู่เซียวหรี่ตา
ทันทีที่อสนีสวรรค์ฟาดลงมา กู้ชิงหรันก็ถอยมาอยู่ข้างกายลู่หยวนอย่างเงียบงัน
ในตอนนี้ ลู่หยวนผู้ไม่โดนแรงกดดันถาโถมอีกต่อไปก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น
พลังรอบข้างยังคงพลุ่งพล่านก่อนจะกลับสู่จุดสูงในทันที!
หู่เซียวมองทั้งสอง พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
“หู่เซียว ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเมล็ดพันธุ์กำราบดินแดนนี้มีประโยชน์อันใดจึงคุ้มค่าพอจะให้เจ้าวางแผนนี้ขึ้นมา? จุ๊จุ๊! เท่าที่ข้าเห็น เกรงว่าคงไม่ได้มีเพียงโลหิตกำเนิดสรรพสิ่งใช่หรือไม่!”
“เหอะเหอะ…”
ทันใดนั้น จิตวิญญาณต่อสู้ก็ปรากฏในดวงตาของหู่เซียว จากนั้นเขาก็สะบัดมือก่อนค้อนยักษ์สีดำจะปรากฏออกมา!
“คนตายไม่จำเป็นต้องรู้!”
สิ้นคำ หู่เซียวก็ก้าวมาข้างหน้า แล้วหลุมดำข้างใต้ก็ถูกสะกดไว้ในทันที!
ร่างของหู่เซียวเคลื่อนผ่านห้วงอากาศที่เพิ่งแตกสลาย ขณะคลื่นอันคลุ้มคลั่งก็กำลังถาโถมมาข้างหน้า เพียงพริบตาเดียว ร่างของเขาก็ปรากฏตรงหน้าลู่หยวน!
ขณะง้าวในมือถูกกวัดแกว่งด้วยพลังมหาศาลที่ร้ายกาจถึงขีดสุด! ลู่หยวนกลับไม่แตกตื่นแต่อย่างใด
หนึ่งง้าวกับหนึ่งค้อนปะทะเข้าใส่กัน!
กำลังทั้งสองทัดเทียมกัน ขณะที่พลังทั้งสองเข้าปะทะกัน แสงสีขาวก็ปะทุออกมาก่อนจะปกคลุมทั่วฟ้าดินในบัดดล!
โลกตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ ปราศจากสุ้มเสียงใด ๆ!
‘วิ้ง!’
เสียงระฆังพลันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ!
จากนั้น คลื่นพลังขนาดใหญ่ก็กระจายออกมาโดยมีแสงสีขาวเป็นศูนย์กลาง พวกมันคุกคามไปทั่วทุกหนแห่ง!
‘ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!’
คลื่นพลังลูกใหญ่กระจายออกมาก่อนจะปกคลุมทั่วอาณาบริเวณ!
พวกกู้ชิงหรันไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาย่อมมีความสามารถในการปกป้องตัวเอง!
พลันคลื่นพลังอันคลุ้มคลั่งก็ถาโถมเข้ามา ผู้คนจึงต้องระดมกำลังเพื่อป้องกันไว้!
เวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยชาก่อนคลื่นดังกล่าวจะหยุดนิ่ง!
ทั่วฟ้าดินถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว
แต่บัดนี้สรรพสิ่งกับมลายหาย แม้กระทั่งทะเลสาบสีดำขนาดใหญ่ก็ถูกทำลายสิ้น วังของมังกรเกล็ดซึ่งเดิมซ่อนอยู่ในส่วนลึกของทะเลสาบ บัดนี้ก็กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว!
ไม่มีสิ่งมีชีวิตในเผ่ามังกรเกล็ดอีกต่อไป!
กู้ชิงหรันก้าวไปหาหู่เซียว จากนั้นก็หายวับไป!
เมื่อแสงสีขาวกระจายออกไป ลู่หยวนและหู่เซียวล้วนหันหลังก่อนจะทะยานไปด้านหลัง หลังจากหยุดนิ่งแล้ว พวกเขาก็ยืนห่างกันพอสมควร
ทั้งสองหอบหายใจโดยมีบาดแผลเล็กน้อยจากคมเขี้ยวแห่งความตายเมื่อครู่
ทันทีที่ปะทะกัน ทั้งคู่สัมผัสได้ถึงพลังของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี!
บัดนี้พวกเขาตัดสินใจได้แล้ว
แม้ลู่หยวนใช้พลังไม่มากนัก เพราะต้องเก็บงำพลังบางส่วนเอาไว้ ถึงอย่างไรหอคอยอสูรสวรรค์ก็ยังถูกผนึกอยู่
พลังของวิญญาณหอกกับมังกรเจินหลงจึงเป็นสิ่งสนับสนุนหลักในการต่อสู้เมื่อครู่ หาได้มีพลังวิถีคุณธรรมกับพลังวิถีมารไม่!
เพียงแค่ใช้พลังทั้งสองนี้ เขาถึงขั้นต่อสู้กับหู่เซียวได้ย่างสูสีจนแทบจะกำราบอีกฝ่ายได้!
ลู่หยวนทราบเช่นกันว่าหู่เซียวยังไม่ได้พยายามสุดความสามารถ!
