ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 494 เปิดคฤหาสน์จิ้งจอกด้วยโลหิต
บทที่ 494 เปิดคฤหาสน์จิ้งจอกด้วยโลหิต
บทที่ 494 เปิดคฤหาสน์จิ้งจอกด้วยโลหิต
เทียนเม่ยเอ๋อร์และพรรคพวกข้ามจุดเริ่มต้นเดิมก่อนจะมาถึงสถานที่ห่างไกลในดินแดนจิ้งจอกสวรรค์
มันเป็นหุบเขาลึกที่เทียนเม่ยเอ๋อร์คุ้นเคยเป็นอย่างดี นางกระโดดลงจากขอบก่อนจะลงสู่แท่นที่ไม่สะดุดตา
สมาชิกจิ้งจอกสวรรค์ที่เหลือกระโดดตามลงไปทีละคน
เทียนเม่ยเอ๋อร์ปรับสภาพเล็กน้อยขณะมองขอบของหุบเขาที่ทอดยาวลึกลงไป นางกระโดดไปตามแท่นที่วางอยู่ทีละแท่น หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง
เมื่อเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนของปราณวิญญาณที่อ่อนแรงมาก
โฉวโยวกับแม่ทัพคนอื่นล้วนกวาดตามองรอบข้างขณะกำลังเดินมุ่งหน้าสู่ข้างในถ้ำ
ไม่นานก็เห็นค่ายกลที่กำลังหมุนวนไปมาอยู่ในส่วนลึกของถ้ำ!
ค่ายกลนี้คือทางเข้าดินแดนจิ้งจอกสวรรค์
ค่ายกลนี้ถูกสร้างโดยเทียนเม่ยเอ๋อร์ และมีเพียงจิ้งจอกสวรรค์ที่สามารถเข้าออกได้!
นางยื่นมือขวาออกไปขณะใช้มือขวาแทนกระบี่แล้วตวัดเล็กน้อย โดยที่ปลายนิ้วข้างซ้ายปรากฏโลหิตไหลออกมา
เทียนเม่ยเอ๋อร์หยดโลหิตลงในค่ายกลที่กำลังหมุนวน
ค่ายกลพลันหมุนเร็วยิ่งขึ้น จากนั้นแสงสลัววูบไหวขณะอักขระเคลื่อนไหวไปมา
เทียนเม่ยเอ๋อร์เหลือบมองสมาชิกจิ้งจอกสวรรค์จำนวนมากก่อนจะกล่าวว่า “ทันทีที่เข้าไปในค่ายกลนี้ พวกเราก็จะไปปรากฏที่มุมหนึ่งของดินแดน”
พวกโฉวโยวมองหน้ากันด้วยความสับสน พวกเขาเข้าใจว่าหลังจากวันนี้ไปคงจะมีความโกลาหลเกิดกับจิ้งจอกสวรรค์
กลิ่นอายซึ่งเป็นของซู่เฟิง เพิ่งรวมตัวกันที่ทางเข้าออกของดินแดนจิ้งจอกสวรรค์ และมันคือค่ายกลที่เขาติดตั้งเอาไว้
หากใครบางคนเข้าไปในนั้น อีกฝ่ายจะต้องรู้ตัวทันที
หากเป็นแบบนี้ ซู่เฟิงน่าจะยึดที่นี่เอาไว้ ขณะที่พวกเทียนเม่ยเอ๋อร์ไปคุ้มกันดินแดนที่อยู่ไกลออกไป!
แม้ซู่เฟิงจะอายุมาก แต่ทุกคนที่นี่ต่างทราบว่าเขามีความสามารถในการต่อสู้ไม่ใช่ย่อย!
แต่หากมีเหลิ่งเหยียนควบคุม ก็ไม่น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นมากนัก
นี่เป็นบทพิสูจน์ว่าเหลิ่งเหยียนไม่ใช่กบฏ …แต่ถ้าเป็นทางตรงกันข้าม ทุกสิ่งก็จะต่างออกไป
หากเขาเป็นกบฏขึ้นมา…
เมื่อแม่ทัพทั้งหลายคิดได้ดังนี้ พวกเขาก็พลันรู้สึกรับไม่ได้เล็กน้อย
ถึงตอนนั้น เกรงว่าจะต้องหันกระบี่ใส่กันจนเกิดพายุโลหิตอีกหน
โฉวโยวครุ่นคิดสักพัก จากนั้นจึงเอ่ยถาม “ท่านจักรพรรดินี ถ้าเกิด… ถ้าเกิดว่ามีกบฏไปเข้าร่วมกับซู่เฟิง พวกเราควรทำอย่างไรดีหรือ?”
เทียนเม่ยเอ๋อร์กวาดสายตาไปทั่วขณะจิตสังหารไร้ที่สิ้นสุดปรากฏในดวงตา โดยรอบตัวนางได้ปรากฏอำนาจจักรพรรดิซึ่งเป็นของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ส่องแสงเจิดจ้า มันคอยกำราบกลุ่มคนทั้งหลายจนทำให้ต้องเคารพยำเกรง
ริมฝีปากสีแดงของนางอ้าออกเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอย่างเนิบช้าเพียงคำเดียว “ฆ่า!”
แค่คำเดียวก็บ่งบอกว่าจะต้องมีศพทุกหนแห่งในภายภาคหน้าแล้ว!
พวกเขาไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าจะต้องมีเผ่าจิ้งจอกสวรรค์มากแค่ไหนตายในวันนี้!
โฉวโยวกัดฟันขณะเอ่ยถามอีกครั้ง “ถ้าเกิดพวกเขาถูกบังคับล่ะ?”
เทียนเม่ยเอ๋อร์คิ้วขมวด “หากเป็นสมาชิกเผ่าธรรมดาก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกบังคับ โฉวโยว ข้าถามเจ้าหน่อยเถอะ เจ้าคิดว่าแม่ทัพเหลิ่งเหยียนจะถูกบังคับได้จริงหรือ?”
โฉวโยวพูดไม่ออกชั่วขณะ
คำพูดของเทียนเม่ยเอ๋อร์เป็นการปิดผนึกโชคชะตาของพวกเหลิ่งเหยียน!
ผ่านไปหลายอึดใจ โฉวโยวค่อยถอนหายใจออกมา “รับคำสั่ง ขอรับนายท่าน!”
สมาชิกจิ้งจอกสวรรค์ทั้งหลายประสานมือเพื่อน้อมรับคำสั่ง
เทียนเม่ยเอ๋อร์เป็นคนแรกที่จับกระบี่ขึ้นมาแล้วเข้าไปในค่ายกล
คนที่เหลือจึงตามหลังเข้าไป
ตอนนี้!!!
เหลิ่งเหยียนเพิ่งมาถึงคฤหาสน์ที่จิ้งจอกโลหิตถูกกักขังเอาไว้ผ่านอาวุธวิเศษของเขา
สถานที่แห่งนี้เป็นทะเลทรายเงียบสงัดในดินแดนจิ้งจอกสวรรค์ ไร้สิ่งมีชีวิตอยู่อาศัย ประกอบกับอยู่ไกลจากศูนย์กลาง น้อยคนนักจึงจะผ่านมาบริเวณดังกล่าว
เหลิ่งเหยียนมองดูทุกสิ่งในทะเลทรายตรงหน้า รอบข้างไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต มีเพียงเสาหินสามต้นซึ่งมีอายุเก่าแก่ตั้งตระหง่านอยู่
เสาหินเหล่านั้นหนาเท่ากับห้าถึงหกคนโอบ พวกมันล้วนถูกสลักด้วยรูปลักษณ์ของสัตว์เทวะศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงอักขระที่บางส่วนไม่อาจเข้าใจได้
เหลิ่งเหยียนสังเกตอยู่สักพักก่อนจะได้ยินเสียงของซู่เฟิงดังขึ้น
“แม่ทัพเหลิ่งเหยียนลังเลอะไรอยู่?”
เหลิ่งเหยียนกลับมามีสติขณะเหลือบมองด้านข้าง เขาพบว่าจิตเทวะส่วนหนึ่งของซู่เฟิงก่อตัวเป็นรูปร่างอยู่ไม่ไกล ดวงตาของอีกฝ่ายทอประกายขณะจับจ้องมาทางเขา
เหลิ่งเหยียนเม้มริมฝีปากขณะเปิดใช้งานอาวุธวิเศษทันที
วิญญาณที่เป็นของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์มากกว่าสามร้อยดวงออกมา พวกมันล้วนเต็มไปด้วยโลหิตขณะไหลหลั่งออกจากขวดอย่างต่อเนื่อง เสียงกรีดร้องอันเศร้าโศกยังคงดังกึกก้องอยู่ในหูจนดูน่าสยดสยองเล็กน้อย
เหลิ่งเหยียนสร้างผนึกในมือก่อนอักขระจะเคลื่อนไปด้านข้าง!