พูดให้ถูกก็คือเผ่าพันธุ์ในหุบเขาบูรพาแทบจะเหมือนกับสัตว์เทวะ
แต่พวกเขามีสายเลือดที่อ่อนแอและแปลกแยก ทำให้พลังอันแข็งแกร่งที่สุดคือพลังที่ซ่อนอยู่ในสายเลือดเท่านั้น!
นั่นก็คือพลังต้นกำเนิดของพวกเขา!
หู่เซียวยังไม่ได้ใช้พลังดังกล่าว แสดงว่าเขายังไม่ได้สู้อย่างสุดความสามารถ!
สายตาของหู่เซียวเปลี่ยนไปขณะมองลู่หยวน
เด็กคนนี้มีดีกว่าที่เขาคิด
ลู่หยวนผู้นี้ยังหนุ่มยังแน่นแต่กลับร้ายกาจพอจะสามารถพิชิตดินแดนมังกรเกล็ดได้
แม้การคาดเดาจะแม่นยำ แต่เด็กคนนี้ก็กำราบเผ่ามังกรเกล็ดได้ด้วยความช่วยเหลือของมังกรเจินหลง
แต่ใช่ว่าทุกคนที่มีมังกรเจินหลงจะสามารถจะทำให้หลงเฉียนอวิ๋นกับกองกำลังของอีกฝ่ายยอมจำนนได้!
เด็กคนนี้ต้องมีทักษะการบ่มเพาะบางอย่างเป็นแน่!
ดูท่าจะเป็นเช่นนั้นจริง
เพียงแต่หู่เซียวไม่คาดคิดว่าพลังของลู่หยวนจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
ต่อให้เป็นเขาก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้!
ทว่าตนเองก็ยังมีไม้ตายที่ใช้รับมืออยู่!
ส่วนลู่หยวน… เกรงว่าเขาจะมีแผนสำรองเช่นกัน
ทั้งสองเผชิญหน้ากันขณะพลังในมือยังคงเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่มีใครเป็นฝ่ายลงมือก่อน!
ในตอนนี้
ด้านนอกดินแดนจิ้งจอกสวรรค์ ฉินอี่หานและเทียนเม่ยเอ๋อร์ก็กำลังรออยู่ในที่เดียวกัน ไม่นานนัก ไป๋ชิวเอ๋อร์ก็กลับมาอย่างรวดเร็ว!
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
ฉินอี่หานถามพลางขมวดคิ้ว
ร่างของไป๋ชิวเอ๋อร์แน่นิ่งก่อนจะพยักหน้า “เผ่าจักรพรรดิเหล่านั้นกำลังต่อสู้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่หันมาสนใจเรื่องนี้แน่นอน! พวกเราทำตามแผนที่บุตรศักดิ์สิทธิ์วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ดีกว่า!”
“ได้!”
เทียนเม่ยเอ๋อร์ตอบตกลงทันที ขณะเดียวกันก็หันไปมองเหล่าจิ้งจอกสวรรค์หลายพันคนซึ่งอยู่ด้านหลังก่อนจะเอ่ยเสียงดัง “ทายาทของจิ้งจอกสวรรค์น้อมรับคำสั่งของท่านจักรพรรดินี!”
“สู้! สู้! สู้!”
เหลิ่งเหยียนกับโฉวโยวตอบรับก่อนจะชูอาวุธขึ้น!
ส่วนที่เหลือต่างตอบรับเช่นกัน “สู้! สู้! สู้!”
“พวกเราจิ้งจอกสวรรค์อยู่บนฝ่ามือของสามจักรพรรดิในดินแดนผู้พิทักษ์มานานเกินไปแล้ว! พวกมันคิดว่าจะยึดดินแดนจิ้งจอกสวรรค์ไปเมื่อไรก็ได้ แต่วันนี้พวกเราจะทำให้อีกฝ่ายได้รู้ซึ้งเองว่านั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์! ”
ว่าแล้วเทียนเม่ยเอ๋อร์ก็ชักกระบี่ยาวออกมาแล้วชี้ไปทางดินแดนผู้พิทักษ์ จากนั้นก็ออกคำสั่ง “ฆ่า!”
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”
คนของจิ้งจอกสวรรค์ยังคงตอบรับอย่างต่อเนื่อง!
ฉินอี่หานสร้างผนึกในมือ แล้วค่ายกลก็ปรากฏจากเท้าของคนในเผ่าจิ้งจอกสวรรค์
เมื่อค่ายกลก่อตัวขึ้น ทุกคนในที่นี้ก็หายไปในทันที
พริบตาเดียว คนเหล่านี้ก็มาอยู่นอกอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิแห่งดินแดนผู้พิทักษ์แล้ว
ผู้คนแห่งเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ทั้งหลายถือค่ายกลและยันต์เอาไว้นับไม่ถ้วน
ไป๋ชิวเอ๋อร์กอดไป๋เจ๋อเอาไว้พร้อมกับถือกระบี่ยาวไว้ในมือ จากนั้นนางก็ยกยิ้มก่อนจะเลียนแบบคำพูดติดปากของลู่หยวน “ไป ไปปล้นบ้านกันเถอะ!”
——————————-