เสาหินทั้งสามขยับก่อนจะเริ่มหมุนไปมา
อักขระที่ถูกสลักเอาไว้ยังคงส่องแสงวาบ จากนั้นสายลมแรงกล้าพลันพัดโหม แล้ววิญญาณทั้งหมดที่กระจัดกระจายด้วยหมายจะหลบหนีก็ถูกพวกมันดึงดูดเข้าไป!
อักขระแต่ละตัวเป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่มีปากขนาดมหึมา ราวกับหุบเหวกำลังกลืนกินวิญญาณเหล่านั้นจนสิ้น!
ตอนนี้ เสียงกรีดร้องน่าขนลุกได้หายไปสิ้น!
“วิ้ง!”
เสาหินทั้งสามพลันสั่นไหว แล้วค่ายกลก็ปรากฏตรงใจกลางของพวกมัน!
อักขระสีแดงเจิดจ้าเคลื่อนไหวอยู่ในค่ายกล ประตูสีแดงก็ปรากฏขึ้นมา!
พื้นดินสั่นไหว สายลมแรงกล้าพัดหวีดหวิว แล้วปราณวิญญาณทั้งหมดซึ่งอยู่รอบข้างก็ถูกกลืนกินเข้าไป!
เหลิ่งเหยียนผู้อยู่ใกล้เริ่มเตรียมที่จะจากไปหลังจากประตูปรากฏขึ้น
เพราะถึงอย่างไรใช่ว่าทุกคนจะสามารถขัดขืนวิญญาณชั่วร้ายได้!
ทว่าเมื่อกำลังจะถอย เขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลกดทับร่างกายลงมา
แรงกดดันดังกล่าวเปรียบได้กับมือขนาดใหญ่กดลงมาบนบ่า ทำให้เขาถูกตรึงไว้กับที่!
ในตอนนี้ พลังยุทธ์ทั้งหลายในร่างกายของเหลิ่งเหยียนเริ่มพังทลาย!
ทุกสิ่งที่หายไปจากร่างของเหลิ่งเหยียนกลายเป็นแสงสีแดงก่อนจะไหลเข้าสู่ประตูบานนั้น
ทันใดนั้น ความคิดอันน่าสะพรึงก็ก่อตัวขึ้นในใจของเขา
เขาพลันมองไปด้านข้าง แล้วร่างจิตเทวะซึ่งเป็นของซู่เฟิงที่อยู่ไกลออกไปก็เริ่มหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง!
“หึหึหึ เหลิ่งเหยียน แผนการยิ่งใหญ่ของข้าสำเร็จลุล่วงแล้ว เจ้าควรเป็นคนแรกที่จะได้รับคุณงามความดีนั่น!”
“ไม่ต้องห่วง หลังจากเจ้าถูกสังเวยแล้ว ข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นแม่ทัพสูงสุดอย่างแน่นอน! ขอให้ความรุ่งโรจน์สถิตอยู่กับเจ้าหลังความตาย!”
“สุนัขเฒ่าซู่เฟิง!”
เหลิ่งเหยียนสบถอย่างเกรี้ยวกราด เพียงสิ้นประโยคนี้ การฝึกยุทธ์ทั้งหมดของเขาก็พังทลาย!
แล้วพลังทั้งหมดที่กำราบเขาเอาไว้ในตอนนี้ก็หายไป!
บัดนี้ประตูซึ่งเดิมปิดอยู่ก็ค่อยเปิดออก
หมอกสีดำกระจายตัวออกมา มันทั้งชั่วร้ายและแปลกประหลาด!
หนี!
มันคือความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของเขา!
หากวิญญาณชั่วร้ายออกมา เช่นนั้นเขาก็คงไร้ซึ่งโอกาสรอดชีวิต!
เหลิ่งเหยียนพยายามลุกขึ้นเพื่อหมายจะหนีเอาตัวรอด
ทันใดนั้น กระบี่สี่เล่มก็ตรงเข้ามาตรึงแขนขาของเขาเอาไว้กับที่
“หึหึหึ เหลิ่งเหยียน สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายนี้ต้องการลิ้มรสเลือดเนื้อทันทีที่ออกมา เจ้าจะหนีไปได้อย่างไร?”
“ไม่ต้องห่วง เจ้า…”
คำพูดของซู่เฟิงพลันขาดห้วง กระบี่ที่เต็มไปด้วยอำนาจจักรพรรดิจิ้งจอกสวรรค์สูงสุดก็เคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนจะทำการสังหารร่างมายาของซู่เฟิง!
ท้ายที่สุดภาพมายาเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของจิตสำนึกซู่เฟิง เขาจึงไม่อาจขัดขืนได้ ก่อนจะถูกสังหารในทันที!